Group Blog
 
 
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
22 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
สูตรลับ ที่ถูกเปิดเผย วิธีเลือกซื้อน้ำหอม ทั้งคุณผู้หญิง และ หนุ่มๆทั้งหลาย

1.มีน้ำหอมให้เลือกมากมาย แล้วน้ำหอมกลิ่นไหนล่ะที่เหมาะกับเรา
ก่อนอื่นควรรู้จักกับกลิ่นที่คุณชอบว่า เป็นกลิ่นตระกูลดอกไม้ ผลไม้ ไม้หอม หรือแนวกลิ่นอบอุ่นแบบตะวันออก (Orientals) ซึ่งจะช่วยประกอบการตัดสินใจในการซื้อน้ำหอมได้ เช่น ถ้าคุณชอบกลิ่นกุหลาบ ควรให้พนักงานขายนำน้ำหอมกลิ่นกุหลาบ รวมถึงกลุ่มตระกูลดอกไม้อื่นๆ มาให้ลอง
ถ้ายังไม่แน่ใจว่าชอบกลิ่นอะไร หรือเลือกไม่ถูกเสียที แนะนำให้เลือกแนวกลิ่นซิตรัส ซึ่งมักมีส่วนผสมของเกรปฟรุตหรือเลมอน เพราะน้ำหอมกลิ่นดอกไม้หรือแนวกลิ่นอบอุ่นแบบตะวันออกจะมีกลิ่นหอมที่มี ลักษณะเฉพาะตัวสูง (หมายความว่า ถ้าคุณไม่ชอบ ก็คงทำใจให้ชอบได้ยาก) ผู้หญิงส่วนใหญ่จึงมักติดใจกับเสน่ห์ของน้ำหอมกลิ่นซิตรัสที่แสนสดชื่น มากกว่า

2.ทำไมกลิ่นน้ำหอมของฉันถึงเปลี่ยนแปลงระหว่างวัน
น้ำหอมส่วนใหญ่บรรจุกลิ่นหอมที่แตกต่างกันไว้ประมาณ 200-300 โมเลกุล ซึ่งแต่ละโมเลกุลมีระดับการระเหยแตกต่างกัน ส่งผลให้กลิ่นเปลี่ยนแปลงได้ทุกวินาที
กลิ่นแรกที่คุณรับรู้หลังจากฉีดคือ อนุภาคที่บางเบาที่สุด คือ “กลิ่นแรก” (top notes) มักเป็นกลิ่นที่สดชื่นอย่างซิตรัส เมลอน หรือลาเวนเดอร์ ซึ่งจะจางหายไปในไม่กี่นาที เพื่อให้คุณได้ “กลิ่นกลาง” (heart notes) ที่เน้นไปในทางกลิ่นผลไม้และดอกไม้ สุดท้าย คือ “กลิ่นฐาน” (base notes) ได้แก่ มัสจ์ วานิลลา หรืออำพัน ซึ่งใช้เวลาระเหยได้นานกว่า จึงติดอยู่บนผิวได้นาน
วิธีเดียวที่จะรู้ว่าน้ำหอมนั้นๆ ส่งกลิ่นนานหรือไม่ คือ ฉีดที่ตัวแล้วทิ้งไว้เป็นเวลาหลายชั่วโมง แทนที่จะดมจากกระดาษเทสต์กลิ่นแล้วตัดสินใจเลือกเดี๋ยวนั้น ถ้าเป็นไปได้ ควรขอขนาดทดลองจากพนักงานขายเพื่อลองใช้จริงก่อนตัดสินใจซื้อ

3.เพื่อนบอกว่าฉันฉีดน้ำหอมมากเกินไป แต่ทำไมฉันไม่รู้สึกเลย
อาจเป็นเพราะคุณตอบสนองต่อกลิ่นได้ไม่ค่อยดี เพราะเส้นประสาทรับกลิ่นนับล้านเส้นในรูจมูก (ซึ่งจะดักจับกลิ่นและส่งต่อไปยังสมอง) จะหยุดการรับรู้ต่อกลิ่นที่ใช้เป็นประจำ
แนะนำให้หยุดใช้น้ำหอมกลิ่นนั้นสัก 2 สัปดาห์แล้วค่อยกลับมาใช้ใหม่ วิธีนี้จะทำให้ประสาทรับกลิ่นกลับมาทำความรู้จักกับกลิ่นหอมดังกล่าวอีก ครั้ง และประเมินอานุภาพความหอมได้ดียิ่งขึ้น คราวนี้คุณจะรู้ว่า ฉีดแค่ไหนจึงจะหอมกำลังดี

