นกกรงหัวจุก
นกกรงหัวจุก เสียงร้องอันมีมนต์ขลัง เมื่อพูดถึงสัตว์ที่มีเสียงร้องอันไพเราะ แทบปฏิเสธไม่ได้ว่า นกกรงหัวจุก จัดอยู่ในอันดับต้นๆ ปัจจุบันวงการ นกกรงหัวจุก จัดได้ว่าเป็นวงการที่ได้รับความนิยมจากคนไทยเป็นจำนวนมาก มีการจัดรายการแข่งขันติดกันและต่อเนื่องตลอดทั้งปี และมีแนวโน้มว่าจะได้รับความนิยมแพร่ขยายมากขึ้น นกกรงหัวจุก มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า
"นกปรอดหัวโขนเคราแดง" หรือ
"นกพิชหลิว" มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Pycnomotus Jocosus เป็นนกที่มีการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 17 ให้เป็นสัตว์ป่าชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ นกปรอดมีมากมายหลายชนิด วงศ์นกปรอด (Family Pycnonotidae) เป็นนกที่มีชนิดมากที่สุด พบมากที่สุดคือประเทศฟิลิปปินส์ ส่วนในประเทศไทยมีรายงานการค้นพบนกปรอดประมาณ 36 ชนิด โดยที่นกปรอดทั่วโลกมีประมาณ 109 ชนิด
นกกรงหัวจุก มีชื่อเรียกหลายชื่อแตกต่างกันไปตามภาค อย่างภาคใต้โดยเฉพาะ จังหวัดนครศรีธรรมราช เรียกว่า "นกกรงหัวจุก" หรือ "นกกรง" ภาคเหนือเรียกว่า "นกปริ๊ดเหลว" หรือ "นกพิชหลิว" ส่วนภาคกลางเรียกว่า "นกปรอดหัวจุก" หรือ "นกปรอดหัวโขน"
นกกรงหัวจุก เป็นนกที่มีสีสันสวยงาม ขนที่ตัวมีสีดำอมน้ำตาล มีขนจุกที่หัวตั้งตรง ปลายจุกที่ติดกับลำคอมีสีดำสนิท ที่แก้มมีขนสีขาว และมีจุดสีแดงที่ข้างตาทั้ง 2 ข้าง โคนหางล่างมีสีแดง นกกรงหัวจุก มีเสียงร้องไพเราะ คนนิยมนำมาเลี้ยงไว้ฟังเสียงร้อง และนำมาแข่งขันประชันลีลาการร้องของสำนวนเสียงว่า นกกรงหัวจุก แต่ละตัวว่าใครจะเหนือกว่ากัน ถิ่นอาศัยของ
นกกรงหัวจุก อยู่ในแถบประเทศที่มีอากาศร้อนชื้น ในทวีปเอเชียส่วนใหญ่พบ
นกกรงหัวจุก ได้ในประเทศจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย อินเดีย เวียดนาม กัมพูชา ลาว ในประเทศไทยเราจะพบ
นกกรงหัวจุก ได้ทั่วทุกภาคของประเทศ โดยจะพบ
นกกรงหัวจุก อาศัยอยู่ตามชายป่า ทุ่งหญ้า พื้นที่เกษตรกรรม และตามแหล่งชุมชนในชนบท โดยเฉพาะทางภาคเหนือและภาคอีสานตอนบน
นกกรงหัวจุก
ชาติแรกที่นำนกกรงหัวจุกมาเลี้ยงคือชาวจีน เมื่อประมาณ พ.ศ. 2410 ในประเทศไทยเริ่มนิยมเลี้ยงประมาณ พ.ศ. 2504 ที่ภาคใต้ แต่จะนำมาเล่นให้นกตีกันต่อสู้กันแบบเดียวกับไก่ชน จนกระทั่งถึง พ.ศ. 2515 จึงได้คิดเล่นแบบใหม่ โดยให้แข่งขันเสียงร้อง จากนั้นจึงได้แพร่หลายมาที่ภาคกลาง ภาคเหนือ ส่วนที่ภาคอีสานมีค่อนข้างน้อย นกกรงหัวจุกเป็นที่นิยมของคนภาคใต้มายาวนาน และสืบทอดมาสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน จนเรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรมพื้นบ้านทางภาคใต้ จึงเห็นมีกรงนกแขวนตามบ้านเรือนประชาชนแทบทุกบ้าน และมีการตั้งเป็นชมรมทุกจังหวัด
การแข่งขัน
นกกรงหัวจุก ได้รับการยอมรับว่าเป็นกีฬาชนิดหนึ่งที่มีผู้คนให้ความสนใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีการจัดงานแข่งขันประชันเสียง
นกกรงหัวจุก กันทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพฯ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ในแต่ละสัปดาห์จะมีรายการแข่งขันทั้งประเทศไม่ต่ำกว่า 5 สนาม มีชมรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับ
นกกรงหัวจุก ทั่วประเทศนับเป็นร้อยๆ ชมรม
นกกรงหัวจุก ที่จะนำเข้าแข่งขันนั้นต้องเป็น นกกรงหัวจุก ตัวผู้ เพราะ นกกรงหัวจุก ตัวเมียจะร้องไม่เป็นเพลง โดย นกกรงหัวจุก ที่เลือกมานั้นต้องมีลักษณะรูปร่างและน้ำเสียงที่ดี ตัวอย่างเช่น มีรูปร่างเหมือนปลีกล้วยขณะที่ปลียังเล็กอยู่ ปากของนกทั้งด้านบนและด้านล่างควรจะใหญ่ ซึ่งทำให้มีเสียงดังกังวาน ลำคอต้องใหญ่ หน้าอกต้องใหญ่ ซึ่งหมายถึงปอดของนกจะใหญ่ จะร้องได้ทนและนาน ลักษณะขน หางต้องสวยงามตามตำรา เป็นต้น การร้องของ
