|
เมื่อไหร่จะแต่ง..
เคยมีใครถามบ้างไหมคะ ว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน? ถ้าเคย.. โดนถามตอนอายุเท่าไหร่กันคะ?
สำหรับตัวเอง โดนถามคำถามนี้ครั้งแรก น่าจะตอนอายุได้26-27
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ อายุย่างเลข 3 (ย่างแบบเฉียดมากๆ ) ยังโดนถามอยู่เป็นระยะ.. คำตอบก็คือ ยังไม่นึกอยากแต่งเลยล่ะ
ย้อนคิดไปถึงตอนวัยรุ่น ตอนนั้นอยากแต่งงานตอนอายุ 26 คิดว่าน่าจะกำลังดี จะได้มีลูกซัก 2-3 คน แบบว่าอายุยังไม่ถึง 30 ก็ปิดอู่ไปเลย
โตขึ้นมา ก็นึกอยากแต่งมาเรื่อยๆนะ โดยเฉพาะช่วงอายุ22-26 เนี่ย อยากแต่งเป็นจริงเป็นจังเชียว แต่ด้วยความไม่พร้อมหลายๆอย่าง เป็นอันว่าไม่ได้แต่ง
พอล่วงเลยมาเรื่อยๆ อายุ 27..28..29 ในขณะที่วุฒิภาวะมีมากขึ้น ความพร้อมมีมากขึ้น ความรู้สึกอยากแต่งงานกลับน้อยลงๆ
ทุกอย่างเริ่มอยู่ตัว เริ่มรู้สึกว่า เอ.. อยู่อย่างนี้สบายจัง ไม่มีภาระอะไรต้องรับผิดชอบ จะแต่งไปทำไมเนี่ย แต่งแล้วต้องลำบากกว่าเดิม
ลูกเหรอ? ไม่นึกอยากมีเลยอ่ะ มีหลานชายอยู่ 2 คน แค่เห็นก็เหนื่อยแล้ว ยอมรับล่ะว่าเด็กๆน่ะน่ารัก เข้าใจว่าคนเป็นแม่คงรู้สึกรักลูกอย่างท่วมท้น รักอย่างตื้นตัน เป็นความเหนื่อยที่มีความสุขซึ่งคนไม่มีลูกไม่มีวันจะเข้าใจและได้สัมผัส แต่ถ้าถามว่า อยากก้าวไปสู่ชีวิตอย่างนั้นหรือยัง ชีวิตที่มีใครบางคนให้โอบอุ้มเลี้ยงดู ให้คอยห่วงใยและทนุถนอม ขอบอกว่า ยังไม่อยากอ่ะ
อยากมีเวลาอยู่กับแฟนมากขึ้น อยากใช้ชีวิตร่วมกัน? อืม ถ้าใครแต่งแล้วได้อยู่กับแฟนมากขึ้น ก็น่าแต่งนะคะ แต่สำหรับตัวเอง ก็ดันรู้ซะอีกว่า ถ้าแต่งก็ไม่ได้อยู่กับแฟนมากนักหรอก ด้วยอาชีพของเค้า คงทำให้เราต้องอยู่คนเดียวบ่อยๆ อาจบ่อยซะยิ่งกว่าตอนไม่แต่งซะอีก อย่างน้อยตอนไม่แต่งเรายังอยู่กับครอบครัว มีพี่น้อง มีหลาน ถ้าแต่งแล้วไปอยู่กับสามี แล้วสามีไม่อยู่เนี่ย คงเซ็งพิลึก
สรุป ด้วยเหตุผลต่างๆนานา ทำให้เราไม่นึกอยากแต่งงานในระยะเวลาอันใกล้นี้..
ใครบางคนบอกว่า ถ้าคบกันนานๆแล้ว ยังไงก็ควรจะมีเป้าหมายนะ ถ้าคบแล้วไม่แต่งจะคบทำไม คบกันนานแล้วไม่แต่ง เดี๋ยวก็เลิกกันหรอก ฯลฯ อืม.. อันนี้น่าจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละคู่นะ ทำไมถึงต้องเอาระยะเวลาที่คบกันมาเป็นตัวแปร ของอย่างนี้ไม่น่าจะมีกฏตายตัวนี่ว่าคบกันกี่ปีถึงต้องแต่ง.. จริงไหมคะ
แน่นอนว่า ถ้าฝ่ายหนึ่งอยากแต่ง ก็คงต้องมาคุยกัน อาจจะพบกันครึ่งทาง ไม่ใช่ว่าจะดึงดันว่า เธออยากแต่งแต่ฉันยังไม่อยาก ทนไม่ได้ก็เลิกกันซะ มันไม่ใช่อย่างนั้นอยู่แล้ว คนรักกันก็ต้องอะลุ้มอล่วย หาจุดตรงกลางที่รับได้ทั้ง 2 ฝ่าย
แต่ถ้าต่างคนต่างมีความสุขดีแล้วณ.ขณะนี้ที่ยังไม่แต่งงานกัน ก็ไม่เห็นเป็นไร หากเรามั่นใจว่า การที่ไม่อยากแต่งเนี่ย ไม่ใช่เพราะกำลังรอ หรือแสวงหาคนที่ดีกว่า ถ้าเราเชื่อมั่นในกันและกัน จะแต่งเร็ว แต่งช้า หรือไม่แต่งก็ไม่น่ามีปัญหา..
วันนี้เขียนยาวมาก ไม่ใช่เพราะอัดอั้นตันใจหรอกนะคะ แต่พอดีเปลี่ยนหน้าตา blog ใหม่ ก็อยากจะ up blog แล้วเลยคิดๆๆๆ เอ จะเขียนเรื่องอะไรดีนะ พอดีวันนี้งานไม่ยุ่ง มาคิดเรื่องนี้ได้เพราะประสบการณ์ส่วนตัวที่โดนคนถามเป็นระยะ เลยเอามาเขียนซะยาว..
ไม่รู้ว่าอ่านกันจบไหม ใครมีความเห็นอะไรก็มาคุยกันได้นะจ๊ะ อยากฟังความเห็นของคนอื่นๆบ้าง
Create Date : 15 กรกฎาคม 2548 |
|
14 comments |
Last Update : 15 กรกฎาคม 2548 15:22:02 น. |
Counter : 674 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: YaCuLt 15 กรกฎาคม 2548 16:09:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: หนูชล 15 กรกฎาคม 2548 16:23:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: zaesun 15 กรกฎาคม 2548 17:27:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: JewNid 15 กรกฎาคม 2548 21:01:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตอง (Kazalong ) 17 กรกฎาคม 2548 9:43:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฟิลิปโป้ IP: 203.170.161.248 26 กรกฎาคม 2548 12:25:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้อน IP: 203.188.23.56 8 มิถุนายน 2550 19:30:33 น. |
|
|
|
|
|
|
|
อยากใช้ชีวิตใกล้ๆ กันเร็วๆ
อุตส่าห์ออกจากงาน เพื่อแต่งงาน
มีลูก เพียง 1 คนก็เหนื่อยแสนเหนื่อย
บรรยายไม่ถูกจริงจริง
และการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแถมมีพยานรักอย่างนี้
ทำให้คนที่หาเลี้ยง ย่อมต้องเหนื่อยเพิ่มมากขึ้น
เวลาระหว่างเราสามคนก็เริ่มห่างกัน
ห่างกัน ห่างกันมากกว่า อยู่คนละที่ซะอีก
นี้แหละชีวิตคู่ที่ใช้หัวใจตัดสินเพียวๆ