| ท่านผู้หญิงฮุนมะนา กับ เพ็ชร จันมุนี พี่สะใภ้ และพี่ชายซึ่งเป็นนายพลโทและเป็นรองผู้บัญชาการกองทัพ ไปเยี่ยมเยือนทหารที่ชายแดนครั้งหนึ่ง ตอนใกล้จะปีใหม่เมื่อปลายปี 2556 ถึงเวลาที่รุ่นลูกจะต้องเข้าแบกรับภาระสืบทอดทางการเมือง. | | | **ว่าที่นายกฯ หญิงขยันงาน** จากคุณหญิง (Chum Teav) ได้รับบรรดาศักดิ์พระราชทานเป็นท่านผู้หญิง "ล๊กจุมเตียว" (Lok Chumteav) เมื่อปี 2555 บิดาเป็นอัครมหาเสนาบดี ดร. ส่วนมารดาเป็นท่านผู้หญิงกิตติพฤฒิบัณฑิต ดร. อันเป็นตำแหน่งปราชญ์ราชบัณฑิตสูงสุดของประเทศ ถ้าหากบุตรีจะเป็นท่านผู้หญิงอีกคนก็ย่อมดูดีไม่มีอะไรดูขัดเขิน แต่บรรดาศักดิ์ก็ใช่ว่าได้มา เพราะว่าเป็นลูกสาวผู้นำสูงสุดของประเทศ หากด้วยการกระทำความดีที่ประจักษ์ยิ่ง ในสายตาสาธารณชน คงจำกัน หลายปีก่อนลูกสาวคนโตของท่านผู้นำ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโทรทัศน์บายน ได้รับแต่งตั้งเป็น "ผู้ช่วยนายกรัฐมนตรี" ทำงานอยู่ข้างๆ บิดาอีกคนหนึ่งด้วย โดยมีคำอธิบายว่า "เพื่อให้การรายงานเหตุการณ์เกี่ยวกับรัฐบาลเป็นไปอย่างเที่ยงตรง ถูกต้องมากยิ่งขึ้น" เป็นผู้อำนวยการและเจ้าของข่ายโทรทัศน์บายน (Bayon TV) เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร นั่นก็คือเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง และ ยังประธานมูลนิธิบายน (Bayon Foudation) ซึ่งเป็นองค์กรแสวงหากำไร นำผลกำไรนั้นไปใช้เพื่อการกุศล ช่วยเหลือ-สร้างบ้านให้คนยากจน คนด้อยโอกาส ให้การทุนการศึกษา จัดหน่วยแพทย์อาสาในนามสมเด็จฯ ให้ทุนหนุนโครงการพัฒนาท้องถิ่น สนับสนุนการรักษาพยาบาลสำหรับเด็กๆ ฯลฯ ท่านผู้หญิงน้อยทำมาแล้วทั้งสิ้น หลายคนคงจะจำกันได้ดี เดือน ส.ค.2551 หลังเกิดกรณีพิพาทปราสาทพระวิหารกับไทยรอบแรก กล่องดวงใจของสมเด็จฯ เดโช คนนี้ออกทุนให้ทหารช่างปูลาดยางถนนยาว 80 กิโลเมตร จาก อ.อันลองแวง (Anlong Veng) จ.อุดรมีชัย (Oddar Meanchey) ไปยัง อ.จอมกสาน (Chom Ksan) จ.พระวิหาร เพื่อเปิดเส้นทางใหม่เข้าสู่ปราสาทมรดกโลก ใช้เงินของมูลนิธิบายนจ่ายล่วงหน้าโดยประกาศิตของบิดา ถนนลูกรังเมื่อก่อน กลายเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ทันสมัย ไปมาสะดวก ทหารขนส่งลำเลียงได้ พลเรือนก็ได้ใช้ และ เป็นครั้งแรกที่ชาวเขมรสามารถขึ้นไปยังปราสาทจากฝั่งกัมพูชาได้อย่างสะดวก ไม่ต้องไต่บันไดลิง ปีนป่ายไปตามหน้าผาชันกันอีก