เมื่อความฝัน* มีความมุ่งมั่น ชีวิตก็จะมีความหวัง * เมื่อชีวิตมีความหวัง กำลังใจก็จะตามมา * อุปสรรค์ เป็นแค่เพียงบททดสอบ เท่านั้น * ขอจงมี ความฝัน อยู่เสมอ คุณทำได้ ถ้าได้ทำ * คุณทำไม่ได้ เพราะ ไม่ได้ทำ **

..ตอนที่ 4/..เล่าเรื่อง..การทำงานวันแรก

>ตอนที่ 4/10 * ทำงานวันแรก... เกิดอะไรขึ้น... *
..............................


เช้าวันใหม่ พวกเรามารอ เวลาอาหารเช้า 7 โมง อาหารมื้อนี้ก็จะคล้ายๆ กันกับอาหารมื้อแรก ที่เราทานกัน มีปรับเปลี่ยนบ้างเล็กน้อย ขณะที่พวกเรานั่งทานอาหาร พึ่งจะสังเกตุเห็นว่าพนักงานที่นี่เยอะจริงๆ จำแทบไม่ได้ว่าใครเป็นใคร เพราะทุกๆ คนจะดูคล้ายๆ กันหมด สำหรับเรา และอีกอย่างพวกเราพึ่งมาถึง จากเมื่อคืน คงจะมีการบอกต่อๆ กันว่ามีคนใหม่มาเพิ่ม พวกเขา จึงอยากจะเห็นและ เข้ามาทักทายด้วย พวกเรารีบๆ ทานอาหารให้เสร็จ แล้วรีบออกมาให้เร็วที่สุด จากโรงอาหาร



รอเจ้านายมา เราเตรียมแบบพร้อม และจุดแรกที่พวกเราต้องทำคือ โซนลอ็บบี้ของโรงแรม พวกเรา วางอุปกรณ์รวมกันเป็นจุดทำงาน พอสายๆ มาหน่อยเริ่มจะมีคนทะยอย มาที่ไชด์งานเรา พวกเขามากันเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละ 3 - 8 คน มายืนกอด อก ดูพวกเราทำงานกัน กลุ่มนี้ไป กลุ่มใหม่มา เริ่มจะรำคาญแล้วค่ะ เราถามเจ้านายว่า เขาไม่ทำงานกันหรือเดินไป เดินมาอยู่ได้ เจ้านายบอกเราว่าที่เขามาคือ






1. เขามาดูผู้หญิงไทยทำงาน และเป็นงานที่ทำเหมือนๆ กับคนในเกาะทำ
2. เขามาดูลักษณะการทำงาน เพราะระหว่างที่ยืนดู พวกเขาคุยกัน แทบจะไม่หยุดหายใจเลย
เหมือนกับว่า ครูพักลักจำ
3. อาจจะเป็นเวลาอาหารว่าง tea time เขา เลยแว๊ปได้ คือที่นี่เขาจะมีเวลาอาหาร ดังนี้ค่ะ

7 - 8.30 am เวลาอาหารเช้า
8.30 - 10 am เวลาทำงาน
10 - 10.30 am พัก tea time ( ทานของว่าง )
10.30 - 12 am เวลาทำงาน
.....................
12 am - 14 pm เวลาอาหารมื้อเที่ยง
14 - 16 pm เวลาทำงาน
16 - 16.30 pm พัก tea time ( ทานของว่าง )
16.30 - 17 pm เวลาทำงาน
....................
( แต่สำหรับคนไทย พวกเราแทบจะไม่พักเลย จะหยุดก็ต่อเมื่อเวลาอาหาร )

เจ้านายเลยบอกว่า ก็เพราะพวกเขาทำงานกันอย่างนี้ไงหล่ะ งานถึงได้ล่าช้า
เพราะคนทำงานช้านี่เอง โปรเจคใหญ่เขาถึงได้ชอบ การทำงานของคนไทย






วันนี้เราต้องเดิน อยู่หลายกิโลเลยทีเดียว ทั้งเดินสั่งงาน เพราะไทยโปรเจค แยกออกเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งลอ็บบี้ อยู่อีกด้านหนึ่งของเกาะ และอีกที่คือสระว่ายน้ำซึ่งห่างกันพอสมควรและเรายังต้องเดินไปเบิกอุปกรณ์ ให้คนงานอีก แดดร้อนมาก พลอยทำให้ พื้นทรายร้อนตามไปด้วย เรากึ่งวิ่ง กึ่งเดิน แต่ดีหน่อย ที่มีร่มไม้ พอจะให้เราหลบแดดบ้าง

