กุมภาพันธ์ 2558

2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
 
Dream a little dream
ความคิดถึง ห้ามไม่ได้

ความฝันเอง ก้อกำหนดไม่ได้เช่นกัน

ใช่ว่าชั้น จะกำหนด ตัวเองให้คิดถึงคนที่เป็นอดีต โดยไม่ยอมปล่อยวาง

การพยายามลืม บางที ก้อทำให้เรากลับไปคิดถึงความทรงจำเก่าแบบไม่ได้ตั้งใจอยู่ดี

เหมือนที่อยู่ดีๆ ก้อฝันถึง

ทั้งๆที่ปกติ แทบไม่เคยฝันถึงแฟนเก่า

คืนก่อน นอนฝัน

ตื่นมาก้อยังจำได้


มันชัดเจน

มันแจ่มชัด

มันแสนดี

==============================

ในวันที่เราออกไปธุระกับที่บ้าน ทั้งครอบครัว
เรากำลังอยู่กลางวง คุยอะไรกับซักอย่าง

ใครบางคน เดินแทรกมาจากด้านหลัง แทรกมาด้านข้างเรา และโอบเราจากเบื้องหลัง

เราหันหน้าไปมอง

เค้าคนนั้น!!! คนรักเก่า ที่เค้าบอกว่าเค้าจะไม่กลับมา

คนที่บอกเรา ว่าเค้าเหนื่อย เค้าเจ็บปวดกับเรามามาก และเราเคารพการตัดสินใจของเค้า ด้วยการไม่ยื้อต่อ ยอมทนกับความเงียบเหงามาตลอด 7 เดือน ที่เคว้งคว้าง

สิ่งที่ไม่คาดฝัน เค้าโอบหลังเราไว้ ท่ามกลางครอบครัวเรา พร้อมกับส่งรอยยิ้มน่ารัก ปนขี้เล่นมาให้

รอยยิ้มแบบที่เค้ายิ้มให้เราคนเดียว ที่ไม่ใช่รอยยิ้มแบบเครงขรึม สุภาพ อย่างที่คนอื่นคุ้นเคย

ท่ามกลางความงุนงงของครอบครัวเรา ไม่มีใครปริปาก ตำหนิเค้าแต่อย่างใด

ทุกคนกลับแสดงท่าทีว่าเค้าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา และให้เค้าตามเราไปด้วย

เค้าโอบเราไว้ตลอด จนถึงจุดหนึ่ง ที่มีน้ำเจิ่งนอง

เค้าปล่อยให้เรายืมตรงมุมแห้งๆ จุดหนึ่ง แล้วเค้าเริ่มถอยห่างออกไป พร้อมกับย่อตัวลงนั่งยองๆ
ขณะที่เราสงสัยว่า เค้าจะทำอะไร

เค้ากระโดดมา ทั้งที่นั่งยองๆ ดูเหมือนกับกบตัวเขื่องกระโดดเข้ามาหาชั้น

ชั้นยืนงง อยู่กับที่ เมื่อเค้ากระโดดมาถึง

เค้ายิ้มด้วยสายตาขี้เล่น ราวกับเด็กๆ พร้อมกับทำปากยื่นใส่เรา

แล้วชั้นก้อนึกออก ถึงนิทาน เจ้าชายกบ ที่กระโดดมาหาเจ้าหญิง ให้จุมพิต เพื่อให้กลายร่างกลับไปเป็นเจ้าชายรูปงาม และให้เจ้าหญิงรับรัก

ชั้นก้มลงจุ๊บปาก คนที่ชั้นรอคอยมาตลอดเบาๆ เพื่อบอกความในใจทั้งหมด พร้อมกับรำลึกถึงความน่ารักของคนที่ชั้นเคยรัก

ในมุมที่ดูเคร่งเครียด จริงจัง ขี้หงุดหงิด ช่างตำหนิ ที่หลายครั้งทำให้เราเสียใจกับความเข้มงวด ช่างกะเกณฑ์ของเค้า

มันมีมุมที่น่ารัก ขี้เล่น เหมือนเด็กตัวน้อยๆ ที่เราได้เห็นแต่เพียงผู้เดียว

แล้วชั้นลืมมันไปได้ยังไง


ในมุมเล็กๆ ที่เค้าแสนดีกับเรา ถึงจะเป็น moment แสนสั้น ที่มาไม่บ่อย แต่มันช่างดีใจหาย

ที่ทำให้เราลืมทุกความเจ็บปวด และพร้อมโผเข้ากอดเค้า

ฝันแค่เพียงสั้นๆ ที่เหมือนภาพสี ในความทรงจำ ที่ทำให้ชั้นตื่นขึ้นมาพร้อมกับความอิ่มเอมใจ ว่า เค้ากลับมาแล้ว

เพียงเพื่อจะระลึกได้ในอีกไม่กี่นาทีต่อมา ว่าทั้งหมดเป็นแค่ความฝัน

มันไม่ใช่ความจริง!!!

