My Birthday
My Birthday
ต๋อมกะว่าจะทำ Looking Back ก่อนถึงวันเกิด...สุดท้ายก็ไม่มีเวลา
เพราะแค่อัพให้ทันกับกิจกรรมของครอบครัวเราแต่ละสัปดาห์ ก็หมดแรงแล้ว
จันทร์-พฤหัสไปเรียนโท เลิก 3 ทุ่ม...กว่าจะถึงบ้านก็ 4 ทุ่มกว่า
ก็หมดแรงทำอย่างอื่น (แม้แต่อ่านหนังสือ)...อย่างเก่งก็แค่ตามเม้นท์เพื่อนๆ
ยิ่งหน้าหนาว...ยิ่งขี้เกียจขยับตัวเลยค่ะ อยากนอนในผ้าห่มอุ่นๆ เร็วๆ
งั้นก็ทำมันตรงวันเกิดซะเลยนะคะ
ต๋อมหารูปเก่าๆ มาได้ไม่มาก เพราะรูปอยู่ที่บ้านคุณพ่อที่ลาดพร้าวซะเยอะ
ไปดูกันเลยค่ะ
อย่างที่เคยบอกว่า...รูปต๋อมตอนเด็กๆ มักจะมีแต่ action ร้องเพลง
เหมือนน้อง Winnie มั่งมั้ยคะ???
หน้าตาอินกับการร้องเพลงมากมาย...อิอิ
จำได้ว่าตอนเด็กๆ ชอบร้องเพลงของพี่ปุ๊ อัญชลี กับพี่ตู๋ นันธิดา สุดๆ
ถึงขนาดไปประกวดร้องเพลงตอน อ.2 ด้วยเพลง "1 เดียวคนนี้" กับ "บอกหน่อยได้ไหม"...ได้รางวัลมาแล้ว
ผมทรงนี้ของแม่ คล้ายๆ กับผมของน้อง Winnie ตอนนี้เลยเน้อะ
รูปนี้โดนคุณอาจับแต่งตัว...ตลกดี มีการใส่ตุ้มหูด้วย
ต๋อมเข้าโรงเรียนตั้งแต่ 1 ขวบ 4 เดือน
ไปเรียนเนอสเซอรี่ที่โรงเรียนอนุบาลกานดา
(ปัจจุบันคือ โรงเรียนกานดา ซ.ลาดพร้าว 78 ที่เค้าฮิตไปติวเข้า บ.ด. กันน่ะ)
แล้วก็มาเรียนต่อ อ.2 - ป.6 ที่โรงเรียนอุดมศึกษา (ลาดพร้าว)
ช่วงนี้ทำกิจกรรมตลอด ทั้งเชียร์ลีดเดอร์, รำไทย, ประกวดคัดลายมือ ฯลฯ
เพิ่งมาซาๆ ลงตอน ป.5 หลังจากเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ
คือรถตกลงไปที่คูตรงเกาะกลางถนน แถวหน้าร้านบัวศรีนครินทร์เลย
จำได้แม่นเลยว่าคือวันที่ 21 ก.ย.2534 ตอนเช้าเลย เพราะนั่งรถไปกับคุณพ่อ
แล้วตอนนั้น ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย
(นี่คือสาเหตุที่ต๋อมซีเรียสกับการนั่งคาร์ซีทของน้อง Winnie)
ตอนนั้นตัวต๋อมกระเด็นไปฟาดกระจกหน้ารถแตกทั้งบานเลย
ลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่า...หน้าต๋อมชนอยู่กับหน้าของพ่อ มือก็จับพวงมาลัยอยู่
แต่ส่วนลำตัวถึงปลายเท้าอยู่นอกรถ...ยังกะซุปเปอร์แมนเหอะอยู่เลย
กระจกที่ใช้มองหลัง (บานเล็กๆ) บาดที่หน้าต๋อม บริเวณหน้าผาก...ลึกจนเห็นกะโหลก
แล้วก็มีเศษกระจกเล็กๆ บาดตาขาวด้านขวาด้วย...ดีนะที่ไม่โดนตาดำ
ความรู้สึกตอนแรกของเด็ก 11 ขวบตอนนั้นคือ "เราจะสมองเสื่อมมั้ยเนี่ย?"
