Khantī parama
m
tapo tītikkhā [Buddhist Proverbs]
Group Blog
หมากรุกไทย
พี่แช่ขอร้อง (กีต้าร์)
พี่แช่ขอร้อง (คีย์บอร์ด)
พี่แช่ขอร้อง (พร้อมผองเพื่อน)
วิชากานต์
ที่นี่มีอะไรดี
ที่นั่นมีอะไรดี
มะขามเปียก
คลังกระทู้ท่าน Cinephile
PPU
PPU FAQ
<<
พฤศจิกายน 2550
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
11 พฤศจิกายน 2550
PPU FAQ #4
All Blogs
๒๓ พฤศจิกาฯ คารวะ พนมเทียน
PPU FAQ #4.1
PPU FAQ #4
PPU FAQ #3
PPU FAQ #2
PPU FAQ #1
PPU FAQ #4
มาถึงคำถามความที่สูงข้อที่ 4 ครับ คำถามนี้ตอบให้เคลียร์แบบฟันธงยาก ค่อนข้างจะเป็นนามธรรมซักนิด เพราะยังไม่พบข้อมูลชั้นที่ ๑ ที่ฟันธงลงไป
ก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ คำถามก็ขอยกมาจากสมาชิกที่ถามมาล่าสุดเลยนะครับ
ทำไม พอมาถึงภาค 2 รพินทร์ ถึงได้เก่งขึ้นขนาดฟันแทงไม่เข้าพูดคุยกับนางไม้ได้คะ
อ่านมาหลายรอบมากๆแล้วค่ะ แต่ยังไงๆ ก็ยังติดใจอยุ่ตรงนี้มาตลอดเกือบ 10 ปีแล้ว
เพราะในภาคแรก รพินทร์ ไม่เคยใช้คาถาหรือ มีวี่แววว่าสามารถใช้คาถาอาคม อะไรได้เลย ออกจะไม่ยอมรับการมีตัวตนอยุ่ของคาถาอาคมด้วยซ้ำ
มีอยุ่ครั้งเดียวที่รพินทร์ กระทำซึ่งใกล้เคียงกับการใช้คาถามากที่สุด ก็คือ การเอา ข้าวของต่างๆในไถ้ใบเก่าที่รวบรวมของต่างๆ ที่พระให้มาบ้าง หนานอินให้มาบ้าง พ่อให้มาบ้าง ใส่ในกระบอกปืนแล้วยิงออกไปเพื่อสยบ พายุ
แต่พอมาถึงถาค 2 อยู่ๆรพินทร์ ก็กลายเป็นจอมเวทย์ หนังเหนียว ฟันแทงไม่เข้า เผาก็ไม่ตาย ถอดจิตได้ คุยกันนางไม้เจ้าป่าเจ้าเขาได้ สู้กับพวกซากฟอสซิลของมันตรัยได้
ก็เลยเกิดสงสัยว่าถ้าทำอย่างนี้ได้ ทำไมไม่ทำตั้งแต่ภาคแรกแล้วล่ะคะ
จากคุณ : CryingPanda - [ 11 พ.ย. 50 06:35:52 ]
คำตอบนี้วิเคราะห์ได้ใน ๒ แนวทางครับ คือ
๑) วิเคราะห์รพินทร์ ไพรวัลย์
๒) วิเคราะห์ผู้สร้างรพินทร์ ไพรวัลย์ หรือพูดง่ายๆ วิเคราะห์เบื้องหลังงานเขียนของ 'พนมเทียน' ครับ
๑) วิเคราะห์รพินทร์ ไพรวัลย์
๑.๑ ในการเดินทางครั้งแรก รพินทร์ได้มีท่าทีใช้คาถาอาคม หรือใช้ให้บุญคำ/แงซายทำแทน อยู่หลายครั้งด้วยกัน เท่าที่จำได้ตอนนี้ คือ
- ฤกษ์เดินทางจากหนองน้ำแห้ง/การบริกรรมเปิดป่า
- ให้คุณหญิงดารินท่องคาถาเพื่อให้ใจสงบ ตอนนั่งห้างด้วยกัน
- ตอนดารินฝันถึงเจ้าป่า รพินทร์ยังบอกว่าเป็นฝันที่ดี
- ไม่ห้ามบุญคำในการทำพิธีเรียกผีที่พุเตย
- ฤกษ์เดินทางออกจากหล่มช้าง/ทำพิธีเปิดป่า
- ไม่ห้ามแงซายให้ทำพิธีข่มนางไม้บริเวณที่มีเสือจะจ้องตะครุบคุณชายเชษฐา
- ใส่กระสุนบรรจุของพิเศษ ยิงข่มอาถรรพ์สมุนนางตะเคียน
- สนทนากับนางตะเคียน
- บริกรรมคาถาตอกทอยขึ้นไปช่วยบุญคำ ตอนหลงป่าในนิทรานคร
- ไม่ห้ามบุญคำใช้หอกไม้คลุกแพ๊ด ตอนสู้กับนางพญาพันธุมวดี
- ไม่ห้ามบุญคำใช้กระสุนคลุกแพ๊ด ตอนสู้กับมันตรัย
- บริกรรมคาถา (มีท่าทีเช่นนั้น) ยิงโป่งค่าง
