Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
3 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 

ღღ..ดอกไม้บานที่สวนลุมไนท์บาซาร์....ปีที.1 ..ღღ.






เข้ารั้วมหาวิทยาลัยการค้าสวนลุมไนท์บาซาร์


+++แนนขอเรียกสวนลุมไนท์บาซาร์นี้เป็นเหมือน
มหาวิทยาลัยการค้าของแนนนะคะ...+++

+++จากชีวิตที่ไม่เคยลำบาก เคยมองโลกเป็นสีขาวบริสุทธิ์...เคยมีแต่เสียงหัวเราะ..มีแต่ความสนุกสนาน
กับครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ....
มีความรัก ความอบอุ่น ไม่เคยมีคำว่าอิจฉาริษยา
ไม่มีการแก่งแย่ง...ไม่มีการสู้รบตบมือ+++

+++แต่...หลังจากที่ได้เข้ามาอยู่ในรั้วสวนลุมไนท์บาซาร์..จากเดิมเป็นรร.เตรียมทหาร ได้กลายมาเป็นแหล่งช้อปปิ้งตอนกลางคืนแห่งแรกของกรุงเทพฯในปี พศ.2544ค่ะ+++

+++ปลายปีพศ .2544 เรา 3พี่น้อง พี่เน แนน และน้อท ช่วยกันออกแบบร้าน เราเริ่มเปิดร้านวันแรกคือ
วันที่19 กุมภาพันธ์ ปี พศ.2545+++

+++วันเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มเข้ามาอยู่ในรั้วสวน
ลุมไนท์บาซาร์นี้...มีเรื่องราวมากมาย..มีทั้งเรื่องดี
และเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น...+++

ณ.วันนี้..ฉันได้เรียนรู้การใช้ชีวิตให้มีความสุขให้ได้ ในขณะที่เรากำลังเผชิญปัญหา...จากประสบการณ์ที่ผ่านมา....ต้องมีการปรับตัว..ความเพียรพยายาม...ความอดทนต่อสิ่งต่างๆที่ทำให้เราเหนื่อย เราทุกข์....ฉันผ่านความสุขและทุกข์มากมายมาได้จนวันนี้...
ชีวิตของฉันกำลังจะเปลี่ยนไปตามการเวลา








ดอกไม้บานที่สวนลุมไนท์บาซาร์...ปีที่ 1 ...

ปีที่1 ...ของการเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัยสวนลุมไนท์บาซาร์...
ที่นี่เปรียบเสมือนมหาวิทยาลัยที่สอนให้ฉันได้พบกับสิ่งแปลกใหม่มากมาย...การต่อสู้ทางการค้าในโลกของ
ความเป็นจริง..การผ่านชีวิตในรั้วนี้แต่ละปี...
ไม่ใช่เรื่องง่าย..ที่นี่เหมือนมีครูสอนให้ฉันรู้จักแก้ปัญหา....ครูในที่นี่หมายถึง "ศัตรูทางธุรกิจนะคะ" (ขอยกย่องให้เป็นครูจริงๆนะคะ)...ครูที่นี่ทำให้ชีวิตฉันเปลี่ยนไป
เป็นคนละคน....

+++ชีวิตที่นี่เปรียบเหมือนเล่นละคร...มีสุข มีทุกข์ ผิดหวัง สมหวัง ล้มเหลว พ่ายแพ้ แม้แต่ชนะคละกันไป...
ในเรื่องราวที่เกี่ยวกับการค้าในสวนลุมไนท์นี้ ... ฉันมีตัวละครเด่นๆหลายท่าน..ตัวละครในที่นี่ มีฉันและพี่เน เป็นนางเอกนะคะ..มีบทบาทเป็นนักเรียนที่ดื้อ ไม่ค่อยจะยอมแพ้ใครซักเท่าไหร่..แต่ไม่เคยทำร้ายหรือรังแกใครก่อน..เราสองคนมุ่งมั่น อดทน ..และสู้ตายค่ะ...++

