สุภารัตถะ บล็อก
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2549
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
10 มิถุนายน 2549
 
All Blogs
 

หนังสือที่ไม่กล้าอ่าน

เรื่องสั้น หนังสือที่ไม่กล้าอ่าน
โดย สุภารัตถะ


หนังสือเล่มไหนกัน? ที่ใครๆ ก็ไม่กล้าอ่าน ไม่กล้าแม้แต่จะคาดคิด นอกจากจะทำได้แค่คาดหวังเท่านั้น…แม้บางคนจะชอบอ่านหนังสือ บางคนจะชอบเขียนหนังสือ บางคนก็อยากจะลองเขียนหนังสือดูบ้าง แต่การเขียนนั้นไม่ง่าย คุณอาจจะต้องเป็นนักอ่านตัวฉกาจ หรือนักหาข้อมูลตัวยง ประสบการณ์ชีวิตก็เป็นข้อมูลที่ดี แต่ไม่แน่…ชีวิตนั่นเอง ที่มันจะกลับมาเขียนหนังสือให้คุณ ว่าแต่…คุณจะกล้าอ่านมันขนาดไหน

…ผมเพิ่งได้คอมพิวเตอร์แก่ๆ มาตัวหนึ่ง ไม่รู้เรื่องคอมเลยทั้งๆ ควรรู้ด้วยซ้ำ เพราะสมัยแรกที่คอมพิวเตอร์ยังไม่ระบาดขนาดนี้ ผมเคยอยู่ในกลุ่มคนทันสมัยด้านการทำงานแขนงหนึ่งคืองานด้านโฆษณา คนในสายงานนี้ มีความรู้เรื่องคอมนำหน้าไปกว่าคนสายงานอื่นๆ พอสมควร แต่ผมก็ไม่เคยสนใจคอม สุดท้าย..ก็รู้ว่าไม่สนใจในงานที่ทำอยู่ด้วย ผมมันไม่ชอบทำอะไรเกินจริงและหลอกลวงใครอยู่แล้ว กลัวต้องไปรับผิดชอบต่อผลการกระทำในอนาคตของชาติหน้าๆ อีกตั้งมาก

และอย่างแทบไม่น่าเชื่อ เพียงใช้เวลาไม่นานต่อมา… คอมพิวเตอร์ผู้เปรื่องปราด ก็สามารถให้คนแทบทุกวงการสยบ แม้กระทั่งเด็กอนุบาลยังต้องใช้ แต่ผมก็ยังไม่สนใจคอมอยู่ดี กระทั่ง…เพื่อนยกมันมาให้ คอมเก่าๆ นอกจากจะทำหน้าที่แทนพิมพ์ดีดที่ดีมากแล้ว ยังช่วยให้ได้รับข้อมูลข่าวสารต่างๆ โดยการเข้าท่องเน็ต แต่ก็เถอะ..ท่องเว็บไซต์ได้ไม่นาน ก็กลับเอียนความรู้อันจดจำไม่ไหว เหลือเพียงไม่กี่เว็บเท่านั้นที่ผมสนใจ

//www.lifewriter.com ไลฟ์ไรเตอร์ดอทคอม เป็นเว็บหนึ่งซึ่งผมชอบแวะเข้ามาดู ที่นี่แนะนำหนังสือ นักเขียน การเขียน รางวัลงานเขียน แลกเปลี่ยนทัศนะและอีกมาก คล้ายเว็บหนังสืออื่นๆ แต่มีการเสนอข่าวสารเจาะลึกและให้ความรู้หลายด้าน ในรูปแบบเรียบง่ายแต่สวยงาม เป็นเหตุให้มีผู้สนใจการอ่านการเขียน ทั้งอายุน้อยและไม่น้อย ต่างจริตต่างนิสัย เวียนเข้ามาสัมผัสความเป็นมืออาชีพในการนำเสนอข้อมูล ณ สถานแห่งนี้ สมาชิกชาวไลฟ์ไรเตอร์หลายคนผมรู้จักเพียงชื่อเสียงเรียงนาม งานเขียนของบางคนน่าอ่านก็เพราะเราได้รู้จักกับชีวิตของเขาบ้างแล้ว บางงานเขียนได้ดีจนทำเราให้อยากรู้จักชีวิตเขาภายหลัง

