อาทิตย์สาดส่อง..ความจริงจักปรากฎทั่วปฐพี!!!
Group Blog
 
 
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
7 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
ข้อมูล-สงครามลับของซีไอเอในลาว

(ต่อ)

8. อุดรและล่องแจ้ง

ปี 1962 อเมริกันถอนตัวจากลาว แต่ทิ้งไพ่เด็ดคือหน่วยพารูของไทยไว้ ประมาณ 100 คน พันเอกประนิตย์ คอยรายงานความเคลื่อนไหวให้กับแลร์ และกองทัพบกไทย แลร์ได้ติดยศร้อตำรวจโท แห่งกรมตำรวจไทย และได้รับการยอมรับจากฝ่ายไทยมาก

แลร์คงอเมริกันไว้อีกสองคนในล่องแจ้ง คือ โทนี่ โพ และ ลอว์เลนซ์ คนที่สามไม่ได้อยู่ในบังคับบัญชาของแลร์ในลาวใต้

แลร์และแลนดรี้ ต้องถอยมาอยู่ฝั่งไทยตามข้อตกลงเจนีวา ทีแรกจะเอาหนองคาย แต่มันปิดลับยาก ต้องการอาคารมิดชิด จึงย้ายมาอยู่ที่อุดร แทน

อุดร มีสนามบินขนาดใหญ่ที่อเมริกันสร้างไว้ในทศวรรษที่ 50 หากเกิดสงครามนิวเคลียร์กับจีน(ช่วงสงครามเกาหลี) หลังจากนั้นที่นี่ก็เงียบ ซีไอเอ อาศัยอาคารหลังเล็กรูปทรงประหลาด รู้จักกันในชื่อรหัส เอบี 1 ติดเสาวิทยุสูงลิ่ว

แลร์ และแลนดรี้ ย้ายมาอยู่ที่นี่ แลร์ได้เลื่อนเป็นหัวหน้ากองบัญชาการอุดร มีหน้าที่รายงานความเคลื่อนไหวไปยัง ผอ.ซีไอเอ ในเวียงจันทร์ แลร์ยังรับผิดชอบการปฏิบัติการในลาว เขาประสานงานกับประนิตย์ และหน่วยพารู เขาเดินทางมาหัวหินบ่อยๆ ที่จริงเขาจะต้องรับผิดชอบการฝึกชาวชนบทของไทย แต่เขาก็หมดเวลาไปกับโมเมนตั้ม จนไม่เหลือไว้ทำอย่างอื่น

8. อุดรและล่องแจ้ง

ปี 1962 อเมริกันถอนตัวจากลาว แต่ทิ้งไพ่เด็ดคือหน่วยพารูของไทยไว้ ประมาณ 100 คน พันเอกประนิตย์ คอยรายงานความเคลื่อนไหวให้กับแลร์ และกองทัพบกไทย แลร์ได้ติดยศร้อตำรวจโท แห่งกรมตำรวจไทย และได้รับการยอมรับจากฝ่ายไทยมาก

แลร์คงอเมริกันไว้อีกสองคนในล่องแจ้ง คือ โทนี่ โพ และ ลอว์เลนซ์ คนที่สามไม่ได้อยู่ในบังคับบัญชาของแลร์ในลาวใต้

แลร์และแลนดรี้ ต้องถอยมาอยู่ฝั่งไทยตามข้อตกลงเจนีวา ทีแรกจะเอาหนองคาย แต่มันปิดลับยาก ต้องการอาคารมิดชิด จึงย้ายมาอยู่ที่อุดร แทน

อุดร มีสนามบินขนาดใหญ่ที่อเมริกันสร้างไว้ในทศวรรษที่ 50 หากเกิดสงครามนิวเคลียร์กับจีน(ช่วงสงครามเกาหลี) หลังจากนั้นที่นี่ก็เงียบ ซีไอเอ อาศัยอาคารหลังเล็กรูปทรงประหลาด รู้จักกันในชื่อรหัส เอบี 1 ติดเสาวิทยุสูงลิ่ว

แลร์ และแลนดรี้ ย้ายมาอยู่ที่นี่ แลร์ได้เลื่อนเป็นหัวหน้ากองบัญชาการอุดร มีหน้าที่รายงานความเคลื่อนไหวไปยัง ผอ.ซีไอเอ ในเวียงจันทร์ แลร์ยังรับผิดชอบการปฏิบัติการในลาว เขาประสานงานกับประนิตย์ และหน่วยพารู เขา

เดินทางมาหัวหินบ่อยๆ ที่จริงเขาจะต้องรับผิดชอบการฝึกชาวชนบทของไทย แต่เขาก็หมดเวลาไปกับโมเมนตั้ม จนไม่เหลือไว้ทำอย่างอื่น
แม้ปฏิบัติการโมเมนตั้มจะถูกลดทอนขนาดลง แต่แลร์ก็พอใจ เมืองอุดร น่าอยู่ ไม่ต้องปกปิดสถานะ บ้านพักไม่ต้องมีรั้วหรือยาม เขาไปเยี่ยมภรรยาและลูกที่กรุงเทพฯ เดือนละ 2 ครั้ง

