bloggang.com mainmenu search







“การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด”

ประโยคข้างบนนี้เป็นสโลแกนของอุทยานการเรียนรู้ หรือ TK park ที่หลาย ๆ ท่านรู้จักกันเป็นอย่างดี









ในวันนี้อุทยานการเรียนรู้ TK park แห่งนี้มีอายุครบ 9 ปีแล้ว กำลังก้าวสู่ 1 ทศวรรษที่เป็นแหล่งการเรียนรู้ให้แก่ประชาชนทั่วไปครับ ซึ่งโอกาสอันดีในช่วงที่ฉลองครบ 9 ปีของอุทยานการเรียนรู้ TK park ในวันที่ 24 – 26 มกราคม 2557 นี้ ผมอยากจะนำเรื่องราวดี ๆ บางส่วนที่ผมเคยได้ไปใช้บริการมาเล่าให้ฟังครับ

ถึงแม้ว่าจะเปิดทำการมานานจนครบ 9 ปีแล้ว แต่ผมยอมรับว่าผมเพิ่งจะรู้จักอุทยานการเรียนรู้ TK park แห่งนี้ได้ประมาณ 1 ปีครึ่งเอง (ดูจากวันที่ผมสมัครเป็นสมาชิกครั้งแรก) โดยก่อนหน้านี้ผมก็พอที่จะได้ยินข่าวเกี่ยวกับการเปิดห้องสมุดรูปแบบใหม่ที่ชื่อว่า TK park มาบ้างแล้ว จากภาพโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่เด็กนอนอ่านหนังสืออยู่ในช่องหกเหลี่ยม ซึ่งผมเห็นแล้วก็แอบยิ้มในใจพร้อมทั้งคิดว่า คงดีนะถ้ามีห้องสมุดที่สามารถดึงความสนใจให้เด็ก ๆ เข้าไปอ่านหนังสือได้ ในความคิดแรกตอนนั้นผมคิดว่าคงจะเป็นห้องสมุดแนวใหม่ที่เปิดขึ้นสำหรับเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่เท่านั้น ผมเลยไม่ค่อยได้ให้ความสนใจสักเท่าไหร่ทั้ง ๆ ที่ตัวผมเองเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือเป็นอย่างมาก อีกทั้งในช่วงก่อนหน้านั้นผมแทบจะไม่เคยไปเดินที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์เลยเพราะว่าไกลจากบ้านของผมมาก (บ้านผมอยู่ใกล้เซ็นทรัลพระราม 2 ครับ)

จนกระทั่งวันหนึ่งผมตามหาหนังสือเล่มหนึ่งที่เป็นหนังสือความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเขียน ที่มีชื่อเรื่องว่า “ศิลปะแห่งการประพันธ์” ของอาจารย์เปลื้อง ณ นคร ซึ่งในตอนนั้นไม่มีวางขายตามท้องตลาดแล้ว รวมทั้งตามห้องสมุดประชาชนที่ผมใช้บริการอยู่ก็ไม่มีให้อ่าน จะมีก็ที่หอสมุดแห่งชาติซึ่งก็ไม่สะดวกที่ผมจะไปตามอ่านเช่นกัน แล้วผมก็มาทราบว่าหนังสือเล่มนี้มีที่ห้องสมุด TK park แห่งนี้ นั้นเป็นครั้งแรกที่ทำให้ผมค้นพบห้องสมุดแห่งนี้