- ไม่ปฏิเสธที่บุญคำบอกว่าแงซายไปลองดีกับภูต บริเวณเนินพระจันทร์
- ไม่ห้ามบุญคำใช้แพ๊ดทำให้ไฟลุกท่วมแม่มดวาชิกา
๑.๒ รพินทร์ได้อธิบายเรื่องนี้ต่อท่าทีไม่แสดงว่าตนมีคาถาอาคมให้กับบุญคำฟังว่า อย่าพูดออกไปให้คณะนายจ้างรู้ เพราะเขาเหล่านั้นมีการศึกษาสูง มักไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ ขืนเราพูดออกไปจะทำให้เขาขาดความเชื่อถือเราไปเปล่าๆ
๑.๓ รพินทร์ มักพูดตัดบทเรื่องนี้กับคณะนายจ้างว่า สติมั่น ปืนเที่ยง ก็บุกทุกป่าได้ แต่ทำอย่างไรให้สติมั่น รพินทร์ไม่ได้พูดต่อ
๑.๔ หนานอินเคยวิเคราะห์จอมพรานรพินทร์ ไพรวัลย์ไว้ในการเดินทางครั้งที่สองว่า รพินทร์เป็นจอมพรานเพราะเขามีทั้งศาสตร์ของพรานที่ร่ำเรียนมาจากบิดากับหนานไพร และศาสตร์สมัยใหม่ ผสมผสานกัน ทำให้เหนือกว่าพรานคนอื่น
๑.๕ ที่การเดินทางภาคแรกรพินทร์ไม่ค่อยใช้คาถาอาคมอย่างชัดเจน นอกจากจะเพราะไม่อยากให้คณะนายจ้างดูถูกว่างมงายแล้ว เขายังวางใจว่ามีทั้งแขนซ้ายคือบุญคำ และแขนขวาคือแงซาย คอยช่วยเหลืออยู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าเมื่อตอนศึกไทรเซราทอปส์ ที่รพินทร์คิดว่าแงซายตายนั้น น้ำตาลูกผู้ชายถึงกับหลั่งไหลออกมา เพราะเปรียบเหมือนแขนขวาขาดลง
๑.๖ แต่ก็มีในศึกมันตรัย ทีรพินทร์ถึงกับต้องบอกกับคณะนายจ้างว่า ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่คณะกำลังจะเผชิญกับอาถรรพ์ลี้ลับ ที่เขาจำเป็นต้องพูดความจริง
๑.๗ ทีนี้ในการเดินทางครั้งหลัง รพินทร์ถึงกับรำพึงบ่อยครั้งมากว่า แงซายเอ๋ยถ้าเจ้าไม่มาช่วยในครั้งนี้ เห็นทีคณะจะพินาศสิ้น ดังนั้น รพินทร์จึงจำต้องใช้ศาสตร์ทุกสิ่งทุกอย่างออกมาอย่างเต็มกำลัง
๑.๘ อีกทั้งความเกลียดขี้หน้าคณะอเมริกันเป็นการส่วนตัว รพินทร์จึงใช้ศาสตร์อาถรรพ์เพื่อข่มคณะอเมริกันอย่างทุกครั้งที่มีโอกาส
๑.๙ อย่างไรก็ตาม การใช้ศาสตร์มืดที่บ่อยครั้งเกินไป รวมถึงความเครียดในการเดินทาง กอรปทั้งความคิดถึงคุณหญิงดารินอย่างมากมาย ก็เกิดผลร้ายกับรพินทร์หลายอย่าง เช่น การเกิดอาการอิสคีเมีย การเกิดอาการแซโดมาโคซิสต์ เป็นต้น จะเห็นว่ารพินทร์เดินทางครั้งหลังมีสภาพเหมือนคนร้อนวิชา ควบคุมตัวเองไม่ได้ในบ้างครั้ง
๑.๑๐ กล่าวโดยสรุป รพินทร์เป็นพรานที่มีความรู้ทั้งศาสตร์คาถาอาคม และศาสตร์สมัยใหม่มาตั้งแต่ต้นแล้ว เพียงแต่ไม่จำเป็นก็จะไม่ใช้ เพราะศาสตร์มืดมีคุณและโทษไปพร้อมๆกัน ดังเช่นคำกล่าวของรพินทร์เองที่บอกกับบุญคำว่า กระสุนลงอาคมเป็นของสกปรก ใช้แล้วความเที่ยงของปืนจะลดลงไป เป็นต้น
ดังนี้แล
(รู้สึกถึงกลิ่นวิชาการยังไงก็ไม่รู้)
โปรดติดตามต่อในการวิเคราะห์ข้อ ๒ ในหัวข้อถัดไปนะครับ
ขอเชิญพักฟังเพลงคลายเครียดกันก่อนครับ
เปิดเสียงให้สุดเลยนะครับ เพื่ออรรถรสในการฟัง
Create Date : 11 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2550 18:12:33 น.
