(บทที่1) วิจารณ์นักเตะทีมชาติเยอรมัน พร้อมคะแนนความสามารถนักเตะ แมตช์พบกับ ออสเตรเลีย

(บทที่1) วิจารณ์นักเตะทีมชาติเยอรมัน พร้อมคะแนนความสามารถนักเตะ แมตช์พบกับ ออสเตรเลีย

เกมส์นี้หากมองตามชื่อชั้น เยอรมันค่อนข้างได้เปรียบเยอะ ตามร้านรับพนันต่างๆ ให้เยอรมันเป็นต่อหนึ่งลูกเลยทีเดียว แต่หากมองตามประสบการณ์ของเด็กๆ หลายคนเมื่อเทียบกับผู้เล่น ออสเตรเลียแล้วต่างกันค่อนข้างเยอะ
แต่เกมส์ฟุตบอลต้องการทีมเวิร์คและความสามารถนักเตะเป็นหลัก ประสบการณ์ก็แค่เป็นส่วนเสริมเท่านั้น

ผลการแข่งขัน เยอรมัน 4 : 0 ออสเตรเลีย
13/06/2010

รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของ เยอรมัน :
นอยเออร์, ลาห์ม, แมตเตซัคเคอร์, ฟรีดริส, บาดสตูเบอร์, ชไวสไตเกอร์, เคดิร่า, โพลโดลส์กี้, มุลเลอร์, โอซิล, โคลเซ่

รายชื่อผู้ทำประตูของทีมชาติเยอรมัน :
1:0 โพลโดลส์กี้ (8.,จากการจ่ายของ มุลเลอร์)
2:0 โคลเซ่ (27., จากการจ่ายของ ลาห์ม)
3:0 มุลเลอร์ (68., จากการจ่ายของ โพลโดลส์กี้)
4:0 คาเคา (70., จากการจ่ายของ โอซิล)

สถิติในแมตช์ :
- โอกาสยิงเข้ากรอบประตู (เยอรมัน 10 : 2 ออสเตรเลีย)
- เตะมุม (เยอรมัน 4 : 7 ออสเตรเลีย)
- ฟาวล์ (เยอรมัน 10 : 19 ออสเตรเลีย)
- เปอร์เซ็นตการครองบอล (เยอรมัน 55% : 45% ออสเตรเลีย)

แมนออฟเดอะแมตช์
ลูคัส โพลโดลส์กี้

ระบบและรูปแบบการเล่น :
ทีมชาติเยอรมัน ยึดระบบการเล่น
4-2-3-1 คือใช้แผงกองหลัง 4 หน้ากระดาน มีกลางคอยคุมเกมส์สองคนคอยอยู่หลังกลางรุก 3 คน และวางกองหน้าไว้ 1 คน

----------------------------------- นอยเออร์ --------------------------------
-- ลาห์ม -------- แมร์เตซัคเคอร์ ------------------ ฟรีดริส ------------ บาดสตูเบอร์ --

----------------------------- ชไวสไตเกอร์ --------------------------------------------
------------------------------------------- เคดิร่า -------------------------------------

--- มุลเลอร์ --------------------- โอซิล ------------------------ โพลโดลสกี้ ---

------------------------------------------ โคลเซ่ ---------------------------

วิจารณ์ผู้รักษาประตู
มานูเอล นอยเออร์
เจอกับบททดสอบที่ไม่อยากนักตลอดทั้งเกมส์ แต่โดยรวมไม่มีข้อผิดพลาดอะไรให้เห็น หากเทียบกับประสบการณ์ในทีมชาติและอายุของเขา การลงเล่นในฟุตบอลโลกครั้งแรกของเขา
ถือว่าเปิดตัวได้ค่อนข้างสวย และที่แอบดีใจเล็กๆ คือมักจะกล้ากระตุ้นแผงหลังเพื่อนร่วมทีมด้วย

วิจารณ์แผงกองหลัง
-- ลาห์ม -------- แมร์เตซัคเคอร์ ------------------ ฟรีดริส ------------ บาดสตูเบอร์ --

