Bloggang.com : weblog for you and your gang
จิตดวงเดียว ท่องเที่ยวไป
Group Blog
จิตดวงเีดียวรำลึก
จิตดวงเดียว พาเที่ยวไทย
กันยายน 2551
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
15 กันยายน 2551
ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ตอน อภิญญามีจริงหรือ..?(๒.)
ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ตอน อภิญญามีจริงหรือ..?(๑.)
All Blogs
ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ตอน แชมป์ยูโร ๒๐๐๘
ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ตอน ทายผลฟุตบอลโลก
ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ตอน อานุภาพยันต์เกราะเพชร
ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ตอน ยืนฉี่อย่างไรไม่ให้เป็นอาบัติ
ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ตอน เห็นถึงในส้วม
ทิดเต๋าเผาำพระอาจารย์ ตอน แผนทุบหม้อข้าวตีเข้าเมืองจันทน์
ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ตอน สะเดาะกุญแจ
ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ตอน งานเข้าอย่างแรง
ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ตอน เรื่องของมึง
ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ตอน เสือครับ..เสือ..!
ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ตอน สุขกลางป่า ณ บึงลับแล
ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ตอน อภิญญามีจริงหรือ..?(๒.)
ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ตอน อภิญญามีจริงหรือ..?(๑.)
ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ตอน ขอยืมตัว"ด่า"หน่อย
ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ตอน ปฐมบทคำสอน
ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ความเป็นมา ๒
ความเป็นมาของ"ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์"
ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ตอน อภิญญามีจริงหรือ..?(๒.)
ผมเองก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากไปกว่าทุกท่านหรอกครับ ที่ทนได้เพียงแต่อาศัยลูกด้านเข้าไว้เท่านั้นเอง ไหน ๆ หลวงพ่อบอกให้เป็นลูกหมาแล้ว หลวงพี่ยังยืมตัวมาเป็นวัวเพื่อใช้ตีกระทบคราดอีก บางทีก็มีการเปรียบเทียบให้อีกว่าโตเป็นควายแล้ว ไหน ๆ ก็เป็นทั้ง หมา ทั้งวัว ทั้งควายในหนึ่งเดียวแล้ว ขอยืมเอาความทนมาใช้หน่อยก็แล้วกันนะครับ
ที่ใช้คำว่ายืม เพราะตัวผมเองก็ไม่ใช่ทนได้ตลอดหรอกครับ บางทีเล่นเอากำลังใจตกวูบอยู่เหมือนกัน แต่พระอาจารย์ท่านก็มีลีลามาสั่งสอนลูกศิษย์ ที่จิตกำลังตกอยู่แบบชะงัดนักแล แล้วจะสาธยายให้อ่านกันต่อไปนะครับ
เอาน่า..พระอาจารย์ท่านด่าก็คิดว่าเป็นพรอันประเสริฐแล้วกัน ท่านเคยบอกว่า ไม่มีครูบาอาจารย์คนไหนหรอก ที่จะมานั่งเมื่อยปากสั่งสอนลูกศิษย์ให้มันตกนรก ที่ตกนรกก็เพราะตัวมันเองไม่ใช้ปัญญามองให้เห็นธรรมะ แล้วท่านยังบอกว่า
นี่ผมแค่นี้เองนะ..ถ้าได้อยู่กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อละก็ อย่างคุณผมรับรองเลย ไม่เกิน ๒๔ ช.ม.เปิดแน่..! โหย..แค่นึกก็เสียวแล้วละครับ..
หลังจากพักเหนื่อยอยู่นาน ต้องขออภัยด้วยครับ ทางมันชันจริง ๆ เมื่อได้รับการถ่ายทอดวิชาตัวเบาจากท่านอาจารย์แล้ว ก็เดินทางต่อโดยควบกับการภาวนาคาถา เดินตามท่านไปเรื่อย ๆ
จำได้ว่าไม่ถึง ๑๕ นาที หลวงพี่ก็บอกว่า ถึงแล้ว.. ผมก็.. อ้าว..ถึงแล้วหรือครับ..? พลางคิดในใจว่า สงสัยจากจุดเมื่อกี้มาถึงนี่คงจะใกล้แล้ว ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก รอคณะที่เดินตามมา
แต่ปรากฏว่าหลวงพี่และผมมาถึงก่อนคนอื่นเป็นชั่วโมง คือในป่านะครับ ห่างกันเป็นชั่วโมงนี่ อาจจะหมายถึงระยะทางที่ห่างกันเป็นกิโลเมตร หรือข้ามเขากันเป็นลูก ๆ เลยครับ
ก็นั่งรอกัน พอคณะตามมาถึง สิ่งแรกที่เห็นคือ ทุกท่านทิ้งสัมภาระ นั่งลง แล้วก็มีเสียง แฮ่ก ๆ ๆ โอย..! ตามมา แล้วก็ถามว่า มาถึงกันนานหรือยัง..? ผมก็บอกไปว่า ประมาณชั่วโมงหนึ่ง..
ทุกคนนิ่งอึ้ง แต่ก็ไม่ได้แสดงความตื่นเต้นอะไร เพราะต่างก็ทราบถึงความไวในการเดินทางของหลวงพี่ท่านเป็นอย่างดี แต่หลวงพี่ปรีชาเดินไปถามหลวงพี่ว่า อาจารย์ครับ..เณรใหม่เป็นอย่างไรบ้าง..?
