"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
12 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
เจ้าหญิงเกรซ แห่งโมนาโก .. ชีวิตที่เป็นดั่งเทพนิยาย










เจ้าหญิงเกรซ แห่งโมนาโก




เจ้าหญิงเกรซ เคลลี แห่งโมนาโก มีพระนามเดิมว่า เกรซ แพทริเซีย เคลลี (Grace Patricia Kelly 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2472 – 14 กันยายน พ.ศ. 2525) เป็นนักแสดงภาพยนตร์ชาวอเมริกัน ผู้ได้รับรางวัลอะแคเดมี

ได้เสกสมรสกับเจ้าชายเรนีเยที่ 3 แห่งโมนาโก เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2499 เจ้าหญิงเกรซเป็นพระมารดาของเจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 แห่งโมนาโก

หลังการอภิเษกสมรสแล้ว เจ้าหญิงเกรซถือสัญชาติพร้อมกันสองสัญชาติ คือทั้งอเมริกันและโมนาโก ชีวิตที่เป็นดัง “เทพนิยาย” ทำให้พระองค์เป็นชาวอเมริกันผู้เลื่องลือ และเป็นที่รักมากที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20


ครอบครัว

เกรซ เคลลีเกิดที่ย่านอีสฟอลล์ในเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวน 4 คนของนายแจ็คและนางมากาเร็ต เคลลี บิดาของเกรซเป็นบุตร 1 ใน 10 คนของครอบครัวชาวอเมริกันคาทอลิกที่อพยพมาจากสาธารณรัฐไอร์แลนด์

แจ็คผู้บิดาเคยเป็นวีรบุรุษของชาวอเมริกันมาแล้ว จากการได้เหรียญทองโอลิมปิกมากถึง 3 เหรียญ ในแข่งขันเรือกรรเชียงคู่ในขณะที่กีฬาชนิดนี้กำลังเป็นที่นิยมสูงสุด

แจ็คทำธุรกิจการค้าอิฐที่ใหญ่ที่สุด ในฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ และประสบความสำเร็จในระดับมหาเศรษฐีคนหนึ่ง พี่น้องของแจ็คหลายคนประสบความสำเร็จในชีวิตด้านศิลปะ คนหนึ่งเป็นนักเขียนบทละครย่อยที่โด่งดัง อีกคนหนึ่งได้รับรางวัลพูลิตเซอร์

เมื่อ พ.ศ. 2478 แจ็ก หรือที่เรียกกันอย่างว่า จอห์น เคลลีได้ลงสมัครรับการเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรี ในนามของพรรคเดโมแครตแต่ก็แพ้อย่างหวุดหวิด

ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ประธานาธิบดี แฟรงกลิน ดี. รูสเวลต์ได้แต่งตั้งแจ็กเป็นประธานกรรมการพลศึกษาแห่งชาติ ซึ่งเป็นตำแหน่งทางประชาสัมพันธ์ที่ใช้ความมีชื่อเสียงด้านกีฬาของเขา มาช่วยโน้มน้าวให้ชาวอเมริกันหันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพมากขึ้น

มากาเร็ต มารดาของเกรซมีเชื้อสายเยอรมัน ที่เข้ารีตเป็นคาทอลิก เธอเองก็เก่งด้านกีฬา จบสาขาพลศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทมเพิล ซึ่งต่อมาได้เป็นหัวหน้าภาควิชาพลศึกษาคนแรก ของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย

จอห์น บี เคลลี จูเนียร์พี่ชายของเกรซ ก็เชื้อไม่ทิ้งแถวของครอบครัว โดยเป็นนักกีฬาที่ชนะเลิศรางวัล “เจมส์ อี ซุลลิแวน” ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดสำหรับกีฬาสมัครเล่นของสหรัฐฯ เมื่อ พ.ศ. 2490 ในปี พ.ศ. 2499 จอห์น จูเนียร์ยังได้รางวัลเหรียญทองแดงโอลิมปิกฤดูร้อนจากการแข่งขันเรือกรรเชียง