เกมส์รับของทีมชาติเยอรมัน วันนี้วางแบคโฟรหน้ากระดาน ผู้เล่นก็ตามคาดจากสื่อ

เริ่มต้นกันที่ฟอร์มของ แบคขวากับตันทีมชาติเยอรมัน ลาห์ม การเริ่มต้นฟุตบอลโลกในฐานะกับตันทีมชาติเยอรมันของลาห์ม ถือว่าเป็นการเปิดตัวที่สวย หากมองดูที่ผลการแข่งขัน และฟอร์มการเล่นของเขา ตลอดทั้งเกมส์ก็มีส่วนร่วมกับการเติมเกมส์ทางฝั่งขวาโดยตลอด ประสานเกมส์รุกกับมุลเลอร์ทางฝั่งขวาได้ดี และเป็นผู้เปิดบอลให้โคลเซ่ทำประตูได้
ภาพที่เห็นกันจนชินตาคือเพื่อนเติมเกมส์ขึ้นมาทางฝั่งขวาทีไร กัปตันทีมจอมขยัน จะวิ่งอ้อมขึ้นมาคอย รับบอลจากเพื่อนเพื่อเล่นต่อทุกครั้ง ถือเป็นอาวุธเด็ดของทีมชาติเยอรมัน คู่ต่อสู้รู้ดีในจุดนี้ แต่ก็ป้องกันได้ยากเพราะ ลาห์ม เป็นแบคที่มีความคล่อง และเอาตัวรอดได้เก่ง ส่วนการเล่นเกมส์รับของเขาวันนี้โดยรวมเล่นได้ดีมาก มีพลาดแค่ครั้งเดียว จากการเข้าสกัดคู่แข่ง
และ ลาห์มถือเป็นแบคที่แย่งลูกจากคู่แข่งได้เก่งมากคนนึง และไม่ค่อยเสียฟาวล์เท่าไหร่

ขยับเข้าในไปดูที่ตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง แมร์เตซัคเคอร์ ดาวเตะผู้มากประสบการณ์ หากมองแค่เพียงการลงเล่นในทัวร์นาเม้นกับทีมชาติ เพราะเขาผ่านมาแล้วทั้งบอลโลก 06 และยูโร 08
ถือเป็นนักเตะหนุ่มที่แจ้งเกิดตั้งแต่เด็ก วันนี้การเล่นของ แมร์เตซัคเคอร์ แทบไม่มีข้อผิดพลาดให้เห็น ทั้งเกมส์ปักหลักอยู่ที่แดนตัวเองอย่างเดียว เกมส์ส่วนใหญ่ที่ออสเตรเลียมักวางยาวจากแดนหลัง มาถึงแดนหน้า แมร์เตซัคเคอร์ สามารถเก็บกินได้ด้วยลูกโหม่งเกือบทั้งหมด ถือเป็นนักเตะในแผงหลังคนนึงที่ขีดเส้นความมั่นคงเอาไว้ให้กับทีมได้ชัดเจนคนนึง สำหรับเกมส์นี้

ขยับเข้าไปกับตำแหน่งปราการหลังตัวกลางอีกคน ฟรีดริส ปราการหลังจากแฮร์ธ่า รายนี้ ได้มาเป็นคู่หูในแผงรับทีมชาติเยอรมันร่วมกับ แมรเตซัคเคอร์ เป็นครั้งแรกในบอลทัวร์นาเม้น สำหรับผมแล้ว ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้ เพราะฟรีดริส มีความเร็วอยู่พอตัว และเคยเล่นแบคขวาให้ทีมชาติและสโมรสรมาก่อน การจับคู่กับ แมร์เตซัคเคอร์ ที่เป็นกองหลังประเภทตัวซ้อน ถือว่าเป็นการจับคู่ที่ค่อนข้างลงตัว ฟรีดริส จึงถูกวางให้เข้าปะทะคู่แข่งก่อนเสมอ เนื่องจากความเร็วไว้ใจได้ในระดับนึง ฟอร์มโดยรวมของเขาในเกมส์นี้ โฟกัสได้ว่าการจับคู่ปราการหลังตัวกลางของเขา เริ่มต้นได้ดี และถูกคู่มากที่สุดในเวลานี้