ทำงานวันแรก เริ่มจะเจอปัญหา เบิกอุปกรณ์ไม่มีให้ ต้องรอให้เรือเข้า อีกหลายวัน คนที่โปรเจค ออฟฟิศ ช่วยอะไรไม่ได้มาก ถ้าจะให้เขาช่วย ก็ต้องรอให้เขาว่างก่อน งานที่นี่เยอะ ต่างคน ต่างหน้าที่ เราจึงรอไม่ได้ งานเราก็ต้องเดินด้วย ดังนั้นเราจึงให้คนงาน ช่วยกันหาเศษไม้มาทำนั่งร้าน และได้สร้างโรงงานเล็กๆ ขึ้นมาเอง ทุกอย่างทำด้วยมือ

และอีกปัญหาหนึ่งคือแรกๆ เราต้องหาผ้ามาคลุมหน้า และมัดผมเก็บใต้หมวก เพื่อหลบสายตาคนงานที่นี่ ในบริเวณที่พวกเราทำงานต้องขึงเชือก ติดป้ายห้ามเข้า จะเข้ามาได้เฉพาะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่งั้น คนงานจะพากันแห่มามุงดู รบกวนเวลาทำงานในแต่ละวัน ด้วย

หลังจากเจ้านายสั่งงานเสร็จในวันนั้น ในวันรุ่งขึ้น ก็บินกลับสิงค์โปร เพื่อจะไปให้ทันงานเปิด chi-spa ที่โรงแรม Shangri-La's ฟิลลิบปินส์ อีกหนึ่งโปรเจค ที่พึ่งเสร็จ และเปิดใหบริการ ทีนี้ หน้าที่ อันหนักอึ้ง จึงมาตกที่เรา รวมทั้งการตัดสินใจทุกอย่างด้วย

โปรเจคเมนิเจอร์ เขาเริ่มจะมองเห็นและเข้าใจปัญหาเล็กๆ น้อยๆที่เราเจอ ในการทำงานของพวกเรา เขาจึงส่งคนมาช่วย เป็นลูกมือ เพื่อว่าเราจะได้ไม่เสียเวลามาก กับการขนย้าย และเบิกของต่างๆ เขาส่งคนงาน ชาวบังกลาเทศ มาให้ 2 คน ทำทุกอย่างที่เราสั่ง นิสัยดีมาก ส่วนชื่อเขานั้นจำยากมาก
มีคนงานไทย ตั้งชื่อให้เขาว่า นายจ่อย และ เชียงน้อย ( เป็นภาษาอิสานค่ะ ) จ่อยดูจะภูมิใจมาก กับชื่อใหม่ และถูกเรียกชื่อเป็นภาษาไทย หลังๆ มาจ่อยเขียนชื่อตัวเอง เป็นภาษาไทย อวดเพื่อนๆ เขาได้ด้วย



สโตร์เบิกของ ที่หาอะไรไม่ค่อยเจอ



วัสดุ และอุปกรณ์ต่าง รวมทั้งของที่ใช้ตกแต่งเกือบ 60% มาจากเมืองไทย



ส่วนหนึ่งของเขตก่อสร้าง และแคมป์คนงาน



จ่อย และเชียงน้อย ทำงานกับพวกเราโดยที่ไม่เคยบ่นสักคำ จ่อยพูดภาษอังกฤษได้ดีทีเดียว และเรายังเห็นจ่อย สอนภาษาอังกฤษ ให้คนงานไทยบางคนด้วย แลกกันสอน เห็นแล้วน่าชื่นชมค่ะ จ่อยเล่าให้ฟังว่า เขามีพี่น้องหลายคน เขาทำงานที่บังกลาเทศ ถ้าโชคดีได้งานทำ เงินเดือน จะได้รับอยู่ที่ 50 $us ต่อ เดือน แต่ก็น้อยคนนัก ที่จะโชคดี ได้งานทำ จ่อยมาทำงานที่เกาะนี้โดย ผ่านทาเอเจนซี่ จัดหางาน ที่ประเทศเขา มาทำงานก่อสร้าง สัญญา 2 ปี จ่อยได้รับเงินเดือน จากเจ้าของงานที่รับมา เดือนละ 150 $us ต่อเดือน เงินเดือนของจ่อย ส่งกลับบ้าน เลี้ยงดู ครอบครัวให้อยู่กันได้อย่างสบายๆ

