วิจารณ์นักเตะทีมชาติเยอรมัน นัดพบกับ ตุรกี พร้อมคะแนนความสามารถนักเตะ

เกมส์นี้ทีมชาติเยอรมันค่อนข้างได้เปรียบมาก
ในฐานะที่ตัวผู้เล่นสมบูรณ์พร้อมมากกว่า และในขณะเดียวกันคู่ต่อสู้อย่าง
ตุรกีบาดเจ็บ และแบนไปเยอะมาก
เกมส์นี้จึงมีความคาดหวังสูงที่เยอรมันจะต้องเป็นผู้ชนะ

แต่ก่อนอื่น
ต้องบอกไว้ก่อนว่าผมก็นั่งดูเกมส์นี้ ขาดตอนไปบ้าง
แต่พยายามจับเหตุการณ์ตลอดทั้งเกมส์ที่ได้นั่งดู
และตามหน้าข่าวสารจากต่างประเทศ มาประติดประต่อ
ให้ได้อ่านกันอย่างมากที่สุด

ผลการแข่งขัน เยอรมัน 3 : 2 ตุรกี
12/06/08

รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของ เยอรมัน :
เลห์มันน์, แมร์แตซัคเคอร์, เม็ตเซลเดอร์, ลาห์ม, ฟรีดริส, บัลลัค, โรเฟส, ฮิตส์เซิลแปร์เกอร์, โพลโดลสกี้, ชไวสไตเกอร์, โคลเซ่

รายชื่อผู้ทำประตูของทีมชาติเยอรมัน :

1:1 Schweinsteiger (26,แอสซิส โพลโดลสกี้)
2:1 Klose (79,แอสซิส ลาห์ม)
3:2 Lahm (90, แอสซิส ฮิตส์เซิลแปร์เกอร์)

สถิติในแมตช์ :
- โอกาสยิงเข้ากรอบประตู (เยอรมัน 3 : 11 ตุรกีย)
- เตะมุม (เยอรมัน 2 : 8 ตุรกี)
- ฟาวล์ (เยอรมัน 14 : 15 ตุรกี)
- เปอร์เซ็นตการครองบอล (เยอรมัน 45% : 55% ตุรกี)

Man Of the match
บาสเตียน ชไวสไตเกอร์

ระบบและรูปแบบการเล่น :
เยอรมัน
ยึดระบบการเล่นแบบเดียวกับที่พบกับโปรตุเกส คือ 4-5-1 แผงรับ 4
คนหน้ากระดาน แผงกลางตัวรับสองคน และใช้ตัวทำเกมส์รุก 3 คน
และวางกองหน้าไว้คนเดียว

----------------------------------- เลห์มันน์ --------------------------------
-- ฟรีดริส -------- แมร์แตซัคเคอร์ ------------------ เม็ตเซลเดอร์ ------------ ลาห์ม --
------------------------- โรเฟส ----------- ฮิตสเซิลแปรเกอร์ --------------------
--- ชไวสไตเกอร์ --------------------- บัลลัค ------------------------ โพลโดลสกี้ ---
------------------------------------------ โคลเซ่ ---------------------------


วิจารณ์ผู้รักษาประตู
เยนส์ เลห์มันน์
ต้องบอกว่าเกมส์นี้ฟอร์มขึ้นๆ ลงๆ ไม่มั่นคงนัก
จังหวะออกมาตัดบอลการตัดสินใจยังไม่ค่อยเด็ดขาดมีความลังเล
แม้ว่าบางจังหวะจะช่วยเซฟลูกอันตรายได้หลายครั้ง
แต่โดยรวมแล้วถือว่าฟอร์มตกลงไปจากเกมส์ที่แล้วมาก

วิจารณ์แผงกองหลัง
-- ฟรีดริส -------- แมร์แตซัคเคอร์ ------------------ เม็ตเซลเดอร์ ------------ ลาห์ม --

เกมส์รับของทีมชาติเยอรมันในวันนี้ พบปัญหาเยอะในหลายๆ จุด ทั้งการประกบตัวผู้เล่นที่หละหลวม และการถูกโจมตีทางด้านข้าง

