Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
มุมสุขภาพ
มุมรื่นรมย์
มุมความรู้
<<
กันยายน 2550
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
5 กันยายน 2550
อัตตโนประวัติหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน
All Blogs
30 คำคมจากธรรมะโมบาย โดย ว.วชิรเมธี
เพราะชีวิต..นับหนึ่งได้เสมอ
คำถาม 3 ข้อ
นิทานธรรม โดย ท่าน ว.วชิรเมธี
สุขสันต์วันสงกรานต์
อย่ากลัวที่จะก้าวไปข้างหน้า
พระผู้พ้นทุกข์ รู้ตื่น และเบิกบาน
บรมโชค
Merry Christmas and Happy New Year
เมื่อชีวิตพบทางตัน........
จงหยุด..(คิด)..สักนิด..
ขืนทำ.....จะช้ำใจ
ความรู้.......ที่ท่านอาจจะยังไม่รู้
เพื่อความสวัสดีแห่งชีวิต
มีไปทำไม?.....โดยท่าน ว.วชิรเมธี
จะดีกว่าไหม?.....โดยท่าน ว.วชิรเมธี
01 มงคลที่ 1,2.mp3...ท่านมหาสมปอง มุทิโต
น่าเสียดาย
ทำดีเพื่อแม่
วิธีอยู่กับคนที่เราเกลียด <โดย ว.วชิรเมธี>
คาถาบูชา พระแก้วมรกต
อานิสงส์ของการสวดมนต์
การทำลายชีวิตถือว่าเป็นบาป
ชาวพุทธควรมีศรัทธา 4 อย่าง
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
แค่อิฐ 2 ก้อน
บทกรวดน้ำ (ฉบับเต็ม) โดยแม่ชีทศพร บุญเทวาพิทักษ์
สิ่งที่ทำให้มีโชคดี ( มงคล 38 ) รับปีใหม่
ส่งการบ้านคุณ หน่อยอิง (khumlungjai)...tag ทำดีเพื่อพ่อ
ธรรมะปีใหม่
MeRRy ChRIsTMaS and Happy New Year 2008 To YoU
ดอกไม้แห่งธรรม
คือจิต
ยามเช้า...ในหน้าหนาว
เชิญเที่ยวงานลอยกระทงฯ จังหวัดสุโขทัย
ธรรมธาตุ
ธรรมะจากดวงจันทร์
วิธีทำบุญ 30 วิธีเพื่อสุขภาพใจและสุขภาพสังคม
คุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ
นิทานอีสป เรื่อง "มดน้อยจอมขยัน"
นิยายอิงธรรมะจากบทละครวิทยุ เรื่อง "พระมหาชนก"
พระปราบยักษ์
พระไม่เคยถูกด่า
นิทานธรรมะเรื่องเจ้าของเรือ
ศิลปะของการดับทุกข์ ตอนที่2 หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ
ศิลปะของการดับทุกข์ ตอนที่1 หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ
สังคหวัตถุธรรม
นิทานธรรม เรื่องพญาช้างสีลวะ
พระคาถาแผ่เมตตาไปทั่ว 3 โลก
ทานที่มีผลมาก
มงกุฏเพชรและหมวกฟาง
ถ่านไฟเก่า
ชะตากรรม
พึงละความโกรธ
กุศลธรรม อกุศลธรรม อพยากตธรรม
ความสุขของชีวิตประจำวัน
มงคลชีวิต
ธรรมนิยายแสงเทียน : ตอนที่ ๕ สวนดอกไม้
ธรรมนิยายแสงเทียน : ตอนที่ ๔ ปิยวิปโยค
รักตัวเอง
เพลิงแห่งโลก
ทางแห่งความดี เรื่อง พุทธจริยา
ธรรมนิยาย : แสงเทียนตอนที่๓ ร่มธรรม
