"นิโคล คิดแมน" ยอมรับว่า 2014 เป็นปีที่แย่จริงๆ สำหรับเธอ

เอเอฟพี - "นิโคล คิดแมน" กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ว่า 2014 คือปีที่ยากสำหรับเธออย่างแท้จริง โดยเฉพาะในการทำใจที่ต้องเสียพ่อไปอย่างกะทันหัน หลังบิดาของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทางไปสิงคโปร์

       ระหว่างรอบปฐมทัศน์ของหนัง Paddington ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นิโคล คิดแมน ได้กล่าวว่าครอบครัวของเธอคงไม่มีกระจิตกระใจที่จะฉลองคริสต์มาสในปีนี้แล้ว เพราะทุกคนยังทำใจไม่ได้หลัง แอนโทนี คิดแมน พ่อของเธอได้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหันเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ โดยที่ทุกคนไม่ได้มีโอกาสทำใจล่วงหน้าเลย

       "ฉันทราบดีค่ะว่าหลังจากนี้ก็คงจะจดจำปีนี้เอาไว้ ว่าเป็นปีที่ยากที่สุดสำหรับครอบครัวของเรา เป็นปีที่ยากที่สุดที่เราเคยผ่านมาเลย" คิดแมน กล่าวกับหนังสือพิมพ์ The Daily Telegraph ถึงการสูญเสียพ่อ ระหว่างท่านเดินทางไปสิงคโปร์ เพื่อเยี่ยมลูกสาว (น้องสาวของ นิโคล) กับหลานๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น

และเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันด้วยอาการหัวใจวายในเดือน ก.ย. "ฉันต้องพยายามเอ่ยปากพูดถึงพ่อ ก็เพราะอยากจะทำเหมือนว่าพ่อยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งแม้แค่พูดถึง ก็ยังรู้สึกเสียใจมากๆ อยู่เลย ครอบครัวของเรายังคงเสียใจกันต่อไปค่ะ"

นอกจากเรื่องความสูญเสียในครอบครัวแล้ว เรื่องงานภาพยนตร์ของ “นิโคล คิดแมน” กำลังอยู่ในช่วงที่เรียกว่า "ยาก" ไม่แพ้กัน เพราะระยะหลังผลงานภาพยนตร์ของเธอแทบจะไม่ประสบความสำเร็จทางรายได้เลย

       โดยเมื่อเดือนก่อนภาพยนตร์เรื่อง Before I Go to Sleep เพิ่งจะทำสถิติเป็นหนังที่ล้มเหลวที่สุดของ นิโคล คิดแมน ด้วยการทำรายได้ไปแค่ 2 ล้านเหรียญฯ แม้จะเข้าฉายด้วยโรงภาพยนตร์ถึง 1,935 โรง ก็ตาม โดยในหนัง คิดแมน รับบทเป็นหญิงสาวที่มีปัญหาโรคความจำเสื่อม และตื่นนอนมาด้วยความจำเดิมๆ เมื่อหลายปีก่อนซ้ำซากอยู่แบบนั้น

       ซึ่งก็ไม่ใช่เฉพาะ Before I Go to Sleep เท่านั้น แต่ระยะหลังผลงานของ นิโคล คิดแมน แทบจะล้มเหลวติดๆ กันมาตลอด ไม่ว่าจะในแง่รายได้ หรือกระแสคำวิจารณ์ รวมถึงการรับบทเป็น เกรซ เคลลี ใน Grace of Monaco ที่โดนผู้ชมในเทศกาลหนังเมืองคานส์โห่แสดงความไม่พอใจจนยับเยิน ก่อนที่จะโดนนักวิจารณ์จวก และล้มเหลวในแง่รายได้

       สำหรับผลงานเรื่องใหม่ Paddington คิดแมน บอกว่าเธอรับงานแสดงภาพยนตร์สำหรับเยาวชนเรื่องนี้ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่าอยากจะเลือกหนังที่เธอ, สามี และลูกๆ ทั้ง ซันเดย์ วัย 6 ขวบ และ เฟธ วัย 3 ขวบ สามารถดูด้วยกันได้ โดยในรอบปฐมทัศน์ก็มีเด็กๆ มาร่วมชมหนังกับอย่างคับคั่ง ซึ่งดาราวัย 47 ปี ก็กล่าวด้วยความปลื้มใจว่า "ไม่มีอะไรจะเหมือนรอบปฐมทัศน์ของหนังเด็ก ที่เราจะได้ยินแต่เสียงหัวเราะของพวกเขาอีกแล้วค่ะ"

"ไม่มีอะไรจะเหมือนรอบปฐมทัศน์ของหนังเด็ก ที่เราจะได้ยินแต่เสียงหัวเราะของพวกเขาอีกแล้วค่ะ" ดาราวัย 47 ปี กล่าว

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สิริสวัสดิ์ภุมวารค่ะ