เริ่มกันที่ตำแหน่งแรกในไลน์ดีเฟ้น แบคซ้าย ลาห์ม
เกมส์นี้ต้องบอกว่าเหนื่อยมากสำหรับ ลาห์ม ถ้าไม่แจ๋วจริง
โดนเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรก เพราะตลอดทั้งเกมส์
ตุรกีเน้นโจมตีตรงกราบซ้ายของเยอรมันตลอด
โดยใช้ทั้งการโยนยาวเข้าไปโจมตีจุดอ่อน และการใช้ตัวผู้เล่น 2-3
คนที่มีความคล่องตัวคอยล่อหลอก ซึ่งในหลายจังหวะลาห์ม
ก็ต้องพบกับความเพลี่ยงพล้ำไปบ้าง เพราะนักเตะในแนวรับ
เมื่อพบกับนักเตะในแนวรุก ก็ต้องมีการชิงเหลี่ยมกันตลอดเวลา
ข้อผิดพลาดต่างๆ ก็มักจะเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าบอกว่าทั้งเกมส์
ลาห์มเสียเหลี่ยมไปเยอะ ก็ต้องบอกว่าใช่พบงานหนัก
แต่ก็ยังพอประคองตัวไปได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ลาห์ม
ยังมีความคงเส้นคงวามาตลอดจนถึงในเกมส์นี้ ก็คือการเติมเกมส์รุก ซึ่งลาห์ม
มักจะเติมเกมส์รุกขึ้นทางฝั่งซ้ายได้เสมอ และมีส่วนร่วมกับการทำประตูทั้ง
2 ประตูของทีมชาติเยอรมัน
โดยในจุดนี้สามารถหักล้างกับความผิดพลาดในเกมส์ของเขาไปได้มากพอสมควร

ขยับเข้าในไปดูที่ตำแหน่งกองหลังตัวกลาง แมร์แตซัคเคอร์
ถ้าจะบอกว่าเป็นเกมส์ที่แย่อีกเกมส์หนึ่งถือว่ากล่าวได้ไม่ผิดนัก
การประกบตัวผู้เล่นยังทำได้ไม่ดี มีส่วนร่วมกับการเสียประตู
เนื่องจากปล่อยให้ผู้เล่นตุรกี เข้าในกรอบเขตโทษและมีโอกาสยิงง่ายเกินไป
การผ่านบอลสั้นระหว่างหลังไปกลาง กลับพบข้อผิดพลาดที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น
จนเกือบโดนลงโทษจากผู้เล่นตุรกี

มาดูกันที่กองหลังตัวกลางอีกคนนึง เม็ตเซลเดอร์
ถือว่าเป็นอีกคนที่ฟอร์มแย่ในเกมส์นี้ การประกบตัวผู้เล่นหละหลวมเหมือนกัน
ปล่อยให้ผู้เล่นตุรกีมีโอกาสสอดเข้าในกรอบเขตโทษ ลุ้นยิงประตูได้ง่ายเกินไป

โยกไปดูที่ตำแหน่งแบคขวา ฟรีดริส
ถือว่ายังโชคดีที่เกมส์นี้ไม่ได้เจอผู้เล่นที่มีความคล่องตัวอย่าง อาร์ด้า
ตูราน แต่กระนั้นก็ดีคนที่ลงมาแทนก็มีความคล่องตัวสูงพอใช้ได้เหมือนกัน
ตลอดทั้งเกมส์ ฟรีดริส ก็ยังพบปัญหากับความคล่องตัวของผู้เล่นตุรกี
คอยเล่นงานอยู่เป็นระยะ บางจังหวะก็ปล่อยให้ผู้เล่นตุรกีลากตัดจากกราบขวา
เข้าไปยิงในกรอบเขตโทษได้ง่ายเกินไป แต่งานของฟรีดริส
ก็ยังถือว่าไม่หนักมาก เนื่องจากส่วนใหญ่
ตุรกีจะเน้นโจมตีไปยังกราบซ้ายของเยอรมันมากกว่า
แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดหายไปในเกมส์นี้สำหรับฟรีดริส ก็คือการเติมเกมส์รุก
ที่ขาดหายไปแทบไม่ได้เห็นการเติมเกมส์ขึ้นมา

สำหรับภาพรวมในเกมส์รับ
ต้องบอกว่าดูไม่ดีครับ พบปัญหาเยอะ
โดยเฉพาะการประกบตัวผู้เล่นที่มีความคล่องตัวสูง
และสิ่งหนึ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นปัญหาอย่างการรับมือลูกเตะมุม
ก็ยังเกิดปัญหาขึ้น ปล่อยให้ผู้เล่นตุรกีที่มีค่าเฉลี่ยความสูงน้อยกว่า
ได้ขึ้นโหม่งหลายหน

วิจารณ์แผงมิดฟิลด์
------------------------- โรเฟส ----------- ฮิตสเซิลแปรเกอร์ --------------------
--- ชไวสไตเกอร์ --------------------- บัลลัค ------------------------ โพลโดลสกี้ ---

