อาทิตย์สาดส่อง..ความจริงจักปรากฎทั่วปฐพี!!!
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
29 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 
ไม้ตาย ..ของฝ่ายค้าน

ไม้ตาย ..ของฝ่ายค้าน
โดย ดร.ไก่ Tanond เมื่อ 5 สิงหาคม 2012 เวลา 9:17 น. ·
อาวุธที่ร้ายแรงสุดเพื่อยุติปัญหาหนักสุดในทางการเมือง..
หลังๆมานี่เห็นผู้รู้ ต่างออกมาเปิดแนวคิดสำหรับอาวุธที่เหมาะสม ในยามที่บ้านเมืองเราเข้าตาจนในทางการเมืองกันเช่นนี้
เห็นหลายท่านออกมาบอกว่า..
1.ต้องใช้ทหาร เข้ามาทำหน้าที่พิทักษ์ชาติบ้านเมือง..
2.ต้องใช้การชุมนุมกดดันด้วยเหตุด้วยผล จากจำนวนผู้คนที่มากมายพอ..
3.ต้องใช้ตุลาการภิวัฒน์ ดำเนินคดีที่เป็นตัวปัญหาหลักอย่างเอาจริงเอาจัง และรวดเร็ว..
4.บางท่านก็ว่า ต้องไปตั้งพรรคการเมืองเอง เพื่อให้ได้ส.ส.น้ำดี ไปไล่ส.ส.น้ำเน่า?
ก็คงไม่มีอะไรจะไปชี้ชัดได้ ว่าอะไรสิ่งไหนจะเหมาะกว่ากันนะครับ แต่สำหรับผม พูดไปก็หลายครั้งแล้วว่า ..ผมอยากเห็น "การเมืองแก้ปัญหาด้วยการเมืองเอง" ก่อนที่ภาคส่วนอื่นใด จะต้องมา

แบกภาระหน้าที่แทนฝ่ายการเมือง ที่เป็นผู้ก่อแต่ปัญหาขึ้นเองทั้งสิ้น
ผมอยากเห็นอะไรบ้างครับ..
1.ฝ่ายการเมืองทั้ง 2 ฝ่าย ได้ตระหนักและรับผิดชอบต่อภารหน้าที่ในทางการเมือง ในทางรัฐสภากันอย่างเต็มที่เสียก่อน ..และหากแม้นว่าได้ทำกันเต็มที่แล้ว..
2.กลไกในระบบรัฐสภาเอง ก็ยังไม่สามารถจะหยุดยั้ง บั่นทอนการดำเนินการจากฝ่ายรัฐบาล ที่จะเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงแห่งชาติ และสถาบันฯได้ ฝ่ายค้านก็จำต้องก้าวผ่านความรับผิดชอบ

ตามภารหน้าที่ในทางการเมืองแบบเดิมๆ..
3.โดยก้าวผ่านมาสู่ "การเสียสละทางการเมือง" ด้วยการลาออกแบบยกพรรค เพื่อให้อำนาจทางการเมืองนั้นสะดุดหยุดลงไปชั่วขณะ เพื่อให้กลไกตามรัฐธรรมนูญ ที่มีไว้รองรับ ได้เข้ามาขั้นกลาง

ความขัดแย้งของฝ่ายทางการเมืองเอง เยียวยาแก้ไขปัญหาที่ได้ทำให้การเมืองถึงทางตัน เพื่อให้การเมืองกลับมาเดินต่อไปได้
การเสียสละทางการเมืองนี้ต่างหากมั้งครับ ที่เหล่านักการเมือง(โดยเฉพาะฝ่ายค้าน ที่ค้านไม่อยู่แล้ว) จำต้องนำใช้ เพื่อแก้ปัญหาในทางการเมืองกัน ก่อนที่ฝ่ายอื่นๆจะต้องออกมาเดือดร้อนวุ่นวาย ทำ