คืนนี้พอมีเวลา ก็เข้ามายังไลฟ์ไรเตอร์อีกทั้งที่เพิ่งเข้าเมื่อวาน แวะไปที่อื่น ก็วนซ้ำๆ อยู่ไม่กี่แห่ง แล้วก็ต้องเวียนกลับมาที่นี่ ไม่ใช่ที่อื่นๆ ไม่น่าสนใจ แต่ความเป็นคนสนใจอะไรๆ ของผมมันน้อยจริงๆ

นั่งวนเม้าท์อยู่นาน ไม่รู้จะอ่านอะไรดี ด้วยเข้ามาบ่อยและเพิ่งอ่านไปเมื่อวันก่อน.. นั่งมองหน้าสารบัญหรือห้องหลักด้วยความคุ้นเคย ยังไม่รู้จะลิงค์ไปไหนเพราะล้วนไปมาจนหมด ขณะวนเม้าท์เล่นไปเรื่อยๆ นั่นเอง ไม่ทราบว่าไปคลิ๊กโดนอะไรเข้า มีเสียงเพลงนุ่มหวานหลอนๆ อย่างดนตรีสมัยใหม่ชอบแต่ง แว่วดังขึ้นมาเบาๆ ชวนให้เข้าสู่ความเคลิบเคลิ้มและกึ่งฝัน บนหน้าจอ เปลี่ยนเป็นภาพของห้องใหม่ มันค่อยๆ เฟรดอินเข้ามาจนแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ จัดว่าเป็นห้องซึ่งออกแบบได้สวยงามมากสำหรับการแสดงหนังสือเล่มต่างๆ นอกจากการดีไซน์อันสวยงามแปลกประหลาด หนังสือต่างๆ แม้จะคุ้นชื่อ แต่กลับดูล้วนไม่น่าจะคุ้นเคยหรือรู้จักมาก่อน แอบคิดทันทีว่า ตัวเองช่างโง่งมโข่งเสียจริง ไม่รู้ว่ามีห้องนี้และไม่เคยเข้ามาดูเลย พวกสมาชิกซึ่งคุยกันบนบอร์ดก็ไม่ยักจะพูดถึงหรือเอ่ยชมผู้ดูแลกันบ้าง ว่าสร้างห้องนี้ได้งดงามไร้ที่ติ แถมยังมีหนังสือน่าสนใจชนิดไม่เคยเห็นมีในเว็บหนังสืออื่นๆ ด้วย

รู้สึกขอบคุณเจ้าของสถานที่ขึ้นมาเสียเฉยๆ ช่างเป็นเว็บไซต์ทันสมัยและมีผู้ดูแลฝีมือเฉียบรอบด้าน ห้องสารบัญก็นับว่าทำได้ดีอยู่แล้ว การเชื่อมเข้าห้องต่างๆ ที่ให้สาระประโยชน์ครบครันก็ทำได้ดีมาก และโดยเฉพาะห้องนี้ มีดีไซน์แสนจะน่าหลงใหล…สะกดผมให้จังงัง จนต้องนึกโทษตัวเองต่างๆ นานา ที่เสียเวลาไป โดยไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็น และไม่เคยสังเกต ว่ามีข้อความหรือสัญลักษณ์อะไร นำพาเข้ามายังห้องนี้ได้ ผมนี่ช่างเต่าบรม