และได้มอบเหรียญนี้เป็นของขวัญแต่งงานของน้องสาว


ชีวิตการแสดง

อาชีพการแสดงของเกรซ เคลลี สามารถทำนายได้ล่วงหน้าตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก เกรซได้เป็นนางแบบเดินแฟชั่น ในงานสังคมสาธารณะกุศลร่วมกับแม่และพี่สาว การแสดงครั้งแรกของเกรซ มีขึ้นเมื่อเธอมีอายุเพียง 12 ขวบโดยการแสดงละครเรื่องหนึ่ง

ในระหว่างการเรียนชั้นมัธยมปลาย เกรซได้แสดงทั้งละครและระบำ ในหนังสือรุ่น เพื่อนๆ เธอเขียนทำนายไว้ว่าเธอจะได้เป็น “ดาราที่มีชื่อเสียงทั้งในจอเงินและทางวิทยุ”

เมื่อจบชั้นมัธยมปลาย เกรซตัดสินใจมุ่งสู่อาชีพการแสดง และได้เข้าศึกษาใน สถาบันศิลปะการแสดงอเมริกันในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นสถานศึกษาที่ได้ผลิตดารา ที่มีชื่อเสียงในวงการมาแล้วหลายคน เช่น แคทารีน เฮบเบิร์นและสเปนเซอร์ เทรซีเป็นต้น

เกรซหารายได้มาจุนเจือค่าเล่าเรียนจากเป็นนางแบบ ระหว่างการศึกษา เกรซเป็นนักศึกษาที่ขยันมาก ใช้เครื่องอัดเสียงมาช่วยในการฝึกพูดจนได้ถึงขั้นสมบูรณ์แบบ

เธอได้เริ่มงานแสดงละครบรอดเวย์เป็นครั้งปฐมฤกษ์ และเมื่ออายุ 19 ปี เกรซจบการศึกษาด้วยการแสดงละครเรื่อง “เดอะฟิลาเดลเฟียสตอรี” ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกับภาพยนตร์เรื่องสุดท้าย ในชีวิตการแสดงภาพยนตร์ของเธอ

ต่อมาเกรซได้เข้าสู่วงการโทรทัศน์ และประสบความสำเร็จซึ่งนำไปสู่วงการจอเงินเป็นครั้งแรก โดยการเป็นตัวแสดงประกอบในภาพยนตร์เรื่อง “14 ชั่วโมง” (พ.ศ. 2494) เมื่ออายุ 22 ปี ภาพยนตร์เรื่องนี้เองที่ทำให้เกรซได้รับข้อเสนอมากหลายราย แต่เธอก็ปฏิเสธด้วยเกรงว่าจะขาดอิสรภาพในวงการละคร

แต่อย่างไรก็ดี เมื่อเกรซได้รับโทรเลขจากผู้กำกับภาพยนตร์ฮอลลีวูด ให้มาแสดงนำคู่กับแกรี คูเปอร์ ในเรื่อง “ไฮนูน” ซึ่งได้แม้จะได้รับรางวัลอะแคเดมี 2 ถึงรางวัล แต่เกรซก็ยังไม่พอใจ และสมัครเข้ารับการฝึกจากครูฝึกสอนการแสดง

ซึ่งมีผลให้ได้รับบทบาทเป็นผู้แสดงประกอบ ในภาพยนตร์ที่แสดงโดยคล๊าก เกเบิลและเอวา การ์ดเนอร์ในเรื่อง “โมแกมโบ” พ.ศ. 2496 ที่ถ่ายทำในป่าประเทศเคนยา การฝึกฝนต่อดังกล่าว มีผลให้เกรซได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ส่งให้เกรซขึ้นชั้นในระดับดารา