ให้บ้านเมืองต้องลุกเป็นไฟออกมาตายกันกลางถนน อย่างที่ผ่านๆมา
พอจะ "เสียสละ" กันได้ไหมหล่ะฝ่ายการเมือง? จะได้เลิกหลอกตัวเอง และประชาชนกันเสียทีว่า ..การเมืองในระบบแก้ปัญหาในระบบกันเองได้ โดยปราศจากการใช้คำว่า "เสียสละทางการเมือง" 

อย่างที่ว่ามานี้
การเสียสละในทางการเมือง จึงเป็นไม้ตาย เป็นไพ่ใบสุดท้ายในทางการเมืองนะขอรับ เห็นบ้านอื่นเมืองเขาก็ทำกันนี่ ..แล้วบ้านเรา ที่การเมืองมันน้ำเน่ากว่าที่ไหนๆอีกมากมาย นักการเมืองพอจะมีใจ

เริ่มต้นกันได้หรือยัง? และพวกเราประชาชน พอจะเข้าใจ แล้วพร้อมใจกันเรียกร้องกดดันการเสียสละนี้ ให้บังเกิดขึ้นได้หรือยังหล่ะ?
และที่สำคัญ อันไหนมันง่ายกว่ากันหล่ะระหว่าง ออกมา"ชุมนุมเรียกร้องกดดัน" เพื่อไล่รัฐบาล ที่มีอำนาจรัฐพร้อมสรรพอยู่ในมือ กับ การ"เรียกร้องสนับสนุน" ให้ฝ่ายค้านเสียสละ! คงไม่ต้องนึกคิด

กันมากมั้งครับ เพราะง่ายนิดเดียว  ประชาชนคนไทยอย่างเรา ได้เสียสละเพื่อฝ่ายการเมืองแบบเสียเปล่า มาเยอะมากจนเกินไปแล้วนะขอรับ
/////////////////////////////////////////
ถอดรหัสยุทธศาสตร์..กบฏแห่งยุคสมัย Decoding of the present day Rebels in Thailand.
โดย ดร.ไก่ Tanond เมื่อ 29 กรกฎาคม 2012 เวลา 9:48 น. ·
นับแต่เรามีรัฐบาลพท.ที่มีอำนาจรัฐ แต่ไม่สามารถปกครองคนทั้งประเทศได้ มา 1 ปีแล้วนั้น หลากหลายเหตุการณ์ความสับสนวุ่นวาย จนถึงความรุนแรงทางการเมือง และในทางสังคม ได้จ่อคิวกัน

เกิดขึ้นแล้วเกิดขึ้นอีก หลายๆครั้งก็เกิดขึ้นเองโดยน้ำมือของรัฐบาลเสียด้วยซ้ำ วันนี้เรามาดูกันครับ ว่าเหตุการณ์ปลายเหตุต่างๆนาๆ ที่เราได้เห็นกัน ไม่ว่าจะเป็นขบวนการล้มเจ้า การเข้าสู่อำนาจรัฐ 

การสร้างรัฐซ้อนรัฐ เปิดศักราชสู่รัฐไทยใหม่ (นิวไทยแลนด์) มันน่าจะมีต้นเหตุและแหล่งที่มาๆจากอะไรกันบ้าง? ใครคิด? ใครทำ? ทำกันอย่างไร? และเพื่อหวังผลอะไร?กันตามรายเหตุการณ์ ด้วย

หลักการสังเคราะห์ตามทฤษฏี Input - Process - Output ดังนี้ครับ.-
ก. 
Output คือ การตีรวนสถาบันฯ และการล้มเจ้า  
Input - ผลลัพธ์เพื่อการล้มเจ้าที่ผ่านๆมา จะทำให้บังเกิดขึ้นได้  ตัว Input ที่ต้องใส่ ต้องสร้างมันขึ้นมา ก็จำต้องประกอบไปด้วย
1.การนำความจริง ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถาบันฯในอดีต มาแปลงมาแก้ให้เป็นความเท็จ ให้เป็นสิ่งโกหกหลอกลวง ที่ได้ทำให้คนไทยที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการล้มเจ้า คิดต่างคิดเพี้ยนกันออกไป

