เมื่อเจ้าตัวน้อยอยากสวย!  ในโลกของลูกผู้หญิงนั้น การรักสวยรักงามเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว เครื่องสำอางค์ ถ้าเราเทียบกับวัยเด็กเล็ก ทุกคนคงคิดว่าย่อมถือว่าไม่เหมาะด้วยทุกกรณี เมื่อลูกสาวมองเห็นคุณแม่เป็นไอดอล แต่งหน้าทาปากเขียนคิ้วติดขนตา ทุกอย่างที่ลูกเห็นนั่นคือสิ่งที่เรียกว่าถูกต้องและทำได้ ในเมื่อแม่ทำได้ลูกก็ต้องทำได้เช่นกัน จึงมีหลายครั้งที่ลูกสาวแอบไปเอาลิปสติก ดินสอเขียนคิ้วมาละเลง ผิดหรือถูก เหมาะหรือไม่เหมาะ เราจะทำอย่างไรดี เครื่องสำอาง เมื่อเปรียบเทียบความหมายของเครื่องสำอางแล้วนั่นก็หมายถึงสารเคมีดีๆนี่เอง ที่มีองค์ประกอบทางการผลิตโดยส่วนมากมาจากสารตะกั่วทั้งสิ้นเมื่อเราเทียบกับผิวที่บอบบางแล้ว สิ่งสกปรกตกค้าง เศษฝุ่นของแป้งพัฟล้วนก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ ทั้งทางจมูกและผิวหนัง การแก้ปัญหา 1. อธิบายกับลูกน้อยด้วยความห่วงใยถึงองค์ประกอบหลักของสารเคมี โทษของการใช้ผิดวิธี ซึ่งเด็กอาจจะเผลอหรือด้วยความไม่รู้ที่จะกลืนกินสารเคมีเหล่านั้นเข้าไป 2. ทดลองให้ลูกลองแต่งเองสักครั้ง เพื่อเป็นลดความเครียดจากการถูกต่อต้านเมื่อลูกแต่งเสร็จจึงเอากระจกให้ดูถึงความเลอะเทอะ เละเทะ เปรียบเทียบระหว่างการที่เด็กใช้เครื่องสำอางค์แต่งหน้า หรือผู้ใหญ่ใช้แต่งเอง เด็กจะเห็นภาพระหว่างความเลอะเทอะบนใบหน้าเด็กและความสวยของแม่ ถึงตอนนี้ผู้ปกครองจึงเริ่มเข้ามามีบทบาทอธิบายถึงความเหมาะสมในเรื่องการแต่งหน้าตามวัยที่ควร เด็กจะยอมรับจากภาพที่เห็นจริงก็ช่วยลดปัญหานี้ไปได้ 3. ทดลองหยั่งเชิง หมายถึงเมื่อคุณแม่ต้องไปเคาน์เตอร์เครื่องสำอางค์ควรที่จะนำลูกไปด้วย เพราะแผนกเครื่องสำอางค์จะมีแต่บรรดาผู้หญิงในวัย 15 ขึ้นไปเท่านั้นซึ่งเรียกกันว่าวัยรุ่น (Teen) ผู้ปกครองจะสามารถชี้ให้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เหมาะกับเด็ก อีกทั้งเมื่อพนักงานมาทดลองขายกับใบหน้า ผิวก็จะไม่ทดลองกับเด็กแน่นอน จึงควรอธิบายเพิ่มเติมไปถึงความไม่เหมาะสม ย้ำสิ่งที่เรากำลังแทรกสอนอยู่ จนไปถึงทดลองให้เด็กตั้งคำถามกับพนักงานถึงความเหมาะสมเอง เด็กก็จะเข้าใจเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า สิ่งเหล่านี้ไม่เหมาะกับตัวเอง Accessory อาทิกิ้ป ติดผม ที่คาดผม กำไลข้อมือ นาฬิกา รองเท้า กระเป๋า หมวก คงถือเป็นเรื่องที่ธรรมดาที่ผู้ปกครองจะอยากให้ลูกมีเสมือนมีสมบัติของตัวเอง จึงขยันจะสืบเสาะซื้อหามาจนต้องถึงขนาดว่าใส่ตู้ก็คงไม่พอ การสร้างลักษณะนิสัยนี้ เมื่อเด็กมองก็จะถือว่า เจอเมื่อไรเป็นต้องซื้อต้องลองต้องมีมาเป็นสมบัติให้ได้ จนบางทีผู้ปกครองเองเริ่มรู้สึกว่าเยอะเกินไปแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเก็บไว้หรือให้คนอื่นไปบ้าง