ผู้กำกับชื่อดังคือ อัลเฟรด ฮิชค็อก ได้ให้เกรซสวมบทบาทนางเอกในภาพยนตร์ประเภทลึกลับตื่นเต้นหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่อง “เรียร์ วินโดว์” คู่กับจิมมี สจ๊วต ซึ่งทำให้เกรซเป็นที่เลื่องลือไปทั่วประเทศ

ฮิชค็อกได้ให้เกรซแสดงอีกหลายเรื่อง จนที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ในปี พ.ศ. 2498 เคลลีได้รับรางวัลอะแคเดมีในฐานะนักแสดงยอดเยี่ยมในเรื่อง “เด็กบ้านนอก” (The Country Girl)

เรื่องสุดท้ายที่เกรซนำแสดงได้แก่เรื่อง “สังคมชั้นสูง” (High Society –พ.ศ. 2499) ภาพยนตร์เพลงที่ดัดแปลงจากเรื่อง “เดอะฟิลาเดลเฟียสตอรี” ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกับเรื่องที่เกรซใช้แสดง เพื่อจบการศึกษาดังกล่าวในตอนต้น

แม้ชีวิตการเป็นนักแสดงภาพยนตร์ของเกรซ เคลลี จะมีช่วงเวลาเพียง 5 ปี และแสดงไปเพียง 11 เรื่อง ความสวยและเสน่ห์ของเกรซได้ประทับลงไปในความทรงจำของคนอเมริกัน และนักชมภาพยนตร์ในยุคนั้นอย่างไม่มีวันลืมเลือน


การแต่งงานและชีวิตเจ้าหญิง

ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2498 เกรซ เคลลีได้รับการขอร้องให้เป็นตัวแทนของสหรัฐฯ ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ขณะที่อยู่ที่นั่น เธอได้รับเชิญไปร่วมงานถ่ายภาพในวังโมนาโกกับเจ้าชายเรนีเย เจ้าผู้ครองประเทศโมนาโก

หลังจากผลัดผ่อนหลายครั้งจากความไม่สะดวกหลายอย่าง ในที่สุด เกรซก็ได้ไปถึงโมนาโก ที่ซึ่งทำให้เกรซได้พบกับเจ้าชาย

หลังจากกลับสหรัฐฯ และเริ่มแสดงภาพยนตร์เรื่องใหม่เรื่อง “หงส์” (The Swan - พ.ศ. 2499) ซึ่งบังเอิญสวมบทบาทเป็นเจ้าหญิง ไม่นานจากนั้น เกรซ เคลลีเริ่มมีการติดต่อสัมพันธ์กับเจ้าชายเรนีเย เป็นการส่วนตัว

ในเดือนธันวาคมปีนั้น เจ้าชายก็ได้เสด็จมาอเมริกาเป็นทางการ ซึ่งมีการโจษจันว่า เสด็จเพื่อแสวงหาพระชายาเนื่องจากสนธิสัญญากับฝรั่งเศสซึ่ งทำไว้เมื่อ พ.ศ. 2461 บ่งไว้ว่า เมื่อใดที่เจ้าชายแห่งโมนาโกไม่มีรัชทายาท โมนาโกจะต้องรวมกับฝรั่งเศส

เจ้าชายได้ถูกถามในการให้สัมภาษณ์ว่า พระองค์กำลังแสวงหาพระชายาใช่หรือไม่ ซึ่งพระองค์ทรงตอบปฏิเสธ และในคำถามถัดมาถามว่าสมมุติว่าใช่ พระองค์จะทรงโปรดพระชายาแบบไหน?