เราได้ฟังจ่อยเล่า ทั้งสงสาร และเห็นใจ คนไทยเราโชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้อดอยาก เหมือนคนประเทศเขาเงินเดือนเรา ณ ขณะนั้นเท่ากับจ่อย ต้องทำงานอยู่หลายเดือนทีเดียวพวกเราเข้าใจ และเห็นใจจ่อยมาก มีอะไรเราก็แบ่งเขาตลอด มีคนงานไทยบางคน แบ่งเสื้อใหม่ที่ยังไม่เคยใช้เลย ให้จ่อย และเซียงน้อย พวกเขาดีใจสุดๆ เลยค่ะ และทุกๆ วันหลังเลิกงาน จ่อยจะขึ้นมะพร้าวมาให้ วันละ ทะลายเลย ถ้าวันไหนไม่เจอเรา จ่อยก็จะฝากไว้ให้ เลดี้บอส ด้วย ( และนี่ก็เป็นอีกหนึ่ง ความประทับใจ กับเพื่อนต่างชาติ ต่างศาสนา ค่ะ)

การทำงานของพวกเรา มีขรุขระบ้าง แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ช่วงหลังๆ มาถึงจะมีคนแวะเวียน มาที่ไซด์งานบ่อยๆ แต่พวกเราก็ชินแล้วค่ะ ทุกคนให้เกียรติ และมีไมตรีดีมากดูๆ แล้วคนไทยในเกาะนี้ ก็ดูจะกลายเป็นขวัญใจของชาวเกาะแห่งนี้ไปซะแล้วค่ะ เพราะไม่ว่า จะเดินไปไหน จะมีคนโบกมือให้ และเรียก Hello Thailand ตลอด และบางวันยังมีของฝาก มาให้บ่อยๆ ด้วยค่ะ




ส่วนหญ้าชนิดนี้เราไม่รู้ว่าชื่ออะไร เกิดตามพื้นทราย เห็นดอกมันแปลกดี

ต่อ 5/ .... ปาร์ตี้ชายหาด ... Staff......


My Document Alidhoo / Maldives
4/10 ..
..


MusicPlaylistView Profile
Create a playlist at MixPod.com


...........





 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2551
2 comments
Last Update : 10 ตุลาคม 2554 0:05:22 น.
Counter : 208 Pageviews.

 

อ่านแล้วมีไฟในการทำงานเลยค่า...
คนงานลิตช์ก็เยอะค่ะเป็นคนสุรินทร์ เป็นไทย
เชื้อสายเขมร พูดอะไรกันไม่รู้เรื่อง แต่ขยัน
มาก เก็บเงินไปซื้อที่ที่บ้านกันได้เป็นแถว

 

โดย: ลิตช์ (Litchi ) 23 กุมภาพันธ์ 2551 18:49:38 น.  

 

ขอบคุณที่แวะไปคอมเม้นต์ให้ที่บล็อกนะคะ โบว์เองก็อาศัยบล็อกของป้ามดงมๆ อยู่หลายชั่วโมงเหมือนกัน 555

มัลดีฟสวยจังค่ะ...ถ้ามีโอกาสก็อยากไปเที่ยวบ้างสักครั้ง...สถานที่โรแมนติกขนาดนี้ หาแฟนให้ได้ซะก่อนจะไปดีกว่ามั้ยเนี่ย...555

 

โดย: โบว์ฮาบบ (โบว์ฮาบบ ) 24 กุมภาพันธ์ 2551 5:30:40 น.  


ดอกหญ้าในดงผู้ดี
Location :
Dorset, United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




*.. ชีวิต ไร้ขอบเขต ธรรมชาติ คือสื่งที่แสวงหา
ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่รักที่จะอยู่แบบเดิมๆ .. *
..........................................................

.. คำนำ ..

เนื้อหา และบทความในบล็อกนี้ ส่วนหนึ่ง เขียนมาจากชีวิต และประสบการณ์ส่วนตัว ของเจ้าของบล็อก
และส่วนหนึ่ง เขียนมาจากความสนใจ ใคร่รู้ โดยส่วนตัวของ จขบ เอง และค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติม
พร้อมอ้างอิงที่มา
เจ้าของบล็อกหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คงเป็นประโยชน์แด่ผู้ที่สนใจ ไม่มากก็น้อย
.....................................................................

.. งานเขียน และบทความ ที่เขียนมาจาก ' ชีวิตส่วนตัว และประสบการณ์ชีวิตจริง ' ของ เจ้าของบล็อคนี้

..ขอสงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของ ( ข้อความ,ภาพส่วนตัว ) ใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่ และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด..

หรือ....

...หากว่า มีส่วนใด ในบล็อคนี้ เห็นว่าเป็นความรู้ และเป็นประโยชน์ ช่วยเหลือท่านได้
( ที่ไม่ใช่การนำไปใช้หาผลประโยชน์ ให้ตัวเอง )

..เจ้าของบล็อคก็ยินดี แต่ขอให้บอกกล่าวกันบ้าง เพื่อเป็นการแสดงถึง การให้เกียรติ และเคารพในสิทธิ์ ซึ่งกัน และกันนะค่ะ ......
....................................
..... 4...... ..
New Comments
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
23 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ดอกหญ้าในดงผู้ดี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.