26 comments
Counter : 1121 Pageviews.
Share
Tweet
ไม่เครียด เพราะไม่ได้เปิดลำโพง
โดย:
เ จ้ า ตั ว ร้ า ย
วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:11:32 น.
หูย จตร อะไรจะรวดเร็วปานวาสิฏฐีสาวปานนี้
แน่จริงอย่าฟังดิ
โดย:
อุปนิกขิต
วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:22:34 น.
สวัสดีค่ะ ปู่ฯ
เข้ามาอ่าน....PPU FAQ #4 ค่ะปู่ฯ ....
ฮั่นแน่....เหมือนจะเห็นแว๊ปๆๆ
อ้อจ๋า เคยนำเพลงนี้มาฝาก
แล้ว คุณ ปู่ฯ เมนต์ว่าไม่รู้สึกอารายยย เยยย แหะๆๆๆ
ปล. นู๋เปิดสุดเสียงเลยค่ะปู่ฯ ขา
อืมมม เสียงดนตรี ไพเราะมากมายเลยค่ะ ซึ้งจังค่ะ แหะๆๆ
โดย:
naragorn
วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:56:01 น.
อืมมม
เสียงดนตรี
ไพเราะมากมายเลยค่ะ ซึ้งจังค่ะ แหะๆๆ
โดย: naragorn 11 พฤศจิกายน 2550 23:56:01 น.
เอิ่ม... ปู่จะถือว่านี่เป็นคำชมนะจ๊ะ
โดย:
อุปนิกขิต
วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:59:25 น.
อีกนี๊สสสส นุง อ่ะค่ะ
เสียง ที่ แฝงอยู่ในเสียงดนตรีหรือเปล่าค่ะ ปู่ฯ
ที่บอกว่า คือ นวัตกรรม....
โดย:
naragorn
วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:02:07 น.
เสียง ที่ แฝงอยู่ในเสียงดนตรีหรือเปล่าค่ะ ปู่ฯ
ที่บอกว่า คือ นวัตกรรม....
โดย: naragorn วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:02:07 น.
อันนี้ปู่โซโลคนเดียวทั้งเสียงแฝงและเสียงดนตรีครับ มี adlib (มั่ว) เล็กน้อย
รวมเรียกว่า นวัตกรรม ครับ
เรื่องของเรื่อง คือปู่ไปทำตัวเป็นเกจิกีต้าร์กับหลานอัศวินสองแควน่ะครับ เลยต้องมาลับมือซะหน่อย อิๆ
อืมมม มีแนวโน้มของกราฟว่า บล็อคหัวข้อนี้จะล้มเหลวด้านข้อมูล PPU FAQ
โดย:
อุปนิกขิต
วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:10:43 น.
เพราะมั่ก ๆ เลยปู่ ...
แหล่มเลย ๆ ฮ่า ๆๆๆ
โดย:
คุณนายขาวมณี
วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:11:41 น.
แหล่มจริงๆ ครับปู่ อย่างนี้งานมีตติ้งคราวหน้าต้องให้โซโล่รอบกองไฟซะแล้ว
โดย:
บุรุษพเนจร
วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:59:29 น.
ชักอยากอ่านเรื่องนี้ซะแล้ว
โดย:
หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท
วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:42:29 น.
ฟังไม่ได้อะปู่ นู๋ฟังไม่ได้ เลยไม่รู้เลยว่ามันแหล่มป่าว
โดย: ชบาแก้ว (
peta.W
) วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:43:05 น.