พระองค์ทรงพระสรวลแล้วตอบว่า “ไม่ทราบ... แต่คงจะดีที่สุดกระมัง” เจ้าชายได้ทรงพบเกรซ เคลลีกับครอบครัวของเธอ และในอีกเพียง 3 วันต่อมาเจ้าชายเรนีเยก็ขอแต่งงานกับเกรซ ซึ่งเธอตอบรับ จากนั้นพระองค์และครอบครัวของเกรซ ก็ได้เตรียมการแต่งงานที่โด่งดังที่สุดแห่งศตวรรษ

ข่าวการหมั้นเป็นที่ตื่นเต้นเลื่องลือ แม้จะหมายความถึงการสิ้นสุดชีวิตการแสดงของเกรซก็ตาม วงการภาพยนตร์ก็รู้ดีว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้เกรซอยู่ในวงการแสดงต่อไป จึงได้แต่อวยพรให้เธอมีความสุข

การเตรียมพระราชพิธีมงคลสมรสเต็มไปด้วยความพิถีพิถัน มีการทาสีพระราชวัง ตบแต่งใหม่ทั้งหมด รวมทั้งพิธีการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกสู่โมนาโก

ในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2499 เกรซ เคลลี ได้ลงเรือที่ท่าในนครนิวยอร์ก พร้อมกับเพื่อนเจ้าสาวและครอบครัวของเธอ สุนัขพูเดิลและสัมภาระ 400 ชิ้น ออกจากท่าสู่ริเวียรา

มีนักข่าวมากกว่า 400 คนขอร่วมเดินทางไปด้วย แต่ก็ถูกปฏิเสธเกือบทั้งหมด ใช้เวลาเดินทาง 8 วัน มีผู้คอยต้อนรับมากกว่าสองหมื่นคน เรียงรายโห่ร้องต้อนรับเจ้าหญิงในอนาคตตามถนน

พระราชพิธีสมรสได้รับการถ่ายทอดไปทั่วยุโรป เกรซต้องจดจำชื่อตำแหน่งทางการให้ได้มากถึง 142 ชื่อ ในงานพระราชพิธีมีแขกผู้มีเกียรติและชนชั้นสูง ได้รับเชิญจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก 600 คน

และคาดว่ามีผู้ชมการถ่ายทอดทางโทรทัศน์รวม 30 ล้านคน เจ้าชายเรนีเยและเจ้าหญิงเกรซพระชายาได้ลงเรือยอชต์ ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ท่องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นเวลา 7 วันในคืนวันนั้นเอง

ทั้งสองพระองค์ได้พระราชธิดาพระองค์แรก หลังพระราชพิธีสมรส 9 เดือนกับ 4 วัน มีการยิงสลุต 21 นัดและประกาศเป็นวันหยุดราชการ หยุดการพนัน แจกแชมเปญฟรี และในปีเศษต่อมามีการยิงสลุต 101 นัดเพื่อต้อนรับโอรส คือเจ้าชายอัลแบร์

เจ้าชายเรนีเยและเจ้าหญิงเกรซมีพระโอรสและพระธิดา 3 พระองค์ดังนี้

เจ้าฟ้าหญิงกาโรลีนแห่งฮาโนเวอร์ ประสูติวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2500
เจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 ประสูติ 14 มีนาคม พ.ศ. 2501
เจ้าหญิงสเตฟานี มารี เอลิซาเบทแห่งโมนาโก ประสูติ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2508

เจ้าหญิงเกรซ ไม่ได้หวนกลับสู่วงการจอเงินอีก พระองค์ทรงเลือกที่จะเป็นผู้นำประเทศฝ่ายสตรี ในปี พ.ศ. 2505 ฮิชค็อกได้ทูลชวนพระองค์ให้มาแสดงภาพยนตร์อีก พระองค์อยากจะลองแต่ไม่มีผู้ใดเห็นด้วยรวมทั้งเจ้าชายเรนีเย เจ้าหญิงจึงตอบปฏิเสธไป

แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหญิงเกรซก็ได้เข้าสู่วงการศิลปิน ในรูปแบบพิเศษโดยการอ่านบทกลอนในภาพยนตร์ชุดสารคดี เมื่อ พ.ศ. 2520 พระองค์ในฐานะเจ้าหญิง ได้มีบทบาทในการยกระดับสถาบันศิลปะของโมนาโก มีการจัดตั้งมูลนิธิเจ้าหญิงเกรซขึ้น เพื่ออุปถัมภ์ศิลปินของประเทศ