ถึงมันจะทำให้ชั้นมีความสุขเหลือเกิน เวลาที่คิดถึงความฝันนั้น

แต่ชั้นจะไม่พยายามอยู่ในโลกแห่งความฝัน

หมอดูหลายสำนัก ที่ชั้นไม่เคยเชื่อ บอกไว้ว่า คนมังกร มีสังหรณ์ที่แม่นยำ

ชั้นได้นึกในใจว่า ความฝันนี้ จะมีโอกาส เกิดขึ้นจริง ไหมหนอ

ในขณะที่เกือบจะมีความหวัง

แต่ในความเป็นจริง ชั้นคงอยู่แต่กับความหวังลมๆแล้งๆไม่ได้

ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไป และชั้นต้องเข้มแข็ง

หากเรา เกิดมาเพื่อที่จะอยู่ด้วยกันจริงๆ วันนั้นคงมาถึงซักวัน

แต่หากไม่ใช่.... คงฝืนอะไรไม่ได้

BUT I REALLY HOPE IT''S YOU.









Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2558 22:27:35 น.
Counter : 680 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

COS Stylist
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



การไตร่ตรองและคิด วิเคราะห์ เป็นหนทางสู่การพัฒนาสมอง การพัฒนาตนเอง และพัฒนาสังคม

คนเรามักสนใจแต่การปรุงแต่งรูปลักษณ์ภายนอก บุคคลิกภาพ พื้นฐานทางสังคม และความสุขส่วนตัว หากมีซักกี่คนที่มุ่งเน้นการพัฒนา "ใจ"

บล็อคนี้ เขียนจากคนธรรมดา ที่ไม่มีอะไรโดดเด่น หากแต่ชอบคิด ชอบเขียน และ อยากพัฒนา"ใจ"ของตนเอง ให้พบกับความสุขที่ยั่งยืน ที่ไม่มีวัตถุเป็นตัวกำหนด พร้อมทั้งยังอยากให้เพื่อนๆร่วมโลกได้ประโยชน์จากประสพการณ์และเรื่องเล่าต่างๆ ให้เป็นสาระแก่การดำเนินชีวิต และได้ข้อคิดแล้วต่อจะไปปรับใช้ในชีวิตของแต่ละคน

ทั้งนี้ ผู้เขียนขอไม่ประสงค์ออกนามของทั้งตนเอง และผู้ใดก้อตามที่ได้กล่าวอ้างถึง ไม่ให้พาดพิงต่อสิทธิส่วนบุคคลของทั้งตนเองและผู้อื่น

ทั้งนี้ข้อคิด และ เรื่องราวต่างๆนานาๆ ผู้เขียนไม่อาจรับรองได้ว่าเป็นวิธีคิด การกระทำ หรือทางเลือกที่ดีที่สุด สิ่งที่นำเสนอ เพียงแต่เป็นมุมมองของแต่ละบุคคล และขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้อ่านเป็นหลัก

ทั้งนี้ อยากให้เพื่อนๆเพียงแค่ได้นำสิ่งที่เขียนไปคิดพิเคราะห์ คนเขียนก็ปลื้มใจมากมายแล้ว

ทั้งนี้ในฐานะชาวพุทธ ขอยกคำสอนของพระพุทธเจ้าผู้ปราดเปรื่องให้ข้อเตือนใจก่อนจะรับฟังเรื่องใดๆดังนี้

กาลามสูตร แปลว่า พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล (เรียกว่า เกสปุตสูตร ก็มี[1]) กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการคือ

อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน
เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล
ธรรมเหล่านี้ไม่มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้สรรเสริญ
ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข
เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายควรเข้าถึงธรรมเหล่านั้นอยู่
ปัจจุบันแนวคิดและหลักสูตรที่สอนให้คนมีเหตุผลไม่หลงเชื่องมงาย ในทำนองเดียวกับคำสอนของพระพุทธองค์เมื่อ 2500 ปีก่อนได้รับการบรรจุเป็นวิชาบังคับว่าด้วยการสร้างทักษะการคิดหรือที่เรียกว่า "การคิดเชิงวิจารณ์" (Critical thinking) ไว้ในกระบวนการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยของประเทศพัฒนาแล้ว

ที่มา: http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3

New Comments
MY VIP Friend