bloggang.com mainmenu search
รีวิว Nikon Df ตะลุยยุโรปใต้ กับกล้อง DSLR แนวย้อนยุค

แนวคิดในการสร้างกล้อง DSLR ให้มีรูปทรงย้อนกลับไปยังอดีตที่เคยรุ่งเรืองของกล้องฟิล์ม เกิดขึ้นมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว กระแสโหยหาอดีตกำลังได้รับความนิยมไปทั่ว Nikon Df กล้องบันทึกภาพที่ออกแบบให้มีกลไกคล้ายกับกล้องดังในอดีต มันคือ กล้องที่สามารถตอบสนองความต้องการของนักถ่ายภาพที่นิยมใช้กล้องแบบดิจิตอล แต่ยังคงชื่นชอบกับรูปลักษณ์ที่มีความคลาสสิกสวยงาม บวกกับความแข็งแกร่งของโครงสร้าง บอดี้ของ Nikon FM2 ถูกนำมาเป็นต้นแบบสำหรับการผลิตกล้องรุ่นใหม่ล่าสุด

 


ทุกตำแหน่งที่เป็นปุ่มควบคุมการทำงานของตัวกล้อง ถูกออกแบบให้คล้ายกับการใช้งานในระบบกลไกแบบเก่า แป้นปรับโหมดถ่ายภาพ แป้นปรับความไวของชัตเตอร์ แป้นปรับชดเชยสภาพแสง ในขณะที่กำลังทำการบันทึกภาพ รวมถึงแป้นปรับความไวของแสง ลอกเลียนแบบมาจากกล้องดังในอดีตของค่าย Nikon เมื่อดูที่โครงสร้างของกล้อง Nikon Df โครงสร้างหลักของมันผลิตจากแมคนีเซียมอัลลอยในส่วนบน รวมถึงบริเวณด้านล่าง ทำให้โครงสร้างหลักมีน้ำหนักเบา แต่มีควาแข็งแกร่ง สามารถรองรับการใช้งานหนักๆ ได้ดี รอยต่อต่างๆ ของปุ่ม สวิตช์ มีซีลยางป้องกันฝุ่นละอองและความชื้นเข้าไปภายใน Nikon Df มีดีไซน์ที่ตอบสนองต่อการควบคุมแบบแมนนวล การใช้แป้นหมุนแบบกลไกแยกการทำงานกันอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับกล้องฟิล์ม ที่มีปุ่มปรับควบคุมค่าต่างๆ แตกต่างไปจากกล้องดิจิตอลในปัจจุบัน

 

 


โหมดการถ่ายภาพของ Nikon ถูกดีไซน์ออกมาด้วยการใช้แป้นหมุนควบคุมทั้งหมด โดยเริ่มจากด้านขวาของตัวกล้อง เป็นแป้นปรับโหมดการถ่ายภาพ ซึ่งมีมาให้ครบทั้งโหมดแมนนวล โหมดโปรแกรม โหมดออโต้ สำหรับแป้นปรับความเร็วของชัตเตอร์ ออกแบบสำหรับการใช้งานของมือโปร เริ่มจาก 4 วินาที 1/4000 วินาที ชัตเตอร์ T X B และตำแหน่ง 1/3 STEP สำหรับการปรับค่าบนกล้องรุ่น Df หากต้องการการปรับตั้งที่มีความละเอียดมากยิ่งขึ้น เมื่อตั้งค่าที่ตำแหน่ง 1/3 STEP จะสามารถเลือกปรับความเร็วชัตเตอร์ผ่านแป้นควบคุมการทำงาน Df มีการปรับตั้งที่คล้ายกันกับกล้องดิจิตอลทั่วไป เนื่องจากสามารถหมุนไปที่ค่าที่ต้องการได้เลย

 

 