เมื่อมีเยอะเกินความจำเป็น เด็กจะรู้สึกว่า เค้าเป็นเจ้าของทั้งหมด สร้างลักษณะนิสัยความหวง จึงไม่น่าแปลกใจที่เด็กจะประโคมแต่ง เพราะนั่นหมายถึงนอกจากจะคิดว่าตัวเองสวยแล้ว ยังคิดว่าทั้งหมดนี้คือของฉัน เพราะฉะนั้นผู้ปกครองเองจึงควรเปลี่ยนลักษณะนิสัยการซื้อ ให้ซื้อแต่สิ่งที่คิดว่าจำเป็นและเหมาะกับวัยเป็นพอ การแก้ปัญหา 1. เปลี่ยนอุปนิสัยนักช็อปของผู้ปกครองเอง ลดการจ่าย ใช้หลักการ Mix&Match ให้มากขึ้น 2. การเลือกให้ เริ่มตั้งแต่การเริ่มซื้อ โดยการ - การเปรียบเทียบสี ถ้าต้องให้เด็กเลือกสีระหว่างแดงกับชมพูอ่อน แน่นอนส่วนมากจะเลือกสีเข้มก่อน ดังนั้นเพื่อเป็นการลดระดับความก้าวร้าวในจิตใจ จึงควรที่จะเลือกสีอ่อนให้เด็กก่อน ซึ่งแน่นอนอาจจะมีบ้างสำหรับสีร้อนแรง เช่น แดง เหลือง ดำ แต่ไม่ควรเยอะจนเกินไปจนเด็กซึมซับแต่อารมณ์ผ่านทางสี - ความมาก น้อย ของการประโคมแต่ง เด็กจะคิดเสมออยู่แล้วว่ายิ่งเยอะยิ่งดี ยกตัวอย่างถ้าปล่อยให้เด็กแต่งตัวเองในห้องที่มีAccessory ครบ ตั้งแต่หัวจรดเท้า แน่นอนเด็กจะแต่งออกมาครบหมด โดยไม่รู้ว่าถ้ามีอะไรแล้วไม่ต้องมีอะไร ทางที่ดีผู้ปกครองจึงควรจัดเซ็ทให้เด็กได้มีAccessory บ้าง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกในการแต่งตัว แต่ไม่ควรจะเยอะจนเกินงามเกินวัย - ความแข็งแรง ปลอดภัย คงทน จากวัสดุอุปกรณ์ที่นำมาใช้ เลือกให้ดูแน่นหนาเมื่อต้องผ่านการดึงเล่น ควักขึ้นควักลง แกะโน่นติดนี่ ต้องเลือกให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ กระจก หากเจ้าตัวน้อยติดส่องกระจก จริงอยู่ที่ว่าประโยชน์ของกระจกคือการสะท้อนความสวย การแต่งกายที่เรียบร้อยไม่หลุดลุ่ยนั้นถือเป็นข้อดีของการมองผ่านทางกระจก อีกแง่มุมหนึ่งที่เราต้องสอนควบคู่ไปด้วยคือ กระจกสะท้อนความดี ความดีที่อยู่ในตัว สอนลูกเมื่อเรามองกระจกแล้วเราเห็นอะไร จะทำให้เด็กรู้จักวิเคราะห์ตนเอง จุดเด่นจุดด้อย ดีหรือไม่ดีส่งผลให้เด็กรู้จักความสุขใจและความละอายต่อตนเองไปพร้อมกันนอกเหนือจากความสวยงามที่จะได้เห็น ไม่ว่าลูกสาวจะก้าวเข้าสู่วัยไหนผู้ปกครองโดยเฉพาะเพศแม่ ต้องดูแลเรื่องความสวยของเจ้าตัวเล็กไปจนตลอดจนถึงวัยที่เค้าสามารถเลือกเองได้ เด็กต้องการการยอมรับ จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา ดังนั้นผู้ปกครองจึงควรเฝ้าระวังสอนให้เห็นถึงโทษและประโยชน์ของคำว่าสวย ให้ชัดเจนระหว่าง สวยจากภายนอกหรือสวยจากภายใน หากเด็กเข้าใจทั้งสองกรณีนี้แล้วเด็กจะสามารถตอบได้เองว่าเวลาส่องกระจกแล้วเราส่องดูอะไร พัดลม USB สบู่อาหรับขิง
|
Group Blog All Blog
Link |
||||||||||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||||||||||
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