ท่วงทำนองเพลงหวานเศร้าอาจยังคงบรรเลงอยู่เบาๆ แต่ความสนใจของผม พุ่งตรงไปยังการออกแบบและเนื้อหาของห้อง ไม่ว่าจะเป็นจังหวะจะโคน รูปแบบ และการใช้สีหวานหม่นหลากสีกลมกลืนจนดูราวเป็นเอกภาพเดียวกัน การแยกสัดส่วนของหนังสือตามหมวดต่างๆ ก็ชวนให้น่าสนใจอย่างแทบไม่น่าเชื่อ

เมื่อรายละเอียดทุกอย่างชัดขึ้นแล้ว เหลือบไปเห็นข้อความ “โปรดอ่านคำเตือนเมื่อใช้ห้องนี้” เป็นหนังสือตัวใหญ่สะดุดตา ส่วนเนื้อความต่อมา เตือนผู้เข้าชมว่า “คุณพร้อมหรือยังที่จะอ่านหนังสือเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่คุณจะเป็นไปภายใต้อำนาจกฎเกณฑ์และเงื่อนไขของหมวดหนังสือที่คุณเลือก และตามเนื้อหาในหนังสือที่คุณอ่าน”

ทำเอาผมงง !!! เหมือนถูกตบเข้ากลางแสกหน้าฉาดใหญ่กับข้อความเตือนสติ แม้จะคิดว่านี่เป็นการล้อเล่น แต่ไฉน กลับรับรู้ถึงภายในเหมือนสะท้านยะเยือกขึ้นมาอย่างแรง จู่ๆ คำเตือนนั้นก็หายไปอย่างลึกลับ ไม่มีที่มาไม่มีที่ไป โผล่ขึ้นมาเหมือนรู้ว่าผมพร้อมจะรับรู้แล้ว และหายไปอย่างไม่อาจจะลืมเลือนการกล่าวเตือนของมันได้อีก ไม่เหมือนเคยอ่านอะไรๆ ผ่านสายตาแล้วไม่จดจำ นี่คงเป็นหน้าที่ของมันโดยตรง ทำผมไม่กล้าผลีผลาม แม้จะมีหนังสือล่อใจให้อยากคลิ๊กเข้าไปอ่าน ก็ได้แต่ชั่งใจ ผู้ดูแลสร้างห้องนี้จากโปรแกรมอะไรกันหนอ?? ตอนนี้มันกลับดูน่ากลัว จนหัวใจสะท้านแรงขึ้นด้วยความระทึก แต่ก็ท้าทายจนยังไม่อยากออก แม้จะหวาดหวั่นขนาดไหนก็ตาม

คำโปรยแนะนำ ซึ่งทำหน้าที่แจกแจงแยกหนังสือให้เป็นไปตามหมวด ก็สร้างความพิศวงงงงวยให้ไม่น้อย ไม่ได้บอกอะไรเลยว่า หนังสือในหมวดของมันนั้น เขียนแนวไหนอย่างไร แต่พิเคราะห์แล้วทำเอาหนาวเหน็บ เพราะกลับเป็นข้อความบ่งบอกเงื่อนไขและหน้าที่ ซึ่งผู้อ่านจะต้องเป็นไปตามกำหนดหากต้องการอ่านหนังสือในหมวดของมัน ผมระลึกถึงคำเตือนนั่นฉับพลัน!!! ผู้อ่านจะเป็นไปตามอำนาจกฎเกณฑ์อย่างที่มันเตือนไว้จริงๆ หรือ?

ผมยังคงกดเม้าท์ สั่งลากหน้ากระดาษผ่านขึ้นไปช้าๆ เพื่อไล่อ่านคำโปรยแยกหมวด โดยไม่กล้าเปิดอ่านหนังสือเล่มใดในแต่ละหมวดใดๆ ทั้งสิ้น บางหมวดมีหนังสือเพียงไม่กี่เล่ม แต่คำโปรยบอก น่ากลัวจนต้องหลบสายตา ไม่รู้เหมือนกันว่า เนื้อหาในหนังสือของหมวดมัน ผมยังกล้าพอจะมองและอ่านหรือเปล่าด้วยซ้ำ บางหมวดมีหนังสืออยู่มากพอประมาณ ให้ความรู้สึกอยากเข้าไปอ่านทุกเรื่องเลย แต่เงื่อนไขของคำโปรยหมวด ทำเอาไม่กล้าแตะต้องมันได้ง่ายๆ