แผง
กลางของทีมชาติเยอรมัน ยังคงมั่นใจยึดรูปแบบการเล่นเดิม
ที่เคยใช้ได้ผลดีกับการพบกับโปรตุเกส และยังคงยึดผู้เล่นเดิมๆ อยู่
แต่โดยภาพรวมแล้วดูไม่ดี ไม่สามารถครองเกมส์ได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้
การยืนตำแหน่งในแนวรับตรงกลางดูยังสับสน

ไปดูกันที่แผงกลางคนแรกซึ่งรับบทบาทให้คอยตัดเกมส์ โรเฟส
เกมส์ที่แล้วกับโปรตุเกส ถือเป็นผู้เล่นคนหนึ่งที่ทำหน้าที่ได้ดี
แต่สำหรับเกมส์วันนี้ ต้องบอกว่ามีปัญหามากในการยืนตำแหน่ง
เปิดช่องโหว่มากในแนวรับแดนกลาง การออกบอลยังช้าและผิดพลาดหลายครั้ง
ไม่สามารถช่วยทีมคอยปั้นเกมส์ได้ดังที่หวังไว้

ขยับไปดูอีกคนที่รับตำแหน่งให้คอยตัดเกมส์เช่นเดียวกัน ฮิตส์เซิลแปร์เกอร์
พบปัญหาพอสมควรในครึ่งแรกเหมือนกับ โรเฟส ที่ตำแหน่งการยืนยังสับสนกันอยู่
เปิดช่องโหว่เยอะในแนวรับระหว่างกลางและหน้า
ซึ่งไม่สามารถช่วยสกรีนให้แนวรับได้มากเท่าที่ควร
แต่สามารถกลับมาเล่นได้ดีและมั่นคงขึ้นในครึ่งหลัง
โดยหลังจากที่เปลี่ยนตัว ฟริงกส์ลงมาคอยช่วยตัดเกมส์ ทำให้
ฮิตส์เซิลแปร์เกอร์ เล่นได้ง่ายขึ้น
และมีโอกาสขยับขึ้นสูงไปช่วยทำเกมส์หลายครั้ง
มีส่วนร่วมกับประตูชัยของเยอรมันที่เป็นคนจ่ายให้ ลาห์ม

โยกออกข้างไปดูที่ตำแหน่งปีกขวา ชไวสไตเกอร์
การพักตัวเขาไว้ที่ข้างสนามในเกมส์แรกๆ ของทีมชาติเยอรมันมีผลจริงๆ
การลงสนามเป็นตัวจริงของ ชไวนี่ ในแต่ละนัดโดดเด่น
สร้างมิติในเกมส์รุกให้กับทีมชาติเยอรมันได้เยอะ
และคอยหาโอกาสสร้างสรรค์เกมส์อยู่ตลอดเวลา
ถือเป็นผู้เล่นคนเดียวที่ดูโดดเด่นมากที่สุดในแนวรุก
การยิงประตูตีเสมอให้ทีมชาติเยอรมัน
สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีความเข้าใจกันกับเพื่อนร่วมทีมสูง
แต่สิ่งหนึ่งที่ดูตกลงไปในเกมส์นี้ก็เป็นลูกตั้งเตะที่ยังไม่ค่อยชัวร์เท่า
ไหร่ ถ้าเทียบกับเกมส์ที่ผ่านมากับโปรตุเกส

โยกออกไปด้านข้างที่ตำแหน่งปีกซ้าย โพลโดลสกี้
เริ่มต้นเกมส์ได้ดี พยายามใช้ความคล่องและความเร็วให้เป็นประโยชน์
สามารถเล่นงานผู้เล่นในแนวรับของตุรกีได้บ่อย
แต่เป็นเฉพาะทางด้านข้างเท่านั้น
ซึ่งตลอดทั้งเกมส์แทบไม่มีโอกาสสอดขึ้นไปลุ้นยิงประตูในกรอบเขตโทษได้เลย
ถูกบีบให้เล่นด้านข้างตลอดเวลา
แต่ก็ถือว่ามีทีเด็ดทีขาดในการจ่ายบอลในจังหวะสำคัญ โดยเฉพาะการจ่ายบอลให้
ชไวนี่ ซัดลูกตีเสมอ ถือว่าเป็นลูกที่ซ้อมมาเป็นอย่างดี
เข้าขาและรู้ใจกันมาก