ธรรมนิยาย: แสงเทียนตอนที่ ๒ บทเรียนจากชีวิต
ธรรมนิยาย: แสงเทียนตอนที่ ๑ รอยจารึกจากดวงใจ
พุทธวิธีคลายโศก
อรรถกถาทานสูตร
เสียงธรรมะ...คำถาม-คำตอบแนวการปฏิบัติธรรม...หลวงพ่อชา
เสียงธรรมะ....กบเฒ่านั่งเฝ้ากอบัว (หลวงพ่อชา)
เสียงธรรมะ....ทางสายกลาง (หลวงพ่อชา)
เสียงธรรมะ....การทำจิตให้สงบ (หลวงพ่อชา)
เสียงธรรมะ...นอกเหตุเหนือผล(หลวงพ่อชา)
ธรรมะกับธรรมชาติ (หลวงพ่อชา)
เสียงธรรมะ....อยู่กับงูเห่า (หลวงพ่อชา)
ได้ดีเพราะถูกด่า
โภคะของสัตบุรุษย่อมพาสู่แดนสวรรค์
กำไรจากการถือพุทธศาสนา
อัตตโนประวัติหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน
คนดีผีคุ้ม
" ธรรมะสอนใจ "
พระผู้พ้นทุกข์ รู้ตื่น และเบิกบาน
ความสุข
ศีล สมาธิ ปัญญา อริยะสัจสี่
นิทานธรรม: พระจักขุปาลเถระ
พระวินัยปิฎก เล่ม 1
ข้อคิดธรรม
บทสวดมนต์
สมาธิภาวนาจิต
มาสร้างบุญบารมีกันเถอะ
อัตตโนประวัติหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน
หลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หรือ ท่านเจ้าคุณ พระราชญาณวิสุทธิโสภณ พระอริยะเจ้า ท่านถือกำเนิดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2456 บิดาชื่อ ทองดี มารดาชื่อ แพง นามสกุล โลหิตดี อาชีพชาวนา บ้านตาด ต. บ้านตาด อ. เมือง จ. อุดรธานี บิดา มารดา ได้ให้มงคลนามว่า บัว ท่านมีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 16 คน และท่านเพียงผู้เดียวที่ดำรงตนอยู่ในสมณเพศ ที่เพรียบพร้อมด้วยศีลาจารวัตรอันงดงาม ทรงไว้ซึ่งคุณธรรมอันประเสริฐ
เมื่ออายุครบ 20 ปี ท่านได้ตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร อุปสมบทที่วัดโยธานิมิตร บ้านหนองขอนกว้าง อ. เมือง จ. อุดรธานี เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2477 โดยมี ท่านเจ้าคุณ พระธรรมเจดีย์ ( จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌายะ และท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ( พิมพ์ ธัมมธโร ) แห่งวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กทม . เป็นพระอาจารย์สอนทางปริยัติ จนสามารถสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค ก่อนที่จะออกธุดงค์ ปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานกับ หลวงปู่มั่น ภูริทัตตมหาเถร พระอรหันตเจ้าในยุคกึ่งพุทธกาล