ออกไปดูที่ตำแหน่งแบคซ้ายกันบ้าง บาดสตูเบอร์ แบคและปราการหลังตัวกลางดาวรุ่งของบาเยิร์น และทีมชาติเยอรมัน ที่ถูกทำคลอดโดยฟานกัล และเลิฟก็เห็นจุดเด่นบางประการของดาวรุ่งรายนี้ จึงเรียกตัวมาติดทีมชาติ และถือว่าค่อนข้างโชคดีกับการที่ เวสเตอร์มันน์ ที่อาจจะถูกวางตัวให้เล่นแบคซ้ายได้รับบาดเจ็บจนต้องถอนตัวออกไป และแยนเซ่นก็ไม่ฟิตมากเท่าที่ควร โอกาสจึงตกเป็นของเขา และผลงานในสนามของเขาก็เป็นภาพที่ชินตากับแฟนฟุตบอลเยอรมัน กับการรักษาระยะในแนวรับของตัวเองอย่างมีวินัย น้อยครั้งที่จะเติมเกมส์สูงขึ้นไปเพื่อค่อยสนับสนุนเพื่อนทางฝั่งซ้าย เราจึงเห็นว่า เยอรมันส่วนใหญ่การบุกทางริมเส้นทั้งสองข้างมักจะขึ้นทางขวา ส่วนการขึ้นทางซ้ายก็มักจะเป็นการถ่ายบอลมาจากแดนกลางและขึ้นทางปีกมากกว่า เมื่อเรามองหาจุดอ่อนจากบาดสตูเบอร์ ในจุดเดียว
ที่พบว่าเป็นปัญหาก็คือการเติมเกมส์ขึ้นไปสนับสนุนเพื่อนทางริมเส้น แต่หากมองในมุมกลับเขาก็เป็นคนนึงที่สามารถรักษาพื้นที่ในแนวรับของตัวเองได้อย่าง มั่นคงมากคนนึง สำหรับเกมส์ที่ผ่านมา แต่คำถามก็จะเกิดขึ้นมาว่า หากเกมส์ทางขวาไม่สามารถเดินได้อย่างที่เคยเป็น แล้วเกมส์ทางซ้ายจะช่วยเดินเกมส์ได้ด้วยอย่างไร อันนี้ยังคงต้องรอพิสูจน์กันต่อไป และยังคงเป็นตำแหน่งนึงที่แฟนบอลเยอรมัน ค่อนข้างลุ้นมากที่สุดตำแหน่งนึงในแนวรับ และประเด็นใหญ่ที่พูดถึงกันก็คือ การสนับสนุนเพื่อนในเกมส์รุกริมเส้น และการพบกับผู้เล่นปีกที่มีความเร็วสูง เขาจะมีผลงานอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป

สำหรับภาพรวมในแผงรับของทีมชาติเยอรมัน ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไหร่ในเกมส์นี้ เพราะผู้เล่นออสเตรเลียส่วนใหญ่ เติมเกมส์ได้ช้า และไม่ค่อยมีตัวทะลุทะลวง ไว้คอยเล่นงานกองหลังที่รูปร่างสูงใหญ่ของเยอรมัน การเปิดเกมส์รุกส่วนใหญ่ของออสเตรเลีย มักจะเป็นการวางยาวจากแดนหลังถึงแดนหน้า ซึ่งผู้เล่นอย่าง แมรเตซัคเคอร์ และฟรีดริส เก็บกินได้เกือบทั้งหมด ส่วนแบคซ้ายและขวาทีมชาติเยอรมัน ก็ไม่ค่อยพบกับงานที่ยากลำบากมากนัก ก็เล่นกันไปตามสไตล์ของตัวเองได้ตลอดทั้งเกมส์

วิจารณ์แผงมิดฟิลด์
----------------------------- ชไวสไตเกอร์ --------------------------------------------
------------------------------------------- เคดิร่า -------------------------------------

--- มุลเลอร์ --------------------- โอซิล ------------------------ โพลโดลสกี้ ---

แผงกลางของทีมชาติเยอรมัน ที่เลิฟยึดระบบการเล่นนี้บ่อยในช่วงหลังๆ ในการเตรียมทีมซ้อม คือกลาง 5 คน ที่แบ่งย่อยออกมาเป็น 2-3 คือกลางคุมจังหวะสองคน และกลางรุกสามคน ถือเป็นบทพิสูจน์สำหรับแผนการเล่นใหม่สำหรับทีมชาติเยอรมัน และเป็นแผนยอดนิยมแผนหนึ่งของฟุตบอลสมัยใหม่ที่มักถูกนำมาใช้กัน ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงก้าวสำคัญก้าวหนึ่ง ของวงการลูกหนังเยอรมัน กับแผนการเล่นที่ปรับให้เข้ากับฟุตบอลสมัยใหม่ ที่เลิฟพยายามนำมาใช้