วังเปาส่งสาวม้ง 2 คน มาให้แลร์ ทั้งสองแต่งกายเหมือนชาวพื้นราบ คนหนึ่งเป็นน้องสาวเสนาธิการของวังเปา
ตกกลางคืนเธอตรงเข้ามาหาแลร์ และถามว่า มีเมียกี่คน แลร์ตอบว่ามีคนเดียว
เธอว่าวังเปาเป็นคนใหญ่คนโต เขามีเมียตั้งหลายคน

ถ้าคุณจะเป็นใหญ่เป็นโตในวันข้างหน้า คุณต้องมีเมียหลายๆคน

อือ ..แลร์ตอบ

ถ้าคุณไม่มีเมียหลายๆคนจะไม่ได้เป็นใหญ่เป็นโต ..เธอพยายามโน้มน้าวต่อ

แลร์เข้าใจแล้วว่าหมายถึงอะไร จึงบอกไปว่า ..เมียที่กรุงเทพฯไม่อยากร่วมเป็นหนึ่งในฮาเล็มของเขาแน่ๆ

เธอ ส่งสายตารออยู่ห้องตรงข้าม

เขาอยากเป็นใหญ่เป็นโตหรือเปล่า..คำถามนี้ผุดขึ้นหลายครั้งในใจแลร์

ลอร์เลนซ์ และ โทนี่ โพ อยู่ในกระท่อมปิดลับที่ล่องแจ้ง เขาพยายามไม่ออกไปไหน ไม่อยากให้คณะกรรมาธิการควบคุมนานาชาติเห็น

ซีไอเอ ยังคงส่งเสบียงอาหาร เครื่องไม้เครื่องมือให้วังเปาทางอากาศโดยทิ้งร่ม ช่วงเวลานี้ วังเปามีชะตากรรมร่วมกับพวกพลัดถิ่นคิวบา ที่ล้มเหลวที่อ่าวหมู วังเปาบอกโพว่า เขาให้ข้าวสารเรา แต่ไม่ให้อาวุธ ม้งถูกบีบให้ตั้งรับ ขณะที่ข้าศึกทวีความได้เปรียบ

ลอว์เลนซ์ บูล และพวกพารูของไทยเข้ากันได้ดี ร้อยเอกนคร ในล่องแจ้งขึ้นตรงต่อพันเอกประนิตย์ ที่อุดร มีหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่วังเปา

ลอว์เลนซ์รู้จักวังเปาดีขึ้น เห็นทั้งด้านที่โหดเหี้ยมและอ่อนแอ เคยเห็นวังเปาเอานักโทษใส่ถัง200 ลิตร แล้วเอาฝังดิน เขาไม่ลังเลที่จะสังหารข้าศึกหรือพวกเดียวกันเองที่ทำให้เขาขุ่นเคือง และร้องไห้เมื่อฝ่ายเขาเสียทีแก่ข้าศึก

วังเปาสร้างหลักประกันให้ตนเองด้วยการตุนฝิ่นดิบหลายตันมาเก็บไว้ใต้พื้นบ้านพักในล่องแจ้ง เขาไม่เห็นความจำเป็นต้องปกปิดเรื่องนี้

ลอร์เลนซ์เข้าใจสภาพของวังเปา แต่เขาต้องชี้จุดยืนของซีไอเอให้วังเปารู้ ว่าถ้าเขาถูกจับเรื่องยาเสพติด ซีไอเอ ต้องยุติปฏิบัติการช่วยเหลือเขาทันที แต่เขาก็ไม่อยู่ในสถานะชี้นำให้วังเปาทำลายฝิ่นทิ้ง

วังเปากับลอว์เลนซ์ ชอบพูดคุยกันถึงโลกภายนอก วังเปามองทุกอย่างขาวกับดำ เขาไม่ยอมฟังที่ลอว์เลนซ์พยายามชี้แจงว่า ทุกอย่างไม่ขาวหรือดำทั้งหมด แต่วังเปาชอบแบ่งโลกออกเป็นขาวดำชัดเจน

วังเปาคิดว่าลอว์เลนซ์เป็นเจ้าขายของอเมริกา " คุณเป็นราชบุตร ใช่ไม๊ " เขาคิดเช่นนี้เพราะลอว์เลนซ์ไม่หลับนอนกับหญิงชาวบ้าน คอไม่แข็งแบบโทนี่ พู ..ทั้งเอ็ดการ์ บูล และลูกน้อง ก็เป็นอย่างลอว์เลนซ์ เขาไม่อยากมีเรื่องยุ่งจนเป็นอุปสรรคกับภารกิจ

โทนี่ โพ ไม่เคยมาร่วมสนทนารอบดึก เขาไม่ชอบเรียนรู้ประเพณีวัฒนธรรมของพวกชาวเขา หน้าที่ของเขาคือ เป็นครูฝึก ส่งเสียงดัง สวมหมวกนาวิกติดหัวตลอด ทั้งวันเขาจะตรวจความเรียบร้อยของฐาน

