space
space
space
<<
ตุลาคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
space
space
8 ตุลาคม 2548
space
space
space

ธรรมกถาสำหรับญาติของผู้ป่วย - พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺฺฺโต)



ท่านผู้ป่วย-เจ็บไข้ ในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชน สิ่งที่จะบำรุงจิตใจที่สำคัญก็คือการทำบุญ การที่ได้มาใกล้ชิดพระรัตนตรัยได้อานุภาพบุญกุศล และอาศัยพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ เป็นเครื่องอภิบาลรักษา

ในยามเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งเป็นเวลาที่สำคัญนี้ เรื่องของจิตใจก็สำคัญมาก ทั้งจิตใจของผู้ป่วยและจิตใจของญาติ ตลอดท่านที่มีความเคารพนับถือ ซึ่งพากันห่วงใย การรักษานั้นก็รักษาทั้งสองอย่าง คือ ทั้งกายและใจ

ส่วนที่เป็นโรคอย่างแท้จริงก็คือด้านร่างกาย แต่ในเวลาที่ร่างกายเป็นโรคนั้น จิตใจก็มักพลอยป่วยไปด้วยคือ จิตใจอาจจะอ่อนแอลงหรือแปรปรวนไป เพราะทุกขเวทนา หรือความอ่อนแอของร่างกายนั้น จึงมีพุทธพจน์ที่ตรัสสอนไว้ให้ตั้งจิตตั้งใจว่า ถึงแม้ร่างกายของเราจะป่วยแต่ใจของเราไม่ป่วยไปด้วย พระพุทธเจ้าได้สอนไว้อย่างนี้ เพื่อให้ส่วนหนึ่งแห่งชีวิตของเรายังคงความเข้มแข็งไว้ได้ แล้วใจก็จะช่วยร่างกายด้วย

ถ้าหากว่าใจพลอยป่วยไปด้วยกับกาย ก็จะทำให้ความป่วยหรือความเจ็บนั้นทับทวีขึ้นซ้ำเติมตัวเอง แต่ถ้ากายป่วยเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ใจไม่ป่วยไปด้วย ใจนั้นจะกลับมาเป็นส่วนช่วยดึงไว้ ช่วยอุ้มชูค้ำประคับประคองกายไว้ ยิ่งถ้ามีกำลังใจเข้มแข็งก็กลับมาช่วยให้ร่างกายนี้แข็งแรงขึ้น

เราจะเห็นว่าในเวลาที่เจ็บไข้ได้ป่วยนี้คนไข้จะต้องการกำลังใจมาก ถ้าไม่สามารถจะมีกำลังใจด้วยตนเอง ก็ต้องอาศัยผู้อื่นมาช่วย ผู้ที่จะช่วยให้กำลังใจได้มาก ก็คือญาติพี่น้องคนใกล้ชิดทั้งหลาย เพราะฉะนั้นทางพระหรือทางธรรม จึงได้สอนผู้ที่ใกล้ชิดให้มาให้กำลังใจ แก่ผู้เจ็บไข้ได้ป่วย

ข้อสำคัญก็คือว่า ผู้ที่เป็นญาติของท่าน ผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วยนั้น มีความรัก มีความห่วงใยต่อท่านผู้เจ็บไข้ เมื่อเป็นอย่างนี้ จิตใจของผู้ใกล้ชิดที่เป็นญาตินั้น บางทีก็พลอยป่วยไปด้วย พลอยไม่สบายไปด้วยเลยไม่สามารถจะไปให้กำลังใจแด่ท่านผู้ที่เจ็บป่วย อันนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญ จึงจะต้องมีอุบายมีวิธีการที่จะทำให้จิตใจเข้มแข็ง ให้จิตใจสบาย

เมื่อจิตใจของเราที่เป็นญาติเป็นผู้ที่ใกล้ชิดที่หวังดีนี้เข้มแข็งสบายดี ก็จะได้เป็นเครื่องช่วยให้ท่านผู้เจ็บป่วยนั้นพลอยมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้นด้วย ในยามเช่นนี้ การวางจิตใจจึงเป็นเรื่องสำคัญ

