Bebop Scale

Bebop Scale ว่ากันว่าริเริ่มโดย Charlie Parker และ Dizzy Gillespie คือเล่นจนเป็นภาษาของเขาเลย

โครงสร้างของ Bebop Scale (Bebop Dominant Scale)

เพิ่มโน้ต b7 ใน Major Scale หรือเพิ่มโน้ต 7th เข้าไปใน Mixolydian เช่น

C Major Scale = C, D, E, F, G, A, B
C Bebop Scale = C, D, E, F, G, A, Bb, B

หรือ ถ้าคิดจาก Mixolydian

C Mixolydian = C, D, E, F, G, A, Bb
C Bebop Scale = C, D, E, F, G, A, Bb, B

เรามาลองเล่นดู

Ex.1 เป็น C Mixolydian ในคอร์ด C7

Ex.2 เป็นการใช้ Bebop Scale ในคอร์ดเดียวกัน จะเห็นได้ว่าฟังดูแล้ว Jazzy มากกว่า Ex.1 ที่สำคัญคือ เวลาเล่นเสียงสูงขึ้น (Ascending) ไม่ควรใช้โน้ตที่เพิ่มนี้ คือ ถ้าในคอร์ด C7 ก็จะไม่เล่น B แต่เวลาเล่นขาลงเราจะใช้ Bebop Scale เพราะ

1.Bebop Scale นี้สร้างความต่อเนื่องเวลาขาลง (Decending) ได้ดี

2.พอเพิ่มโน้ตเข้าไปอีก 1 ตัว ก็กลายเป็น 8 Note Scale ทำให้เวลาเล่นใน Jazz ตัว Chord Tone จะตกใน Downbeat ซึ่งจะทำให้สุ้มเสียงของคอร์ดนั้นออกมาได้ดีกว่า

ดูตัวอย่างต่อไป

ข้างบนนี้คือ Mixolydian Lick แต่เล่นดูจะรู้สึกว่าเสียงแปร่งๆ (ไม่ได้หมายความว่า Lick ข้างบนนี่ไม่น่าเล่น เล่นได้ถ้าเราชอบ) คราวนี้ลองเล่น Lick ข้างล่าง

อันนี้คือ Bebop Dominant Scale รู้สึกได้ว่ามีความต่อเนื่องและ ระรื่นหูมากขึ้น ช่วยให้เราเกิดไอเดียที่จะ Solo ในห้องต่อๆไป อย่าลืม โน้ต Natural 7th นี้ ควรใช้เฉพาะขาลงเท่านั้นและเล่นโน้ตในคอร์ดโทนทุกครั้งที่ อยู่ในจังหวะตก (Keep the Chord Tones on Downbeats)

Create Date : 14 มิถุนายน 2555		0 comments
Last Update : 14 มิถุนายน 2555 10:51:36 น.
Counter : 5283 Pageviews.
Share Tweet