คิดถึงปู่จังเลย.. ไม่ได้แวะเวียนมาเยี่ยมปู่ตั้งหลายวัน ปู่สบายดีหรือเปล่าค่ะ
โดย: ทะเลดาว (
yongwa
) วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:21:51 น.
- ลองดูสิครับหลานหมูปิ้งฯ
- พยายามเข้าครับหลานชบา
- สบายดีครับ
โดย:
อุปนิกขิต
วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:24:13 น.
กรีดส์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พี่ นภ พรชำนิ...........อิ.....อิ
เพลงนี้ คุ้นๆๆ ที่ Blog หนึ่งน้องนางเดียว...นะคร๊าบ ปู่
ไหนว่า "ไม่รู้สึกอะไรเลย" ........
โดย:
nooaoh
วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:56:13 น.
มารอติดตามตอนต่อไป
ปู่อย่าลืมเอาเพลงนี้ไปเล่นรอบกองไฟด้วยนะคะ
โดย:
vivee_t
วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:27:55 น.
ปู่ฯครับ ผมไปงานมีทติ้งด้วยน้า.. อยากดูปู่เล่นรอบกองไฟครับ
ปล.ผมเปลี่ยนแบคกราวด์บล๊อกแว๊วนะครับ อิอิ
โดย: ฟาง (
gumbie_narak
) วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:54:28 น.
ฟังได้แล้วววววว กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
พี่นภ พรชำนิ อู๊ยไม่ใช่สิ ปู่อุป...ฮ่าๆ เสียงดีเหมือนกันเนี่ยปู่ เล่นกีต้าร์ก็เสียงพริ้วเลยยยยย
โดย: ชบาแก้ว (
peta.W
) วันที่: 13 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:45:57 น.
คนร้องหล่อค่ะ เสียงดีด้วย
((ขอหลังไมค์ 20 บ. นะคะ
))
โดย:
~* ดาวเดือนเคลื่อนคล้อย *~
วันที่: 13 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:29:57 น.
ไม่ได้เข้ามานานเลยว่างๆจะมาอ่านนะครับปู่
โดย: ปูน (
poonseemen
) วันที่: 13 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:07:38 น.
โดย: โอจิ (
Oji_yoyo
) วันที่: 13 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:42:24 น.
ปู่รู้สึกอบอุ่นในหัวใจมากครับ เพราะรู้ว่าจะมีคนนึงคือลูก เอ๊ย หลานดาวฯ ที่จะอยู่เคียงข้างปู่ ไม่ว่าปูจะโดนทับซ้ำถมเติม ยั่วเย้าเยาะถางถากด้วยรอยยิ้มเพียงใดก็ตาม
โดย:
อุปนิกขิต
วันที่: 13 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:58:46 น.
ตั้ง 40 กว่าเล่ม
เอิ๊ก.ก.ก.......จะเก็บไว้ไหนอ่ะค่ะ ^ ^
เพราะรู้ว่าอ่านแล้วต้องติดแน่ๆ
เลยยังไม่อ่านสักที
โดย:
หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท
วันที่: 14 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:00:15 น.
มาอ่าน ๆ ....
โดย:
คุณนายขาวมณี
วันที่: 14 พฤศจิกายน 2550 เวลา:3:12:46 น.
ปู่ขา...แวะมาหาความรู้ด้วยคนค่ะ...
ขอบคุณนะคะสำหรับการวิเคราะห์แนวทางที่ ๑) การวิเคราะห์รพินทร์ ไพรวัลย์
รออ่านแนวทางที่ ๒) ต่อนะคะปู่
ปล. หุ...หุ...แต่รู้สึกว่ามนต์สะกดจากเพลงของปู่จะทรงอิทธิพลมากกว่าเรื่องที่ปู่วิเคราะห์นะเนี่ย
โดย:
A-Ka-Ya
วันที่: 14 พฤศจิกายน 2550 เวลา:4:14:05 น.
กี๊สสสสสสส..เพลงเพราะจังค่า...
โดย: ฝน วนันฯ (
fon_wanan
) วันที่: 14 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:17:38 น.
เข้ามาฟังเพลง
โดย:
เป๋าตังค์เป๋าตุง
วันที่: 14 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:44:03 น.
ได้ความรู้อีกเยอะครับ
โดย:
kamahltew
วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:33:56 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
อุปนิกขิต
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [
?
]
อุปนิกขิต น. คนสอดแนม, จารบุรุษ
ผลงานนี้ ใช้
สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
New Comments
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add อุปนิกขิต's blog to your web]
Links
Bloggang.com
MY VIP Friend
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ไม่เครียด เพราะไม่ได้เปิดลำโพง