เรื่องการรักษาทางด้านร่างกายนั้นก็เป็นภาระของแพทย์ ที่จะพยายามจัดการแก้ไขไปตามวิชาการตามหลักของการรักษา แต่ทางด้านญาติของผู้ป่วยต้องถือด้านจิตใจนี้เป็นเรื่องสำคัญนอกจากการที่จะคอยเอื้ออำนวยให้ความสะดวก การดูแลโดยทั่วๆ ไปแล้ว สิ่งที่ควรทำก็คือ การรักษาทั้งจิตใจของตนเอง และจิตใจของผู้ป่วยให้เป็นจิตใจที่เข้มแข็ง

ในด้านจิตใจของตนเอง ก็ควรให้มีความปลอดโปร่งสบายใจ อย่างน้อยก็มีความสบายใจว่า เมื่อท่านผู้เป็นที่รักของเราป่วยไข้ เราก็ไม่ทอดทิ้งท่าน ได้เอาใจใส่ดูแลรักษาอย่างเต็มที่ เมื่อได้ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่แล้ว ก็สบายใจได้ประการหนึ่งแล้วว่า เราได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุด

เมื่อได้ทำหน้าที่ของตนเองแล้ว ก็มีความสบายใจขึ้นมา ความเข้มแข็งที่เกิดจากความสบายใจนั้น ก็จะมาคอยช่วยคอยให้กำลังใจ ช่วยเสริมไม่ว่าท่านผู้เจ็บป่วยจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม

คนเรานั้น เรื่องจิตใจเราทราบไม่ได้ บางทีรู้ในทางประสาทสัมผัสไม่ได้ แต่มีความซึมซาบอยู่ภายใน แม้แต่คนที่ไม่รู้ตัวแล้ว ในบางระดับก็ยังมีการฝันบ้าง ยังมีความรู้สึกรับรู้เล็กๆ น้อยๆ บางทีเป็นความละเอียดอ่อนในทางการรับสัมผัสต่างๆ ในทางประสาทในทางจิตใจ จึงอาจจะได้รับรัศมีแห่งความสุขสบายใจ ทำให้มีกำลังใจขึ้นมาอย่างน้อย ก็ทำให้ไม่มีห่วงมีกังวล ใจก็จะเข้มแข็งขึ้น ความปลอดโปร่ง ความสบายใจ จิตใจที่ผ่องใสเบิกบานนั้น เป็นสิ่งที่ดีงาม

คนเรานั้นเรื่องจิตใจ เป็นสิ่งที่สำคัญ อย่างที่อาตมาได้กล่าวมาแล้ว การที่ลูกๆ หลานๆ ผู้ที่ใกล้ชิดมาคอยเอาใจใส่ดูแล ถึงกับได้สละการงานอะไรต่างๆ มาก็เพราะจิตใจที่มีความรักกัน มีความห่วงใยกันนี่แหละ แต่ในเวลาเดียวกันนั่นเอง เพราะความรักและความห่วงใยกันนี่แหละ ก็อาจจะทำให้จิตใจของเรานี้ กลายเป็นจิตใจที่มีความเร่าร้อนกระวนกระวายไปได้เหมือนกัน สิ่งที่ดีนั้น บางทีก็กลับเป็นปัจจัยให้เกิดความทุกข์ อย่างที่ทางพระท่านบอกว่า ความรักทำให้เกิดความทุกข์ เพราะว่าเมื่อรักแล้วมีความผูกพัน ก็ทำให้กระทบกระเทือนเกิดขึ้นได้ง่าย