ต่างๆนาๆ แทนความคิดที่เคยเป็นหนึ่งเดียวกันสำหรับคนในชาติ
2.มีการนำใช้มิติเชิงประวัติศาสตร์ ที่ค่อนข้างมีจุดอ่อน คิดเห็นกันไปคนละทางสองทาง  ในประเด็นต่างๆเหล่านี้ เช่น 1.การนำประวัติศาสตร์(ที่ผิดเพี้ยน)ระหว่างพระเจ้าตากสิน - รัชกาลที่๑ มาตั้ง

เป็นประเด็น เพื่อ 2.สร้างความไม่ชอบธรรมให้แก่ราชวงศ์จักรี 3.นำทักษิณมากล่าวอ้างว่าเป็น พระเจ้าตากสินกลับชาติมาเกิด กระทั่งเป็นเจ้ามูลเมือง เป็นเทพอื่นสารพัด 4.นำเรื่องราวเป็นการภายใน

ราชวงศ์ในยุคต่างๆ มาสร้างเรื่อง มาตีแพร่เพื่อสร้างผลในทางลบ
Process - กระบวนการที่จะทำให้ Input ทำหน้าที่ของมันได้ ประกอบด้วย -
1. กำหนดกลุ่มคนเป้าหมาย ที่จะหลอกใช้ในการล้มเจ้า เช่น 1.ชาวบ้านที่คิดน้อย รู้น้อย ทำน้อย คอยพึ่งพาที่ยังอิงวัฒนธรรมทาสเป็นหลักในการดำเนินชีวิต 2.คนไทยในต่างแดนที่ห่างไกลความจริง

จากความเป็นจริงภายในประเทศไทย 3.นักธุรกิจ/นายทุน ที่เป็นพวกเดียวกันในสังคมการเมืองทักษิณที่เต็มใจร่วมมือ เพื่อฝั่งรากแนวคิด สร้างความเข้าใจแบบผิดๆ ด้วยการเผยแพร่สิ่งที่กำหนดใช้

เป็นโฆษณาชวนเชื่อ (สำหรับกลุ่มเป้าหมาย1.และ2.)
2. ส่งผ่านสื่อในสาขาต่างๆ ที่ขบวนการล้มเจ้ามีอยู่ในมือ ทั้งในชนบทและตัวเมือง ทั้งในและนอกประเทศ เช่น ช่องแดงที่ใช้ทั้งเผยแพร่ สร้างวาทกรรม สร้างวัฒนธรรมด้วยดนตรีที่ง่ายต่อการจำและ

เข้าใจ และเพื่อใช้ในการล้างสมองกลุ่มเป้าหมายของพวกตนเอง
3. ส่งผ่านสื่อออนไลน์ ในSocial Media ที่เปิดกว้างทุกประเภท เพื่อเดินมาตรการโลกล้อมประเทศ
4. ส่งผ่านการสื่อสารทางตรง แบบผ่านการชุมนุม การประท้วงกดดันเพื่อสร้างกดหมู่ให้อยู่เหนือกฎหมาย ในขณะที่รัฐบาลตนกุมอำนาจและบังคับใช้กฎหมายอยู่ การประชุมสัมนา ปากต่อปาก กลุ่ม

ต่อกลุ่ม จนถึงชุมชนต่อชุมชน
5. สร้างและจ้างตัวแทนสายนักวิชาการ เพื่อร่วมตอกย้ำประเด็นที่ต้องการใช้ล้มเจ้า โดยใช้ปัจจัยรอบด้านแทน หรือ เสริมเติม เพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกับการใช้สื่อทางตรงข้างต้น ควบคู่ไปกับการจ้างวาน