ใต้แป้นปรับความเร็วชัตเตอร์ เป็นปุ่มควบคุมของระบบขับเคลื่อนภาพและโหมดการตั้งเวลาบันทึกภาพ รวมถึงการบล็อกกระจกสะท้อนภาพ ในกรณีที่ต้องการให้กล้องมีการทำงานที่ลดการสั่นไหวให้มากที่สุด สำหรับการทดสอบลองปรับตั้งดูด้วยตัวเอง ก็พบว่าสามารถปรับได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยเลือกปรับได้ที่ปุ่มควบคุมข้างจอ LCD บนตัวกล้อง ซึ่งสามารถที่จะหมุนเลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้ทันที ปุ่มหมุนด้านซ้ายบนตัวกล้อง ทำให้นึกย้อนไปถึงการทำงานแบบกลไกของกล้องบันทึกภาพของมือโปรในอดีต ที่ใช้ฟิล์มถ่ายภาพในการเก็บบันทึกงาน หรือความทรงจำ แป้นปรับความไวแสงและชดเชยแสง ที่อยู่บริเวณซ้ายมือด้านบน วางซ้อนกันโดยที่ด้านล่างเป็นปุ่มปรับความไวแสง สามารถเลือกปรับได้ตั้งแต่ ISO100-12800 และปรับย่อยได้ขั้นละ 1/3 สเตป นอกจากนั้น ยังปรับได้ที่ตำแหน่ง L1 หรือ H1 - H4 เมื่อต้องการปรับเปลี่ยนค่าความไวแสง จะมีปุ่มปลดล็อกแป้นด้านบน สำหรับด้านบนสุดของกล้อง Df จาก Nikon มีไว้สำหรับการชดเชยแสง โดยสามารถปรับได้สูงสุด +/- 3EV


และบริเวณที่ใกล้กับตำแหน่งของปุ่มกดเพื่อเปลี่ยนเลนส์ เป็นที่อยู่ของก้านเลือกระบบโฟกัสแบบ AF หรือ MF พร้อมปุ่มกดตรงกึ่งกลาง สำหรับการเลือกโหมดโฟกัสแบบ Single Shot AF / AF-S 3D ถัดขึ้นไปด้านบนเป็นช่องต่อสายแฟลซซิ้งค์ กับปุ่มควบคุมการถ่ายแบบคร่อม ใกล้กับเม้าส์เลนส์ทางด้านขวาเป็นปุ่มฟังก์ชั่น Fn กับปุ่มฟรีวีว Pv ปุ่มทั้งสองตำแหน่งสามารถกดตั้งให้กลายเป็นปุ่มควบคุมทางลัด สำหรับการปรับตั้งการทำงานส่วนอื่นๆของตัวกล้อง ด้านบนเหนือขึ้นไปเป็นปุ่มควบคุมการทำงานด้านหน้า รวมถึงใช้ในการปรับตั้งความเร็วชัตเตอร์ในโหมดแมนนวลอีกด้วย ส่วนช่องมองภาพของกล้อง Nikon Df มีทรงแบบ 5 เหลี่ยมขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นผ่านช่องมองภาพได้อย่างชัดเจน ทั้งในแนวนอนแบบปกติ หรือในแนวตั้ง ช่องมองภาพของ Nikon Df มีอัตราส่วนการขยาย 0.7 เท่า สามารถมองเห็นในระยะห่าง 15 มิลลิเมตร ออกแบบมาสำหรับตากล้องที่ใส่แว่นสายตา หรือแว่นกันแดด รวมถึงการที่ยังสามารถปรับชดเชยสายตาได้ 3-1 ไดออฟเตอร์ ด้านบนสุดของตัวกล้องมีฮอทซูแฟลช รองรับการทำงานในระบบ i-TTL

 

 


กล้อง Nikon Df ใช้เซ็นเซอร์แบบ CMOS ฟอร์แมต FX ขนาด 36.0x23.9 มิลลิเมตร มีความละเอียดสูงประมาณ 16.2 ล้านพิกเซล เป็นเซ็นเซอร์รุ่นเดียวกันกับกล้องโปรรุ่น D4 หน่วยประมวลผลประสิทธิภาพสูง EXPEED 3 ช่วยให้ตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว แม้ไฟล์ภาพจะเป็นรอง D4 อยู่นิดๆ รวมถึงความเร็วในการล็อกโฟกัสก็ยังคงเป็นรองกล้องโปร อย่าง D4 แต่สมรรถนะของการใช้งานนั้นค่อนข้างครอบคลุมการบันทึกภาพในทุกสภาวะของแสง กล้อง Nikon Df มีจุดโฟกัสรวมทั้งสิ้น 39 จุด หรือ 11 จุดที่ตำแหน่งกึ่งกลางของเฟรม ทำให้โฟกัสได้เร็ว มีความแม่นยำสูง ครอบคลุมการใช้งานได้ทั้งการถ่ายภาพแบบแนวตั้ง หรือแนวนอน ตากล้องสามารถเลือกใช้จุดโฟกัสแบบจุดเดียว หรือใช้ทั้งหมด 39 จุด เพื่อความครอบคลุมในการล็อกโฟกัส สำหรับการถ่ายภาพวัตถุ หรือคนที่ต้องการให้โฟกัสรวมเป็นจุดเดียว หรือใช้โฟกัสในแบบออโต กล้องจะทำการเลือกตำแหน่งจุดโฟกัสให้เองแบบอัตโนมัติ สำหรับการบันทึกภาพถ่ายแบบทั่วไป Df มีการตอบสนองต่อการสั่งงานที่มีความรวดเร็ว และเมื่อตากล้องทำการเลือกรูปแบบ 3D continuous กล้อง Df มีระบบที่สามารถปรับโฟกัสตามแบบที่กำลังเคลื่อนที่ได้อย่างแม่นยำอีกด้วย