ทีนี้ทำอย่างไรจะทำให้มีความรักด้วย และก็ไม่มีทุกข์ด้วย ก็ต้องเป็นความรักที่ประคับประคอง ทำใจอย่างถูกต้อง เมื่อทำได้ถูกต้องแล้ว ก็จะได้ส่วนที่ดี เอาแต่ส่วนที่ดีไว้ให้มีแต่ส่วนที่เป็นความดีงาม และความสุข ความรักนั้นก็จะเป็นเครื่องช่วยให้เกิดความผูกพัน แล้วก็ทำให้มาเอาใจใส่ดูแลกัน แล้วทีนี้ ความรักที่เราประคับประคองไว้ดี ก็จะทำให้จิตใจปลอดโปร่งผ่องใส เป็นไปในทางที่ทำให้เกิดกำลังในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ฉะนั้น จึงควรพิจารณา ทำใจอย่างไรที่กล่าวเมื่อสักครู่นี้ว่า เราได้ทำหน้าที่ของเราถูกต้องหรือไม่ สำรวจตัวเอง เมื่อทำหน้าที่ถูกต้องแล้ว ก็พึงสบายใจในขั้นที่หนึ่ง

ต่อแต่นั้นก็มองในแง่ที่ว่า การที่จะไม่สบายใจหรือมีความรู้สึกทุกข์โศกอะไรนี้ไม่สามารถช่วยท่านผู้ที่เจ็บไข้นอนป่วยอยู่ได้ สิ่งที่จะช่วยได้ก็คือขวัญหรือกำลังใจที่ดี ความปลอดโปร่งเบิกบานผ่องใส

แม้แต่ในส่วนของตัวเราเอง การที่จะคิดอะไรได้ปลอดโปร่งคล่องแคล่วก็ต้องมีจิตใจที่สบายสงบด้วย ถ้ามีความกระวนกระวาย เช่น ความกระสับกระส่ายทางกายก็ตามทางใจก็ตาม ก็จะทำให้คิดอะไรไม่คล่อง และก็จะทำอะไรไม่ถูกต้อง ถ้าจะทำให้ได้ผลดี ก็ต้องมีจิตใจที่สงบและเข้มแข็งปลอดโปร่ง มีความเบิกบานผ่องใสจึงจะทำให้เกิดเป็นผลดี

เพราะฉะนั้น หลักการสำคัญก็คือ ให้ส่วนที่ดีนำมาซึ่งส่วนที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป คือความรักที่มีต่อคุณพ่อคุณแม่หรือญาติพี่น้อง ที่เจ็บไข้ได้ป่วยนั้น เป็นส่วนที่ดีอยู่แล้ว จึงควรให้เกิดความเบิกบานผ่องใสของจิตใจ แล้วเอาจิตใจที่ดีงามนี้ มาคิดไตร่ตรองพิจารณาในการที่จะคิดแก้ไขสถานการณ์ในการที่จะจัดการดูแลและเอาใจใส่ดำเนินการรักษาต่างๆ ตลอดจนทำสภาพจิตใจของตนให้เป็นจิตใจที่จะช่วยเสริมให้จิตใจของท่านผู้ป่วยได้มีความสบายใจ

สมมุติว่า ท่านผู้ป่วยทราบถึงบุตรธิดาที่กำลังห้อมล้อม เอาใจใส่คอยห่วงใยท่านผู้ป่วยอยู่ ท่านก็จะรู้สึกว่าบุตรธิดาหรือผู้ปฏิบัติรักท่านหรือ ห่วงใยผู้ป่วย ในเวลาเดียวกัน ถ้าบุตรธิดาทั้งหมดนั้นมีจิตใจสบาย ท่านก็จะไม่ห่วงกังวล ก็จะเป็นเครื่องช่วยให้จิตใจของท่านสบายด้วย เมื่อท่านมีจิตใจที่สบาย มีกำลังใจเข้มแข็ง ก็จะเป็นเครื่องช่วยในการรักษาร่างกายของท่านอีกด้วย