สื่อต่างประเทศ ให้เปิดประเด็นดังกล่าว เพื่อสร้างกระแสกดดัน เพื่อให้เป็นประเด็นสาธารณะต่อสังคมโลกไปด้วย
Outcome - ?
ข.
Output - คือ การยึดองค์กรต่างๆ ในโครงสร้างหลักทางการเมืองการปกครอง
Input - คือ (ดูโครงสร้างการเมืองการปกครองไทยประกอบ)
1.1 ยึดอำนาจการปกครอง แก้รัฐธรรมนูญ นำอำนาจทั้งปวงมารวมศูนย์ที่รัฐสภา
1.2 ใช้อำนาจรัฐในมือตน ทำลายกลไกแห่งรัฐที่เป็นอยู่ด้วยอำนาจตนเอง เพื่อให้เกิดความหมดศรัทธาต่อความเป็นรัฐเดี่ยว หรือ ระบบการรวมศูนย์อำนาจ มาสู่ความเป็นรัฐในรูปแบบอื่น เช่น 

สาธารณะรัฐ ที่จะสามารถอิงทรัพยากรตามธรรมชาติที่มีอยู่ในแต่ละรัฐ ให้ผู้นำหรือรัฐบาล นำมาใช้ประโยชน์ได้โดยง่าย โดยสะดวกกว่าความเป็นทรัพยากรของรัฐเดี่ยว 
1.3 สั่นคลอนราชบัลลังก์ และพระราชอำนาจ เพื่อเปลี่ยนผ่านระบอบการปกครองไปสู่ระบอบประชาธิปไตย ที่ไม่มีคำต่อท้าย ตามที่พวกตนได้ประกาศไว้ชัดเจน
1.4 บังคับประชาชนฝ่ายตรงข้ามให้อยู่ภายใต้อาณัติ ยอมรับความเปลี่ยนแปลง หรือ บังคับขมขู่ผู้ใต้ปกครองให้อยู่ภายใต้ผู้นำทรราช
Process -
1.แก้รัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนผ่านความสัมพันธ์ระหว่าง รัฐธรรมนูญ กับ รัฐสภา - ที่ต่างกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือหลัก ในการทำให้สิ่งที่ทักษิณต้องการ สามารถเป็นจริงขึ้นมาได้ 
2.และถ้า/หาก ยกร่างใหม่มันทั้งฉบับได้จริง องค์ประกอบในโครงสร้าง (ดูแผนภูมิประกอบ)จะถูกเปลี่ยนแปลงให้ รัฐสภา เป็นศูนย์รวมอำนาจรัฐทั้งปวง ที่สามารถเล่นแร่แปรธาตุรัฐธรรมนูญให้เข้า

ทางตน และหากเป็นเช่นนั้น
3.สถาบันฯ - ก็จะกลายเป็นเพียงเชิงสัญญลักษณ์ การสืบราชสันตติวงศ์ตามจารีตประเพณี จะจบสิ้นลง กษัตริย์จะอยู่ใต้อำนาจรัฐสภา แทนการอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ(อย่างที่เป็นอยู่) พระองค์ใดจะขึ้นจะ

เป็น รัฐสภาจะเป็นผู้กำหนด (เหมือนของเขมร คล้ายของญี่ปุ่น)
4.องคมนตรี - จะถูกยกเลิก ..ทำไม? ก็เพื่อให้สถานะของสถาบันฯนั้น ถูกตัดขาดจากโครงสร้างบนและกลาง เหลือเฉพาะส่วนล่างที่เป็นประชาชนไว้ เพื่อให้เคารพรักได้ตามเดิมแต่เป็นการส่วนตัว 

อย่างที่อดิศร มันปราศนัยบนเวที
5.ตุลาการ -ศาลจะถูกตัดทิ้งความเป็นเอกภาพ จนเกือบหมดสิ้น ใครจะไปจะมา จะขึ้นเป็นตำแหน่งใดๆ กระทั่งจะเข้าสู่ตำแหน่ง ยังอาจต้องมีการให้เลือกตั้งมา หรือ ต้องผ่านความเห็นชอบจาก

รัฐสภา ในฐานะศูนย์รวมอำนาจ ..อันนี้ก็ได้ยินบนเวทีเสื้อแดงถี่มาก
Outcome - ?
ค.
Output คือ การทำให้กลไกแห่งรัฐขาดประสิทธิภาพอย่างรุนแรงเสียเอง - อย่าได้ลืมว่า การเข้าและขึ้นสู่อำนาจทางการเมืองรัฐบาลพท.+คนเสื้อแดงนั้น ก็ไม่ได้ผิดแปลกแตกต่างไปจากการรัฐ