ไปดูกันที่เพลยเมคเกอร์ ที่รับหน้าที่คอยปั้นเกมส์อยู่หลังกองหน้า บัลลัค
เกมส์นี้ต้องบอกว่าเล่นได้ต่ำกว่ามาตราฐาน
ถ้าหากเทียบจากฟอร์มการเล่นที่ผ่านมาในหลายๆ นัด ซึ่งตลอดทั้งเกมส์
ไม่สามารถสอดขึ้นไปลุ้นทำประตูได้ตามถนัด
การปั้นเกมส์ของเขาในวันนี้ดูไม่มีอะไรโดดเด่น
ส่วนใหญ่ต้องเป็นฝ่ายไล่ตามคู่ต่อสู้มากกว่า
ทำให้บางครั้งเกิดอาการหัวเสีย อย่างที่เคยเป็นในนัดพบกับ โครเอเชีย

ภาพรวม
ในแผงกลางวันนี้โดยเฉพาะครึ่งเวลาแรก ดูไม่ดี
ช่องว่างระหว่างหลังกับกลางยังมีให้เห็นไม่แน่นอย่างที่คาดเอาไว้
การจ่ายบอลในแดนกลางพยายามเน้นความชัวร์ ออกบอลช้า แต่ก็ผิดพลาดบ่อย
เกมส์วันนี้ก็จะคล้ายๆ กับเกมส์ที่เจอกับโครเอเชีย
ซึ่งเยอรมันพยายามจะเดินหน้าเปิดเกมส์รุก แต่ขาดความแม่นยำ
ทำให้การผิดพลาดที่เกิดขึ้นในหลายครั้ง
ผู้เล่นตรงกลางตุรกีสามารถเก็บอลได้บ่อย และใช้การต่อบอลสั้นๆ
หลอกล่อผู้เล่นแผงกลางเยอรมันต้องให้เป็นฝ่ายไล่เยอะ
ทำให้แผงกลางเยอรมันต้องเสียพลังงานมาก
แต่ในครึ่งเวลาหลังดูจะดีขึ้นมาบ้าง เมื่อมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น
ซึ่งจะขอยกยอดไปพูดถึงผู้เล่นสำรองที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมา

วิจารณ์แผงกองหน้า
------------------------------------------ โคลเซ่ ---------------------------

ถือว่าเป็นการเล่นหน้าตัวเดียวอีกครั้ง ด้วยเหตุผลทางด้านแทคติคที่ปรับเปลี่ยนไป หลังจากที่ส่วนใหญ่มักจะเล่นกองหน้าสองตัวมาโดยตลอด

สำหรับ โคลเซ่
ในเกมส์นี้ต้องถือว่าค่อนข้างโดดเดี่ยวในแดนหน้า
ไม่ค่อยมีพื้นที่ให้เล่นมากนัด แทบจะถูกตัดออกจากเกมส์ไปเลย
การจ่ายบอลขึ้นไปในแนวหน้าเพื่อให้โคลเซ่คอยลุ้นทำประตู
โดยเฉพาะในครึ่งแรก ถูกดักสกัดได้หมด จ่ายไปก็ถือว่าเสียของ
โดนตุรกีสวนกลับมาเร็วขึ้นด้วย โดยภาพรวมแล้วเกมส์นี้ โคลเซ่
วิ่งน้อยไปนิด ไม่ค่อยลงมาช่วยเพื่อนลวงบอลเท่าไหร่
แต่ก็ต้องเห็นใจเพราะแดนหน้าไม่มีใครแล้ว ต้องคอยค้ำอยู่เพื่อความจำเป็น
สำหรับช่วยท้ายเกมส์ จังหวะที่ทำประตูได้ถือว่าเหมาะเจาะ
ใช้จุดเด่นของตัวเองให้เป็นประโยชน์ ขึ้นเทคตัวได้สูงมาก
และก็เป็นโชคด้วยที่ เร็คเบอร์ ผู้รักษาประตู ตุรกี ออกมาตัดบอลพลาด
ทำให้เขามีชื่อเป็นผู้ทำประตู ไม่อย่างนั้นต้องบอกว่าเกมส์นี้
นอกจากเล่นได้น่าผิดหวังแล้วยัง โนสกอร์อีกด้วย

วิจารณ์ผู้เล่นสำรองที่เปลี่ยนตัวลงมา
ทอร์เท่น ฟริงกส์
ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน โรเฟส ในช่วงต้นครึ่งหลังด้วยความจำเป็นเนื่องจาก
โรเฟส มีการบาดเจ็บ แต่ลงมาแล้วเล่นได้ดีมาก เกมส์ตรงกลางดูแน่นขึ้น
เล่นได้อย่างแน่นอนไม่ค่อยมีข้อผิดพลาด คอยช่วยสกรีนก่อนถึงแนวรับได้ดี
และทำให้คู่หูที่คอยตัดเกมส์ร่วมอย่าง ฮิตส์เซิลแปร์เกอร์
มีโอกาสสอดขึ้นไปช่วยทำเกมส์ได้ง่ายขึ้น