โดยเฉพาะในตอนนี้ นอกจากพยายามทำใจหรือคิดพิจารณาไตร่ตรองให้จิตใจเข้มแข็งแล้ว ก็ยังได้อาศัยอานุภาพของบุญกุศลและพระรัตนตรัยช่วยเหลืออีกด้วย กล่าวคือ ในขณะนี้ เราไม่ใช่อยู่เฉพาะตัวลำพังจิตใจผู้เดียวเท่านั้น แต่ยังมีอานุภาพของบุญกุศลช่วยหล่อเลี้ยงด้วย ญาติทุกคนมีความห่วงใยรักญาติผู้ป่วยทุกคนและได้ทำบุญทำทานแทนญาติที่ป่วยแล้ว จึงขอให้อานิสงส์ อานุภาพของบุญกุศลที่ได้ทำมาแล้ว และกำลังทำอยู่นี้ จงเป็นเครื่องช่วยเสริมกำลังใจของท่านด้วย โดยเฉพาะขอให้ทุกท่านตั้งใจรวมจิตใจ ขอให้อานุภาพแห่งบุญกุศลหล่อเลี้ยงรักษาผู้ป่วย

เมื่อมีการทำบุญก็จะมีการที่ได้บูชาพระรัตนตรัย พระรัตนตรัยเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวที่ลึกซึ้งที่สุดในทางจิตใจ เมื่อเราเข้าถึงพระรัตนตรัยแล้ว จิตใจก็จะมีความเข้มแข็ง มีกำลัง มีความสงบ มีความร่มเย็นเกิดขึ้น ก็ขอให้ความร่มเย็นนี้เป็นบรรยากาศที่แวดล้อมหมู่ญาติทั้งหมด พร้อมทั้งผู้ป่วยช่วยประคับประคองหล่อเลี้ยงให้ท่านผู้ป่วยหายวันหายคืนขึ้นมา โดยมีความเข้มแข็งทั้งในทางกายและทางจิตใจ



จากหนังสือ กายหายไข้ใจหายทุกข์ - พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺฺฺโต)






 

Create Date : 08 ตุลาคม 2548
40 comments
Last Update : 8 ตุลาคม 2548 17:43:00 น.
Counter : 1250 Pageviews.

 

เจ้าค่ะ สาธุ

 

โดย: erol 8 ตุลาคม 2548 18:23:33 น.  

 

แหมน้องสาว ทำเพื่อพี่ขนาดนี้เลยเหรอค่ะ
ถ้าบอกเอง กลัวโดนว่าแก่แดดอ่ะดิ

เอาค่ะ ยอมยอม

เมื่อสายๆออกไปซื้อของ แบบว่าไฮโซอย่างพี่ก็ไปแถว
บางลำพู
วรจักร
คลองถม
เกือบเป็นลม นึกว่าเป็นเด็กๆหรือไง

 

โดย: erol 8 ตุลาคม 2548 18:26:58 น.  

 

น้องสาวไปซื้อหนังสือมาใหม่
ซื้อเล่มนี้มาให้พี่สาวด้วย
วันไหนเจอกันจะเอาไปให้ค่ะ

 

โดย: rebel 8 ตุลาคม 2548 18:31:24 น.  

 




ขอบคุณมากน๊ะค๊ะ
นำสิ่งดีๆมาแบ่งปันค่ะ


 

โดย: หนี่หนีหนี้ 8 ตุลาคม 2548 18:54:20 น.  

 

" ความรักที่เราประคับประคองไว้ดี ก็จะทำให้จิตใจปลอดโปร่งผ่องใส "



กำลังพยายามสุดความสามารถค่ะ...ประคองไว้ๆๆ

 

โดย: มัชฌิมา 8 ตุลาคม 2548 18:58:06 น.  

 

โอย มึน สาระเยอะ อิอิ

 

โดย: mungkood 8 ตุลาคม 2548 19:05:53 น.  

 

ไปอ่านหนังสือนะคะ เมื่อกี้เดินมาดุหนึ่งทีแล้ว เฮ่อ

 

โดย: mungkood 8 ตุลาคม 2548 19:12:57 น.  

 

คุณหนี่

คุณมัช

มังคุด ผู้คุมไม่อยู่เหรอ

 

โดย: rebel 8 ตุลาคม 2548 19:13:19 น.  

 

อนุโมทนา สาธุครับ

กรี๊ดดดดดดดดดด

 

โดย: noom_no1 8 ตุลาคม 2548 20:12:40 น.  