 เคาน์เตอร์ติดต่อด้านหน้าสำหรับทำบัตรสมาชิกหรือบัตรผ่านชั่วคราว


สมัครสมาชิกถ่ายภาพติดบัตรอัตโนมัติได้ที่มุมนี้เลย


ทำบัตรแล้วเอามารูดผ่านประตูทางเข้า


บรรยากาศภายใน TK park








จากความคิดที่ว่าเป็นห้องสมุดสำหรับเด็กแน่ ๆ ผมจึงชักลังเลใจว่าจะลองไปดูดีไหม? แล้วผมก็ลองตัดสินใจที่จะมาเยี่ยมชมดูสักครั้ง ซึ่งในครั้งแรกที่มายังห้างเซ็นทรัลเวิลด์นั้นผมก็ต้องเดินวนหาอยู่หลายรอบกว่าจะหาเจอ ปรากฏว่าต้องเดินขึ้นไปที่ชั้น 7 ของห้าง และเดินผ่านฟู๊ดฮอลล์ (ซุปเปอร์มาร์เก็ต) ของห้างทะลุไปขึ้นบันไดเลื่อนต่อไปยังชั้น 8 ก็จะเจอ พอไปถึงหน้า TK park  พอไปถึงผมก็เข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ถึงการเข้าไปใช้บริการ แล้วผมก็ตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกในวันนั้นทันที

หลังจากนั้นผมก็ค้นพบว่ามันไม่ใช่ห้องสมุดของเด็กอย่างที่ผมเข้าใจ แต่มันคืออุทยานการเรียนรู้สำหรับประชาชนทั่วไปซึ่งตอบสนองความต้องการของตัวผมได้เป็นอย่างดี ภายในนั้นนอกจากจะมีห้องสมุดที่มีหนังสือเกือบจะทุกประเภทแล้ว ยังมีโซนสำหรับการเรียนรู้ต่าง ๆ ด้วย อีกทั้งรูปแบบของการตกแต่งก็แตกต่างจากห้องสมุดทั่วไปที่ผมเคยไปใช้บริการ สมกับคำว่า “ห้องสมุดมีชีวิต” อย่างแท้จริง สาเหตุที่ผมกล้ายืนยันคำนี้เพราะว่าผมตลอดช่วงเวลา 1 ปีครึ่งที่ผ่านมานี้ผมไปใช้บริการบ่อยมาก  มีหลากหลายชีวิตที่ผมได้พบเห็นเป็นประจำในห้องสมุดมีชีวิตแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักอ่านที่มาอ่านเป็นประจำทุกวัน , เจ้าหน้าที่ประจำห้องสมุดที่คอยให้บริการอยู่ตลอด , นักศึกษาที่มาฝึกงานจนกลายมาเป็นพนักงานประจำ (ผมสังเกตเห็นมีน้องผู้หญิงฝึกงานน่าจะได้บรรจุแล้ว 2 คน) , บรรณารักษ์จากห้องสมุดต่าง ๆ ที่มาสัมมนาและเยี่ยมชมงาน , คนที่เข้ามานอนหลับในห้องสมุด , ศิลปินที่เข้ามานั่งวาดรูปในไอแพด , คนที่เข้ามาใช้ปลั๊กไฟต่อโน๊ตบุ๊คส์เพื่อนั่งทำงาน , คนที่เข้ามาเสียบไฟชาร์ตแบตไอโฟน , เด็กนักเรียนนักศึกษาที่เข้ามานั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบ , ติวเตอร์อิสระที่เข้ามาสอนพิเศษให้แก่เด็กนักเรียน (ผมเคยเห็นเด็กนักเรียนต้องจ่ายเงินสดให้ก่อนลงมือติวด้วยครับ) , นักศึกษาที่นัดรวมกลุ่มกันมาทำกิจกรรม , คนที่เข้ามาอ่านหนังสือพิมพ์อย่างเดียว , คนที่ชอบเข้ามานั่งกินกาแฟเป็นประจำ , คนที่เข้ามารอคู่รักเลิกงาน , เด็กที่ชอบเข้ามานั่งเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ , คู่รักที่นัดมาเดทกันในห้องสมุด (อันนี้หวานมากจนผมอิจฉาเลยครับ) , ผู้ปกครองที่มารอรับลูกกลับบ้าน , เด็กนักเรียนที่เข้ามาอ่านหนังสือรอพ่อแม่เลิกงาน , พนักงานร้านอาหารญี่ปุ่นที่เข้ามานอนอ่านหนังสือเพื่อรอเวลาเข้าทำงาน (รอเข้ากะ) ฯลฯ