-อ่านจนวาระสุดท้ายมาเยือน- หมวดนี้ขึ้นคำโปรยตีความยาก ไม่รู้ความหมาย
แท้จริงซึ่งมันต้องการจะสื่อ ว่าจะให้อ่านจนกระทั่งขาดใจตาย หรือติดใจจนต้องอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดเวลาที่มีชีวิต อาจมีหนังสืออยู่ไม่มาก แต่เล่มชื่อว่า “ความฝัน” ดึงดูดใจผมมาก จนเผลอไผลลากลูกศรไปยังมันโดยไม่รู้ตัว ขณะเกือบจะคลิ๊กเข้าไปอ่านนั้น พลันต้องสะดุ้งเฮือก!! กับเสียงสะท้อนก้องดังกระทบโสตประสาท จากกล่องปากกาซึ่งถูกชนตกกระแทกพื้น เกิดเพราะเจ้าเหมียวของผมกำลังเล่นซนอยู่บนโต๊ะนั่นเอง ผมไม่ได้สนใจปากกาที่เกลื่อนกระจาย แต่ปาดเหงื่อผุดพรายอยู่ตามหน้าผาก ทั้งที่อากาศคืนนี้เย็น

ขณะทำการไล่หน้ากระดาษมาอ่านอย่างช้าๆ นั้น เหมือนชีวิตผมช้าไปกว่าปรกติสักสิบเท่า ช่างแตกต่างจากการไปเยี่ยมอ่านห้องอื่นหรือเว็บอื่น ตามนิสัยชอบอ่านผ่านๆ รวดเร็ว จนบางครั้งคิดว่าจะแวะกลับไปอ่านใหม่ แล้วก็ลืมเสียเมื่อออกจากที่นั่นมา อาจเพราะ ความเป็นคนขี้ลืมและสนใจอะไรน้อยก็ได้ แต่ตอนนี้ ชีวิตผมทุกวินาทีเหมือนกำลังเดินถอยหลังอยู่บนเส้นทางแคบๆ มีสองข้างทางเป็นหุบเหวลึก ง่ายต่อการพลัดตกลงไปอย่างยิ่ง ผมทำอะไรช้าลงมาก อย่างคนทำสมาธิเรียกกันว่ากำลังจะหยุดหายใจ จิตมันตื่นตัวเต็มที่ เพียงแต่สำหรับคนทำสมาธิ จิตเข้าสู่ความนิ่งและมีพลัง แต่ผมขณะนี้ จิตกำลังตื่นด้วยความหวาดระแวงเต็มกลืน

-ให้โอกาสเข้าไปอ่าน และปิดหนังสือได้หนึ่งครั้ง และหนึ่งเล่มเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ในเล่มต่อไป- หมวดนี้แปลกมาก เงื่อนไขการให้โอกาสปิดหนังสือหลังเปิดอ่านไปแล้วได้หนึ่งครั้ง ประดุจโอกาสที่ให้ก็ด้วยเหตุผลเสมือนว่า ชีวิตนั้นสั้นเกินจะมีการพลาดหรือแก้ตัวได้มากกว่าหนึ่ง แต่ก็ทำให้ผมสนใจกับสิทธิ์นี้อย่างบอกไม่ถูก อย่างน้อย ผมก็มีโอกาสสำหรับการก้าวผิด!!