 

 


Nikon Df เป็นกล้อง DSLR แนวย้อนยุคที่กำลังได้รับความนิยมและแพร่หลายในกลุ่มตากล้อง ที่ต้องการความแตกต่างของอุปกรณ์บันทึกภาพ การที่ไม่มีโหมดบันทึกภาพเคลื่อนไหว หรือ VDO ทำให้มันเป็นอุปกรณ์บันทึกภาพที่เหมาะกับการถ่ายภาพนิ่ง คำว่า Df ย่อมาจาก Digital Fusion ซึ่งเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีอันก้าวไกลของกล้องแบบดิจิตอลผนวกเข้ากับรูปทรงคลาสสิก คล้ายกับกล้องฟิล์มในระบบควบคุมการทำงานแบบแมนนวล จุดเด่นบนตัวกล้อง คือ หัวกะโหลกที่ถอดแบบมาจากกล้อง Nikon FM2 และ FE2 ซึ่งเป็นกล้องบันทึกภาพแบบใช้ฟิล์มในระดับมืออาชีพของยุค 80' โครงสร้างของตัวกล้อง Df มีความหนาและแข็งแกร่งพอสมควร เมื่อเปรียบเทียบกับกล้องฟิล์มแบบเดิมๆ ในอดีต

 

 

 

บอดี้ถูกออกแบบให้ยึดจับได้อย่างกระชับ โดยออกแบบกริ้บมือจับให้มีสันนูนออกมา เพื่อให้เข้ากับร่องนิ้วมือของผู้ใช้ สำหรับการปรับตั้งโหมดถ่ายภาพนั้น ใช้แป้นควบคุมเล็กๆ วางอยู่บนตัวกล้อง เมื่อต้องการที่จะเปลี่ยนโหมดบันทึกภาพ ต้องยกตัวแป้นทรงกลมขึ้นเล็กน้อย แล้วทำการหมุนไปที่โหมดต่างๆ ตามความต้องการ เมื่อเลือกโหมดแมนนวล หรือโหมด M ตากล้อง สามารถปรับแป้นหมุนเพื่อเลือกตัวเลขความเร็วของชัตเตอร์ โดยสามารถปรับแป้นควบคุมด้านหลัง เพื่อปรับเพิ่ม หรือลดได้ 1/3-2/3 สต็อป เป็นการปรับตั้งค่าที่มีความละเอียดสูงมากกว่ากล้องฟิล์มในอดีต

สำหรับรูรับแสงของกล้อง Df ใช้การปรับตั้งที่แป้นควบคุมด้านหน้า การใช้เลนส์แบบ AF เดิมๆ ซึ่งมีวงแหวนปรับรูรับแสงที่เลนส์โดยตรง สามารถปรับรูรับแสงไว้ที่ตำแหน่งออโตได้เลย แล้วใช้ตำแหน่งปรับตั้งรูรับแสงจากแป้นควบคุม สำหรับเลนส์มือหมุนน อดีตที่ไม่มีมอเตอร์ออโตโฟกัส หรือไม่มีขั้วเชื่อมต่อวงจรของระบบออโตโฟกัส ตากล้องสามารถปรับตั้งได้ที่เมนู Non CPU Lens ซึ่งจะสามารถตั้งค่าความยาวโฟกัสของเลนส์รุ่นเก่าและรูรับแสงให้กว้างที่สุด ซึ่งเมื่อทำการปรับตั้งในลักษณะดังกล่าวแล้ว ตัวกล้องยังสามารถใช้การวัดแสงได้อีกด้วย