ประหารโดยทหารมากนัก เช่นนี้แล้วการที่คนเสื้อแดงประกาศมาตลอดว่า "ระบอบทักษิณถูกตัดขั้วอำนาจด้วยการปล้นจากทหาร"นั้น ก้ไม่ได้แตกต่างไปจาก "ความรุนแรง ไม่เป็นประชาธิปไตย" 

อย่างที่พวกตนก็ได้ทำไปเช่นกัน มาดูโมเดลการได้มาซึ่งอำนาจของพวกเสื้อแดง ด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ และโกหกหลอกลวงดังนี้ -
สร้างหลักคิด เพื่อโกหกหลอกลวงให้เสื้อแดงเชื่อว่า "การรัฐประหาร ปี2549 สถาบันฯมีส่วนรู้เห็นเป็นใจ"
ยุทธศาสตร์ขั้นต้น -
กลุ่มกดดัน(นปช.) > ชุมนุมกดดันรัฐบาลปชป. > สร้างความวุ่นวายทางเมือง > สร้างความรุนแรงทางการเมือง> ยุยงส่งเสริมให้เกิดสงครามกลางเมือง > เผาบ้านเผาเมือง > เรียกหา พฤษภาทมิฬ

โมเดล > โจมตีสถาบันฯ> ใช้การตายของคนเสื้อแดง เพื่อล้มกระดานการเมือง > เดินหน้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่  
ยุทธศาสตร์ขั้นกลาง -
เน้นเอาทักษิณกลับบ้าน >ซื้อเสียงอย่างหนัก > ออกนโยบายประชานิยมที่โกหกหลอกลวง เสียหายต่อสถานะการคลังของชาติ > เสื้อแดง "เชื่อโดยสนิทใจ" "ต้องการแก้ต่าง แก้แค้น เอาทักษิณกลับ

คืนสู่อำนาจ" "ต้องการเอาชนะ เอาคืน โกรธเคืองสถาบันฯ ทหาร และรัฐบาลปชป." "โดนซื้อเสียงอย่างหนัก" "เลือกด้วยการถูกสัญญาว่าจะให้(สารพัด) > ให้ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง > กำหนด

แหล่งที่มาของการเอาทุนคืน  
ยุทธศาสตร์ปลายทาง -
ขึ้นสู่สถานะผู้ปกครอง > ไม่เน้นประชาชน เพราะแบ่งแยกเป็นหลายฝ่าย ไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ > เน้นเอาทักษิณกลับคืนสู่อำนาจ > หมกเม็ด แอบแฝง การแก้รธน.และออกพรบ.

ปรองดองเพื่อเอาสถานะของทักษิณก่อน รัฐประหาร49กลับคืน > ฟอกขาวทักษิณและการก่อกบฏเสื้อแดงที่ผ่านมา ให้แปรเปลี่ยนเป็น "การ เรียกหาประชาธิปไตย" ด้วยกลไกของรัฐ และอำนาจใน

มือของรัฐบาล ทั้งภายในและภายนอกประเทศ > ดำเนินการล้มเจ้าอย่างต่อเนื่อง > มุ่งทำลายสถาบันฯ และกลไกแห่งรัฐ(ระบบราชการ) > ต่อยอดระบอบทักษิณ ให้เป็นสังคมการเมือง ที่เอื้อ

ประโยชน์ต่อกันได้อย่างกว้างขวาง > ยึดครอง ครอบงำภาคส่วนต่างๆในโครงสร้างทางการเมือง เพื่อให้อยู่ใต้อาณัติตน > เข้าสู่รูปแบบการปกครองแบบเผด็จการโดยพลเรือน เต็มรูปแบบ 
ยุทธศาสตร์เพื่อต่อยอด - (ยังไม่เกิด)
สร้างรัฐไทยใหม่ มีประมุขแห่งรัฐเป็นบุคคลธรรมดา > แบ่งแยกพื้นที่ ที่มากด้วยทรัพยากรพลังงานธรรมชาติออกเป็นส่วนๆ > เข้าครอบครองแหล่งทรัพยากร > ต่อยอดผลประโยชน์ใน ASEAN / 