 

สาธุด้วยคน ....
วันนี้ว่าจะไปงานหนังสือเหมือนกัน แต่รอไปวันธรรมดาดีกว่า อดเจอหนูแขเลย

ปกติชอบไปเดินคลองถมอยู่แล้วละ หลับตาเดินยังได้เลย น่าจะไปเจอกะหนูเจ้าซะหน่อย

 

โดย: ป้ามด 8 ตุลาคม 2548 20:28:45 น.  

 

อนุโมทนา สาธุคะ
ขอบคุณมากคะ

แวะมาทักทายจ้า

 

โดย: ตะวันสีชมพู 8 ตุลาคม 2548 21:06:33 น.  

 

หนูไม่ได้ไปนานแล้วค่ะป้ามด แต่ตอนเด็กๆไปทุกอาทิตย์เลยค่ะ บ้านเจ้าอยู่แถวท่าพระอาทิตย์ไงค่ะ คุณพ่อ คุณสองลุง คุณพี่ๆ ชอบไปกันค่ะ เจ้าก็แปะไปกับเข้าด้วย

แต่วันนี้เหลือคนเดียว(ไปกับเพื่อนอีกหนึ่ง) เศร้าจังค่ะ
ไว้ป้ามดจะไป บอกหนูนะค่ะ หนูเป็นกองเชียร์

 

โดย: erol 8 ตุลาคม 2548 21:32:24 น.  

 

น้องสาวน่าร๊ากกกกกกกกกก

 

โดย: me2you 8 ตุลาคม 2548 22:03:30 น.  

 

ใจเป็นเจ้า กายเป็นบ่าว

 

โดย: ไอบ้าป่าน (ผีหน้าคอม~ ) 8 ตุลาคม 2548 22:42:53 น.  

 

ทำไรอ่ะ พี่สาวกำลังเดินทางไปหาป้ามด แล้วจะไปหา ลุงมี

 

โดย: erol 8 ตุลาคม 2548 22:44:58 น.  

 

อยู่เฉยๆค่ะ
กำลังเกิดอาการบังอร แต่ยังไม่อยากนอน

 

โดย: rebel 8 ตุลาคม 2548 22:46:56 น.  

 

ขอบคุณมากค่ะที่แนะนำสิ่งดีๆ คืนนี้นอนหลับฝันดีนะค่ะ

 

โดย: Star in the Sky 8 ตุลาคม 2548 22:51:54 น.  

 

อาการเดียวกันเลยค่ะ น้องแข เริ่มง่วง
ทำไมบางคนบอกจะสลบ ไม่ยอมสลบสักทีก็ไม่รุ

 

โดย: Black Tulip 8 ตุลาคม 2548 23:12:59 น.  

 

กลัวจะตาสวยมั้งคะ

 

โดย: rebel 8 ตุลาคม 2548 23:16:15 น.  

 

อืม....สองคนนั้น ข้างบนอ่ะ พูดถึงใครเหรอ

 

โดย: erol 8 ตุลาคม 2548 23:27:24 น.  

 

ใครก็ไม่รุ...ร้อนตัว

 

โดย: rebel 8 ตุลาคม 2548 23:28:33 น.  

 

สงสัยว่าจะเป็นพี่นะคะน้องแข ตาจะปิดแล้ว
พรุ่งนี้ ก็อดตื่นสาย
งั้นไปนอนดีกว่า ฝันดีจ๊ะ

 

โดย: Black Tulip 8 ตุลาคม 2548 23:34:39 น.  

 

good nite จุ๊บ แขด้วยอีกเดี๋ยวก็จะไปเหมือนกันเพราะพรุ่งนี้จะไป รพ ค่ะ คุณน้อง ถ้าพี่อยากใส่รูปตรงมุมบนขวาทำไงอ่ะ

 

โดย: erol 8 ตุลาคม 2548 23:54:04 น.  

 

ส่งรูปมาทางเมล์
แล้วพรุ่งนี้จะลองทำให้ค่ะ
ตอนนี้บังอรอ่านการ์ตูนอยู่อ่ะ

 

โดย: rebel 8 ตุลาคม 2548 23:56:08 น.  