 

 

Nikon Df ใช้เวลาเปิดเครื่อง 0.14 วินาที และระยะเวลาระหว่างการกดชัตเตอร์อยู่ที่ประมาณ 0.05 วินาที เปิดโอกาสให้ตากล้องได้บันทึกภาพถ่ายในช่วงเวลาสำคัญ แม้สถานการณ์ที่มีความอ่อนไหวสูงสุด กล้องรุ่นนี้ก็ยังสามารถบันทึกภาพได้ด้วยเสียงรบกวนน้อยที่สุด ในโหมดการกดชัตเตอร์เงียบ ช่องมองภาพแบบกระจกปริซึมห้าเหลี่ยม ครอบคลุมองค์ประกอบภาพประมาณ 100% (รูปแบบไฟล์ FX) ดังนั้น ภาพที่สวยงามและเต็มไปด้วยรายละเอียด หากใช้งานควบคู่ไปกับเลนส์ f ต่ำๆ ที่ใช้กับกล้องแบบฟูลเฟรม ระบบ Scene Recognition System ทำการประมวลรายละเอียดด้านความสว่างและสีของแต่ละภาพ ด้วยเซ็นเซอร์วัดแสง 2,016-pixel RGB และใช้ข้อมูลเหล่านั้นในการควบคุมระบบออโต้โฟกัสและการเปิดรับแสงอัตโนมัติ รวมถึงการควบคุมแฟลชอัตโนมัติแบบ i-TTL ตลอดจนการปรับสมดุลแสงสีขาวอัตโนมัติได้อย่างแม่นยำ

โหมด Live View ของ Df ใช้เส้นตารางแบบ 16 ช่องเหมือนที่มีในกล้องรุ่นก่อนๆ แล้ว Nikon Df ยังมาพร้อมกับตัวเลือกตารางแบบ 9 ช่อง และการแสดงผลแบบ 16:9 หรือ 1:1 บนจอแสดงผลในโหมด Live View ระบบ Virtual horizon แสดงระดับการเอียงกล้องทั้งแนวตั้ง (ก้มหรือเงย) และแนวนอน (ซ้ายหรือขวา) และสเกลแสดงระดับการเอียงในช่องมองภาพให้เห็นทันที นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่น Spot White Balance สำหรับการวัดค่าไวท์บาลานซ์ได้อย่างแม่นยำ ขณะใช้งาน Live View ช่วยลดความยุ่งยากในการเตรียมวัตถุอ้างอิง

 


Nikon Df สามารถใช้งานร่วมกับเลนส์ Nikkor แบบ non-Al ได้ ซึ่งเป็นการย้อนหวนคืนสู่การปรับตั้งด้วยตัวของผู้ถ่ายภาพแบบล้วนๆ คล้ายการทำงานของกล้องและเลนส์โปรคุณภาพสูงในอดีตของ Kikkor ด้วยการออกแบบให้มีก้านวัดแสง (metering coupling lever) ที่พับได้ตรงบริเวณแปลนเมาท์เลนส์ เพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับเลนส์รุ่นเก่าแบบ non-AI ซึ่งเมื่อค่าทางยาวโฟกัสและค่ารูรับแสงกว้างสุดของเลนส์ non-AI ถูกกำหนดในเมนู ก็จะรองรับการวัดแสง โดยเมื่อปรับรูรับแสงที่กระบอกเลนส์ และหมุนวงแหวนปรับรูรับแสงกล้องให้ตรงกับค่าที่กระบอกเลนส์ กล้องจะคำนวณค่าการเปิดรับแสงที่ถูกต้อง (รองรับเฉพาะโหมด A และ MX จึงทำให้สามารถนำเอาเลนส์รุ่นเก่ามาใช้ร่วมกับ Nikon Df ได้ทันที นับว่าเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบการบันทึกภาพ ด้วยการปรับความชัดของโฟกัสแบบแมนนวลโฟกัส และมีเลนส์แมนนวลรุ่นเก่าสะสมอยู่แล้ว

 

