| สี จิ้นผิง นายใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ และประธานาธิบดีคนปัจจุบันของจีน (ภาพเอเจนซี) | | | สื่อจีนรายงาน (7 พ.ย.) อันดับผู้ทรงอิทธิพลโลกล่าสุด โดยนิตยสารฟอร์บส์ ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ติดอันดับ 3 ตามหลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายบารัค โอบามา ขณะที่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ยังครองอันดับหนึ่งเช่นปีก่อน รายงานข่าวกล่าวว่า ผู้ทรงอิทธิพล 5 อันดับแรกของโลก ยังคงเป็นบุคคลเดิมเช่นปีที่แล้ว สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส อยู่อันดับสี่ และมีนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงของเยอรมนีอยู่อันดับ 5 ส่วนอันดับ 6 นั้นได้แก่ เจแนท เยลเลน ประธานธนาคารกลางของสหรัฐฯ บิล เกตส์ อยู่อันดับ 7 มาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป อันดับ 8, แลร์รี เพจ กับเซอร์เกย์ บริน สองผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิล อยู่อันดับ 9 ร่วมกัน และเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ อยู่อันดับ 10 ทั้งนี้ ในรายชื่อผู้ทรงอิทธิพลของปีนี้ ยังมีผู้นำองค์กร ซีอีโอกิจการต่างๆ ถึง 39 คน โดยในจำนวนนี้รวมถึงแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา และ หม่า ฮั่วเถิง ผู้ก่อตั้ง เทนเซ็นต์ บริษัทไอทีอันดับ 1 ของจีน ด้วย ฟอร์บส์กล่าวว่า การจัดอันดับผู้ทรงอิทธิพลโลกนี้ เป็นการพิจารณาจากปัจจัยทางด้านอำนาจในการตัดสินใจของปัจเจกบุคคล ซึ่งส่งผลต่อโลกและผู้คนจำนวนมากมายมหาศาล สำหรับ สี จิ้นผิงนั้น ฟอร์บส์ระบุว่า เป็นประธานาธิบดีจีนที่ทรงอำนาจที่สุดนับตั้งแต่ยุคของประธานเหมาเจ๋อตง โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เขามีสถานะผู้นำของชาติที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่าเศรษฐกิจรวมกว่า 17.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สี จิ้นผิงยังเป็นผู้นำที่เข้าใจงานมวลชน เขารายงานความเป็นไปในการทำงานให้สาธารณชนรับรู้ชนิดวันต่อวัน และต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างแข็งขัน เหล่านี้ยังไม่นับประสิทธิภาพในการบริหารเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ โดยในปีนี้ สี จิ้นผิงได้ตระเวนไปเยือนผู้นำโลกมากมาย รวมถึงหารือกับผู้นำสหรัฐฯ เกาหลีใต้ อินเดีย และรัสเซีย ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์ สิริสวัสดิ์โสรวารค่ะ
|