ท่านเล่าให้ฟังว่า ที่ท่านได้มงคลนามจากบิดา มารดา ว่า บัว นั้น ถือว่าเป็นสิ่งประเสริฐยิ่งเพราะ บัว นั้นคือดอกไม้ที่ หลวงปู่มั่น ภูริทัตตมหาเถร ปรมาจารย์ฝ่ายกัมมัฏฐานได้พรรณนาคุณชาติไว้ว่า ธรรมชาติของดีทั้งหลาย ย่อมเกิดมาจากของไม่ดี อุปมาดั่งดอกปทุมชาติอันสวย ๆ งาม ๆ ที่เกิดขึ้นมาจากโคลนตมอันเป็นของสกปรกปฏิกูลน่าเกลียด แต่ว่าดอกบัวนั้นเมื่อพ้นโคลนตมแล้วย่อมเป็นสิ่งสะอาด เป็นที่ทัดทรงของพระราชา อำมาตย์ อุปราช และเสนาบดี เป็นต้น และดอกบัวนั้นก็มิได้กลับคืนไปยังโคลนตมนั้นอีกเลย
ก่อนออกบวช ท่านเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว บิดา มารดา ไว้เนื้อเชื่อใจในทางการงานทั้งปวงจนฝากผีฝากไข้ ฝากเป็น ฝากตายไว้กับท่าน หลักประเพณีไทยแต่โบราณมา เมื่อลูกชายอายุครบบวชมักจะให้บวชก่อนมีเหย้ามีเรือนต่อไป ดังนั้นเมื่อท่านอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์แล้ว บิดา มารดาก็ได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษาปรารภกับท่าน โดยท่านเล่าว่า
เราไม่เคยคาดฝันในการออกบวชมาก่อน เย็นวันหนึ่งครอบครัวเรามีพ่อ แม่ และลูกชายหญิงหลายคนกำลังรับประทานอาหารกันอยู่อย่างเงียบ ๆ พ่อได้พูดขึ้นมากลางพาข้าวว่า มีความวิตกกังวลในเวลาจะตาย เพราะไม่มีลูกคนใดที่เป็นผู้ชายคิดบวชให้พอเราได้เห็นผ้าเหลืองก่อนตาย ได้คลายความกังวลใจในเวลานั้น แล้วตายไปอย่างเป็นสุขหายห่วง
พ่อพูดต่อไปว่า ลูกเหล่านั้นก็ไม่ว่ามันแหละ หมายถึงลูกผู้ชาย ส่วนลูกผู้หญิงกูไม่เกี่ยวข้องมัน ลูกผู้ชายกูมีหลายคน แต่นอกนั้นกูก็ไม่สนใจอะไรพอจะอาศัยมันได้ แต่ไอ้บัว ( หมายถึง หลวงตาบัว ) นี่ซิที่กูอาศัยมันได้นะ ปกติพ่อไม่เคยชมเรานะ อะไร ๆ ก็ไม่เคยชมมีแต่กดลงเรื่อย ๆ นิสัยพ่อ แม่เราเป็นอย่างนั้น ไอ้นี่ลงมันทำการทำงานอะไรแล้วกูไว้ใจมันทุกอย่าง กูทำยังสู้มันไม่ได้ ลูกคนนี้กูไว้ใจที่สุด พ่อชมเราให้เราแปลกใจ แล้วพ่อเราก็ว่าต่อไปอีก
แต่ที่สำคัญตอนกูขอให้มันบวชทีไร มันไม่เคยตอบ ไม่เคยพูด เหมือนไม่มีหูไม่มีปากนั่นเอง บทเวลากูตายแล้วจะไม่มีใครลากกูขึ้นจากหม้อนรกเลยแม้แต่คนเดียว เลี้ยงลูกไว้หลายคนเท่าไหร่ กูพอจะอาศัยมันก็ไม่ได้เรื่อง ถ้ากูอาศัยไอ้บัวไม่ได้แล้ว กูก็หมดหวังเพราะลูกชายหลายคนกูไว้ใจไอ่นี้เท่านั้น
พอพ่อพูดถึงตรงนี้ เรามองไปเห็น พ่อน้ำตาร่วงปุบปับ ๆ แม่เห็นพ่อน้ำตาร่วง แม่ก็น้ำตาร่วงอีกคน เราเห็นอย่างนั้นก็สะเทือนจิตใจ ทนดูอยู่ไม่ได้ต้องลุกออกจากพาข้าวหนีไปเลย นั่นแหละเป็นต้นเหตุให้เราตัดสินใจบวช โดยนำไปคิดไตร่ตรองอยู่ 3 วัน ไม่ยอมมากินข้าวร่วมกับพ่อ แม่ พี่น้อง และคิดว่า การบวชไม่ใช่ติดคุกติดตะราง เพื่อนฝูงเขาบวชก็ยังบวชได้ เขาเป็นคนเหมือนกัน ทำให้พ่อ แม่น้ำตาร่วงเพราะเรา เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง จึงตัดสินใจบวชปุ๊บ ต้องบวชได้ ตายเป็นตาย