ล่าสุด Nikkor ได้ออกแบบเลนส์คิทใหม่ AF-S Nikkor 50 mm. f/1.8G รุ่นพิเศษ ซึ่งได้รับการออกแบบตัวเลนส์ วัสดุที่ใช้ผลิตและสีสันให้เข้ากับรูปลักษณ์ของกล้อง Df โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวลายพ่นทราย วงแหวนโลหะอะลูมิเนียมสีเงิน และวงแหวนปรับโฟกัส ที่หมุนได้เช่นเดียวกับเลนส์แมนนวล เป็นเลนส์ที่มีโครงสร้างพื้นฐานเช่นเดียวกับเลนส์ AF-S NIKKOR 50 mm. f/1.8G รุ่นปกติ ซึ่งเป็นเลนส์ที่ยอมรับกันว่า มีประสิทธิภาพด้านชิ้นเลนส์สูง ด้วยชิ้นเลนส์แอสเฟอริคอล มีความสว่างสูงถึง f/1.8 ช่วยให้ภาพมีความคมชัด มีขนาดเล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเบา เหมาะกับการถ่ายภาพหลากหลายรูปแบบ ที่ต้องการความคล่องตัวและน้ำหนักที่เบาสบายมือ สไตล์ของเลนส์ตัวนี้ ย้อนกลับไปในยุคที่เลนส์แบบแมนนวลกำลังได้รับความนิยม

 


การใช้งานของ Nikon Df เมื่อจับคู่กับเลนส์ AF-ED 28-70 f2.8 หรือแม้แต่เลนส์เทโลโฟโต อย่าง AF-ED 70-200 VR NANO ใช้ถ่ายภาพรถทดสอบในประเทศโปรตุเกสและสเปน พบว่า การยึดจับตัวกล้องมีความคล้ายกับกล้องดังในอดีต สำหรับท่านที่คุ้นเคยกับกล้องที่ติดตั้งกริ๊ปถ่านเสริม อาจต้องใช้เวลาสักพักในการสร้างความคุ้นเคย เมื่อถนัดดีแล้ว การใช้งานแบบแมนนวล หรืออัตโนมัติ รวมถึงภาพที่ได้รับจะสร้างความพึงพอใจให้กับตากล้องได้ในระดับที่ดี สำหรับการบันทึกภาพนิ่งที่มีสภาพแสงน้อย กล้อง DF สามารถปรับตั้งให้บันทึกภาพในสภาวะที่มีแสงต่ำได้ดี เมื่อจับคู่กับเลนส์ Nikkor น้ำหนักที่เบาทำให้ถือได้ทั้งวัน และยกขึ้นถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็ว การถ่ายภาพวัตถุเคลื่ิอนไหวที่มีความเร็ว โฟกัสสามารถติดตามวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ และล็อกโฟกัสอย่างรวดเร็ว สำหรับเสียงปิ๊บเตือนการล็อกโฟกัสนั้น มีความเบากว่ากล้อง Nikon D7100 อยู่พอสมควร แม้จะเร่งความดังของสัญญาณปิ๊บ ก็ยังแทบไม่ค่อยได้ยินอยู่ดี

 

 


Df ใช้แบตเตอรี่ รุ่น EN-EL14a เป็นหน่วยป้อนพลังงานไฟฟ้าให้กับตัวกล้อง แบตฯ มีขนาดค่อนข้างเล็ก สามารถบันทึกภาพถ่ายแบบเปิดใช้งานอย่างต่อเนื่อง ได้ประมาณ 1,500 รูป ถือว่ามากพอสมควรเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนภาพและขนาดของตัวแบตเตอรี่ กล้อง Nikon Df มีการออกแบบให้ชิ้นส่วนที่ใช้ไฟฟ้าหล่อเลี้ยงการทำงานใช้ไฟเท่าที่จำเป็น แนวคิดในการออกแบบในลักษณะดังกล่าว ทำให้กล้องกินพลังงานน้อยลง การมีระบบ AF ที่ด้อยกว่ากล้องรุ่นใหญ่ๆ ตัวอื่น และการมี Image Sensor ที่มีความละเอียดแค่ 16MP เป็นองค์ประกอบหนึ่งของการประหยัดพลังงานแบตเตอรี่

 

 