+++ที่นี่..ฉันมีอาจารย์ใหญ่...มีครู...มีเพื่อน...ภารโรง..และมียามค่ะ+++

+++"อาจารย์ใหญ่"..ขอยกตำแหน่งนี้ให้กับพี่สะใภ้
ท่านหนึ่งในตระกลูค่ะ..เป็นคนที่ชวนพวกเรามาเปิดร้าน..และก็เป็นผู้ที่นำเหตุการณ์อันแสนจะเลวร้ายมาให้มากที่สุด...ชวนเรามาเปิดร้าน..และเป็นคนทำการไล่ให้ไปอย่างทุกวิถีทาง....ขอตั้งฉายาอาจารย์ใหญ่ว่า"แม่มด" จะกล่าวต่อไปนะคะ+++

+++"ครู" ...ขอยกตำแหน่งให้กับลูกจ้างของพี่สะใภ้ ...เป็นผู้ยุแยงให้ญาติพี่น้องทะเลาะกัน..เป็นตัวกลางและตัวการที่ออกนอกหน้าในการกรั่นแกล้งพวกเรา...ฉายาของยัยคนนี้คือ "ยัยมืด" แปลว่า คนจิตใจมืดมัว ใช้ชีวิตอยู่แต่ความมืดไม่มองไปทางสว่าง...ชีวิตเค้าก็จะมืดอย่างนี้
ตลอดไปค่ะ+++

+++เด่นๆ หลักๆ เห็นจะเป็นสองท่านนี้นะคะ ที่ทำให้ชีวิตนางเอกอย่างฉันต้องรันทด ... ต้องต่อสู้ บากบั่น จนเกือบจะถึงเส้นชัยแล้ว...ค่อยๆอ่านนะคะ.. ถ้าไม่เข้มแข็งพอ...ไดอารี่เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นค่ะ...จากคุณหนูกลายเป็น...เฮ้อ!! แม่ค้า..+++

+++ยังมีตัวละครเด่นๆท่านอื่นๆอีกหลายคนนะคะ..
คนที่เคยทำการค้ามาหลายปี ...ถือว่าคนเหล่านี้มีประสบการณ์ช่ำชอง..ฉันขอนับถือให้พวกเค้าเป็นครูเช่านเดียวกับลูกจ้างพี่สะใภ้ค่ะ..เพราะพวกเค้าเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการเรียนในรั้นนี้เช่นกัน...+++

+++"เพื่อน" ..คือคนที่มาเปิดร้านในสวนลุมไนท์
เป็นพ่อค้า แม่ค้ามือใหม่เหมือนกันฉัน ... คนเหล่านี้เข้ามาเรียนรู้เกี่ยวกับการค้าขายเช่นกันค่ะ....เพื่อนในที่นี้มีทั้งดีและไม่ดี ....แล้วจะสาธยายให้อ่านทีหลังนะคะ.+++

+++อ้อ !!ที่นี่ยังเป็นเหมือนโรงเรียนที่มีระเบียบจัด..
มีการเซ็นชื่อเข้าเรียนทุกวัน....ห้ามมาสายเกินบ่าย 4 โมงนะ..ห้ามกลับก่อนเวลาห้าทุ่มครึ่งด้วย...ต้องเซ็นชื่อก่อนกลับบ้านนะ...ห้ามทานข้าวในร้านเหมือนห้ามทานขนมในห้องเรียน..ห้ามจอดรถหน้าร้านไม่งั้นโดนจดชื่อและถ่ายรูปเป็นหลักฐานไว้ในการขึ้นค่าเรียนที่แพงขึ้นมากว่าปกติมากๆ...(หมายถึงค่าเช่าร้านแพงอีกเท่าตัวค่ะ)...หรือไม่ก็โดนไล่ออกเลย...และที่สำคัญ...ห้ามเป็นปรปักษ์กับยาม (รปภ.)นะ เพราะ พวกเค้าคือผู้คุมนักศึกษาในมหาลัยนี้ ...
พวกเราห้าทำผิดกฎของมหาลัย....(ยามนี่ก็กวนประสาทแต่ไม่อยากพูดถึง...คนพวกนี้ไม่เคยใส่ชุดเครื่องแบบ
เลยอาจจะลืมตัวไปหน่อยว่าเครื่องแบบที่ใส่อยู่ไม่ใช่ชุดตำรวจนะยะ...ช่างกร่างกันเสียจริง ..เราไม่เข้าไปรู้จักมักจี่
กับคนพวกนี้ดีกว่า...ห่างๆไว้ดีที่สุด...ไม่งั้นเราอาจซวยได้ถ้าผู้คุมเกิดโมโห บ้าอำนาจขึ้นมา พวกเราจะลำบาก)....มีแม่บ้านทำความสะอาดมหาลัย ทำความสะอาด
ห้องน้ำ (หมายถึง ทำความสะอาดบริเวณสวนลุมไนท์)+++