AEC > เป็นใหญ่ในภูมิภาค โดยอาศัยทำเลที่ตั้ง และแหล่งทรัพยากรของชาติ ที่จะถูกนำมาเป็นของพวกตน > ครองและสืบทอดอำนาจกันในตระกูล แทนสถาบันฯ
Input - คือ
1.1 ปัญหาเรื่องดินแดนไทย - เขมร และแหล่งทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล
1.2 ปัญหา 3 จชต. - นครรัฐปัตตานี เขตปกครองพิเศษ แบบเต็มพื้นที่จังหวัด? ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรทางทะเลเช่นเดียวกัน
1.3 ปัญหาอุทกภัย - ต้นเหตุ ที่นาแม้วมีส่วนหรือไม่? เจตนาให้ท่วมเพื่อหวังผลทางการเมืองหรือไม่?
1.4 ปัญหายาเสพติด - ปราบเพื่อเปิดวงจรใหม่? ยิ่งปราบยิ่งมาก? ยิ่งจับยิ่งเยอะ? ค้าขายกันได้จากในคุก?
1.5 ปรับเปลี่ยนด้วยอำนาจรัฐในมือ เหตุการณ์ความวุ่นวายที่เข้าข่ายการก่อกบฏ ให้กลายมาเป็นการเรียกร้องประชาธิปไตยแทน
Process - รัฐบาล และกลไกแห่งรัฐที่สยบยอม สร้างสถานการณ์ขึ้นเอง จัดการเอง แต่ไม่รับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่ออกมา โยนความผิดพลาดไปที่กลไกแห่งรัฐ ที่สามารถสนองตอบภาระหน้าที่ของ

รัฐบาลได้ เพื่อพยายามสร้างภาพแห่งความเป็นกลไกแห่งรัฐที่ล้มเหลวนี้ ให้ผู้คนได้เห็นกันบ่อยๆและเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจริง เพื่อในที่สุดจะได้แก้ ได้ปรับโครงสร้างทางการเมือง ให้เป็นไปในแบบ

อย่างที่ตนต้องการ ด้วยเสียงข้างมากทั้งในและนอกสภา และจากสังคมการเมืองของพวกตน
Outcome - ?
ง.
Output คือ การยึดและเปลี่ยนประเทศไทย ให้เป็นรัฐไทยใหม่
Outcome - ?
-///////////////////////////

ทั้งนี้ เวลาจะดูพฤติกรรมของคนเสื้อแดงที่ผ่านมา ว่าเข้าข่ายความผิดกบฏนี้เช่นไรบ้าง ก็ขอให้แยกวรรค แยกประเด็นให้ดีเช่นนี้ครับ

1.ความผิดอาญาฐานกระทําความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร

2.โดยใช้กําลังประทุษร้าย หรือ ขู่เข็ญว่าจะใช้กําลังประทุษร้าย เพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ

3.หรือ ล้มล้างอํานาจนิติบัญญัติ

4.หรือ ล้มล้างอํานาจบริหาร

5.หรือ ล้มล้างอํานาจตุลาการ

6.หรือ แบ่งแยกราชอาณาจักร

7.หรือ ยึดอํานาจปกครองในส่วนใดส่วนหนึ่งแห่งราชอาณาจักร

หากดูกันตามข้อ1 - 7 จะพบว่าพวกเสื้อแดงได้กระทำผิดครบถ้วนทุกข้อแล้ว ซึ่งในทางปฏิบัติเพื่อบังคับใช้กฎหมายนั้น ทำผิดเพียงข้อใดข้อหนึ่งก็ถือว่า กระทำผิดฐานก่อกบฏ แล้วนะขอรับ