คงจำกันได้ .. ฮุนมะนาคนเดียวกันนี้เคยนำมารดาพาไพร่พลขึ้นเขา ไปทำพิธีทางศาสนาและบวงสรวงบนปราสาทโบราณอายุ 900 ปี ที่เป็นศูนย์กลางความขัดแย้งกับไทย ในท่ามกลางความตึงเครียด เนื่องจากทหารของสองฝ่ายยังคงเผชิญกันอยู่บนภู ฯลฯ หลายฝ่ายเชื่อว่าความขัดแย้งกับไทยเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2551 ซึ่งสมเด็จฯ เตโช ยืนยันจะกระทำการเพียงฝ่ายเดียว จนกระทั่งนำไปสู่การปะทะกับไทย แต่ก็ทำได้สำเร็จ และสำเร็จก่อนวันเลือกตั้ง ถือว่าเป็นจุดสุดยอดทางการเมืองของประเทศ เป็นชัยชนะของรัฐบาล ซึ่งทำให้ CPP ชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้นในเดือน ก.ค.ปีนั้น ในช่วงปีที่รัฐบาลกำลังเสื่อมความนิยมเป็นลำดับ อันเนื่องจากการทุจริตคอร์รัปชั้นอื้อฉาวของคนใน กับการปราบปราม-ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างสูง แต่ 5 ปีถัดมาสถานการณ์ต่างๆ เหล่านั้นก็ไม่ได้ดีขึ้น การทุจริตคอร์รัปชั่นอื้อฉาว ในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐยิ่งแผ่ลามและเป็นข่าวหนาหูมากขึ้น การใช้กำลังทหาร ตำรวจ เข้าขับไล่ ราษฎรออกจากพื้นที่ทำกิน เพื่อยึดเอาที่ดินไปประเคนโครงการลงทุนขาดใหญ่ ก็ยิ่งปรากฎชัดและพบเห็นได้ทั่วไป ทั้งในกรุงพนมเปญและจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ การเป็นไม้เบื่อไม้เมากับไทยคำรพที่สองในช่วงปี 2553-2554 กรณีปราสาทพระวิหารจึงไม่ได้ช่วยให้ฝ่ายรัฐบาลประสบความสำเร็จอีกครั้ง ในการเลือกตั้งเดือน ก.ค.2556 ซึ่ง CPP สูญที่นั่งในสภาผู้แทนฯ ไปเกือบ 30% ให้กับพรรคฝ่ายค้านของนายสัมรังสี ที่รู้จักใช้โชเชียลมีเดียเป็นเครื่องมืออันทรงพลังรณรงค์การสนับสนุนจากคนหนุ่มสาวยุคใหม่ที่มีการศึกษาดี 2556 จึงเป็นปีที่ลูกๆ ต้องทำงานหนักยิ่งขึ้น เพื่อช่วยบิดาประคับประคองสถานการณ์ และ หลายฝ่ายเริ่มจับตาบทบาทหลังฉากของท่านผู้หญิงฮุนมะนา ซึ่งเชื่อกันว่าในที่สุดก็จะต้องทะยานออกนำหน้า ในวงการเมืองของประเทศอีกคนหนึ่ง ก่อนบิดาจะพ้นจากอำนาจ บทบาทของท่านผู้หญิงน้อยยิ่งโดดเด่นขึ้นไปอีก ในท่ามกลางสถานการณ์ที่พรรคฝ่ายค้านทำตัวเป็น "จอมเสียบ" หันไปเป็นญาติดีกับ CPP ต่อรองเก้าอี้และตำแหน่งในรัฐสภา กระทั่งในรัฐบาล เสียงสนับสนุนทั้งในและต่างประเทศที่เคยเป็นปึกแผ่นแน่นหนา ด้วยหวังจะเห็นการปฏิรูปทางการเมืองที่นำโดยพรรคฝ่ายค้าน ก็เริ่มแตกกระสานซ่านเซ็น
|