 

thank you ka.. useful

 

โดย: Justin's mom (Baby I love you ) 9 ตุลาคม 2548 0:15:20 น.  

 

เปลี่ยนหน้าแล้ว
good nite

 

โดย: erol 9 ตุลาคม 2548 0:23:20 น.  

 

จขบ. ก็ไปนอนแล้วค่ะ

 

โดย: rebel 9 ตุลาคม 2548 0:42:11 น.  

 



...ขอบคุณค่ะ...

จขบ ไปทานราเม็งกะคุณ nutty profes sor ใช่มั้ยคะ

อร่อยรึป่าวเอ่ย อิอิ

 

โดย: วัฌชา 9 ตุลาคม 2548 0:53:44 น.  

 

ขอบคุณค๊าคุณแข

ฝันดีนะคะ

 

โดย: yadegari 9 ตุลาคม 2548 5:00:50 น.  

 

สาธุ๊ ..
จริง ๆ ด้วย ทุก ๆ อย่างจิตใจเป็นเรื่องสำคัญ

 

โดย: คุณย่า 9 ตุลาคม 2548 7:00:31 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะหนูแข .. ตื่นเช้าจัง วันหยุดแท้ๆ

 

โดย: ป้ามด 9 ตุลาคม 2548 7:17:39 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะ
ตื่นเช้ากันจัง พี่ตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่งละค่ะ
นี่กำลังจะออกไปธุระข้างนอก
ไปทั้งวันนะคะ กลับเย็นๆค่ะ
วันนี้ น้องแขไปดูหนังสือรึเปล่าคะ เย็นๆถ้าไม่เหนื่อยมาก พี่อาจแวะไปน่ะค่ะ

 

โดย: Black Tulip 9 ตุลาคม 2548 7:24:58 น.  

 

นัตตี้ พี. เขียนไรไว้ในบลอกอ่ะ ...

รีเบลไม่ได้ไปกินราเม็งนะคะ รีเบลกินเจ

 

โดย: rebel 9 ตุลาคม 2548 7:26:09 น.  

 

สวัสดีตอนเช้าค่ะน้องแข
บทความนี้เข้ากะพี่ตอนนี้พอดี ^^

ตอนนี้รอแผลหายค่ะ ก็ปวดๆ เจ็บๆ บ้าง
ขอบคุณมากนะคะ ^^




...

 

โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) 9 ตุลาคม 2548 7:26:14 น.  

 

ขอบคุณที่แวะไปบล๊อกผมนะครับ

 

โดย: Bluejade 9 ตุลาคม 2548 7:54:05 น.  

 

อรุณสวัสดิ์จ้ะ

 

โดย: me2you 9 ตุลาคม 2548 8:10:45 น.  

 

ขอบคุณบทความดีมากอ่ะค่ะ
วันนี้อาหารเจมีไรกินมั่งคะ
ของฉัน ผัดวุ้นเส้นค่ะ

 

โดย: prncess 9 ตุลาคม 2548 8:43:09 น.  

 

กินข้าวกับต้มจับฉ่ายค่ะ
กินเกือบทุกวันเลยค่ะ แต่ไม่เบื่อนะคะ
เจ้าของบลอกจับฉ่าย ชอบกินจับฉ่ายค่ะ

 

โดย: rebel 9 ตุลาคม 2548 8:57:14 น.  

 

ค่ะ...สำคัญที่สุด ใจของเราต้องไม่ป่วยค่ะ

 

โดย: อ้วนดำปื๊ดปื๊อ 9 ตุลาคม 2548 10:08:07 น.  

 

good moning

 

โดย: erol 9 ตุลาคม 2548 11:25:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

rebel
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Five Precepts For Kids

  1. I promise to try not to take the life of any animal, bug, fish or bird.

  2. I promise to try not to take anything which is not given to me.

  3. I promise to try not to be greedy or disrespectful with regard to what I eat, see, feel and listen to.

  4. I promise to try not to lie or speak harmfully to anyone.

  5. I promise to try not to consume any foods, drinks or drugs which make me stupid or crazy.






space
space
[Add rebel's blog to your web]
space
space
space
space
space