ตัดสินใจไปหมวดถัดไป.. และคิดว่าจะกลับมาที่นี่อีกทีหลัง เพื่อสำรวจให้ครบทุกหมวดเสียก่อน ผมกดลูกศรต่อ ยังคงสั่งให้หน้ากระดาษเคลื่อนต่อไป.. ภาพที่ค่อยๆ โผล่ขึ้นมาบนหน้าจอ มีการดำเนินไปอย่างเนิบๆ ด้วยความระมัดระวัง สัมผัสถึงลมหายใจของตัวเองบางเบาแต่หนัก ต้องลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่เป็นครั้งๆ เมื่อเหมือนลมจะขาดห้วง ภาพหนังสือโผล่ขึ้นมาแต่ละเล่ม ช่างน่าอ่านแบบไม่เคยเป็นมาก่อนเลย แต่คำโปรยบอกเงื่อนไขการอ่านของแต่ละหมวด เล่นเอาผมฝ่ามือชื้น ทว่าภายในปากแห้งเหมือนทะเลทราย

กลับมีหนังสืออยู่หมวดหนึ่ง อาจจะสะเทือนความรู้สึกของคนอื่นได้ไม่น้อย แต่ไม่สามารถทำอะไรผมได้ อาจเพราะอุปนิสัยของผม ที่ไม่อยากมีไม่อยากเป็นในโลกใบนี้เท่าไหร่ ส่วนคนอยากรวย เขาคงอยากเข้าไปอ่านมันแทบคลั่ง คำโปรยแสนน่ากลัวในหมวดนี้ จึงกลายเป็นเรื่องตลกไปเสีย -ทันทีที่อ่านถึงกลางเรื่อง คุณจะวิกลจริต- มีหนังสือประเภทฮาวทูอยู่หลายเล่ม “เลี้ยงลูกให้รวยไม่เลิก” “มือถือ ธุรกิจที่ยิ่งกว่าโทรจิต” “เล่นหุ้นอย่างไรไม่ไห้เจ๊ง” ผมไม่อยากดูต่อ เลยผ่านหมวดนี้ไป

-คุณจะถูกจองจำและเป็นทุกข์สาหัส ในนรกธรรมะที่คิดเอาเอง- มีหนังสือธรรมะมากมายในหมวดนี้ หนังสือทุกศาสนา หลายลัทธิ หลายนิกาย ล้วนดูอบอุ่นและน่าอ่านเหลือเกิน “พระเจ้ารักคุณ” “คุณคือพุทธะ” “ยุคพระศรีอารยเมตตรัย” “ทางสวรรค์” ผมตัดใจอย่างยากลำบาก รีบออกมาจากหมวดนี้เสียโดยเร็ว ก่อนจะเห็นหนังสือเล่มอื่นๆ เพราะไม่อยากเผลอตัว

การสำรวจเพียงพอแค่นี้ ต้องผ่อนลมหายใจยาว คิดว่าข้อความแต่ละหมวดซึ่งโปรยบอกกฎการอ่าน และผู้ดูแลเว็บ ช่างเล่นเอาเถิดกับผมนัก แต่คำเตือนที่โผล่ขึ้นมาเพียงครั้งเดียวโดยไม่อาจลืมมันได้ เล่นเอาผวาและขลาดอยู่ลึกๆ ผมตัดสินใจ กลับไปหมวดซึ่งให้โอกาสเข้าไปอ่านและปิดหนังสือได้หนึ่งครั้งและหนึ่งเล่มเท่านั้น โดยวางแผนไว้แล้วว่า ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ก็จะปิดหนังสือและหนีออกจากห้องนี้ทันที

……………………………………………………………………………………

หนังสือสะดุดตาอย่างมากในหมวดนี้ เป็นหนังสือเรื่อง “ชีวิตของอาชา” นั่นมันเป็นนามแฝงที่ผมใช้ในเว็บบอร์ดแห่งนี้แท้ๆ มีหนังสือชีวิตของสมาชิกในเว็บ คุ้นๆ ชื่ออยู่หลายคน มันเหมือนผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ทันทีเมื่อให้ความสนใจ โดยผมก็ไม่ได้คลิ๊กเครื่องหมายอะไรเพื่อแสดงว่าเป็นการขอดูหนังสือทั้งหมดแต่อย่างใด ราวกับมันอยากแสดงตัวออกมาเอง หรือผมเป็นคนไม่ค่อยสังเกตก็ไม่ทราบ เริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศอันไม่น่าไว้วางใจ ไม่กล้าสุ่มสี่สุ่มห้าทำอะไรพลการ ส่วนเงื่อนไขบังคับ ให้โอกาสหนึ่งครั้งในการอ่านนั้น ทำให้ผมอยากลอง เอาล่ะนะ เป็นไงเป็นกัน ผมลากลูกศรมาถึงหนังสือชื่อ “ชีวิตของอาชา“ แล้ว…คลิ๊ก…