อีกทั้งเพราะคำๆนี้ ไม่มีใครนำใช้เทียบเคียงกับการกระทำของคนเสื้อแดงที่ผ่านๆมา ผู้มีอำนาจหน้าที่ทั้งที่ผ่านมา และที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จึงเท่ากับสนับสนุนพฤติกรรมที่ส่อไปในการกระทำการกบฏ 

และกำลังปล่อยให้คนชั่วลอยนวล —
/////////////////

... "อเมริกา กับ ( เผด็จการ ) สฤษดิ์ 1957 "
Jeerachart Jongsomchai

... 2476 ( 1933 ) โครงการร่างแผนเศรษฐกิจ ทำให้ ปรีดี และ ป.พิบูล แตกแยกทางความคิด
( และกลุ่มพวกพ้อง ผลประโยชน์ )

... 1941- 1945, ช่วง "สงครามโลกครั้งที่ 2" , เกิดเสรีไทยทำงานต่อต้าน ป.พิบูล ที่ ร่วมกับ ญี่ปุ่นรบ (เพราะรบสู้ไม่ได้) โดย "เสรีไทยฝ่ายอเมริกา" คือ "เสนีย์ ปราโมช", ฝ่ายอังกฤษคือ "ปรีดี พนมยงค์" 

( ตอนนั้น อังกฤษ อเมริกา และจีนคอมมิวนิสต์ ร่วมต้านญี่ปุ่น )

... หลังสงคราม ญี่ปุ่นแพ้ ป.พิบูลถูกฟ้องเป็นอาชญากรสงครามถูกถอด ไปทำนาทำไร่ 


... หลังสงคราม กลุ่มคณะราษฎร แตกเป็น 3 ฝ่าย 1) ฝ่ายเสนีย์(ประชาธิปัตย์ ) 2) ฝ่าย ปรีดี 3) ฝ่าย ป.พิบูล ( อาจถือว่าเป็นผลพวงของคณะราษฎร หมด เพราะได้ประโยชน์ร่วมกับกลุ่มที่ล้มเจ้านาย 

2475 )

... "เสรีไทย" ยิ่งใหญ่มาก มีอังกฤษ และอเมริกาหนุน ... ปรีดีอยากกำจัดอำนาจทหารเปลี่ยนแปลงกรมกอง ลดเงินเดือนลง ( หลังสงครามเศรษฐกิจไม่ดี ) ลดจำนวนลง ลดงบประมาณ ย้ายคนที่เป็น

ฝ่ายตรงข้ามออก 

... ทำให้ทหารไม่พอใจ จึง "ร่วมมือ" กับประชาธิปัตย์ (ที่เป็นกลุ่ม "ขุนนางอำมาตย์" ที่ลึกๆก็อยากใหญ่โตเหมือนเจ้า อยากตีตนเท่าเจ้า อยู่แล้ว) และ "พ่อค้า" เช่นกลุ่มธนาคาร กรุงเทพ ของ ชิน ที่กลัว 

"คอมมิวนิสต์" ของปรีดี , เกิดปฎิวัติโดย "ผิน ชุนหวัณ" แล้ว ยกอำนาจกลับให้ ป. พิบูล และ เผ่า ศรียานนท์ปกครอง เมื่อปี 1947 ( 2490 )

... ทั้ง 3 กลุ่มนั้นจริงๆ ลึกๆ ก็ไม่เอาเจ้า พยายามลดทอนอำนาจเจ้าลงเรื่อยๆ พยายามจะปกครองอำนาจกันเอง ทั้ง "ขุนนาง + ทหาร + พ่อค้า"

... แต่ตอนหลัง อเมริกา หนุน เผ่า ให้ล้ม ป.พิบูล ๆ จึงเริ่มระแวง อเมริกา จึงเริ่มสานสัมพันธ์กับจีนในปี 1955 ( 2498 ) ลึกๆคืออยากฟื้นสัมพันธ์กับปรีดี ( ลี้ภัยที่จีน ) ตามประสาเพื่อนเก่า ทำงานใหญ่ 

ปกครองประเทศอีกครั้ง บางกระแสอ้างว่าจะทำไทยให้เป็น "สาธารณรัฐ" แต่ปรีดีบอกว่าใส่ร้ายกัน ไม่จริง