โพ ชอบเล่าเรื่องสัปดน

โพ เคยร่วมกับแพท แลนดรี้ ก่อการรัฐประหารในปี 1958 เกือบทุกภากิจที่เขาทำคือการสนับสนุนพวกกบฏต่างๆต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ที่มีจีนแผ่นดินใหญ่หนุนหลัง หนึ่งในนั้นคือการช่วยเหลือชาวมุสลิมทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน

โพ บอกว่า พวกนี้ฝึกง่ายกว่าม้ง เขารู้ว่าโครงการดังกล่าวไม่มีทางสำเร็จ เพราะคนพวกนี้เป็นชนกลุ่มน้อย ไม่มีทางเอาชนะจีนได้ เขาจึงถอนตัวเพื่อความปลอดภัยของชาวมุสลิมเอง

ภารกิจที่ยากที่สุดของโพ คือการหนุนพวกคัมบาในทิเบต ในค่ายฝึกในอินเดียตอนเหนือ เขาใช้เวลานาน 4 ปี

"เรื่องนี้..ห้ามพูด โนคอมเมนท์.." บูลพูดพลางขยิบตาให้โพแย้มต่อถึงเรื่องราวที่เขาและพวกคัมบาในดินแดนหลังคาโลก.." โน ฟักกิ้ง คอมเม้นท์.." แต่ให้ตายสิวะ พวกคัมบามันเยี่ยมจริงๆ ..พวกนี้สกปรกมอมแมมไปหน่อย " แม่ง

หันตูดออกนอกหน้าต่างรถแล้วขี้...ทำกันอย่างนี้ทุกคนเลยแม้แต่สาวๆ..คุณเห็นอย่างนี้ก็หมดอารมณ์เสียแล้ว..กลิ่นตัวสุดจะทนทาน ถ้าคุณมีเมีย พี่ชายน้องชายคุณเป็นสิบๆ พวกมันจะมานอนกับเมียคุณ ไม่ได้เกี่ยวกับเซ็กส์อะไรหรอก แต่มันเป็นข้อตกลงภายในครอบครัว "

โพเล่าว่า เรื่องการรบพวกคัมบาอันดับหนึ่ง จีนมุสลิมอันดับสอง ม้งอันดับสุดท้ายในเรื่องความเป็นนักรบ

สมองพวกม้งมึนชาต่อความรับรู้ เทคนิคเพียงพื้นๆอย่างการปรับศูนย์ยิง ข้อแตกต่างระหว่างการยิง100 เมตร กับ 600 เมตร คุณไม่มีวันอธิบายให้คนพวกนี้เข้าใจได้ อาจเป็นเพราะเขาใช้ปืนแก๊ปที่ยิงไกลแค่ 30 เมตร ฉันลงทุนวาดวิถี

กระสุนให้ดูก็ยังไม่รู้เรื่อง วิธีปรับปืนค.ยิ่งไม่ต้องสอนเลย เหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา

โพ เป็นคนประเภทขวานผ่าซาก เขาสะใจถ้าได้เฉือนคำพูดแสบๆใส่คนอื่น

เขาใช้เหล้า และเรื่องโจ๊กสัปดนเป็นเครื่องคลายเครียดในสถานการณ์ที่เป็นอยู่

9.ข้าวเหล็ก

แฮริแมน ผู้แทนฝ่ายอเมริกัน แคนาดี้เรียกเขาว่า "ครอกโคไดน์"(ไอ้เข้) เพราะเขามีเล่ห์เหลี่ยมในการเจรจามาก

วิลเลี่ยม โคลบี้ ตัวแทนของซัไอเอ ขอเข้าพบแฮริแมน เรื่องที่เวียดนามเหนือบุกโจมตีม้ง ละเมิดข้อตกลงเจนีวา

โคลบี้ หน้านกฮูก พูกกับแฮริแมนว่า หากไม่ส่งอาวุธให้ม้ง เวียดนามเหนือจะครอบครองลาว นั่นหมายถึงข้อตกลงเจนีวาไร้ความหมาย แฮริแมน เอามืออุดหู โคลบี้ โกรธมาก ตะโกนใส่หูแฮริแมนเหมือนคนบ้า

ในที่สุด เขาก็ยอมตามโคลบี้

ซุลลิแวน ผู้ช่วยแฮริแมนกำลังอยู่ในวอชิงตัน
ขณะนั้นเพนตากันกำลังจำลองสงครามหลังจากที่อเมริกันถอนจากลาวตามข้อตกลงเจนีวา มาตั้งหลักในเวียดนามใต้

เพนตากอน ออกแบบจำลองสงครามระยะ 10 ปี ต่อไปข้างหน้า ให้มีการแข่งขันกันสองฝ่าย ใช้เวลาเล่น 1 สัปดาห์ ทีมสีฟ้าแทนพันธมิตรอเมริกันและเวียดนามใต้ สีแดงแทน โซเวียต จีน และเวียดนาม