หลวงพี่ท่านก็บอกว่า เออ..มันเดินแทบจะเหยียบรองเท้าผมเลย..! ท่านก็หันมายิ้ม ๆ แล้วก็บอกว่าใช้ได้ ๆ ผมเลยถามหลวงพี่ปรีชาไปว่า หลวงพี่..ทำไมดูเหนื่อยกันจัง.. ท่านก็ตอบมาว่า จะไม่ให้เหนื่อยอย่างไรได้..จ้ำกันมาไม่ได้หยุดเลย กลัวจะมืดซะก่อน..!
ผมก็คิดว่า โห..นี่ท่านรีบแล้วนะ..ยังห่างกันเป็นชั่วโมง ถ้าเราไม่เดินเกาะหลวงพี่ไว้ สงสัยคงจะมีเป็นวัน ๆ.. แหะ ๆ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เกาะชายสังฆาฏิครูบาอาจารย์ไว้ อย่างไรก็ไม่หลงทางแน่นอน ดีไม่ดีได้ย่นระยะในการเดินทางให้ถึงจุดหมายอีกต่างหาก สบาย.. แหะ ๆ (บารมีครูบาอาจารย์จริง ๆ ครับ)
ส่วนในเรื่องของระยะทางนั้น ต่อมาผมได้มีโอกาสไปที่บึงอีกหลายครั้งด้วยกัน ลองจับเวลาในการไปกันเอง ปรากฏว่าที่เคยมากับหลวงพี่โดยใช้เวลา ๑๕ นาที ผมเดินกันเองจากจุดเดียวกัน ใช้เวลาไปประมาณ ๑ ช.ม.ครับ แหะ ๆ.. (แฮ่ก ๆ..)
เมื่อทุกคนจัดแจงข้าวของ และสถานที่พักกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภารกิจที่ได้รับมอบหมายต่อไปก็คือ เณร ก่อไฟซิ..
ไอ้เราก็แหม..สบาย เดี๋ยวใช้อภิญญาให้ดูเลย ว่าแล้วก็หยิบไม้ขีด ไฟแช็ก เทียนไข มากองไว้ข้างตัว เผื่ออันไหนพลาดก็หยิบใช้อีกอันได้ทันที..!
แต่ปรากฏว่าไอ้ฟืนเจ้ากรรมมันดันไม่ติดซะอย่างนั้น.. จุดเท่าไหร่ก็ไม่ติด ทั้งไม้ขีดก็แล้ว ไฟแช็กก็แล้ว เทียนไขก็แล้ว ก่อไฟไม่ได้ซักที ร้อนถึงหลวงพี่ต้องมาดู...
เณร..ทำอะไรน่ะ..?
ก่อไฟครับ.. จุดอย่างไรก็ไม่ติดซักกะที..
หลวงพี่บอกว่า ใครเขาก่ออย่างนั้น นี่เขาก่อกันแบบนี้ ว่าแล้วก็หยิบกระดาษมาแผ่นหนึ่ง พัดไปสองทีปรากฏว่าไฟลุกพรึ่บ..! ผมนี้อึ้งไปเลย..!
หลวงพี่หันมายิ้มแล้วพูดว่า บางทีถ้ามันจำเป็นต้องใช้ เราก็ใช้มันบ้างนะ.. แล้วท่านก็พูดต่อไปว่า
อภิญญานั้น..ท่านให้ใช้เวลาที่จำเป็นจริงๆ ถ้าคุณจะก่อไฟ มีไฟแช็กก็ต้องใช้ไฟแช็ก มีไม้ขีดก็ต้องใช้ไม้ขีด มีเทียนไขก็ต้องใช้เทียนไข ถ้าไม่มีอะไรเลยต่อให้ต้องเอาไม้มาสีกันเพื่อให้เกิดไฟ ถ้าทำได้ก็ต้องทำ..นี่ผมเห็นคุณก่อตั้งนานแล้ว ยังทำไม่ได้ซักที ก็เลยมาทำให้ดู ว่าแล้วก็กระซิบข้างหูผมเบาๆ ว่า
คุณอย่าเอาไปบอกใครนะ..!
นี่ผมไม่ได้บอกใครนะครับ..ผมแค่พิมพ์ไว้เตือนความทรงจำตัวเองเท่านั้นครับ..!
เรื่องยังมีอีกยาวครับ ทีนี้พี่น้องคงจะทราบแล้วนะครับว่า เรื่องอภิญญาสมาบัตินั้น ถ้าไม่จำเป็นถึงขั้นจริง ๆ ท่านไม่ใช้กัน หวังว่าพี่น้องทุกคนคงจะเข้าใจในปฏิปทาของครูบาอาจารย์มากยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะครับ
๑ ตุลาคม ๒๕๔๒ (วัดป่าวินเส่ง เมืองมุด่ง รัฐมอญ ประเทศพม่า)
Create Date : 15 กันยายน 2551
Last Update : 25 กรกฎาคม 2552 14:03:11 น.
1 comments
Counter : 774 Pageviews.
Share
Tweet
ตามมาอ่านต่อครับ
ช่วยเว้นบรรทัดได้มั้ยครับ อ่านแล้วตาลาย
โดย: โก้ (
เซโก้4
) วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:22:58:01 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
tidtou
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
จิตดวงเดียว
Friends' blogs
MOTOAKANOE
Webmaster - BlogGang
[Add tidtou's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ช่วยเว้นบรรทัดได้มั้ยครับ อ่านแล้วตาลาย