คุณภาพของภาพถ่าย เมื่อลองใช้งานกับเลนส์ Nikkor ระยะ 28-70 f2.8 หรือ 70-700 f2.8 VR NANO คุณภาพของภาพที่ทำการบันทึก มีความคมชัดคล้ายกล้องโปร รุ่น D4 มอบ Dynamic Range อารมณ์ของภาพที่ผนวกสีสันอันสดใส Nikon Df เป็นกล้องที่ผู้ใช้จะต้องใช้งานในโหมด Manual Mode บ่อยครั้ง หากถ่ายภาพในช่วงกลางวัน ซึ่งมีสภาพแสงสมบูรณ์ การใช้ Aperture Priority แบบปกติจะช่วยให้บันทึกภาพได้ตรงตามความต้องการมากยิ่งขึ้น เมื่อบันทึกภาพในสภาพที่มีแสงต่ำ โหมด Manual แล้วเลือก Shutter Speed โดยใช้ Speed Dial ด้านบน เลือก Aperture ไว้ที่ Aperture Ring ซึ่งถ้าเลนส์ไม่มี Aperture Ring กล้อง Df ยังมีฟังก์ชั่น Command Dial โดยปล่อย ISO Auto ให้ระบบอัตโนมัติในกล้องคุ้มค่าของ ISO ให้เอง ISO ของกล้อง Df ช่วง 100-6400 มีความเหมาะสมกับการใช้งาน เมื่อต้องการถ่ายภาพแบบทั่วไป ปัญหาในเรื่องของ Noise แม้จะดัน ISO ไปที่ 12,800 ซึ่งถือเป็นช่วงปลายสุดของ Native ISO ก็ยังสามารถรับมือได้ โดยมีการรบกวนน้อยมาก

ค่าย Nikon สร้างกล้องรุ่น Df ออกมา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้ากลุ่มหนึ่ง ซึ่งโหยหาอดีตอันรุ่งเรืองของกล้องฟิล์ม คุณภาพของภาพที่ได้บันทึกจากกล้องรุ่นนี้ มีความต่างกันค่อนข้างมาก จากกล้องคู่แข่งรุ่นอื่นๆ ความแตกต่างเกิดขึ้นในด้านอารมณ์ของการใช้งาน คุณภาพของภาพถ่ายที่อยู่ในเกณฑ์ดี ตัวกล้องยังสะท้อนอารมณ์และความรู้สึกของผู้ใช้งาน ให้ย้อนเวลากลับไปสู่ยุคที่กลไกต่างๆ ของกล้องระดับมืออาชีพ ยังคงต้องพึ่งพาฝีมือการปรับตั้งของมนุษย์ มันคือ กล้องที่มีความโดดเด่นและมีคุณค่าในตัวของมันเอง เหมาะสมกับระดับของราคาค่าตัว เมื่อเปรียบเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้รับจากกล้อง.

 

NIKON Df ราคา
- ตัวกล้อง Df 87,900 THB
- ตัวกล้อง Df พร้อมเลนส์ 50 MM F/1.8G SPECIAL 95,900 THB


NIKON Df SPECIFICATIONS

Type Single-lens reflex digital camera

Lens mount Nikon F mount (with AF coupling and AF contacts)

Effective angle of view Nikon FX format

Effective pixels

Effective pixels16.2 million

Image sensorImage sensor 36.0 x 23.9 mm CMOS sensor

Total pixels 16.6 million

Dust-reduction system

Image sensor cleaning, Image Dust Off reference data (optional Capture NX 2 software required)
Storage Image size (pixels)FX format (36x24): 4,928 x 3,280 [L], 3,696 x 2,456 [M], 2,464 x 1,640 [S]DX format (24x16): 3,200 x 2,128 [L], 2,400 x 1,592 [M], 1,600 x 1,064 [S]

File format NEF (RAW): 12 or 14 bit, lossless compressed, compressed, or uncompressed TIFF (RGB) JPEG: JPEG-Baseline compliant with fine (approx. 1:4), normal (approx. 1:8) or basic (approx. 1:16) compression (Size priority); Optimal quality compression availableNEF (RAW)+JPEG: Single photograph recorded in both NEF (RAW) and JPEG formats

Picture Control System Standard, Neutral, Vivid, Monochrome, Portrait, Landscape; selected Picture Control can be modified; storage for custom Picture Controls
MediaSD (Secure Digital) and UHS-I compliant SDHC and SDXC memory cards

File system DCF (Design Rule for Camera File System) 2.0, DPOF (Digital Print Order Format), Exif (Exchangeable Image File Format for Digital Still Cameras) 2.3, PictBridge

Viewfinder Eye-level pentaprism single-lens reflex viewfinder
Frame coverage FX (36x24): Approx. 100% horizontal and 100% vertical DX (24x16): Approx. 97% horizontal and 97% vertical

