Photobucket
การสัมผัสของขวัญแห่งชีวิต






เมื่อเรามีความคิดที่เต็มไปด้วยความโกรธ ความกลัว หรือความสิ้นหวัง ความคิดที่ไม่ดีเหล่านี้จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราและสุขภาพของโลกในทันที ดังนั้นเราควรดำเนินชีวิตในวิถีที่ไม่ก่อให้เกิดความคิดเช่นนี้บ่อยๆ ความคิดที่เกิดขึ้นนี้เรียกได้ว่าเป็นกรรมหรือการกระทำประเภทหนึ่ง ที่จะกลายเป็นการสืบเนื่องของเราต่อไปในอนาคต

คำพูดต่างๆ ของเราควรจะเป็นสัมมาวาจาดังเช่นที่พระพุทธองค์ทรงแนะนำไว้ สิ่งที่เราพูดออกไปควรเป็นการแสดงออกถึงความรักความเมตตา การไม่แบ่งแยก และความตั้งใจมั่นที่จะบรรเทาความทุกข์ เราควรใช้คำพูดที่เมื่อเรากล่าวแล้วจะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ ทำให้เราได้รับการเยียวยา ทำให้ทุกคนบนโลกนี้ได้รับประโยชน์จากคำพูดแห่งความรักความเมตตา การให้อภัย และความกรุณาของเรา ในแต่ละวัน เราควรพูดอย่างนี้บ่อยๆ เพื่อที่จะเยียวยาและแปรเปลี่ยนตัวเราและโลกนี้

เมื่อเรามีการกระทำทางกายที่มีพลังอำนาจแห่งการปกป้อง รักษา สนับสนุน หรือบรรเทาทุกข์ การกระทำในลักษณะเช่นนี้จะช่วยเยียวยาตัวเราและโลกใบนี้ เมื่อจิตใจของเราเต็มเปี่ยมด้วยความกรุณา การกระทำที่ดีงามต่างๆ จะเกิดขึ้นเอง โดยที่เราไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก นั่นเพราะความรักและความกรุณาในใจได้เรียกร้อง ให้เราลงมือกระทำบางสิ่งบางอย่างให้เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

เมื่อมองไปที่ต้นส้ม เราจะเห็นว่ามันได้ผลิใบ ผลิดอก ออกผลส้มที่สวยงาม นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ต้นส้มต้นหนึ่งจะสามารถทำเพื่อโลกใบนี้ได้ ในฐานะมนุษย์เราก็สามารถมอบสิ่งต่างๆ ให้กับโลกในทุกขณะของชีวิตของเราได้ ด้วยความคิด คำพูด และการกระทำของเรา เราควรมอบความคิดที่ดีที่สุด คำพูดที่ดีที่สุด และการกระทำที่ดีที่สุด เพราะสิ่งเหล่านี้คือการสืบเนื่องของเรา ไม่ว่าเราจะต้องการให้เป็นเช่นนั้นหรือไม่ "กรรมเหตุ" คือการกระทำที่เป็นต้นเหตุ จะนำมาซึ่ง "กรรมผล" คือการกระทำที่เป็นผล พวกเราต่างสืบเนื่องไปในอนาคตด้วยการกระทำทั้งหลายเหล่านี้นี่เอง

การสืบเนื่องอันงดงาม

เมื่อร่างกายนี้สลายลง เราไม่อาจนำสิ่งใดติดตัวไปกับเราได้เลย ไม่ว่าจะปริญญาบัตร ชื่อเสียงหรือเงินทอง สิ่งเดียวที่จะติดตามเราไปคือการกระทำทั้งหลายอันเป็นผลจากความคิด คำพูด และการกระทำของเราในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่

เราปรากฏขึ้น ณ เวลาหนึ่ง และเราก็เคยปรากฏขึ้นมาแล้วหลายครั้งหลายคราว เราอาจเรียกการปรากฏขึ้นในครั้งก่อนๆ ว่าเป็นชีวิตในชาติที่แล้วๆ มา หากเราได้ปรากฏขึ้นแล้วในอดีตและปรากฏอยู่ในปัจจุบัน เราก็จะปรากฏขึ้นอีกในอนาคต ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