+++ที่นี่เหมือนเมืองๆหนึ่งเลยนะคะ..ถ้าได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศในสวนลุมไนท์นี้...จะรู้สึกถึงความรัก ความผูกพัน ... และความเกลียดชัง มีทุกความรู้สึก แต่ยังไงซะ พวกเราก็คือสมาชิกของมหาวิทยาลัยสวนลุมไนท์บาซาร์นี้...ต่อไปฉันจะเล่าถึงวีรกรรมต่างๆ..ที่ฉันต้องสวมบทบาทนางเอกผู้น่าสงสาร...มีทั้งทะเล้น ปนนิสัยนางมารร้ายที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก...มีเรื่องราวทั้งหัวเราะและร้องไห้ปนกันไป
นะค๊ะ...+++











คนที่สำคัญที่สุดที่จะแนะนำนั่นคือ ..."คนข้างร้านของพวกเราเองค่ะ" จะใช่ใครอื่นไม่ได้ นอกจาก "พี่สะใภ้คนโต" ของฉันเองค่ะ... และมีลูกน้องพ่วงมาด้วยอีกคน

แรกๆ เราไม่รู้จะขายอะไร เพราะเกิดมาก็ไม่เคยขายของ ..ส่วนพี่สะใภ้เคยเป็นแอร์ค่ะ และเคยเปิดร้านเสื้อผ้าอยู่หลายแห่ง ส่วนใหญ่สินค้าของเค้าจะเป็นพวกเสื้อผ้าที่เอามาจากประเทศจีน เป็นชุดทำงานของผู้ใหญ่วัยแม่ๆน่ะค่ะ...

สิ่งแรกที่พวกเราจะพิจารณาว่าจะเอาอะไรมาขายนั้น ต้องไม่ใช่เสื้อผ้าที่มาจากจีนเหมือนของพี่สะใภ้ ร้านของฉันกับร้านของพี่สะใภ้อยู่ติดกันค่ะ ไม่มีกำแพงกั้น เปิดโล่งทั้งสามด้าน ตามฮวงจุ้ยบอกว่า อย่าเปิดให้ด้านทั้งสามโล่ง เพราะจะทำให้เงินไหลออก เราลยเอาตู้มากั้นไว้ด้านข้าง...ไอเดียของพวกเราเลยเกิดขึ้น เอารองเท้ามาวางเป็นชั้นๆของตู้ที่เราซื้อมากันดีกว่า ส่วนในร้านก็เอากระเป๋ามาขาย พี่เน(พี่สาวแท้ๆ)ไปซื้อหนังสือคริสตัส มาหัดร้อยขาย...

เชื่อมั๊ยคะว่า....กำไรของการขายรองเท้าเนี่ย น้อยจริงๆ ทุนมาประมาณ140-150บาท ... ซึ่งราคาทั่วไปที่เค้าขายกันคือ 199 บ. กำไร50-60บาทต่อคู่เองค่ะ ส่วนกระเป๋าก็ขายยากขายเย็น...

สองเดือนแรกทำตัวเหมือนเล่นขายของ เอาสนุกเข้าว่า ขายได้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะแต่ละคนมีงานประจำทำกันอยู่แล้ว ส่วนการมาขายของเนี่ย กำลังใจเยอะเหลือเกิน พ่อแม่ ญาติโยม พากันมาเยี่ยมที่ร้านทุกวัน จนคนแถวนั้นคิดว่าร้านนี้ขายดีมาก มีไทยมุงทุกวัน แต่เปล่าหรอกนะคะ ซื้อขายกันเอง เพื่อนๆ ญาติๆ พากันมาซื้อ เพื่อเป็นกำลังมจน่ะค่ะ....