ซุลลิแวน เล่นทีมสีฟ้า..ให้นายพล แม็กเวล เทเลอร์ เป็นฝ่ายแดง

บทสรุปสมมุติในปี 1972 ออกมาว่าสีแดงแต้มเต็มบริเวณอินโดจีน เวียดนาม กัมพูชา

เกมส์ โอเมก้า ออกมาแบบนี้ จึงต้องมีการลองเป็นครั้งที่สองในปี 1963 ดีนรัสต์ และโรเบิร์ต แม็กนามารา รัฐมนตรีกลาโหม เข้าร่วม นายพลลีแมน กล่าวว่า มีการประเมินการโจมตีทางอากาศต่ำเกินไป จึงต้องประเมินใหม่ เปลี่ยน

กติกาใหม่ คราวนี้ ใหซุลลิแวน เป็นฝ่ายจีน ผลปรากฏว่า ฝ่ายอเมริกันและพันธมิตร พ่ายแพ้เหมือนเดิม

แต่ทั้งดีนรัสต์ และ แม็กนามารา จำต้องเพิกเฉยต่อผลของแบบจำลองสงคราม เพราะโซเวียต จีน ต่างมุ่งเข้าสู่เวียดนามโดยหนุนฝ่ายเวียดนามเหนือเต็มที่ จีนยังได้สนับสนุนคอมมิวนิสต์อินโดนีเซีย ในที่สุด รัสต์ และแคนาดี้ ตัดสิน

ใจปักหลักสู้ในเวียดนามใต้

ภายในจิตใจของวอชิงตัน ลาวเป็นแค่ " ติ่งหูดของหมูสกปรกตัวหนึ่ง " ไม่มีใครใส่ใจเรื่องลาว ทุกคนทึกทักเอาเองว่า ข้อตกลงเจนีวา จะแก้ปัญหาในลาวได้ ความคิดส่งเสริมพวกชาวเขากลายเป็นความคิดล้าสมัย

แต่อย่างไรก็ตาม นานวัน อเมริกันยิ่งมองเห็นว่า ยังไงเสียเวียดนามก็ต้องละเมิดข้อตกลงเจนีวา

ข้าวเหล็กเริ่มถูกลำเลียงมายังฝ่ายม้ง เพราะมีเหตุการณ์ที่ฝ่ายปะเทดลาว เคลื่อนกำลังเข้าโจมตีลาวฝ่ายเป็นกลางของกองแล ซึ่งขณะนั้น ในลาวฝ่ายเป็นกลาง เริ่มมีพวกเอนเอียงไปเข้ากับฝ่ายซ้าย ฝ่ายปะเทดลาวเคลื่อนกำลังเข้ามาตั้ง

มั่นทางตะวันตกของทุ่งไหหิน ปิดกั้นเส้นทางสู่เวียงจันทร์ วังเปาตัดสินใจส่งกำลังเข้าผลักดัน

วังเปากับลอว์เลนซ์ วางแผนการรบร่วม มิให้วังเปาทำผิดพลาด กองทัพเรืออเมริกัน ส่งจรวดเหลือใช้มาให้ อาวุธหนัก รวมทั้งปืนใหญ่โฮวิตเซอร์ ส่งเสียงหวีดหวิวผ่านอากาศสู่เป้าหมาย วังเปาอำนวยการยิงด้วยตนเอง ลอว์เลนซ์

บอกว่า " เขาทำอย่างกับตัวเองเป็นนายทหารปืนใหญ่ " กระสุนเกือบทั้งหมดพลาดเป้า แต่ก็ทำให้ฝ่ายปะเทดลาวล่าถอย พวกม้งขวัญกำลังใจมีมากขึ้น ลาวฝ่ายเป็นกลางที่แตกเป็นสองฝ่าย อีกฝ่ายเข้ากับฝ่ายปะเทดลาว แต่กองแล

กับอีกฝ่าย ก็หันมาเข้าฝ่ายวังเปา ดุลยภาพของกำลังเปลี่ยนแปลงไป

เหตุการณ์สำคัญอีกอย่างที่เกิดขึ้น คือ แฮริแมน ได้เป็น รมต.ช่วยต่างประเทศ จึงไม่มีเวลาให้ลาว ตั้งให้ ฮิลส์แมน ผู้ซึ่งเคยนำกองกองโจรในพม่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นผู้ดูแลเรื่องลาวแทน

ฮิลส์แมน คิดว่าตัวเองคือผู้เชี่ยวชาญสงครามกองโจร เมื่อโคลบี้ ตัวแทนซีไอเอ เดินทางไปพบ จึงไม่ต้องตะโกนกรอกหูฮิลส์แมน เหมือนที่เคยทำกับแฮริแมนอีกแล้ว อเมริกัน หันไปส่งอาวุธให้ม้งใหม่อีกครั้ง

เครื่องบินนานาชนิด ขนอาวุธ กระสุนไปยังล่องแจ้ง วังเปามีกำลังใจมาก ถึงขนาดบางครั้งออกทำการรบด้วนตนเอง เขายังคงเดินป่าอย่างชำนาญ

ปี 1963 แลร์ ขอให้วังเปา ขัดขวางขบวนลำเลียงของเวียดนามเหนือ บนเส้นทางโฮชิมินท์ (ทางหลวงหมายเลข 7 ) บริเวณตะเข็บชายแดนเวียดนามเหนือ ภารกิจนี้ซับซ้อนกว่าการโจมตีทหารปะเทดลาว แลร์จึงต้องไปวางแผนด้วยตน

