หลายท่านคงเคยได้ยินกลยุทธ์การลงทุนแบบ Algorithmic Trading หรือที่รู้จักกันดีในชื่อเรียกว่า Prop Trading หรือ Robot Trading ซึ่งเป็นการเทรดแบบอัตโนมัติ โดยกำหนดเกณฑ์การซื้อขายไว้ล่วงหน้า เกณฑ์การซื้อขายแบบ Prop Trading แบ่งได้เป็น 2 แนวทางใหญ่ๆ คือ
1. สร้างจากกลุ่ม Technical Indicators ในช่วงเวลาต่างๆกัน โดยนักลงทุนต้องตรวจจับสัญญาณซื้อขายทั้งกระดาน ดังนั้นต้องอาศัยคอมพิวเตอร์ที่มี Spec สูงมาก เรียกว่าวิธี Technical Based Approach
2. สร้างจากโมเดลทางคณิตศาสตร์มาคัดกรองหุ้นที่มีคุณสมบัติตามที่ต้องการ และสั่งซื้อขายตามสัญญาณทาง Technical Analysis วิธีนี้จึงต้องอาศัยความรู้ทางเทคนิคสูงพอสมควรในการคัดกรองหุ้น โดยตรวจจับสัญญาณของหุ้นที่คัดกรองไว้เพียงไม่กี่ตัว เรียกว่าวิธี Pair Trading Approach ซึ่งเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากในสถาบันการเงิน
เทคนิคยอดนิยม Pair Trading มีหลักแนวคิดว่าลักษณะการขึ้น-ลงของหุ้นเป็นแบบ Random Walk ทำให้การหาจุดสูงสุดและต่ำสุดในการเทรดยากมาก ดังนั้นจึงลองหาหุ้น 1 คู่ ที่เมื่อซื้อหุ้นตัวแรก(Long) และขายตัวสอง (Short) ในสัดส่วนที่เหมาะสมแล้ว (Hedge Ratio) ส่วนต่าง (Spread) จะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway (Mean Reversion) ที่ขึ้นลงในกรอบจำกัด ทำให้นักลงทุนที่ใช้เทคนิค Pair Trading ในการลงทุนไม่ต้องสนใจว่าหุ้นแต่ละตัวจะขึ้น-ลงทำจุดสูงสุดหรือต่ำสุดเมื่อใดเพราะ Spread จะวิ่งลงเมื่อขึ้นไปสูงและวิ่งขึ้นเมื่อลงมาต่ำถ้านักลงทุนสามารถหาคู่ของหุ้นที่มีSpread ในลักษณะนี้ได้ การเทรดโดยใช้เทคนิค RSI หรือ Bollinger Band น่าจะทำกำไรได้ดีและมีความเสี่ยงต่ำ โดยสูตรการหาค่า Spread มีดังนี้
ปกติการบริหารพอร์ตโดยใช้เทคนิคด้าน Quantitative จะใช้ผลตอบแทนของหุ้น (Return) ในการออกแบบกลยุทธ์ ทำให้ใช้งานได้ในระยะสั้นและต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนกันใหม่อยู่เสมอ แต่หากเป็นวิธี Pair Trading จะใช้ราคาของหุ้นออกแบบ ทำให้กลยุทธ์นี้ใช้ได้ยาวนานขึ้น ไม่ต้องปรับบ่อย จึงเป็นเทคนิคที่นิยมในสถาบันการเงิน เช่น Hedge Funds เป็นต้น ในบทความนี้ขอข้ามการอธิบายวิธีคัดกรองหุ้นแบบละเอียด ซึ่งเป็นเรื่องทางเทคนิคที่ยุ่งยากมากครับ แต่จะแสดงเฉพาะผลลัพธ์การใช้เทคนิค Pair Trading มาให้ชมครับ
สรุปขั้นตอนคร่าวๆ เริ่มจากใช้หุ้น 50 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม SET 50 และใช้เงื่อนไขทางสถิติเช็คว่าหุ้นคู่ใดมีการเคลื่อนไหวแบบ Sideway พบว่าได้หุ้นจำนวน 15 คู่ จากทั้งหมด 1,225 คู่ ที่สรุปรูปแบบว่าน่าจะเป็น Spread ที่ดี จากนั้นทำ Backtesting จากสัญญาณซื้อขายแบบ Bollinger Band ขั้นตอนและรูปภาพทั้งหมดนี้ทำในโมดูล Algorithmic Trading ใน BullWing Software สิ่งที่พบคือSpread ของ 15 คู่หุ้นที่คัดเลือกมาส่วนใหญ่เอาชนะตลาดได้ในช่วงเวลาเดียวกัน นับจากวันเริ่มต้นถึงวันสิ้นสุดการเทรด และหากคิดกำไรเป็นเปอร์เซนต์ ณ วันสุดท้ายของการเทรดเทียบกับราคาเฉลี่ยของ Spread จะได้ผลตอบแทนที่สูงมากในขณะที่ความเสี่ยงต่ำเพราะราคา Spread ต่ำกว่าราคาหุ้นมาก ยิ่งกว่านั้นการพิจารณา Spread เพียง 15 คู่ทำให้การทำ Prop Trade แบบ Real-Time มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นด้วย ตัวอย่าง Spread 2 คู่ ที่ได้จาก 2 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ KBANK-SCB และ ADVANC-INTUCH
Spread (1) = KBANK 1.2049* x SCB
Spread (2) = ADVANC 2.9379* x INTUCH
* Hedge Ratio อาจต่างจากระบบที่ท่านใช้เนื่องจากการตั้งค่าพารามิเตอร์ที่ต่างกัน
ขอจบบทความด้วยภาพของคู่ Spread ระหว่าง ADVANC-INTUCH ครับ