ชั่วขณะการรอคอยสั้นๆ กลับแสนอึดอัดยาวนาน แอบจินตนาการถึงภาพยนตร์ฝรั่ง มีภูติผีตายอดตายอยากถูกปลดปล่อยให้หลุดออกมาจากขุมนรก เมื่อวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งไปอ่านคาถาจากหนังสือสะกดวิญญาณเข้า หรือไม่ก็ หนังสือผจญภัยในดินแดนมหัศจรรย์ที่ดูดเด็กๆ ซึ่งกำลังอ่าน เข้าไปร่วมผจญภัยอย่างตื่นเต้นกับตัวละครในนั้นด้วย

แต่ให้ตายเถอะ..หนังสือชีวิตของผม ทำผมตกใจและมหัศจรรย์ใจยิ่งกว่า มันช่างบรรยายชีวิตผมอย่างน่าขนหัวลุก มันรู้ชื่อจริงผม รู้จักผมตั้งแต่เกิด รู้การเติบโต และความเป็นไปในชีวิตของผมทั้งหมด บรรยายได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง ทะลุปรุโปร่ง ภาพความทรงจำต่างๆ ของตัวผม ทยอยผุดขึ้นมาในสมองชัดเจน มันน่าเกลียดน่ากลัว น่ารักน่าชัง น่าขยะแขยง กับความเป็นตัวเอง อย่างไม่สามารถจะโกหกหลอกลวงตัวเองได้ บางเหตุการณ์ทำให้เกลียดตัวเองเหลือเกิน กับความนึกคิดและการกระทำเช่นนั้น บางการกระทำที่ดูเหมือนดีภายใต้จิตใจชั่วร้าย ผมเกลียดมัน เกลียดความชั่วในใจ สิ่งซึ่งผมพยายามต่อสู้กับมันมาตลอดชีวิต ความเห็นแก่ตัวที่แม้แต่แสดงตัวออกมาเพียงเล็กน้อย แต่ก็ต้องรับรู้ สร้างความเจ็บปวดเมื่อต้องนึกถึงมันอีก ถ้อยคำในหนังสือแสดงอย่างชัดเจน ลึกเข้าไปถึงกระดูกคนอ่าน ถึงความน่าสะอิดสะเอียนของตัวเอง ผมหายใจเข้าออกลึกๆ เสียใจจนสะอื้น ต้องใช้สติเข้าข่ม พยายามอภัยให้ตัวเอง เมตตาต่อตัวเอง…

…เมื่ออ่านมาถึง…ทางเลือกสามทาง มันเป็นสิ่งซึ่งผมกำลังตัดสินใจจะทำเช่นนั้นกับชีวิตอยู่ในตอนนี้จริงๆ หนังสือช่วยตอกย้ำความตั้งใจที่มีเช่นนั้นให้ชัดขึ้น โดยแยกหนังสือออกเป็นสามเล่ม ผมมีสิทธิ์เลือกอ่านได้เพียงเล่มเดียว ทันทีที่เลือกเล่มใดเล่มหนึ่ง ยังได้รับสิทธิ์ดุจเดิม คือมีสิทธิ์ปิดหนังสือได้หนึ่งครั้ง

หากมนุษย์เราจะสงสัยว่า สิ่งที่กลัวที่สุดในชีวิตคืออะไร..