เอง พร้อมกับผู้เชี่ยวชาญวัตถุระเบิดของซีไอเอประจำอุดรคอยช่วยอีกแรง

ระเบิดแบบเครเทอร์ ชาร์จ เพื่อทำลายพื้นผิวถนน หน่วยพารูของไทย ทำหน้าที่สาธิต โดยขุดหลุมแล้วสอดชนวนเข้าไป ใช้ดินกลบปากหลุมแล้วกดระเบิด ลอว์เลนซ์หลบดูอยู่ที่มุมห้อง โทนี่ โพ เหน็บขวดเหล้า ดูอย่างพอใจ เขาไม่

ต้องทำอะไร หน่วยพารูของไทยจัดการได้เยี่ยมอยู่แล้ว

เป้าหมาย 2 แห่ง ถูกกำหนดขึ้น ทางตะวันออกของบ้านบาน และหนองแฮด.. พวกพารู รับหน้าที่ชุดวางระเบิดทำลาย กับทหารม้ง หัวกะทิ รวมเป็น12 ทีม โพ ประสานเครื่องบินทิ้งร่มวัตถุระเบิดให้ พวกเขานำระเบิด เครเทอร์ ชาร์จ

และ ซีโฟร์ 2 ชุด วางลงเคียงกันก้นหลุม พร้อมตั้งเวลาจุดระเบิด ทหารม้งคอยคุ้มกันอยู่ใกล้ๆ แล้วกลางดึกของคืนเดือนสิงหา 1963 เสียงระเบิดก็ดังกัมปนาท ระเบิดได้ทำลายผาขนาดย่อมตัดถนนขาดจากกัน เครื่องบินตรวจการณ์

เห็นทหารปะเทดลาวยืนดูถนนที่แหว่งไปอย่างงุนงง

บูล ได้รับเชิญเข้าร่วมฉลองความสำเร็จ เขาคุยโม้ว่า เขาเคยเป็นผู้ชำนาญอาวุธมาก่อน เขาภูมิใจกับหน่วยพารูของไทยมากที่ทำสำเร็จ และเขาคุยให้ใครต่อใครฟังว่ามีส่วนร่วม ( แต่ความจริง มีคนบอกว่า บูล ไม่เคยเข้าร่วมสงครามโลก

ครั้งที่ 2 เขาแค่เฝ้าโกดังส่งกำลังบำรุงในแนวหลังที่แคนซัส)

รุ่งขึ้นโพ เดินอาดๆเข้ามาในกระท่อมของบูลที่ซำทอง ถือระเบิดเครเทอร์ ชาร์จ เข้ามาในกระท่อม ด้วยอาการมึนเมา พร้อมกับบอกว่า มันจะระเบิดแล้ว .. โพ บอกบูลว่า เอามันไปด้วยสิ ผมจะไปเข้าประชุม.ไม่รู้จะเอาไว้ทำไม ..
บูลเหงื่อตก ร้องบอกว่า คุณไม่รู้แล้วผมจะรู้ได้ไง..
" อ้าว..ไหนว่าคุณเป็นคนระเบิดถนนเอง.."
" อ๋อ ก็เด็กผมมันทำ พวกพารูชาวไทยนั่นไง "

" พอพ บูล..(โพ ระเบิดเสียงใส่ ) ไอ้ห่าเอ๊ย..ไม่มีคนไทยในลาวเข้าใจไม๊ ทำไมชอบลืมเรื่อย...เราต้องปกปิดที่มาคนพวกนี้.."

โพ ลอว์เลนซ์ และวังเปา ไม่มีทางรู้เลยว่า เกมส์โอเมก้า จบลงอย่างไร เขารู้เพียงแต่ว่า ภารกิจในลาวและสงครามย่อยๆของเขา ดุเดือดเข้มข้นขึ้นทุกขณะ

10. ระบบราชการ
หมอเวลดอน กับภรรยา ต้องการหาสิ่งแปลกใหม่ในชีวิต เขาสมัครงานที่ยูเซด และใช้เส้นสายเพื่อจะได้เดินทางไปทำงานที่ไหนสักแห่งที่ไม่จำเจเหมือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยูเซด คนหนึ่งได้ทาบทามเขาให้ไปที่ลาว

เขารีบกลับมาดูแผนที่ว่าลาวมันอยู่ตรงไหนของโลก เขาหาข้อมูลได้ไม่มาก เพราะลาว ไม่เคยมีสัมพันธ์กับอเมริกันมาก่อนในอดีต รวมทั้ง กัมพูชาและเวียดนามด้วย

เขามาถึงเวียงจันทร์ พบการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่ที่เย็นชา และผอ.ยูเซดบอกว่ายังไม่มีตำแหน่งว่าง ความตั้งใจของเวลดอน ต้องการมาวางระบบสาธารณสุขในลาว จึงไม่คืบ