ยิ่งถ้าเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์หรือช่วงปิดเทอมอุทยานการเรียนรู้ TK park แห่งนี้ยิ่งมีชีวิตชีวามากขึ้นไปอีก เพราะว่าจะมีกิจกรรมพิเศษสำหรับเด็กและเยาวชนอยู่เสมอ ซึ่งรูปแบบของกิจกรรมจะมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ วันเสาร์อาทิตย์จึงเป็นวันที่พ่อแม่พาเด็ก ๆ มาเยอะมากที่สุด เสียงจะดังเจี้ยวจ้าวคึกคักมากเป็นพิเศษ ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ให้เด็กเข้ามาทำกิจกรรมในห้องสมุดถือว่าเป็นกุศโลบายอันแยบยลที่จะปลูกฝังให้เด็กรักการอ่านได้ในอนาคต สถานที่ที่ตกแต่งอย่างสวยงามคล้ายสนามเด็กเล่น ชั้นวางหนังสือและที่นั่งหรือนอนสำหรับอ่านหนังสือที่มีสีสันสดใสสะดุดตาคล้ายกับเครื่องเล่น รวมทั้งหนังสือการ์ตูนดี ๆ สำหรับดึงดูดให้เด็ก ๆ สนใจ   สิ่งเหล่านี้จะเป็นการสร้างอุปนิสัยรักการอ่านให้แก่เด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี








ภายในห้องสมุดเด็ก


ที่เห็นเป็นช่องหกเหลี่ยมนี้เอาไว้สำหรับให้เด็กเข้าไปนอนอ่านหนังสือ


มุมอ่านหนังสือสำหรับเด็กเล็ก  จะเห็นว่าพื้นเป็นเบาะนุ่มน้อง ๆ สามารถนั่งหรือนอนอ่านได้อย่างสบาย


สำหรับเด็กโตหน่อยจะปืนป่ายขึ้นไปอ่านหนังสือข้างบนก็ได้


ภายในห้องสมุดดนตรี


ภายในห้องสมุดไอที






นอกจากจะมีห้องสมุดมีชีวิตและห้องสมุดสำหรับเด็กแล้ว ในอุทยานการเรียนรู้ TK park ยังมีโซนการเรียนรู้อื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์อีกเช่น ห้องสมุดดนตรี , ห้องสมุดไอที , ห้องฝึกอบรมไอที , ลานสานฝัน (สำหรับเป็นเวทีให้เด็กและเยาวชนได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ) , ทีเคเธียเตอร์ (โรงฉายภาพยนตร์ขนาดย่อม) และอุทยานการเรียนรู้เอนกประสงค์















สำหรับตัวผมมีความจำเป็นที่จะต้องไปใช้บริการที่ห้องสมุดบ่อย ๆ ก็เพราะว่าผมจำเป็นต้องอ่านหนังสือให้มากเพื่อเก็บข้อมูลสะสมเป็นคลังความรู้ในสมองเตรียมเอาไว้สำหรับการเขียน อีกทั้งผมต้องไปหาข้อมูลประกอบสำหรับการเขียนเรื่องต่าง ๆ ของผมด้วย ซึ่งหมวดหนังสือที่ผมมักจะชอบไปอ่านนอกจากหนังสือความรู้ทั่วไปและนวนิยายแล้ว ผมมักจะต้องไปอ่านนิตยสารเป็นประจำอีกด้วย เนื่องจากการอ่านนิตยสารเป็นการเติมความรู้รอบตัวให้แก่เราได้เป็นอย่างดี นิตยสารมีการแบ่งแยกหมวดหมู่ของเรื่องราวตามความต้องการของผู้อ่านได้อย่างชัดเจน รวมทั้งนิตยสารถือว่าเป็นแหล่งรวบรวมความรู้ที่ทันสมัยซึ่งเป็นสิ่งที่คนในสังคมปัจจุบันต้องการทราบ ทุกครั้งเวลาที่ผมไปใช้บริการที่ TK park ผมจะไปเลือกหยิบนิตยสารที่ผมต้องการมาอ่านก่อนเลย เพราะว่าผมคงไม่มีเงินมากพอที่จะหาซื้อนิตยสารที่อยากอ่านได้ทุกเล่ม  ดังนั้นการได้ไปอ่านนิตยสารที่ห้องสมุดนี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขและค่าคุ้มมากที่สุดด้วย   ส่วนหนังสือความรู้ทั่วไปและนวนิยายนั้นผมมักจะค้นหาแล้วหยิบยืมกลับมาอ่านที่บ้านมากกว่า