Magnification Approx. 0.7x (50 mm f/1.4 lens at infinity, -1.0 m-1)

Eyepoint 15 mm (-1.0 m-1; from center surface of viewfinder eyepiece lens)
Diopter adjustment -3 to +1 m-1
Focusing screen Type B BriteView Clear Matte Mark VIII screen with AF area brackets (framing grid can be displayed)
Reflex mirror Quick return
Depth-of-field preview Pressing Pv button stops lens aperture down to value selected by user (exposure modes A and M) or by camera (exposure modes P and S)

Lens aperture Instant return, electronically controlled

Compatible lenses Compatible with AF NIKKOR lenses, including type G, E, and D lenses (some restrictions apply to PC lenses) and DX lenses (using DX 24 x 16 1.5x image area), AI-P NIKKOR lenses and non-CPU lenses. IX NIKKOR lenses and lenses for the F3AF cannot be used. The electronic rangefinder can be used with lenses that have a maximum aperture of f/5.6 or faster (the electronic rangefinder supports the center 7 focus points with lenses that have a maximum aperture of f/8 or faster and the center 33 focus points with lenses that have a maximum aperture of f/7.1 or faster)

Shutter Type Electronically controlled vertical-travel focal-plane shutter

Speed 1/4,000 to 4 s in steps of 1 EV (1/4,000 s to 30 s in steps of 1/3 EV with main command dial), X200 (with shutter-speed dial only), bulb, time

Flash sync speed X=1/200 s; synchronizes with shutter at 1/250 s or slower

Release modes S (single frame), CL (continuous low speed), CH (continuous high speed), Q (quiet shutter-release), (self-timer), MUP (mirror up)

Frame advance rate 1 to 5 fps (CL) or 5.5 fps (CH)

Self-timer 2 s, 5 s, 10 s, 20 s; 1 to 9 exposures at intervals of 0.5, 1, 2 or 3 s

Exposure Metering TTL exposure metering using 2,016-pixel RGB sensor

Metering method Matrix: 3D color matrix metering II (type G, E and D lenses); color matrix metering II (other CPU lenses); color matrix metering available with non-CPU lenses if user provides lens dataCenter-weighted: Weight of 75% given to 12-mm circle in center of frame; diameter of circle can be changed to 8, 15 or 20 mm, or weighting can be based on average of entire frame (non-CPU lenses use 12-mm circle)Spot: Meters 4-mm circle (about 1.5% of frame) centered on selected focus point (on center focus point when non-CPU lens is used)

Range (ISO 100, f/1.4 lens, 20°C/68°F)Matrix or center-weighted metering: 0 to 20 EVSpot metering: 2 to 20 EV

Exposure meter coupling Combined CPU and AI (collapsible metering coupling lever)

Exposure modes Programmed auto with flexible program (P); shutter-priority auto (S); aperture-priority auto (A); manual (M)

Exposure compensation -3 to +3 EV in increments of 1/3 EV

Exposure bracketing 2 to 5 frames in steps of 1/3, 2/3, 1, 2 or 3 EV

Flash bracketing 2 to 5 frames in steps of 1/3, 2/3, 1, 2 or 3 EV

Exposure lock Luminosity locked at detected value with AE-L/AF-L button

ISO sensitivity (Recommended Exposure Index) ISO 100 to 12800 in steps of 1/3 EV; can also be set to approx. 0.3, 0.7 or 1 EV (ISO 50 equivalent) below ISO 100 or to approx. 0.3, 0.7, 1, 2, 3 or 4 EV (ISO 204800 equivalent) above ISO 12800; auto ISO sensitivity control available

Active D-Lighting Can be selected from Auto, Extra high +2/+1, High, Normal, Low, or Off

ADL bracketing 2 frames using selected value for one frame or 3 to 5 frames using preset values for all frames

Autofocus Nikon Multi-CAM 4800 autofocus sensor module with TTL phase detection, fine-tuning, and 39 focus points (including 9 cross-type sensors; the center 33 points are available at apertures slower than f/5.6 and faster than f/8, while the center 7 focus points are available at f/8)

Detection range -1 to +19 EV (ISO 100, 20°C/68°F)

Lens servo Autofocus (AF): Single-servo AF (AF-S); continuous-servo AF (AF-C); predictive focus tracking activated automatically according to subject statusManual focus (M): Electronic rangefinder can be used