เมื่อพิจารณาเป็นที่ลงใจแล้ว จึงได้มาบอกกับแม่เราว่า เรื่องการบวชจะบวชให้ แต่ใครจะมาบังคับให้สึกไม่ได้นะ บวชแล้วจะสึกเมื่อไหร่ก็สึก ใครจะมาบังคับว่า ต้องเท่านั้นปี เท่านั้นเดือนไม่ได้นะ มันหาทางออกไว้แล้วนั่น ดูซิทิฐิมานะของมันน่ะ แต่แม่กลับฉลาดกว่าลูกนี่ โถ แม่ไม่ว่าหรอก ขอให้ลูกไปบวชให้แม่เห็นต่อหน้าต่อตาแม่ทีเถอะ แล้วสึกออกมาทั้ง ๆ ที่คนบวชยังไม่กลับบ้านก็ตาม แม่ก็ไม่ว่า แม่ใส่เราเข้าไปอย่างนี้เลย ก็ใครจะเป็นพระหน้าด้านมาสึกต่อหน้าคนมาก ๆ ที่ไปบวชเราได้ ไม่บวชเสียดีกว่า เมื่อบวชแล้วมาสึกต่อหน้าต่อตาคน มันยิ่งขายหน้ากว่าอะไรเสียอีก นั่นเมื่อติดปัญหาแม่ก็เลยไปบวช
สมัยก่อนบ้านตาด แห่งนี้เป็นป่าดงดิบมีทั้งต้นยาง ตะเคียนทอง ประดู่ และต้นไม้อื่น ๆ หลากหลายพันธุ์ มากทั้งปริมาณและขนาด สัตว์ป่ามีชุกชุม ไม่ว่าเป็นเป็น หมูป่า เสือ ช้าง กวาง เป็นต้น การทำนาถือเป็นอาชีพหลักของครอบครัว และเมื่อยามว่างจากนา โยมพ่อก็จะออกล่าสัตว์เป็นประจำ ธรรมดานายพรานย่อมชำนาญในการแกะรอยสัตว์ การแกะรอยสัตว์ของโยมพ่อในสมัยนั้นขึ้นชื่อลือชามาก รวมทั้งแกะรอยคนด้วยนิสัยท่านเป็นคนช่างสังเกตพินิจพิจารณา ได้ถูกถ่ายทอดมาให้ หลวงตาบัว ไม่มากก็น้อย
สิ่งแวดล้อมของบ้านตาด เป็นสิ่งหล่อหลอมให้ หลวงตาบัว ท่านอยู่ด้วยความไม่ประมาท จิตใจ เด็ดเดี่ยว อาจหาญ อดทนเป็นเลิศ ซึ่งโยมมารดาท่านเล่าให้ฟังบรรดาศิษยานุศิษย์ของท่านฟังเสมอว่า ตอนอยู่ในครรภ์โยมแม่ท่าน ธรรมดาทารกในครรภ์จะต้องดิ้นบ้างไม่มากก็น้อย แต่สำหรับ หลวงตาบัว แล้ว ท่านกลับนอนนิ่งเฉยคล้ายไม่มีลมหายใจ นานนับเดือนจึงขยับตัวทีหนึ่ง ทำให้โยมแม่คลางแคลงใจว่า ตายแล้วอยู่เรื่อย ๆ ก็โล่งไปทีหนึ่ง โยมแม่กับโยมพ่อได้ทำนาย ทารกในครรภ์ว่า เวลาเติบใหญ่ขึ้น ถ้าไปทางดีจะดีสุดโต่ง ถ้าไปในทางไม่ดีก็จะสุดโต่งเช่นกัน
เดชะกรรมในอดีตที่เคยสั่งสมมาหนักไปในทางดี จึงดึงดูดให้ท่านยินดีในการประพฤติปฏิบัติธรรม มากกว่าการครองฆราวาสวิสัย สมกับที่ท่านเคยเทศน์อบรมว่า คนที่ทำความชั่ว ไม่ได้ทำมันอยู่ไม่ได้ต้องให้ได้ทำในวันหนึ่ง ๆ นิสัยมันเป็นอย่างนั้น มีแต่สั่งสมความชั่วเข้าสู่ใจแล้วก็จมลง ๆ ช่วยกันดันลง ๆ นี่ละ ความชั่วก็มีอำนาจเป็นเครื่องดึงดูด เมื่อมากเข้าก็ยิ่งดึงเจ้าของให้จมลง ๆ หาเวลาฟื้นไม่ได้ ดังนี้