ทำให้ระหว่างที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพ...ต๋อมท่องสูตรคูณตลอดทางเลย 555
แล้วก็ถามพ่อตลอดว่า "ต๋อมท่องสูตรคูณถูกมั้ยพ่อ?" ...พ่อก็พยักหน้าตลอด
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ต๋อมมีแผลเป็นที่หน้า...แต่ถ้าแต่งหน้าดีๆ ก็ไม่ค่อยเห็นหรอกคะ
เพราะคุณหมอเย็บแบบศัลยกรรมคือละเอียดมาก เย็บ 2 ชั้นเกือบๆ ร้อยเข็ม
ตอนนั้นเป็นครั้งแรกเลย...ที่ได้เห็น "พ่อร้องไห้"
แต่ต๋อมก็ไม่เคยนึกโทษพ่อเลยแม้แต่นิดเดียว...จริงๆ
ม.ต้น ก็มาเรียนที่ บดินทรเดชา 2 ...อยู่ตรง ม.ปัฐวิกรณ์ ถ.นวมินทร์
จริงๆ ก็อยากเรียน บ.ด. นะ แต่สอบไม่ได้...เสียดายมากๆ
เพราะบ้านต๋อมอยู่ ซ.ลาดพร้าว 96 เดินไป บ.ด. ยังได้เลยอะ
แต่ก็ดีใจนะที่ได้มาเรียนที่นี่...เพราะเพื่อนแท้ เพื่อนตายที่ต๋อมรักที่สุดก็ได้จากที่นี่เอง
แถมช่วงนี้แหละที่ได้ไปสนิทกับครอบครัวของ "พี่ปู Black head"
เพราะบ้านพี่เค้าอยู่ใกล้โรงเรียน เลยได้แวะไปหาบ่อยๆ เลย
ม.ปลาย ก็ย้ายมาเรียนที่เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ
เพราะต้องย้ายบ้านมาอยู่กับคุณพ่อที่ ถ.เทพารักษ์ กม.18
ตอนมาสมัคร...อยากเรียนวิทย์-คณิต แต่อาจารย์ที่นั่นบอกว่าเกรดวิชาเลขตอน ม.3 ไม่ดี
ก็เลยจับต๋อมไปเรียน ศิลป์-ฝรั่งเศส ซะงั้น...งงไปเลย
แต่ก็ยอมเรียนนะ แต่ขอลงวิชาคณิต ก ไว้ด้วย...เพราะอยากลบคำดูถูกของครู
เลยทำให้ได้คะแนนวิชาคณิต ก สูงสุดในดับ ม.4 เลยนะนั่น...ตอนรับใบประกาศ สะใจสุดๆ
ม.ปลายเนี่ยเป็นช่วงเวลาที่มันส์สุดๆ แล้วก็เครียดสุดๆ
โดยเฉพาะช่วงสอบ Entrance
ต๋อมสอบเทียบด้วย ทำให้ได้เอ็นฯ แบบระบบเก่าตอน ม.5...แต่ไม่ติด
Fail สุดๆ ทั้งเสียใจ และกลัวพ่อผิดหวัง
ทำให้ช่วง ม.6 กลายเป็นพวกบ้าหนังสือ ว่างไม่ได้...เป็นหยิบหนังสือมาอ่านตลอด
แถม...ไม่เคยไปเรียนพิเศษที่ไหน เพราะบ้านไกล และไม่ค่อยมีเงิน
เลยเอาหนังสือจากญาติๆ ที่ส่งต่อมาให้ เป็นพวกข้อสอบเอ็นฯ ย้อนหลัง
ช่วง ม.6 มีสอบ Pre-Entrance เลยได้คะแนนรวมสูงสุดของโรงเรียน ในสายศิลป์ที่สอบคณิต ก
เพราะฉะนั้นสอบเก็บคะแนน Entrance ทั้ง 2 รอบ...ไม่น่าเป็นห่วง
ตอนนั้นอยากเรียนครุฯ มัธยมที่จุฬาฯ มากๆ
แต่แม่เลี้ยงไปดูดวงให้ หมอดูบอกว่าต๋อมจะสอบติดอันดับ 2
ไอ้เราก็ดันปัญญาอ่อน...เชื่อหมอดูซะงั้นเลยเอาครุฯ ไปไว้อันดับ 2
ผลออกมา...ติดอันดับ 1 ทั้งๆ ที่คิดว่าคะแนนสูงแบบนี้ไม่น่าจะติด
ตอนนั้นไม่รู้ดีใจ หรือเสียใจ...รู้แต่ว่างงมากๆ
มหาลัย...ก็กลายเป็น "สิงห์ดำ" อยู่โต๊ะ...ไม่โดนแดด
เพื่อนในกลุ่มมีผู้ชาย มากกว่าผู้หญิงซะอีก...ไม่ใช่พวกหรู/ไฮโซกันเลย
มีทั้งคนรวย...แต่ทำตัวติดดิน
มีทั้งคนที่เก่งที่สุดในรุ่น...แต่ช่วยเหลือเพื่อน ไม่หวงวิชาเลย
สุดยอดจริงๆ นะกลุ่มเราเนี่ย
อุ๊ ต๋อม แพร
รูปตอนไปออกค่ายวิชา Human Relation ที่สัตหีบ
วิชานี้แหละที่ต๋อมได้เจอกับพี่โดม...แล้วปิ๊งเค้าอย่างแรง 555
ต๋อมก็เรียนๆ โดดๆ เป็นพวกสมาธิสั้น ไม่สามารถนั่งเรียน 3 ชม. ได้อะ
พออาจารย์เบรค...ต๋อมก็แวบประจำ
โน่นนนน...ไปเดินสยาม 555
ที่สำคัญที่ลืมไม่ได้...ต๋อมได้รู้จัก "พระเจ้า" จากที่นี่แหละ
จนเรียนจบก็มาทำงาน...ทำที่นี่มา 4 ปีกว่าแล้ว
จะออกเมื่อไหร่น้อ?? อีกไม่นานคงได้คำตอบ
ทำงานได้ปีกว่าๆ ก็แต่งงานเมื่อ 17 ก.ค.2547
(อายุ 23 กว่าๆ เองนะนั่น)
แล้วก็มารู้ตัวว่าตั้งท้องวันที่ 5 พ.ค.2548
คลอดน้อง Winnie วันพุธที่ 4 ม.ค.2549
ชีวิตตอนนี้...สมบูรณ์ทุกอย่าง ได้ดั่งใจจริงๆ
แต่ปีหน้าจะดียิ่งกว่านี้...เพราะต๋อมกับพี่โดมจะรับน้อง Winnie มาอยู่ด้วยกัน
ความสุขในชีวิตคือ "การได้อยู่กับคนที่เรารัก"
เพราะฉะนั้น...ข้อความจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ลบทนี้สำคัญมาก
ในการอยู่ร่วมกันกับคนที่เรารัก
ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้
รักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง
ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว
ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด
แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ
ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น
และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ
และทนต่อทุกอย่าง
Create Date : 30 พฤศจิกายน 2550 |
|
15 comments |
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2550 11:55:25 น. |
Counter : 1771 Pageviews. |
|
|
|