Focus point Can be selected from 39 or 11 focus points

AF-area modes Single-point AF, 9-, 21- or 39-point dynamic-area AF, 3D-tracking, auto-area AF

Focus lock Focus can be locked by pressing shutter-release button halfway (single-servo AF) or by pressing AE-L/AF-L button

Flash control TTL: i-TTL flash control using 2,016-pixel RGB sensor is available with SB-910, SB-900, SB-800, SB-700, SB-600, SB-400 or SB-300; i-TTL balanced fill-flash for digital SLR is used with matrix and center-weighted metering, standard i-TTL flash for digital SLR with spot metering

Flash modes Front-curtain sync, slow sync, rear-curtain sync, red-eye reduction, red-eye reduction with slow sync, slow rear-curtain sync, Auto FP High-Speed Sync supported

Flash compensation -3 to +1 EV in increments of 1/3

Flash-ready indicator Lights when optional flash unit is fully charged; flashes after flash is fired at full output

Accessory shoe ISO 518 hot-shoe with sync and data contacts and safety lock

Nikon Creative Lighting System (CLS) Advanced Wireless Lighting supported with SB-910, SB-900, SB-800 or SB-700 as a master flash and SB-600 or SB-R200 as remotes, or SU-800 as commander; Auto FP High-Speed Sync and modeling illumination supported with all CLS-compatible flash units except SB-400 and SB-300; Flash Color Information Communication and FV lock supported with all CLS-compatible flash units

Sync terminal ISO 519 sync terminal with locking thread

White balance Auto (2 types), incandescent, fluorescent (7 types), direct sunlight, flash, cloudy, shade, preset manual (up to 4 values can be stored, spot white balance measurement available during live view), choose color temperature (2,500 K to 10,000 K); all with fine-tuning

White balance bracketing 2 to 3 frames in steps of 1, 2 or 3

Lens servo Autofocus (AF): Single-servo AF (AF-S); full-time servo AF (AF-F) Manual focus (M)

AF-area modes Face-priority AF, wide-area AF, normal-area AF, subject-tracking AF

Autofocus Contrast-detect AF anywhere in frame (camera selects focus point automatically when face-priority AF or subject-tracking AF is selected)

Monitor 8-cm (3.2-in.), approx. 921k-dot (VGA), low-temperature polysilicon TFT LCD with approx. 170° viewing angle, approx. 100% frame coverage, and brightness control

Playback Full-frame and thumbnail (4, 9 or 72 images or calendar) playback with playback zoom, photo slide shows, histogram display, highlights, photo information, location data display, and auto image rotation

USB Hi-Speed USB

HDMI output Type C mini-pin HDMI connector

Accessory terminal Wireless remote controllers: WR-R10 and WR-1 (available separately)Remote cord: MC-DC2 (available separately)GPS units: GP-1/GP-1A (available separately)

Supported languages Arabic, Chinese (Simplified and Traditional), Czech, Danish, Dutch, English, Finnish, French, German, Greek, Hindi, Hungarian, Indonesian, Italian, Japanese, Korean, Norwegian, Polish, Portuguese (Portugal and Brazil), Romanian, Russian, Spanish, Swedish, Thai, Turkish, Ukrainian
Battery One EN-EL14a Rechargeable Li-ion Battery

AC adapter EH-5b AC Adapter; requires EP-5A Power Connector (available separately)
Tripod socket 1/4 in. (ISO 1222)

Dimensions (W x H x D) Approx. 143.5 x 110 x 66.5 mm/ 5.6 x 4.3 x 2.6 in.

Weight Approx. 765 g/1 lb 11 oz with battery and memory card but without body cap; approx. 710 g/1 lb 9 oz (camera body only)

Operating environment Temperature: 0 to 40°C/32 to 104°F; humidity: 85% or less (no condensation)

Supplied accessories (may differ by country or area) EN-EL14a Rechargeable Li-ion Battery, MH-24 Battery Charger, DK-26 Eyepiece Cap, String for eyepiece cap, UC-E6 USB Cable, AN-DC9 Camera Strap, BF-1B Body Cap, BS-1 Accessory Shoe Cover, ViewNX 2 CD-ROM.

อาคม รวมสุวรรณ

Create Date :07 มิถุนายน 2557 Last Update :7 มิถุนายน 2557 4:09:27 น. Counter : 13412 Pageviews. Comments :0