เจ้าหญิงเกรซเป็นบุคคลชั้นสูงคนแรก ที่สนับสนุนการเลี้ยงทารกด้วยนมมารดา ทรงจัดงานคริสต์มาสประจำปีสำหรับเด็กกำพร้า และทรงจัดตั้งสโมสรสวนดอกไม้ขึ้น เนื่องจากที่พระองค์ทรงโปรดปรานดอกไม้มาก

เจ้าชายเรนีเยและเจ้าหญิงเกรซ ได้จัดงานเฉลิมฉลองวาระที่ได้ทรงอภิเษกสมรสครบ 25 ปี เมื่อ พ.ศ. 2527


การสิ้นพระชนม์

ในวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2525 ด้วยพระชนมายุ 52 พรรษา เจ้าหญิงเกรซและเจ้าหญิงสเตฟานีพระราชธิดาได้ขับรถมุ่งสู่โมนาโก จากที่ประทับในชนบท พระองค์ทรงประชวรกระทันหัน ด้วยโรคเส้นโลหิตแตกในสมอง ทำให้รถโรเวอร์ที่ทรงขับอยู่พลิกคว่ำตกจากไหล่เนินที่สูงหลายตลบ และทรงสิ้นพระชนม์ในวันรุ่งขึ้น

มีการโจษจันกันว่า จุดเกิดเป็นถนนช่วงโค้งที่เดียวกันกับที่ใช้เป็นเป็นฉากภาพยนตร์ แต่พระโอรสทรงปฏิเสธ เจ้าหญิงสเตฟานีได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

พระศพของเจ้าหญิงเกรซได้รับการฝัง ไว้ในโบสถ์เซนต์นิโคลาส ประเทศโมนาโก และต่อมาเจ้าชายเรนีเยก็ถูกฝังไว้เคียงของเจ้าหญิงเกรซหลังจากเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2548 มีประชาชนมากกว่า 100 ล้านคนที่ชมการถ่ายทอดพิธีฝังพระศพเจ้าหญิงเคลลี


หลังการสิ้นพระชนม์

ชีวิตในราชวงศ์เริ่มเปลี่ยนไป สิ่งที่ทุกคนเป็นห่วงคือ พระพลานามัยของเจ้าชายเรนิเย นับตั้งแต่การจากไปของเจ้าหญิงเกรซ เคลลี่ อีกทั้งความประพฤติของพระธิดาทั้งสองพระองค์ ที่ไม่เคยนำความชื่นใจมาเลย

โดยเฉพาะเจ้าหญิงสเตฟานี ที่มีความประพฤติ ไปในทางลบด้านชู้สาวเสียมากกว่า ส่วนเจ้าชายอัลแบร์ก็คงตำแหน่งเจ้าชายเพลย์บอยไม่เสื่อมคาย

ทั้งนี้เจ้าชายเรนิเยทรงรับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2548 หลังจากทรงพระประชวรจากอาการของพระปัปผาสะติดเชื้อ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม อาการทรุดลง

เมื่อวันที่ 1 เมษายน สำนักพระราชวังโมนาโกก็แถลงว่า เจ้าชายอัลแบร์จะทรงขึ้นสำเร็จราชการแทนพระองค์ สำนักพระราชวังโมนาโกแถลงว่าเจ้าชายเรนิเยสิ้นพระชนม์แล้วเมื่อเวลา 04.35 น. ด้วยพระชนม์มายุ 81 พรรษา โดยมีเจ้าชายอัลแบร์ประทับอยู่เคียงข้าง


ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


สิริสวัสดิ์ภุมวาร สิริมานรมณีย์นะคะ



Create Date : 12 เมษายน 2554
Last Update : 12 เมษายน 2554 0:05:42 น. 0 comments
Counter : 8885 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.