มาแซล แยนเซ่น ถูกเปลี่ยนลงมาแทน โคลเซ่ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เน้นอุดแนวรับให้แน่นขึ้น บทบาทนอกเหนือจากนี้แทบไม่มี

วิจารณ์โค้ช
สำหรับ
เกมส์นัดนี้ เลิฟ ก็ยังคงยึดระบบ 4-5-1
ที่เห็นว่าสามารถใช้ได้ดีในเกมส์พบกับ โปรตุเกส
และมาเจอคู่ต่อสู้ที่เล่นกลาง 5 คนเหมือนกัน เลยทำให้เลิฟ
ต้องยึดระบบนี้เล่นต่อไป เน้นตรงกลางแน่น และรัดกุม
แต่ก็ต้องสูญเสียความอันตรายในแนวรุกลงไปบ้าง
เนื่องจากการเลือกผู้เล่นตัวตัดเกมส์ถึงสองคน และใช้กองหน้าเพียงคนเดียว
กับการเล่นกับคู่ต่อสู้ที่มีสภาพไม่สมบูรณ์ เลิฟ ก็ดูจะยังไม่ประมาท
ไม่กล้าเสี่ยงใส่กองหน้าลงไปถึง 2 คน ทำให้เกมส์นี้หัวหอกคนเดียวที่วางไว้
ค่อนข้างโดดเดี่ยวพอสมควร

แม้ว่าจะมีการใส่กลางลงไปถึง 5 คน
เพื่อเน้นรัดกุม และพยายามครองเกมส์ให้ได้
เพื่อกดดันคู่ต่อสู้ที่อยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์
แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นไปตามนั้น ตลอดทั้งเกมส์ลูกทีมของเลิฟ
ปั้นเกมส์ของตัวเองไม่ค่อยได้ จังหวะการออกบอลช้า และผิดพลาดบ่อย
การเน้นออกบอลจังหวะเดียวจากหลังไปหน้าไม่ทำให้เกิดประโยชน์
แดนหน้าเก็บบอลไม่ได้ ทำให้โดนสวนกลับมาบ่อยครั้ง และแดนกลางของเลิฟ
ที่วางไว้ก็เก็บบอลได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทำให้เปอร์เซ็นการครอบครองบอลสู้
ตุรกีไม่ได้

ยังโชคดีบ้างที่เยอรมันมาได้ประตูถูกจังหวะเวลา
และมีทีเด็ดทีขาดที่แน่นอน แม่นยำในการเข้าทำ แม้จะได้โอกาสน้อยมาก
ทำให้สามารถเป็นผู้ชนะออกมาได้ แม้ผลงานในสนามโดยรวมแล้วจะดูไม่ดี
แต่ถ้ากลับกันผลการแข่งขันไม่ได้เป็นอย่างที่เพิ่งจบออกมา
กลับพลิกไปอีกหน้านึง ก็อาจจะเกิดคำถามขึ้นมาว่า เลิฟ
คนเดิมที่เคยกล้าเสี่ยงหายไปไหน ทำมัยจึงไม่เติมในรุกลงมาเสริม
เพื่อสร้างความหลากหลายในเกมส์รุก กลับเล่นแบบกล้าๆ กลัวๆ
เน้นรัดกุมเกินเหตุ
แม้กระทั่งกับคู่ต่อสู้ที่อยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์อย่างตุรกี
ก็ถือว่าโชคดีไปสำหรับ เลิฟ เส้นทางการลุ้นแชมป์ ก็ยังคงดำเนินต่อไป
แม้จะกระท่อน กระแท่นบ้างก็ตามที...

คะแนนความสามารถนักเตะ
1 = ระดับโลก
2 = ดี
3 = พอใช้
4 = ต้องปรับปรุง
5 = ห่วยมาก

เล
ห์มันน์ (4), แมร์แตซัคเคอร์ (5) , เม็ตเซลเดอร์ (5) , ลาห์ม (3) ,
ฟรีดริส (4) , บัลลัค (5) , โรเฟส (5) , ฮิตสเซิลแปร์เกอร์ (3.5) ,
ชไวสไตเกอร์ (2.5), โพลโดลสกี้ (3.5) , โคลเซ่ (4)

สำรองที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมา : ฟริกงส์ (3.5), แยนเซ่น (N/A)

Create Date : 26 มิถุนายน 2551		0 comments
Last Update : 26 มิถุนายน 2551 22:24:00 น.
Counter : 789 Pageviews.
Share Tweet