ตรงข้ามกับความดีมีมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดึงเจ้าของขึ้นโดยลำดับ คิดดูแล้วให้อยู่กับอะไร ๆ อยู่ไม่ได้ ไม่มีอะไรเจริญหูเจริญตาเลย มีแต่ให้ออกหาที่วิเวก สลัดจากความยุ่งเหยิง วุ่นวาย ถ่ายเดียวเท่านั้น นั่น ฟังซิทางนี้ไม่วุ่นวาย ทางนี้พอเสาะแสวงหา แต่ทางนั้นเกลื่อนกล่นวุ่นวายไม่สะดวกสบาย นั่น ดึงดูดออกแล้วเวลาฟังธรรมก็เพราะพร้อมแล้ว ๆ นี่ประเภทบัวพ้นน้ำแล้ว พอฟังแล้วก็ดีดผึง ๆ เรื่อยไปเลย
Create Date : 05 กันยายน 2550
Last Update : 8 กันยายน 2550 11:20:07 น.
5 comments
Counter : 1627 Pageviews.
Share
Tweet
สาธุ ... ขอบคุณค่ะ
มีแต่ความสุขนะคะ ...
โดย:
ทิวาจรดราตรี
วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:19:54:24 น.
ตรงข้ามกับความดีมีมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดึงเจ้าของขึ้นโดยลำดับ คิดดูแล้วให้อยู่กับอะไร ๆ อยู่ไม่ได้ ไม่มีอะไรเจริญหูเจริญตาเลย มีแต่ให้ออกหาที่วิเวก สลัดจากความยุ่งเหยิง วุ่นวาย ถ่ายเดียวเท่านั้น
สาธุค่ะ ชอบประโยคนี้มากค่ะ
โดย:
เนระพูสี
วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:5:15:13 น.
แวะมาอ่านผ่านมาทักทายจ้า
โดย:
gripenator
วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:12:09:23 น.
....เข้ามาอนุโมทนาครับ..ปฏิปทาของท่านผู้เป็นครูบาอาจารย์น่าเลื่อมในควรศึกษาเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับตนครับ.........ธรรมสวัสดี...
โดย: ปุญญพัฒน์ (
ใจบุญ
) วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:14:04:12 น.
ชอบค่ะ นับถือท่านมากมาย
โดย: หนุ่ย IP: 118.173.107.99 วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:19:40:15 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ธิธารา
Location :
สุโขทัย Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [
?
]
Friends' blogs
โอน่าจอมซ่าส์
หน่อยอิง
เหมือนดอกไม้
ทิวาจรดราตรี
เนระพูสี
แบ่งฝัน....ปันรัก
ข้ามขอบฟ้า
mars11
wayoflife
yoja
ร่มไม้เย็น
กิ่งไม้ไทย
แม่น้องแปงแปง
nootikky
Webmaster - BlogGang
[Add ธิธารา's blog to your web]
Links
คุณกบ
ตะวันลับ
คุณแมว
คุณไอที
คุณวิ
คุณกาย
facebook.
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
สาธุ ... ขอบคุณค่ะ
มีแต่ความสุขนะคะ ...