การคิดว่า หลังจากร่างกายนี้ย่อยสลายลง เราจะไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย เป็นการคิดที่ออกจะไร้เดียงสาอยู่สักหน่อย ด้วยการสังเกตอย่างลึกซึ้ง เรารู้ว่าไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นและไม่มีอะไรที่ตายลง ธรรมชาติที่แท้จริงนั้นไม่มีการเกิดและไม่มีการตาย ผู้ที่ปฏิบัติสมาธิภาวนาในวิถีพุทธคงตระหนักรู้ถึงความจริงนี้ได้ไม่ยาก ก่อนที่ก้อนเมฆจะปรากฏขึ้นเป็นเมฆ

ก้อนเมฆเองก็เป็นสิ่งอื่นมาก่อนหน้านี้ เป็นน้ำในห้วงมหาสมุทร เป็นความร้อนอันเกิดจากดวงอาทิตย์ และเป็นน้ำที่ระเหยขึ้นไปเป็นไอ ก้อนเมฆไม่ได้มาจากความไม่มีอะไรเลย ก้อนเมฆเกิดขึ้นจากบางสิ่งบางอย่าง เกิดขึ้นจากหลายๆ สิ่งที่ประกอบกันขึ้น ช่วงขณะที่เราเห็นก้อนเมฆเป็นก้อนเมฆนั้นเป็นเพียงช่วงขณะแห่งการสืบเนื่องเท่านั้น

ผลแห่งกรรมสองทบ

ในพุทธศาสนา คำว่า "ผลกรรม" หมายความถึงผลแห่งการกระทำของเราที่จะเกิดในอนาคต ผลกรรมมีความหมายสองแบบ แบบแรกคือขันธ์ 5 ซึ่งได้แก่ รูป, ความรู้สึก (เวทนา), การรับรู้ (สัญญา), การปรุงแต่งของจิต (สังขาร), และจิตรับรู้ (วิญญาณ) ความหมายอีกแบบหนึ่งของผลกรรมคือสิ่งแวดล้อม เราควรมองให้เห็นถึงธรรมชาติทั้งสองด้านของผลกรรมไปพร้อมกัน เธอก็คือสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่เธอสร้างขึ้นทั้งในแง่ที่เป็นส่วนบุคคลและส่วนรวม อย่างไรก็ตาม เรายังต้องก้าวต่อไปอีกขั้นหนึ่ง นั่นคือก้าวข้ามผ่านทวิภาวะระหว่างขันธ์ทั้ง 5 และสิ่งแวดล้อมของเรา

เมื่อเธอแหงนมองดวงดาวและดวงจันทร์ เธอรู้ว่าเธอนั้นคือดวงดาวและดวงจันทร์ และเมื่อเธอมองภูเขาหรือป่าไม้ เธอรู้ว่าเธอเองนั้นคือภูเขา คือป่าไม้ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผลกรรมทั้งสองรูปแบบนั้นเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา จริงแล้วๆ ธาตุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ลม น้ำ ดิน และไฟนั้นมีการเข้าและออกระหว่างกันอยู่เสมอ ขณะที่เราหายใจออก มีบางอย่างออกไปสู่สิ่งแวดล้อม เมื่อเราหายใจเข้า มีบางอย่างเข้ามาสูร่างกายของเรา ดังนั้นเธอจึงไม่เพียงอยู่ที่นี่ แต่เธออยู่ที่นั่นด้วย

วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับกระบวนการรับรู้ และประสาทวิทยาได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง "ภายในนี้" และ "ภายนอกโน้น พวกเรารับรู้ความจริงในแบบที่ขึ้นกับความชอบของแต่ละบุคคล และเราอาจตั้งคำถามว่าความจริงภายนอกโน้นเป็นสิ่งเดียวกับความจริงที่เรารับรู้ภายในนี้หรือไม่ หากเธอเจริญสมาธิอย่างต่อเนื่องและลึกซึ้ง เธอจะสามารถข้ามผ่านทวิภาวะของภายในนี้และภายนอกโน้นได้

เธออาจเชื่อว่าดอกไม้ดอกนี้อยู่ภายนอก แต่ฉันไม่มั่นใจเช่นนั้นเลยสักนิด คำถามที่ว่า ‘ดอกไม้ที่เธอเห็นนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ภายในจิตรับรู้หรืออยู่ภายนอกจิตรับรู้' เป็นคำถามที่ไม่ง่าย ในสาขาวิชาควอนตัมฟิสิกส์ สาขาประสาทวิทยา หรือสาขาวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับกระบวนการรับรู้ นี่เป็นคำถามที่ยากมาก แต่พระพุทธองค์ทรงบอกเราเป็นนัยๆ ไว้อย่างมากมายเพื่อให้เราได้สัมผัสกับความจริงอย่างที่มันเป็น ...๐


ธรรมบรรยายโดย ทานติช นัท ฮันห์

ที่มา//www.thaiplumvillage.org/




Create Date : 08 ตุลาคม 2553
Last Update : 8 ตุลาคม 2553 11:36:59 น. 8 comments
Counter : 405 Pageviews.