ช่วง 2 -3 วันแห่งความเย็นชาของระบบราชการ นั้น ก็มีชายผมหงอก เอ็ดการ์ บูล เดินเข้ามาที่ห้องทำงานของหมอเวลดอน มาติดต่อรับเวชภัณฑ์ เวลดอนสงสัยว่าเขาคือใครเพราะไม่มีในรายชื่อที่ต้องจ่ายเวชภัณฑ์ให้ แต่บูลก็ไม่ยอม

เปิดเผยงานของเขา เวลดอนพยายามถามงานของบูล บูลเพียงแต่บอกว่า ให้รีบบินไปหาเขาที่ซำทองด่วนที่สุด

สองสามวันต่อมา เวลดอน ก็ขึ้นเครื่องเฮลิโอ มุ่งหน้าขึ้นเหนือ เขาเห็นเทือกภูใบ แทงยอดเสียดฟ้าน่าเกรงขาม ก่อนที่เครื่องจะปักหัวลงสนามบินที่ทำด้วยดินอัด มีกระท่อมไม้ไผ่ปลูกอยู่เรียงราย

บูล รอรับเขาอยู่ และทันทีที่พบกัน บูลก็พาเขาไปที่ห้องทำงาน ต่อมาก็พาเขาเดินเท้าไปพบนายทหารคนหนึ่ง ชื่อว่าวัง อะไรสักอย่าง หน้ากลมเหมือนดวงจันทร์ รวมทั้งได้พบอเมริกันสองสามคนที่นั่น
หลังจากนั้นเขาก็ต้องกลับเวียงจันทร์

ที่เวียงจันทร์ หมอเวลดอน ไม่ประสบความสำเร็จในการทำงาน ตอนนั้นเองบูลก็มาหาเขาและชวนเขาไปซำเหนือ เขาเบื่อหน่ายงานที่เวียงจันทร์เต็มที จึงออกเดินทางไปกับบูล

เขาไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ชื่อว่าห้วยหนอง วางตัวอยู่ตามสันเขาชันเหมือนสันมีด จากที่นั่น มองเห็น " ภูผาที " ยืนตระหง่าน เลยไปทางตะวันออก มีหุบเขาเป็นที่ตั้งของเมืองซำเหนือ ที่ซึ่งต่อมาไม่นาน กองบัญชาการใหญ่ของฝ่าย

ปะเทดลาว เลยจากนั้นไป 120 ไมล์ ก็คือ ฮานอย เมืองหลวงของเวียดนามเหนือ เขาประหลาดใจมาก ที่เขายืนอยู่ใกล้กับฮานอยมากว่าเวียงจันทร์เสียอีก

โรงพยาบาลแห่งใหม่ มี 14 เตียงสะอาดสะอ้าน ทหารหน่วยพารูคนหนึ่งชื่อแซม เป็นผู้ควบคุมคนม้งให้สร้างโรงพยาบาลไม้ไผ่มุงหญ้า โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสักแดงเดียง

วังเปา บูล เวลดอน และแขกผู้มีเกียรติ ทำพิธีเปิดโรงพยาบาล แซมเล่าให้เวลดอนฟังว่าอหิวาตกโรคกำลังระบาด

เวลดอนบินไปล่องแจ้ง ไปฉีดวัคซีนให้กับวังเปาและคนของเขา จากนั้นก็กลับไปที่ห้อยหนอง เขาบุกป่าฝ่าดงไปหลายหมู่บ้าน ผ่านป่าดงดิบทึบที่แสงแดดไม่เคยส่องพื้นดินมาชั่วนาตาปี มีนายทหารลาวลุ่ม ชื่อพันตรีทอง เป็นคนคุ้ม

กัน เขาประทับใจในตัวทองมาก มีทั้งความรับผิดชอบและระเบียบวินัย ผิดกับคำพูดของอเมริกันที่บอกเขาว่า พวกลาวลุ่มไม่เอาไหน

แต่เวลดอนมีปัญหาในเวียงจันทร์ เจ้านายของเขา คือ ชาร์ส แมน ไม่ยอมของงบประมาณจ้างเขา

เวลดอน ไปปรึกษากับบูล บูลเอ็ดตะโรลั่น ด่าระบบราชการ รวมทั้งด่าเวลดอนด้วยว่า คิดแต่เรื่องตัวเอง ทำให้เวลดอนงงเป็นไก่ตาแตก แต่บูลก็บอกเวลดอนว่า เอาล่ะ ตอนนี้คุณอยู่เฉยๆไว้ก่อน

ไม่นานนัก บูลก็ใช้เส้นสายซีไอเอ เข้ามาจัดการ เวลดอน ได้จัดตั้งหน่วยแพทย์ชนบท สอดคล้องกับงานพัฒนาของยูเซด

ผอ.ซีไอเอ เรียกเขาไปพบ แล้วเอาถุงใบหนึ่งให้เขา ภายในมีเงินกีบบรรจุอยู่ปึกใหญ่ และบอกเขาว่า เอาไปซื้อยา ซื้อเข็มฉีดยา ผ้าพันแผล อะไรก็ได้ ไม่ต้องมีใบเสร็จ ไม่ต้องรายงานผม