ผมว่ามันก็คือการมีชีวิตนั่นเอง ผมต้องหยุดหอบหายใจด้วยความกลัว กลัวอนาคต กลัวแม้แต่การเลือก ใช่แล้ว ผมกำลังเลือกจะดำเนินชีวิต ด้วยการตัดสินใจทำอะไรสักทางหนึ่งอยู่จริงๆ นั่นก็คือ แต่งงานกับคนรัก มีครอบครัวอย่างคนอื่นๆ ทำกัน และมันจะเป็นบ่วงรัดผมไว้กับทุกข์ทางโลกซึ่งดิ้นไม่หลุด จนวาระสุดท้ายอันเจ็บปวดของชีวิตมาเยือน ลูกทำให้ตระหนักถึงบ่วงอันหนักหนาสาหัส… หรือว่า.. ผมควรลาออกจากงาน เข้าป่า อาจบวชเป็นพระธุดงค์ หรืออยู่เพียงลำพังหาความเงียบสงบ สิ่งใฝ่ฝันมาตั้งแต่เล็ก ความสุขที่แท้ ความจริงที่ไม่แปรเปลี่ยน… ความขลาดกลัว ไม่กล้าเลือกทางชีวิตทางใดทางหนึ่งให้แน่นอนลงไป เพราะกลัววาระสุดท้ายของมันว่าจะลงเอยเช่นใดใช่ไหม? ตรึงให้ผมต้องหยุดชีวิตนิ่งอยู่ตรงนี้มาเนิ่นนานแล้ว ผมกลัวหนทางข้างหน้า กลัวแม้แต่จะรู้มัน การจะเลือกอ่านหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่งทำผมหวาดผวา กลัวจะรู้ตอนจบ กลัวมันจะไม่เป็นไปตามคาดหวัง กลัวว่าไม่ใช่ทางที่ดีที่สุด กลัวผมจะไปไม่รอดกับสิ่งที่เลือกทำ และแล้ว.. กลับตัดสินใจปิดหนังสือลง โล่งใจ !! ผมใช้สิทธิ์นั้นไปแล้ว ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ พอกันที คืนนี้สนุกมากเกินพอแล้ว !!

ผมตัดสินใจออกจากห้องนี้ ปิดหน้าต่าง กลับคืนมาสู่หน้าสารบัญ รู้สึกเบื่อชีวิตอันซ้ำซากขณะนี้อีกแล้ว ความกลัวอย่างใหญ่หลวง ทำให้มนุษย์ไม่ไปถึงไหนเลย ดึกมากแล้ว ผมยังคงนั่งวนเม้าท์ด้วยความเหนื่อยหน่ายอยู่อย่างนั้น ฉับพลัน !!! ก็รู้ว่านี่คือหนทางที่สาม ผมกำลังเลือกอ่านหนังสือเล่มนี้อยู่หรือนี่ ผมยังไม่ได้ปิดหนังสือ นี่คือข้อความในหนังสือนี่นา ผมยังไม่ได้ออกจากห้อง ชีวิตผมไม่ได้หยุด แต่ผมเลือกจะมีชีวิตในรูปแบบนี้เองหรือ ผมกำลังอ่านมัน ผมกลัว !! ผมยังมีโอกาสปิดหนังสือหนึ่งครั้งอยู่ ใช่ไหม ??




 

Create Date : 10 มิถุนายน 2549
0 comments
Last Update : 11 มิถุนายน 2549 0:11:47 น.
Counter : 433 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


suparatta
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร..
..ท่านนาคารชุนะ..
วิภาษวิธี..เกริ่นนำ..ตอนจบ..

๐ สมุดเยี่ยมและบ่นได้..
**ทางลัด**
๐ สารบัญทักทาย(ทั้งหมด)
๐ ชวนคุย&ฟังเพลงปี48(ทั้งหมด)
๐ นอนดูจันทร์..(ส่วนตัว)

**log in หน่อยน่า..



Google.co.th
Friends' blogs
[Add suparatta's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.