1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30
Ladakh ฉบับเบา ๆ - Chutayrangtak Street
จากแผนที่ Leh Heritage Walk :https://www.tibetheritagefund.org/_obj/?r=161&c=0&o=2 ( ตำแหน่งที่ 21) Chutayrangtak Street ลำไม้ใหญ่อายุเก่าแก่ที่ยังมีชีวิตอยู่ พาดตัวข้ามทางเดินบนตรอกทางเดินเล็ก ๆ ในตำแหน่งที่สูงพอให้เดิน ลอดได้ อย่างไม่เกะกะ บริเวณย่านที่ตั้งอยู่ท้ายตลาดไม่ไกลจากประตูทางเข้า Central Asian Museum ที่รายล้อมไปด้วยชุมชนชาวลาดักมุสลิม นอกเหนือไปจากต้นไม้ใหญ่ที่เป็นจุดเด่นแล้ว ก็ยังมีกลุ่มร้านขายขนมปังท้องถิ่นที่ยังคงทำด้วย กรรมวิธีดั้งเดิม (อบในโอ่ง ) ยิ่งเป็นช่วงเช้าก็จะคึกคักมากเพราะเต็มไปด้วยคนที่แวะผ่านมา ซื้อเต็มไปหมด ด้วยความรีบเร่งของ ชีวิตในสังคมเมืองที่ต้องแข่งขันกับเวลาและเพื่อความสะดวก
"....เขาหยิบแป้งหมักซึ่งปั้นเป็นก้อนกลมเล็ก ๆ คลุมผ้าไว้ในถาดมากมายมาทีละก้อน ตีแผ่เป็นแผ่น กลมบาง ๆ แตะน้ำบางครั้งก็ผสมงาลงไป (ซึ่งจะเรียกเปลี่ยนไปเป็น "กุตจา") แล้วโปะลงข้าง ๆ ด้านใน ของเตาดินเผารูปร่างคล้ายโอ่งใบใหญ่ รอจนแผ่นแป้งแข็งกรอบ จึงใช้เหล็กแหลมแทงขึ้นมาอันแล้ว อันเล่าด้วยท่วงท่าอันสงบนิ่ง..." คำบรรยายบางส่วนและภาพประกอบ : 'ในห้วงหิมาลัย' ,ธารา รินศานต์, สำนักพิมพ์เจนเดอร์เพรส, 2539 การเรียกขนมปังตามภาษาท้องถิ่นของลาดัก โดยทั่วไปก็จะใช้คำว่า ทากิ ก็น่าจะเหมือนกับที่คนอินเดียเรียกขนมปังชนิดแบนว่า โรตี ไปแทบเสียหมด แม้ว่าจะมีทั้งตัวที่ชื่อ Naan, Chapati, Paratha และอื่น ๆ เหล่านี้ก็คือ โรตี ทากิ ของลาดักก็เช่นกัน พวกเขามีขนมปังมากกว่าหนึ่งประเภท แต่ละประเภท ก็มีชื่อเฉพาะ ที่เราพูดถึงบ่อย ๆ คือตัวที่ชื่อว่า คัมบีร์ (Khambir) ก็อาจจะเรียก แบบเต็มยศได้ว่า ทากิ คัมบีร์ (Tagi Khambir) เป็นต้น นอกเหนือจากนี้ก็ยังมี อีกตัวที่คล้ายกันคือ ทากิ ชาโม (Tagi Shamo) ส่วนชนิดที่นำไปอบในโอ่งและทำขายกันในย่านนี้ ถ้าหากอ้างอิงจากหนังสือฯ จะเรียกว่า ไต * เพิ่มเติมภายหลัง อันนี้สอบถามคนลาดักมาอีกนะ ก็คือคำว่า ไต เป็นอีกหนึ่ง คำสามัญทั่วไปที่หมายถึง โรตี (flatbread) ส่วนชื่อเฉพาะของขนมปังทรง กลมแบน ที่ร้านชาวมุสลิมนำไปอบในโอ่งที่เรียกว่า ทันดูร์ ( tandoor) อย่างที่เห็นตามตรอก chutayrangtak โดยขนมปังนี้มีความหนาและขนาดเล็กกระทัดลัดเรียกว่า กุลจา (Kulcha) เนื่องจากไม่ได้แวะไปอุดหนุน เลยไม่กล้าเข้าไปขอถ่ายภาพร้านขาย ขนมปังท้องถิ่นบริเวณถนน Chutayrangtak มาฝากกัน พอได้เวลากลับมา เขียนถึง ก็ต้องวุ่นวายกลับมาเปิดหนังสือหารูปเก่าจากบันทึกการเดินทางของ คุณธารา รินศานต์ ที่ถ่ายลงไว้เมื่อหลายปีก่อน มาใช้ประกอบคำบรรยายแทน ลองคิดย้อนไป ไม่แน่ว่าช่วงที่เดินเตร่ผ่านแถวตรอกนี้ เราอาจเคยเห็นคุณลุง สักคนหนึ่งที่ขายขนมปังเป็นชายหนุ่มคนเดียวกับในภาพมาแล้วก็ได้เนอะ (^^) อนึ่ง ชื่อของ Chutayrangtak นั้นมาจากคำว่า Rantak (บางทีก็เขียนว่า Rangtak) แปลว่า เครื่องโม่ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่อาศัยพลังงานจาก น้ำ (Chu) บดโม่ข้าว เพราะเคยเป็นที่ตั้งของโรงโม่แป้งนั่นเอง ซึ่งก็ดูสอดคล้องกันดี กับวิถีและกิจการ ผลิตขนมปังที่ยังคงมีอยู่ในแถบนี้ มาปิดท้ายเอนทรี่ย์นี้ ด้วยหน้าตาของ Rantak กันค่ะ VIDEO Link : https://www.youtube.com/watch?v=L-tfWmHozSA
Create Date : 18 กันยายน 2564
6 comments
Last Update : 31 กรกฎาคม 2565 1:03:55 น.
Counter : 1426 Pageviews.
โดย: multiple 20 กันยายน 2564 20:41:43 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [? ]
ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก เป็นมนุษย์จำพวก introvert การเขียนบล็อก คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ ขอบคุณ Bloggang สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้ .... เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014 ###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###
© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต
นี่ถ้าเป็นบ้านเรา คงเลื่อยไปทำเรือนไทยแล้วละ555
ส่วนโม่พลังน้ำนี่ ภูมิปัญญาพื้นถิ่นที่น่าทึ่งมาก ใช้วัสดุที่มีในแถบนั้น
เห็นมีแท่งไม้ แปะติดอยู่ด้วย ดังปีอกๆแป๊กๆ เหมือนเป็นระบบเสียงเตือนให้รู้ว่าเครื่องโม่ ยังหมุนอยู่ สุดยอด555
แล้วก็เหมือนจะเคยอ่านที่ไหนไม่รู้ เรื่องตลกเกี่ยวกับขนมปัง
ที่ชื่อ Naan
คือมีคน เข้าไปชิมอาหาร ที่ร้านอาหารทิเบต
พอนั่งโต๊ะปุ๊บ บริกร ก็มาถามทันทีว่า จะกิน นาน Naan มั้ย
ลูกค้าก็แปลกใจทำไมต้องถามด้วย สงสัยมีคนมารอโต๊ะ
เลยตอบไปว่า ไม่นานหรอก ซัก ครึ่งชั่วโมง ก็จะอิ่มแล้ว 555