4.น้ำหอมที่เพื่อนใช้กลิ่นหอมสุดๆ แต่พอเราฉีดบ้างกลับไม่หอมเท่า เป็นเพราะอะไร
สภาพผิวหนังที่แตกต่างกันของผู้หญิงแต่ละคน ทำให้กลิ่นของน้ำหอมที่ฉีดลงไปอาจแตกต่างกันไป
ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของสารเคมีในร่างกายแต่ละคน นอกจากนี้ปัจจัยบางอย่าง เช่น สภาพผิว ก็มีอิทธิพลต่อกลิ่นเช่นกัน เพราะน้ำมันธรรมชาติในผิวจะทำหน้าที่เก็บกักและเพิ่มอานุภาพให้กลิ่นหอม ดังนั้น กลิ่นน้ำหอมจะจางเร็วหากฉีดบนผิวที่แห้งกร้าน
เคล็ดลับ คือ ควรทาโลชั่นชนิดไร้กลิ่นหรือกลิ่นอ่อนที่สุดก่อนฉีดน้ำหอมจะช่วยให้กลิ่นน้ำ หอมติดทน เพิ่มเสน่ห์ให้ผู้หญิงเราได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บางคนมีกลิ่นเฉพาะตัวที่หากผสมเข้ากับกลิ่นน้ำหอมที่ใช้จะทำให้กลิ่นน้ำหอม เปลี่ยนแปลง หากคุณมีปัญหานี้ลองฉีดน้ำหอมบนเส้นผมหรือเสื้อผ้าแทน

5.น้ำหอมมีวันหมดอายุหรือไม่
มี แต่ไม่เร็วอย่างที่คิด ส่วนใหญ่อยู่ได้ประมาณ 2 ปี แต่สำหรับน้ำหอมแนวกลิ่นอบอุ่นแบบตะวันออก หรือแนวกลิ่นต้นไม้ใบหญ้า ซึ่งมักประกอบด้วยกลิ่นฐานในปริมาณมาก หากเก็บให้พ้นความร้อนและแสงแดด สามารถใช้งานได้ 5-6 ปี
น้ำหอมแต่ละชนิดมีกลิ่น และคุณสมบัติที่แตกต่างกัน จึงให้เสน่ห์ผู้หญิงที่แตกต่างกันไปค่ะ
สัญญาณที่บ่งบอกว่าน้ำหอมอาจหมดอายุนอกจากกลิ่นที่จางลง ได้แก่ การเกิดตะกอน สีน้ำหอมเปลี่ยนแปลงและน้ำหอมมีการแยกชั้น ฉะนั้น ควรซื้อน้ำหอมอย่างฉลาดโดยคำนึงถึงการใช้งาน เช่น ถ้าคุณฉีดน้ำหอมแค่วันละครั้ง หรือเป็นกลิ่นที่คุณจะใช้ในบางโอกาสซึ่งไม่บ่อยนักให้เลือกซื้อขวดที่เล็ก ที่สุด

6.ฉันชอบน้ำหอมที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ แต่กลิ่นมักจางเร็ว ทำอย่างไรดี
โดยปกติ กลิ่นหอมที่มาจากธรรมชาติจะเจือจางเร็วกว่ากลิ่นสังเคราะห์ เนื่องจากส่วนผสมที่สกัดจากพืชประกอบด้วยโมเลกุลที่เล็กมาก จึงระเหยได้เร็ว
ถ้าอยากให้กลิ่นน้ำหอมอยู่กับคุณได้นานที่สุด เทคนิค คือ ให้ฉีดบริเวณจุดชีพจรของร่างกาย เช่น ข้อมือด้านใน ข้อพับ หลังใบหู ความอุ่นบริเวณนี้จะช่วยเพิ่มกลิ่นของน้ำหอมให้เด่นชัดยิ่งขึ้น



Create Date : 22 ตุลาคม 2554
Last Update : 22 ตุลาคม 2554 22:12:28 น. 0 comments
Counter : 1144 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

yonradee24
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add yonradee24's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.