หลังจากสองเดือนผ่านไป เราเริ่มคิดที่จะเปลี่ยนสินค้า เพราะเดือนแรก เราทำกำไรได้เพียง 1,701 บาทเท่านั้นค่ะ ส่วนเดือนที่สอง เราสามารถหากำไรได้เพิ่มเพียงแค่ 3000 บาท...ซึ่ง 3000 บาทนี้เราต้องเอาไปจ่ายให้กับโครงการถือว่าเป็นรายเดือนที่เราต้องจ่าย .....ก่อนหน้านี้เราได้วางเงินจำนวน 100,000 บาทไว้แล้ว ถือว่าเราเซ้งร้านนี้มา เพียงแต่เราต้องจ่ายรายเดือนด้วย...

เดือนแรกขาดทุนค่ะ ส่วนเดือนที่สองได้กำไรเท่ากับเงินที่เราต้องเอาไปจ่ายให้กับโครงการ....อ้าว !! แล้วค่ากิน ค่าเหนื่อย ค่าน้ำมันรถละคะ .....เอาจากไหนละเนี่ย.??..

เราสามคนปรึกษากัน หาสินค้าตัวใหม่กันดีกว่า เลยพากันไปที่โรงงานเย็บผ้าแถวบ้าน เลือกเฉพาะเสื้อผู้ชาย และชุกอยู่บ้านของผู้หญิง เหตุผลที่เลือกสินค้าแต่ละครั้งคือ "จะต้องไม่คล้ายกับพี่สะใภ้" เพราะกลัวว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นทีหลัง และแล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด กำลังจะเกิดขึ้น....สงครามการค้าปีที่ 1 กำลังจะปะทุขึ้น.






+++++ต่อเลยนะคะ++++++

...สินค้าเดือนที่สอง...ที่ทำให้พวกเราทำกำไรได้เท่ากับค่าที่ ...คืออะไรรู้ป่าวค๊ะ??? ไอเดียอิฉันเองค่ะ....."ขายขนมดีกว่า"....ขายไรดี!!! คิดๆๆๆ ...ปิ้งๆ ... "ขนมจีบที่วงเวียนใหญ่เจ้าที่เราไปซื้อทานเป็นประจำ แบบว่าอร่อยมากๆด้วยขอบอก.."...เราขายดีด้วยค่ะ..กำไรที่ขายได้วันละ100บาทพอดีกับค่าที่ 3000 บาทเลยค่ะ ...ส่วนกำไรที่ได้จากขายรองเท้ากับกระเป๋าก็เก็บไว้เอาไปผ่อนให้กับพี่สะใภ้คนโตนี่ล่ะค่ะ...

...การลงทุนของร้านนี้ เป็นจำนวนเงินทั้งหมด 180,000 บาท ...ฉันกับพี่เนลงขันคนละ 50,000 บาท รวมกันก็ 100,000 บาท อาม่าให้มาอีก 20,000บาท คุณป้ากับอาจ๋าช่วยหลานๆอีก 10,000บาท รวมทั้งหมดได้ 130,000 บาทค่ะ ขาดอีก 50,000บาท ...พี่สะใภ้คนนี้ออกให้เราไปก่อนค่ะ...เราต้องหาเงินผ่อนคืนพี่เค้าให้หมด....กำไรที่เราหาได้แต่ละเดือนเราเก็บไว้คืนพี่สะใภ้ค่ะ .... ตอนนั้นชื่อเจ้าของร้านยังเป็นชื่อพี่สะใภ้อยู่...

..บางเสาร์และอาทิตย์...เจ้าน้องเอ็ก (ลูกพี่ลูกน้อง) ลงทุนลงแรงทำแป้งวอฟเฟิลมาให้ ส่วนพวกเราก็เอาเครื่องทำวอฟเฟิลที่ซื้อจากวีระสุ เอามาที่ร้าน ...เอ๊ก กับกล้วย(น้องข้างบ้าน) ช่วยกันทำวอฟเฟิลขายหน้าร้าน...พวกเราทำขนมขายกันเล่นๆสนุกๆน่ะค่ะ ไม่ค่อยได้กำไรหรอก เพราะบางชิ้นไหม้ บางชิ้นตกลงที่โต๊ะ...เราไม่ขายชิ้นเหล่านั้น เอามาทานกันเองน่ะค่ะ และก็ทำแจกเพื่อนๆแถวร้าน ...และทำไว้หลายๆชิ้นวางไว้ให้ลูกค้าหยิบชิมตามใจชอบค่ะ....

