นิทานธรรม: พระจักขุปาลเถระ
...พุทธภาษิตลิขิตประดิษฐ์ว่า ใจนำพาทุกสิ่งสมประสงค์ เพราะใจเป็นหัวหน้าอย่างอาจ-อง ใจเป็นนายกายคงเป็นทาสแล
....หากผู้ใดมีใจประทุษร้าย ก็มิวายได้ทุกข์ไร้สุขแน่ การกระทำนำจากใจโดยแท้ ทุกข์ย่อมแห่ตามติดดวงจิตไป
....พระดำริบทนี้มีที่มา พระบรมศาสดาพาขานไข เพื่อภิกษุทั้งหลายหายข้องใจ ว่าเหตุใดพระจักขุฯตาพิการ ฯ
...เรื่องราวนั้นได้กล่าวเอาไว้ว่า พระภิกษุเดินทางมาสู่สถาน เพื่อกราบบังคมนมัสการ พระอาจารย์ ณ วิหารพระเชตุวัน
....เมื่อได้กราบพระพุทธเจ้าแล้ว ก็เพริศแพร้วผ่องใสให้สุขสันต์ พระสาวกจึงได้พร้อมใจกัน ไปเยี่ยมท่านพระจักขุฯภิกษุนี้
....ครั้นไปถึงก็จวนจะพลบค่ำ ทั้งเมฆฝนมืดดำคล้ำแสงสี พระสาวกเห็นว่าท่าไม่ดี ชวนกันกลับทันทีพรุ่งนี้มา ฯ...
....ในคืนนั้นฝนตก-ลงอย่างหนัก แหละหยุดพักเอาตอนกลางดึกหนา ฝนขาดเม็ดก็ถึงซึ่งเวลา พระจักขุปาลเถราเดินจงกรม
.ยามฝนตกมีหมู่แมลงเม่า บินคลอเคล้าเล่นแสงแสนสุขสม แต่เมื่อปีกต้องสายฝนที่พ่นพรม ปีกเปียกปอนล่อนตามลมร่วงลงดิน
.พระจักขุปาลเถระพระรูปนี้ สองตามีแต่บอดสนิทสิ้น ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้มีมลทิน แต่ก็ใช่จะจงจินต์หรือยินดี
.เพราะความที่ท่านมีตาพิการ แมลงเม่าบนลานไม่คลานหนี ท่านจึงเหยียบย่ำไปบนชีวี แมลงเม่าเหล่านี้จึงตายไป ฯ
ครั้นรุ่งเช้าพระต่างวัดที่ผลัดว่า วันพรุ่งนี้สิกลับมาบูชาใหม่ ท่านก็ทวนหวนจริงอย่างอิงไว้ เมื่อมาถึงต้องเศร้าใจในเหตุการณ์
.จึงเอ่ยถามความพระ-ผู้น้อยว่า ใครกันหนามาเดินบนสถาน พร้อมย่ำเหยียบแมลงเม่าตายเกลื่อนลาน เหมือนเพชฌฆาตประหารผลาญชีวี
.พระลูกศิษย์แม้มิเห็นว่าเป็นใคร ก็เดาได้พระครูบามาที่นี่ เดินจงกรมเป็นกิจท่านนานนับปี เช้ามืดนี้ท่านก็คงจะลงมา
.พระสาวกทราบความที่ถามนั้น พร้อมใจกันมั่นคงตรงที่ว่า ต้องนำเรื่องนี้กราบพระศาสดา จึงนำพากันดำเนินเดินทางไป ฯ
พระองค์ทรงพระดำรัสตรัสถามว่า เธอเห็นเขากำลังฆ่าแมลงไหม พระสาวกจึงหมอบตอบเร็วไว ข้าพเจ้าไม่ได้เห็นเช่นตาตน
.พระจักขุฯก็ไม่เห็นเช่นพวกเธอ การนั้นใช่พลั้งเผลอไร้เหตุผล อีกมิใช่จงใจให้วายชนม์ ความนี้พ้นผลกรรมจะนำพา
.พระภิกษุรูปหนึ่งจึงกราบทูล ถามถึงมูลเหตุใดกระไรหนา ที่ทำให้พระจักขุฯพิการตา พระกรุณาว่ากรรมเคยทำไว้ ฯ
พระพุทธองค์ทรงโปรดเล่าเหตุการณ์ ครั้งหนึ่งนานแล้วหนอมีหมอใหญ่ รับรักษาโรคชนคนทั่วไป วันหนึ่งได้พบนางป่วยทางตา
หมอจึงถามแม่นางมองเห็นไหม นางตอบไปไม่เห็นแล้วเจ้าข้า หากหมอทำให้เห็นเช่นธรรมดา เรื่องราคาแม่นางทำอย่างไร
ตลอดกาลจะช่วยงานบ้านคุณหมอ จะเพียงพอแก่ค่ารักษาไหม หมอฟังแล้วรู้สึกพึงพอใจ จึงหยอดยาใส่ในสองตานาง ฯ
ไม่นานนักหญิงนั้นพลันประสบ ตาเริ่มพบแสงใสไสวสว่าง หล่อนเริ่มมีใจคด-คิด-ปด-วาง เพราะกลัวว่าค่าจ้างจะไม่มี
คิดดังนั้นวันหนึ่งซึ่งหมอถาม หล่อนตอบความเลี่ยงไปในวิถี ว่าเมื่อก่อนยังแลเห็นเลือนลางดี แต่บัดนี้ตาของฉันนั้นมืดมน
เมื่อหมอเลิกตาดูก็รู้แน่ ว่าที่แท้นางเลี่ยงจะเบี่ยงผล หมอบอกนางไปว่าอย่ากังวล ลองอีกหนยาตัวใหม่อาจหายดี ฯ
ครั้นถึงบ้านหมอปรุงยาพิเศษ ด้วยกิเลสเหตุเนื่องเคืองโฉมศรี เพื่อล้างแค้นแม่นางปดพจนี ยาพิษนี้ตาจะบอดตลอดกาล
แหละทุกอย่างก็เป็นไปดั่งหมอคิด สองตานางกลับมืดมิดสนิทสถาน นางไม่ซื่อจึงรับทุกข์ทรมาน กรรมบันดาลหมอเกิดมาตามืดมน
หมอคือพระจักขุฯในชาตินี้ บาปกรรมที่ทำไว้มิไร้ผล ไม่มีใครเลี่ยงได้ในกรรมตน ที่คอยวนเวียนติดดวงจิตไป
เพราะเมื่อกายตายลงจิตคงที่ มิหลบลี้หนีหายดังกายไซร้ กรรมตามจิตชิดข้างมิห่างไกล ยามเกิดใหม่ผลแห่งกรรมก็นำทาง
หลังจากนั้นพระองค์ทรงตรัสว่า ใจนั้นหนาเป็นใหญ่ไร้สิ่งขวาง หมั่นทำดีคิดดี..สิ่งชั่ววาง ลงมือสร้างเสริมประตูสู่นิพพาน ๚ะ๛
...จบบริบูรณ์...
Create Date : 21 สิงหาคม 2550 |
|
5 comments |
Last Update : 8 กันยายน 2550 9:51:39 น. |
Counter : 1023 Pageviews. |
|
|
|
เอาเรื่องอื่นมาลงอีกนะคะ
จะตามมาอ่านอีกค่ะ