 
ได้อ่านข้อคิดทางธรรมอย่างว่องๆค่ะเช้านี้ ต้องรีบแพ็คเตรียมเดินทาง ~ 200ไมล์
ได้ข่าวน้องไม่สบายอีกก็ละเหี่ยใจไปกับคนเป็นแม่นะคะ เรานี่คล้ายกันหลายอย่าง มีลูกคนโตก็เก่งเรียนแต่สุขภาพไม่ดีเหมือนกัน
เอ๊า สู้ๆๆต่อไปนะคะ กลับมาแล้วจะมาถามไถ่อีกทีนะ มีโอกาสน้องแพทก็อย่าลืมพักผ่อนเท่าที่ทำได้นะคะ


โดย: anigia วันที่: 8 ตุลาคม 2553 เวลา:19:45:25 น.  

 


สวัสดียามเช้าค่ะ
ดี.ขออ่านข้อคิดดีดีด้วยคนค่ะ


โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:4:42:40 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่แพท ...

พู่เชื่อว่าคนเรามักมีกรรมติดมาแต่กำเนิด ..
เราเจอกับอะไรมันก็คงต้องเจอ เลี่ยงไม่ได้แต่ว่า
สิ่งที่ทำได้ก็คือ การทำอะไรด้วยสติ ถ้ายิ่งทำด้วยสติ
มากเท่าไหร่ ผลเสียที่เกิดมาก็จะต้องน้อยตาม
ไปด้วยน่ะค่ะพี่แพท ..


พู่สบายดีค่ะ พี่แพทและน้องๆ ล่ะค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย ไม่ได้ทักทายกันนาน
แต่ว่าพอเห็นพี่แพทแวะมาทางนี้บ้างก็ดีใจ
นะค่ะพี่ที่ไม่ลืมกันค่ะ

ปล.ภาพหนุ่มน้อยสองหนุ่ม เห็นแล้วย้ำเตือนว่า
เวลาผ่านไปไวสุดกู่ ... โตเร็วมั่กๆ ค่ะพี่


โดย: JewNid วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:8:18:10 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณแพท สบายดีนะคะ มาเยี่ยมหนุ่มน้อย ไม่ค่อยได้เข้าบล็อคเลยค่ะ ช่วงนี้ไปทำงานที่ร้านอาหารจีน

รักษาสุขภาพนะคะ


โดย: แม่น้องขวัญ_ซาแมนต้า วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:20:12:47 น.  

 


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 11 ตุลาคม 2553 เวลา:2:24:53 น.  

 
จริงแท้แน่นอนค่ะ บทความดีๆอย่างนี้ชอบมากค่ะ
---
หากมีโอกาส หนูขอเป็นนางแบบนะคะ
ได้เลยจ๊ะเมื่อไหร่ดี แล้วอย่าลืมพกหนุ่มน้อยในบล๊อกมาเป็นนายแบบรุ่นจิ๋วด้วยนะจ๊ะ


โดย: ดา ดา วันที่: 11 ตุลาคม 2553 เวลา:13:31:58 น.  

 







สวัสดียามเช้าค่ะ









โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 13 ตุลาคม 2553 เวลา:7:22:54 น.  

 


โดย: หน่อยอิง วันที่: 13 ตุลาคม 2553 เวลา:20:08:13 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Baby I love you
Location :
Amphur Muang Songkhla Thailand / St.Louis Missouri United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Photobucket
Photobucket
♥สวัสดีค่ะ เป็นคุณแม่ฟูลไทม์ค่ะ ทำงานพาร์ทไทม์เล็กๆน้อยๆพอที่จะมีสังคมและมีพอคเกตมันนี่กับเค้าบ้าง♥ ♥แต่งานหลัก..เลือกที่จะรักและดูแลลูกๆ ภูมิใจที่สุดสำหรับงานคุณแม่ฟูลไทม์ค่ะ♥
♥จงรักและปฏิบัติต่อลูกของคนอื่น♥ ♥เหมือนที่รักและปฏิบัติต่อลูกของตนเอง♥



free website counters
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
8 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Baby I love you's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.