เต้าหู้ผัดกะปิ หมูสับ กุ้ง แบบ ชาวยองยา (Nyonya)


อาหารชาว ยองยา (Nyonya) จีน + มาเลย์

เต้าหู้ผัดกุ้ง หมูสับ มีอยู่ 2 - 3 แบบ ผัดแบบธรรมดา ผัดเปรี้ยวหวาน ผัดใส่พริกเต้าเจี้ยว (เต้าหู้มาโป อาหารเสฉวน)

ทาง ชาวยองยา (จีน + มาเลย์) ก็มีการพัฒนาการผัดเต้าหู้ กุ้ง หมูสับ โดยใส่กะปิตำไปด้วย เป็นแบบฉบับเฉพาะ สะท้อนวัฒนธรรมการทานกะปิของชาวมาเลย์

กะปิ เป็นวิธีการเก็บถนอมอาหารทะเลไว้โดยการมาหมักกับเกลือ
มี ตามริมฝั่งทะเล ตั้งแต่ประเทศจีน ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เขมร มาเลย์ อินโดนีเซีย ไทย เมียนม่า บังคลาเทศ ประเทศเหล่านี้ทานกะปิทั้งนั้น
วิธีการทำกะปิ และ รสชาติ รวมทั้งกลิ่น ก็แตกต่างกันไปบ้าง ตามท้องที่

ดังนั้นอาหารของกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ริมทะเลจะมีกะปิผสมอยู่เยอะ เช่นเดียวกับอาหารอิสานจะต้องชูรสด้วยปลาร้า

อาหารมาเลย์ พวกแกงทั้งหลาย จะต้องใส่กะปิด้วย

เต้าหู้ผัด เป็นอาหารจีนแท้ เมื่อมาทำที่มาเลย์ รสชาติคงจะไม่เข้มข้น
พี่มาเลย์ก็ใส่กะปิเข้าไปหน่อย รสเลิศขึ้นมาเลย

เครื่องปรุง
- เต้าหู้แข็ง 4 - 6 ก้อน แล้วแต่ขนาดของเต้าหู้
- หมูสับ 300 กรัม
- กุ้ง 500 กรัม
- น้ำซุปได้จากการต้มเปลือกกุ้ง 1 ถ้วย
- หอมใหญ่ 1 หัว ซอยละเอียด
- ต้นหอมซอยหยาบๆ
- กระเทียมซอย
- เต้าเจี้ยว (ไว้ปรุงรสเค็ม)

พริกแกง
- กะปิ 2 ช้อน
- หอมแดง 4 หัว
- กระเทียม 1 หัว
- พริกขี้หนูแดง 4 - 6 ดอก

พริกแกง ชาวมาเลย์ อินโดเนเซีย เรียกว่า Sambal
พื้นฐานจะประกอบไปด้วย หอม กระเทียม พริก กะปิ เป็นหลัก

ถ้าเป็นอาหารของชาว ยองยา หรือ อาหารใต้ของไทย จะใส่กะปิมากเป็นพิเศษ เหมือนกับการเน้นรสกะปิมาก

พริกแกงไทยต่างกันที่ เราเพิ่ม ตระใคร้ และข่า ไปด้วย

เตรียมพริกแกงโดย เอา หอมแดง กระเทียม กะปิ และ พริกขี้หนู ไปตำให้ละเอียด



เต้าหู้หั่นเป็นชิ้นเล็ก นำไปทอดก่อน





กุ้งปอกเปลือก ผ่าหลัง

เปลือกกุ้ง หัวกุ้ง นำไปต้มทำน้ำซุป

ตั้งกระทะ เอาหอมใหญ่ซอยลงไปผัด ผัดประมาณ 2 - 3 นาที
เติมพริกแกงที่ตำไว้ลงไป ผัดให้หอม



เติมหมูสับลงไปผัด



ตามด้วยกุ้ง



เติมน้ำซุป 1 ถ้วย
สีน้ำซอสจะแดง เพราะน้ำซุปได้จากการต้มเปลือกกุ้งและหัวกุ้งมีสีแดง



ปรุงรสเค็มอีกนิดด้วยเต้าเจี้ยว (ระวังเพราะกะปิเค็มอยู่แล้ว)

ถ้าชอบหวานเติมน้ำตาลปึกลงไป

ใส่เต้าหู้ทอดลงไปคลุกให้เข้ากัน



ใส่ต้นหอม



ดับไฟ คลุกให้เข้ากัน ต้นหอมจะสุกพอดี



เต้าหู้ผัดกะปิ หมูสับ กุ้ง



เต้าหู้ทอด ชูรสด้วย กุ้งและหมู ผสมรส กะปิ เผ็ดนิดๆ กลมกลืนกัน

ทานกับข้าวสวยร้อนๆ เลิศ

คำแนะนำ!

ครั้งหน้า จะเอาหัวกุ้งไปรวนกับน้ำมันก่อน ตักหัวกุ้งทิ้งไป น้ำมันที่รวนจะได้รสมันกุ้ง สีแดง หอม แล้วค่อยเอากะปิตำลงไปผัด

ดังนั้น เวลาปอกกุ้ง อย่าเอาหัวกุ้งทิ้งไป





Create Date : 16 สิงหาคม 2553
Last Update : 16 สิงหาคม 2553 14:16:35 น.
Counter : 11229 Pageviews.

10 comments
  
น่าหม่ำมากค่ะ ข้าวสวยร้อๆๆสักจานคงดีไม่น้อย
โดย: นุ๊ก (บ้านร้างซอย8 ) วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:14:53:53 น.
  
น่าทานได้อีก
โดย: กรุ๊ปบีราศีสิงห์ วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:15:34:16 น.
  
น่าทานจังค่ะ
โดย: AM NUCH วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:15:59:31 น.
  
น่ากินจังค่ะ
โดย: ลำตะคอง วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:17:58:26 น.
  
น่าทานมากๆ เลยค่ะ
โดย: จีนี่ในกระจกแก้ว วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:19:34:11 น.
  
สุดยอด เมนู แต่ละอย่าง น่ากินมากเลยค่ะ
โดย: แม่น้องขวัญ_ซาแมนต้า วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:0:37:59 น.
  
น่ากินมากกกกกกกกกกกกกค่า
จัดจ้าน เต็มเลย คิดถึงข้าวสวย
โดย: adrenaline (AdrenalineRush ) วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:7:36:20 น.
  
ขอชิมสักช้อนนะ ๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดย: ป้าเกรซ (BabyGreace ) วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:18:53:29 น.
  
เข้ามาเก็บสูตร ขอบคุณอาหารต่างที่นำมาลงบล็อคนะคะ ลองทำดูแล้ว อร่อยมากเลยค่ะ
โดย: แค่ฝันก้อยังดี (แค่ฝันก้อยังดี ) วันที่: 22 สิงหาคม 2553 เวลา:5:45:59 น.
  
น่ากินมากๆ เลยค่ะ
ดูสีสันสดใสและก็ดูเข้มข้น เข้าเนือ้ดีจัง
น่าอร่อยมากๆ เลย
โดย: เชฟตูน บ้านหวานเย็น วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:23:21:32 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Chim.BlogGang.com

swin
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 442 คน [?]

บทความทั้งหมด