ชั้นหนังสือความรู้ทั่วไป


หมวด 800 วรรณกรรมเป็นหมวดโปรดสำหรับผม


"กำแพงความรู้" ที่เห็นเป็นผนังชั้นหนังสือนั้นคือเรื่องสั้นต่าง ๆ ในหมวด รส.

(ถ้าที่บ้านผมมีผนังเต็มไปด้วยหนังสืออย่างนี้ก็คงดีมาก ๆ เลยอ่ะ)


มุมกาแฟที่มีให้บริการด้านใน จิบกาแฟไปอ่านหนังสือเล่มโปรดไปด้วยก็ได้




"ความรักของวัลยา" เป็นนวนิยายที่ชอบผมมากอีกเรื่องหนึ่ง


มุมสำหรับเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ที่เด็ก ๆ ชอบมาก



หนังสือภาษาต่างประเทศก็มีครบทุกหมวดเหมือนกัน


ทางเข้าห้องสมุดดนตรี


เครื่องนี้เปิดฟังเพลงโปรดได้ (แต่ผมใช้ไม่เป็นอ่ะ)


หมวดนิตยสารเป็นมุมหนังสือโปรดที่ผมต้องหยิบไปอ่านทุกครั้ง






การอ่านหนังสือนั้นถือว่าเป็นการเปิดโลกกว้างอย่างแท้จริง ในโลกนี้มีเรื่องราวอีกมากมายที่เรายังไม่รู้ บางเรื่องเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรจะต้องรู้ การค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมจากการอ่านนั้นจึงถือว่าเป็นการพัฒนาสมองที่ดีที่สุด เมื่อเรามีความรู้เพิ่มพูนขึ้นเราก็มีความพร้อมสำหรับการดำเนินชีวิตประจำวันมากขึ้นตามไปด้วย

อยากให้ทุกคนอ่านหนังสือกันเยอะ ๆ อยากให้คุณเลือกหาหนังสือที่คุณสนใจและถูกใจสักเล่ม แล้วขอให้คุณลงมืออ่านมันให้จบ แล้วคุณก็จะได้ค้นพบความรู้ที่ได้รับจากการอ่านเล่มนั้นแน่ ๆ ครับ

สำหรับท่านที่อยากจะไปใช้บริการที่อุทยานการเรียนรู้ TK park ท่านก็สามารถไปได้ที่ชั้น 8 ของห้างเซ็นทรัลเวิลด์ (ราชประสงค์) ตั้งแต่เวลา 10.00น. ถึง 20.00 น. ของทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ที่เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ หรือท่านจะลองไปติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ อุทยานการเรียนรู้ TK park ตามลิงค์นี้ก่อนก็ได้ครับ

//tkpark.or.th














บรรยากาศภายในห้องเงียบ  ความเงียบสร้างสมาธิในการอ่านได้เป็นอย่างดี


นวนิยายที่ผมยืมกลับไปอ่านที่บ้าน


ที่ TK park มีกิจกรรมหมุนเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เป็นประจำทุกเดือน


คำคมสำหรับคนที่รักการอ่าน


อุทยานการเรียนรู้นี้เป็นองค์การมหาชนครับ





คลิกไปชมภาพบรรยากาศเพิ่มเติมได้ที่ ...

พาชมอุทยานการเรียนรู้ TK park ... "การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด"




ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอ่านนะครับ ยิ่งอ่านเยอะรอยหยักในสมองของท่านก็จะมีมากขึ้นตามไปด้วยครับ

อิอิ






Create Date :25 มกราคม 2557 Last Update :26 มกราคม 2557 9:46:46 น. Counter : 8970 Pageviews. Comments :40