นกกรงหัวจุก ต้องเปล่งเสียงร้องเต็มที่ เสียงเป็นเพลงเหมือนเสียงดนตรี เสียงของ
นกกรงหัวจุก ที่ดีควรจะเป็นเสียงใหญ่ ถัดมาก็เสียงกลางและเสียงเล็ก ซึ่งก็แล้วแต่ถิ่นกำเนิดของ
นกกรงหัวจุก นั้นๆ เพลงของนกกรงหัวจุกต้องมีคำหรือ 3 คำขึ้นไปจนถึง 7 คำ ซึ่งนกที่ร้องเพลงได้ 3 - 5 คำ เป็นนกแบบธรรมดา นกที่ร้องเพลงได้ 6 - 7 คำ จะเป็นนกที่หายาก จังหวะและคำร้องแต่ละคำต้องสม่ำเสมอและชัดเจน ในภาพรวมการร้องของ
นกกรงหัวจุก คือ ขณะร้องเพลงต้องมีท่าที ลีลาสวยงามไปทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นปาก คอ อก หาง ขา หน้าตาสดชื่นแจ่มใส ดวงตาแจ่มใส ขาเหยียด ลำตัวนกตั้ง หน้าเชิด ขนอกฟู หางกระดก น้ำเสียงดังฟังชัดเป็นจังหวะจะโคนที่ดี สม่ำเสมอและต่อเนื่อง
ลักษณะดังกล่าวนี้เองที่ทำให้ผู้เลี้ยง
นกกรงหัวจุก หลงใหลในเสน่ห์ จนทำให้เกิดความรัก สนใจเลี้ยง
นกกรงหัวจุก เพื่อการประกวดประชันเสียงร้องเพลง สำหรับกติกาการแข่งขัน
นกกรงหัวจุก ในปัจจุบันมีอยู่ 2 แบบใหญ่ๆ คือ กติกาแบบสากล และ กติกาแบบ 4 ยก สำหรับ
นกกรงหัวจุก ที่มีเสียงไพเราะหรือชนะการประกวดก็จะมีราคาแพงตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสนเลยทีเดียว นอกจากการประชันเสียงร้องแล้วยังมีการประกวดประชันหรือโชว์กรง
นกกรงหัวจุก อีกด้วย
แหล่งสถานที่ท่องเที่ยว ข้อมูลการท่องเที่ยวของภาคเหนือ
หน้า (1) |
1 |
2 |
3 |
4 |
5 พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ตั้งอยู่บนดอยบวกห้า ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง ใช้เส้นทางเดียวกันกับพระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักฯอยู่เลยจากวัดพระธาตุดอยสุเทพ เป็นระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร พระตำหนักภูพิงค์ฯ เป็...
อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ หรือชื่อเดิมว่า สวนเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ จัดสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครอ...
สวนสัตว์เชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่ถนนห้วยแก้ว ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 5 กิโลเมตร ใกล้กับสวนรุกขชาติ เป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่มีสัตว์มากมายหลายชนิด ทั้งที่มีอยู่ใน...
เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ดำเนินการภายใต้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่าง ยั่งยืน (องค์การมหาชน )ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ในพื้น...
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม บริเวณชายเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ทางเข้าอยู่ด้านซ้ายมือบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 12 สา...
ดอยอ่างขาง ตั้งอยู่ที่ตำบลอ่างขาง อำเภอฝาง ห่างจากเขตแดนไทยพม่าเพียง 5 กิโลเมตร การเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง ประมาณกิโลเมตรที่ 137 จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าบ้าน...
อุทยานแห่งชาติออบหลวง ออบหลวงเป็นสถานที่น่าเที่ยวที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ความสวยงามและน่ากลัวไว้ ในจุดเดียวกัน กล่าวคือ เบื้องล่างเป็นแม่น้ำที่ไหลคดเคี้ยวผ่านช่องเขาขาดตรงออบหลวง ช่องเขานี้มีลั...
วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จากตัวเมืองเชียงใหม่มุ่งหน้าไปตามถนนสายเชียงใหม่-ฮอด 58 กิโลเมตร เป็นวัดสำคัญคู่เมืองจอมทองและเป็...
อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ตั้งอยู่บนเทือกเขาถนนธงชัย มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปายจังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมเนื้อที่ทั้งหมดประ...
วัดพระสิงห์วรวิหาร อยู่ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เป็นวัดสำคัญในประวัติศาสตร์แห่งแผ่นดินล้านนามานับแต่อดีต พญาผายูกษัตริย์องค์ที่ 5 ในราชวงศ์มังรายโปรดเกล้า...
วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เดินทางตามถนนห้วยแก้ว ผ่านอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ไปตามทางคดเคี้ยวขึ้นเขา ระหว่างทางจะมองเห็นตัวเมืองเชียงใหม่อยู่เบื้องล่าง ระยะทางจากเชิงดอยถึงวัดประมาณ 11 กิโลเมตร ...
วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อยู่ที่ถนนพระปกเกล้า วัดนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่พอดี ...
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ แต่เดิมดอยอินทนนท์มีชื่อว่า ดอยหลวง หรือ ดอยอ่างกา ดอยหลวง หมายถึงภูเขาที่มีขนาดใหญ่ ส่วนที่เรียกว่าดอยอ่างกานั้น มีเรื่องเล่าว่า ห่างจากดอ...
ถนนนิมมานเหมินทร์ ถนนนิมมานเหมินทร์ ตั้งอยู่ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ หากจะเปรียบแล้ว ถนนนิมมานเหมินทร์ก็คงคล้ายกับถนนสุขุมวิทของกรุงเทพฯ แม้ความยาวและขนาดของธุรกิจจะสู้กันไม่ได้ แต...
โครงการหลวงดอยอินทนนท์ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านขุนกลาง ตำบลห้วยหลวง อำเภอจอมทอง เดินทางตามเส้นทางสู่ดอยอินทนนท์ ถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 31 ของทางหลวงหมายเลข 1009 มีทางแยกขวามือเป็นทางลูกรังเข้าส...
อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน อยู่ในพื้นที่จังหวัดแพร่ น่าน และอุตรดิตถ์ เป็นทิวเขาสลับซับซ้อนปร...
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นที่ 149,375 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ของอำเภอบ้านโคก อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ และอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ได้รับการประกาศเป็นอุทยานฯ เมื่อปี 2537 ลักษณะภูมิ...
อุทยานแห่งชาติคลองตรอน อุทยานแห่งชาติคลองตรอน มีพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 324,240.80 ไร่ หรือ 518.80 ตารางกิโลเมตร ได้รับการ...
อนุสาวรีย์พระศรีพนมมาศ อนุสาวรีย์พระศรีพนมมาศ อำเภอลับแลจ.อุตรดิตถ์อยู่ตรงสี่แยกตลาดลับแล เดิมชื่อ ทองอิน เป็นนายอากรสุราเชื้อสายจีนแต่ด้วยความรักในท้องถิ่นจึงพัฒนาเมือง...
อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ประดิษฐานอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติประวัติในความกล้าหาญ รักชาติและเสียสละ เมื่อครั้งพระยาพิชัยครองเมือ...
วัดพระยืนพุทธบาทยุคล วัดพระยืนพุทธบาทยุคลอยู่เลยวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งไปตามทางหลวงหมายเลข 102 ประมาณ 500 เมตร วัดอยู่ทางซ้ายมือของถนนใกล้ทางแยก ภายในมีมณฑปเป็นศิลปะแบบเชียงแสน ครอบรอยพระพุท...
วัดท่าถนน เดิมชื่อ วัดวังเตาหม้อ ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำน่าน ถนนเกษมราษฎร์ ตำบลท่าอิฐ เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อเพชร เป็นพระพุทธรูปสัมฤท...
วัดใหญ่ท่าเสา ตั้งอยู่ที่ถนนสำราญรื่น ตำบลท่าเสา อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟท่าเสา วัดนี้มีวิหารเก่าแก่ซึ่งมีบานประตูไม้แกะสลัก 2 บาน ตลอดจนลายไม้ที่วิหารด้านหน้า และมีหอไตรโบราณที่...
วนอุทยานต้นสักใหญ่ วนอุทยานต้นสักใหญ่ อยู่ที่หมู่ 4 บ้านปางเกลือ ตำบลน้ำไคร้ ลักษณะเป็นป่าเบญจพรรณ มีเนื้อที่ 22,000 ไร่ ภายในมีต้นสักใหญ่ ซึ่งได้ถูกพบเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2470 มีอาย...
บ่อเหล็กน้ำพี้ บ่อเหล็กน้ำพี้ อยู่ที่หมู่ 1 บ้านน้ำพี้ ตำบลน้ำพี้ ห่างจากตัวจังหวัด ประมาณ 56 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 และเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1245 เป็นโบร...