... ซึ่งอเมริกากลัวจีนแดง ขยายลัทธิคอมมิวนิสต์ เริ่มอยากล้ม ป. เขี่ยทิ้ง

... 2500 ( 1957 ) "อเมริกา" หนุน "สฤษดิ์" เพราะต้องการปราบคอมมิวนิสต์ ที่จีนแดงหนุนหลัง ( หลัง 1949 จีน เหมาชนะ เจียง ไค เช็ค เริ่มยิ่งใหญ่ ขยายและส่งออก ลัทธิ คอมมิวนิสต์ ตามนโยบาย

เดิมของ โคมินเทิร์น โดยเชื่อมกับคนไทยเชื้อจีน, นั่นก็น่าเห็นใจ เพราะก่อน 1949 คนจีนถือได้ 2 สัญชาติ และต้องส่งเงินทองไปช่วยจีนแดงต่อต้านญี่ปุ่น เป็นอาสาสมัคร และอบรบแนวคิด

คอมมิวนิสต์จากจีนด้วย ) 

... ส่วนทาง "เจ้านาย" ไทยก็กลัว คอมมิวนิสต์ ( ก็น่าเห็นใจท่าน ไม่ได้ทำอะไรผิด มาล้มกันเฉย ก็ต้องต่อสู้กัน ) เพราะ คอมมิวนิสต์ ประกาศจะไม่เอา " ศาสนา" "เจ้านาย" "นายทุน"
( บริบทตอนที่ จีนล้ม แมนจูนั้น ต่างจากไทยมาก "เจ้านาย" ไทยไม่ได้บกพร่องเลยตอนนั้น
กลับเป็น "ขุนนาง + ทหาร + พ่อค้า" มากกว่า ที่แย่งกันกอบโกย)


... จากนั้นมา "อเมริกา" และ "สฤษดิ์" ก็ได้ร่วมมือกัน ปราบปรามคอมมิวนิสต์ขนานใหญ่ รวมถึงช่วยไทย ร่างแผนพัฒนาฌศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึง พรบ.ปิโตรเลี่ยมในภายหลัง
แต่คนไทยส่วนใหญ่ก็ยังจนอยู่เหมือนเดิม ... ที่สำคัญ "สฤษดิ์ไม่ล้มเจ้า" ทำให้กลุ่มต่อต่าน
กล่าวหาว่า "เจ้านาย" มีส่วนในการปราบปราม คอมมิวนิสต์ ตลอดจนสมัย "ถนอม-ประภาส"
เดือน ตุลา ที่หลายคนยังฝังใจอยู่ ( ทั้งๆท่านไม่เกี่ยวกับนโยบายเลย "อเมริกา" ต่างหากที่ชักใยอยู่เบื้องหลังทั้งหมด และไม่ดูสาเหตุต้นทางว่า ใครล้มใครก่อน ) 

... ขณะเดียวกัน อเมริกาก็เริ่มดูดพลังงานจากไทยไปเรื่อยๆ จนตอนหลังเป็น Unocal และ Chevron และ ปตท. ลูกครึ่ง

... ประวัติศาสตร์บอกเราว่า "อเมริกา" ไม่ได้เกลียด "เผด็จการ" แต่พร้อมจะร่วมมือกับทุกๆคนที่ให้ผลประโยชน์แก่เขา ( ลึกกว่านั้นคือ เครือข่ายกลุ่มพ่อค้าไม่กี่ตระกูล ) คนไทยต้องตื่นและลุกมาต่อ

ต้าน ต่อสู้กับประเทศนี้ ไม่งั้นจะไม่มีแผ่นดินอยู่ และ ไม่มีอะไรกิน ( เรื่องจริง )



Create Date : 29 ตุลาคม 2555
Last Update : 29 ตุลาคม 2555 22:33:57 น. 0 comments
Counter : 706 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สุริยาอัสดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เปิดโลกด้วยแสงแห่งปัญญา
Thaiflood
Friends' blogs
[Add สุริยาอัสดง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.