ต่อมาภรรยาเขายังได้ข่าวดีเรื่องงาน เขารีบโทรไปหาบูล ..คนของบูลบอกว่า บูลเข้ากำลังพบกับท่านทูต

เขารู้ทันที ระบบราชการ นี่แหละคือตัวถ่วง แต่ก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในระบบราชการทำให้เรื่องต่างๆเดินไปได้ ..และขณะนี้ เวลดอนก็ถูกชักชวนให้เข้ากลุ่มกับพวกอริกับราชการ ที่ยากจะเอาชนะเหมือนพวกปะเทดลาว และ
เวียดนามเหนือ

11. สร้างชาติ

ปี 1963 ปลายปี มีรายงานว่าเวียดนามเหนือซ่อมทางหลวงหมายเลข 7 ที่ถูกพารูระเบิดเสร็จแล้ว มีขบวนรถบรรทุกเข้ามา ลอว์เลนซ์ต้องออกไปเคลื่อนไหวจัดตั้งทีมสำรวจ

ขณะอยู่ในภวังก์หลับเพราะเหน็ดเหนื่อยกับภารกิจ พารูนายหนึ่งก็ปลุกเขาและส่งวิทยุคลื่อนสั้นให้ฟังวอยซ์ ออฟ อเมริกา ภาคภาษาอังกฤษ กำลังรายงานข่าวดัลลัส " การลอบสังหารประธานาธิบดี แคนาดี้ "

ในชั่วโมงต่อมาที่ล่องแจ้ง โพ ผลุนผลันเข้ามาในกระท่อมของ บิล แลร์ หิ้ววิทยุติดมือมาด้วย พร้อมกับพูดว่า" ฮื่ม ในที่สุด ไอ้ระยำนั่นก็โดนจนได้ "

ก่อนหน้านี้โงดินเดียม ประธานาธิบดีเวียดนามใต้ ถูกลอบสังหาร แลร์ไม่คิดว่า โพ มาหาเขาเรื่องนี้
แลร์ ถาม โพ ว่า " ใครถูกเก็บ..โทนี่ "
" ปธน.อเมริกา โว้ย " โพ พูดอย่างสะใจ

แบร์อึ้งไปชั่วครู่ แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ ทำไมโพ ถึงสะใจกับข่าวนี้ แต่ในที่สุดก็ได้รับรู้ว่า เพื่อนของโพ หลายคนถูกสังหารที่ เบย์ ออฟพิกส์ ในคิวบา เพราะแคนาดี้ สั่งระงับความช่วยเหลือ โพ จึงเกลียดแคนาดี้ ในทรรศนะของเขา

มองว่า คนที่ทิ้งทหารของตนไว้ตามยถากรรม เป็นอาชญากรรมสำหรับพวกนาวิกโยธิน

ไม่มีใครรู้ว่าลินดอน บี จอห์นสัน คิดอย่างไรกับประเทศเล็กๆอย่างลาว

แต่พวกเขาก็มีงานล้นมือ จนไม่มีเวลาสนใจกับเรื่องที่ตนเองควบคุมไม่ได้

ลอว์เลนซ์กับวังเปาสนิทสนมกันมากขึ้น วังเปาบอกลอว์เลนซ์ ว่าเขานับถือแลร์ เหมือนพี่ชาย แต่กับโพ เขามองอย่างมิตรร่วมรบ ดูเขาไม่ชอบนิสัยของโพ ที่ชอบเมาขาดสติ

ลอว์เลนซ์ก็ระวังตัวเมื่อต้องยุ่งเกี่ยวกับโพ เพราะเขาที่เป็นคนโหดร้าย ชอบสะสมใบหูข้าศึก ชอบทำระเบิดแสวงเครื่องเล่น " ก็พวกมันตายแล้ว พวกนาวิก เขาชอบทำกันอย่างนี้ ไม่เห็นแปลก "

ขณะที่การปฏิบัติการกำลังขยายตัว หน่วยพารูมีบทบาทมาก พวกเขาพูดภาษาท้องถิ่นได้ โพพบว่า เขาทำงานสู้พวกนี้ไม่ได้ จึงพยายามหาบทบาทที่เหมาะกับตัวเอง เขาออกไปใกล้จุดปะทะมากขึ้น กองบัญชาการที่อุดร และเวียงจันทร์ ตำหนิโพ โพชอบเมาแอ๋ ทำตัวน่ารังเกียจ

ลอว์เลนซ์เองก็มีปัญหา ที่ต้องดื่มเหล้าใส่สีกับวังเปาบ่อยๆ เขาเกรงใจวังเปาจึงต้องดื่ม ทำให้เขาแพ้เหล้า หน้าบวมเหมือนนักมวยยก 15

คืนหนึ่งขณะเขาแพ้เหล้าอย่างแรง ก็มีเสียงปืนดังขึ้นในค่ายวุ่วายไปหมด เขาโผไปที่หน้ากระท่อม เห็นทหารม้งกำลังยิงปืนขึ้นฟ้า ใส่ดวงจันทร์เหมือนที่แลร์ เคยเล่า