...ทำเลของร้านเราดีมาก พี่สะใภ้คนโตเป็นคนไปจองค่ะ...อยู่ริมถนนเลย 2ห้องติดกัน เราเลยมีพื้นที่หน้าร้านไว้ทำขนมขายเล่นๆ แรกๆยังไม่ค่อยมีกฎระเบียบเท่าไหร่นัก...เพราะร้านค้ายังเปิดอยู่ไม่กี่ร้าน ตรงโซนที่ฉันอยู่ เราเรียกว่า "โซนอยุธยา" มีร้านเปิดอยู่แล้วประมาณ 60%เท่านั้นค่ะ...

...เดือนที่2 เรายังสนุกกับการเล่นขายของกันอยู่...เข้าเดือนที่3 พวกเราเริ่มคิดที่จะหาสินค้าใหม่ๆมาขายแล้วล่ะค่ะ ...ที่คิดได้คือที่กล่าวมาแล้ว "เสื้อผู้ชายกับชุดอยู่บ้านผู้หญิงไงคะ"....

++++++ โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ.. +++++



















 

Create Date : 03 มิถุนายน 2550
1 comments
Last Update : 15 มกราคม 2551 12:53:06 น.
Counter : 693 Pageviews.

 

ขอให้สมหวังดังตั้งใจทุก
สิ่งนะคะ
glitter graphics
Glitter Graphics

 

โดย: กล้วยปิ้งสีชมพู (ลูกปัดเม็ดทราย ) 27 พฤศจิกายน 2550 13:45:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ซ่อนทรายแก้ว
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
















สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตเรา...ก้อคือชีวิตเรา
สิ่งที่ มีค่าที่สุดในหัวใจเรา...ก้อคือหัวใจเรา
อย่าเอาชีวิตทั้งชีวิตไปยกให้ ใคร
อย่าเอาใจทั้งใจไปยกให้ใครคนเดียว
อย่ายกสิ่งที่มีค่าที่สุดของเรา ไปให้ใครดูแล
เพราะไม่มีใคร...ที่จะดูแลมันได้ดีไปกว่าตัวเราเอง
อย่าปิด กั้นความรู้สึกของหัวใจ
อย่าบอกว่าเราเกิดมาเพื่อจะรักคน ๆ เดียว
คนใจ แคบเท่านั้นที่เกิดมาเพื่อที่จะรักคนได้คนเดียว
เราสามารถที่จะรักใครได้มากมาย
ขอเพียงให้รู้จักหน้าที่ของความรัก
หน้าที่ที่จะปฏิบัติต่อคนที่เรารัก
รัก ต่างแบบ...ปฏิบัติในหน้าที่ต่างกัน
แล้วเมื่อวันใดวันหนึ่งคนบางคนไม่แยแสกับ ความรักที่เรามีให้
เราก็ยังคงเหลือใครต่อใครอีกมากมาย
และไม่เห็นจะต้องเจ็บเจียนตาย
ถ้าเรามั่นใจ...ว่าเราทำหน้าที่ให้กับรักนั้นสมบูรณ์และเต็มที่แล้ว
ถ้าอากาศร้อนอบอ้าว...ลองออกมายืนคุยกับแสงแดด
อากาศหนาวแทบขาดใจ...ลองออกมาหาไออุ่นลมหนาว
เราจะรู้ว่าร้อนหรือหนาวก็ต่อเมื่อเราได้ไป สัมผัสกับมัน
ก็เหมือนกับความรัก ....
ถ้าอยากรู้ว่ารสชาดเป็นอย่างไรก็ต้อง ไปสัมผัสกับมัน
แต่อย่าทรมานตัวเองโดยการออกไปยืนตากแดดนาน ๆ
หรือยืนต้านทานลมหนาว ถ้ารู้ว่าร้อนนักก็หลบหาที่ร่ม
ถ้ารู้ว่าหนาวก็ก่อเตาผิง
ความรักจะ ไม่ทำร้ายเรา ถ้าเราไม่ทำร้ายตัวเอง
...ถ้าคุณรู้จักรัก..
แสงแดดจะทำให้คุณอบอุ่น
ลมหนาวก็จะทำให้คุณหลับสบาย...















Color Codes ป้ามด



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


ธรรมะไทย



ผู้ชมทั้งหมด คน
Friends' blogs
[Add ซ่อนทรายแก้ว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.