ลอว์เลนซ์ผู้เป็นทั้งสายลับและนักมานุษยวิทยา รู้ดีในเรื่องความเชื่อและศรัทธาของคนท้องถิ่น พวกม้งมีผีอยู่รอบกาย ก้อนหิน ต้นไม้ใบหญ้า

วันหนึ่งมาคนตาย เขาเห็นหญิงม้งร้องไห้ฟูมฟาย ปิ่มว่าจะขาดใจ พวกผู้หญิงไม่ยอมห่างใบหน้าศพ คอยลูบไล้อย่างทนุถนอม จนเมื่อเหนื่อย มีคนอื่นมาร้องฟูมฟายแทน หญิงคนแรกก็จะถอยออกมา เธอกลับมีอาการปรกติเหมือน
ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

วันที่ 6 ของพิธีศพ มีการนำหีบศพขึ้นแบกวนรบเสา พอถึงรอบที่ 8 ก็วนกลับ เพื่อไม่ให้วิญญาณผู้ตายมากลับบ้านถูก มาหลอกหลอนญาติผู้ตาย

ลอว์เลนซ์ทบทวนสิ่งที่ได้เห็น เขาสรุปได้ว่า พวกม้งไม่มีวันเป็นกองกำลังที่สมบูรณ์แบบได้ พวกเขาผูกพันกับสถานที่ บวกกับพื้นฐานขาดการศึกษา และความเป็นตัวของตัวเองสูง ได้จำกัดภารกิจชาวม้ง ให้เหลือแค่การโจมตีก่อกวน

ข้าศึก ..สมมุติว่าหน่วยสังเกตุการณ์ที่ซำเหนือพบรถบบรทุกเคลื่อนจากชายแดนเวียดนามห่างจากที่มั่นสัก 100 ไมล์ " ทหารม้งจะไม่มีวันออกโจมตีตอบโต้ พวกเขาจะไม่ทำอย่างนั้นแน่ หากเราให้เขาไปทำการลุกขึ้นสู้เพื่อแผ่นดิน

เกิดย่อมทำได้ ตามข้อตกลงว่าจะให้ปืนสมัยสงครามโลกแก่เขา แต่ให้เขาห่างไกลบ้านเกิดละก็ เขาจะพากันมาหาวังเปา และบอกว่า " นี่มันไม่อยู่ในข้อตกลงนี่ คุณไม่ได้บอกว่าให้เราไปสู้กับไอ้พวกนี้"

สิ่งเหล่านี้ล้วนท้าทายการสร้างชาติม้ง

โครงการให้ความช่วยเหลือต่างๆ เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพของชาติลาว กำลังดำเนินไปพร้อมกับที่ไทย และฟิลิปินส์ แต่ที่ลาว เหมือนหม้ออารยธรรมหลายเผ่าพันธุ์

แลร์ ประสบผลสำเร็จที่ชักนำให้กษัตริย์ลาวเสด็จมาที่ล่องแจ้ง วังเปาจัดขบวนต้อนรับ แสดงความภักดี มันมีความสำคัญต่อวังเปามาก เหมือนเครื่องประกันว่าเขาและคนของเขาได้รับการยอมรับให้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมลาว พวกนายพลลาวลุ่มที่จ้องเล่นงานเขาต่างพากันถอยห่างออกไป

แลร์แอบฝันไปว่า บางที เส้นทางถอยของม้งวังเปาไปแขวงไชยบุรีอาจไม่จำเป็นก็ได้
-----
ทุ่งไหหิน (Plaine de Jarres/Plain of Jars) สมรภูมิรบแห่งสงครามลับที่ไม่ลับในลาว ระหว่างกองกำลังปะเทดลาวที่มีกำลังช่วยรบของเวียดนามเหนือสนับสนุน กับกองกำลังรัฐบาลฝ่ายขวาลาวภายใต้นายพลม้งวังเปาที่มีซีไอเอหนุนหลัง
------------
ประธานาธิบดีโงดินเดียมแห่งเวียตนามใต้(ซ้าย) ถูกลอบสังหารโดยกลุ่มที่ได้รับการหนุนหลังจากซีไอเอ
-------------
ไม่นานนักประธานาธิบดีเคเนดี้ก็ถูกลอบสังหารที่ดัลลัส รัฐเท็กซัสในเวลาไล่เรี่ยกัน
ภาพเหตุการณ์เมื่อประธานาธิบดีเคเนดี้ ถูกมือปืนยิงด้วยปืนติดลำกล้องส่องยิงระยะไกลเมื่อปี ๑๙๖๓ ส่งผลให้รองประธานาธิบดี ลินดอน บี จอห์นสันต้องสะสางภาระกิจต่อนั่นคือการเข้าสู่สงครามเวียตนามอย่างเต็มตัว
------------



Create Date : 07 มกราคม 2554
Last Update : 7 มกราคม 2554 23:37:46 น. 0 comments
Counter : 3857 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สุริยาอัสดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เปิดโลกด้วยแสงแห่งปัญญา
Thaiflood
Friends' blogs
[Add สุริยาอัสดง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.