เรามาเริ่มกันที่ตำแหน่ง มิดฟิลด์ตัวรับที่ทำหน้าที่คอยคุมจังหวะแนวหลังสุดในแผงมิดฟิลด์ ชไวสไตเกอร์ การทำหน้าที่ของเขาในเกมส์นี้เป็นคนนึงที่เล่นได้เด่นมาก เป็นคนที่คอยคุมจังหวะเกมส์ให้กับทีม และสามารถช่วยสกรีนบอลหน้าแผงรับได้ดี เก็บบอลได้บ่อย การเปลี่ยนแกนสลับซ้ายขวา และการจ่ายบอลขวางสนามทำได้ค่อนข้างดี และเป็นคนที่คอยซ้อน เคดิร่า ให้ดันขึ้นสูงได้ง่ายขึ้น เมื่อก่อนเราเคยเห็น ฟริงกส์ คู่กับ บัลลัค แต่มาคราวนี้ ชไวนี่ ทำหน้าที่แทนฟริงกส์ แต่รูปแบบและลีลาการเล่น ชวนให้นึกถึง ฮามันน์ ในการเล่นมิดฟิลดืตัวรับที่มีชั้นเชิง

ขยับขึ้นไปดูตำแหน่งกลางคุมจังหวะอีกคน เคดิร่า ดาวรุ่งจากสตุ๊ตการ์ทจากชุดแชมป์ U21 รายนี้ถือเป็นตัวตายตัวแทนบัลลัค แม้ตำแหน่งการเล่นจะไม่คล้ายคลึงกันซ่ะทีเดียว แต่วิธีการเล่นคล้ายกัน เป็นคนนึงที่เด่นในการขยับขึ้นสูงไปคอยลุ้นทำประตู เกมส์นี้พยายามที่จะดันสูงขึ้นไปช่วยเพื่อนทำประตูอยู่หลายครั้ง สอดมาจากตำแหน่งที่คู่แข่งไม่ทันระวังตัว รูปแบบนี้แฟนบอลเยอรมันคุ้นเคยกันดี กับการเล่นของบัลลัค ส่วนความเข้าใจเกมส์ในแดนกลางของเขาก็ค่อยๆ ฉายแววขึ้นกับการเล่นคู่กับ ชไวสไตเกอร์ ด้วยความที่เป็นนักเตะที่คิดเร็ว ทำเร็ว และมีเทคนิคความสามารถเฉพาะตัวสูงพอสมควร ทำให้เกมส์แรกในบอลโลกของเขาสามารถสอบผ่านได้อย่างไม่ยากเย็น

ขึ้นสูงอีกนิดไปดูพวกบรรดากลางรุก เริ่มต้นกันด้วยกลางรุกฝั่งขวา มุลเลอร์ เจ้าหนูมุลเลอร์ กับเบอร์ 13 ในทีมชาติ และเป็นเกมส์แรกในบอลโลกของเขา การเริ่มต้นที่เป็นไปได้ด้วยดี มียีนส์ของผู้ชนะอยู่ในตัว เป็นนักเตะที่เล่นด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเทเกินร้อย เกมส์รุกทางขวาสามารถเติมเกมส์ และรุมขโยกกันอย่างเมามันส์กับลาห์มได้เป็นอย่างดี กล้าเลี้ยง กล้าลุย และคอยสอดขึ้นไปลุ้นทำประตูอยู่ตลอดเวลา เกมส์นี้ถือเป็นนักเตะอีกคนที่เล่นได้โดดเด่น การยิงหนึ่งจ่ายหนึ่งของเขา คงไม่ต้องบอกว่าเกมส์แรกในบอลโลกของเขานั้นน่าจดจำเพียงใด

ไปดูที่กลางรุกด้านข้างอีกคน โพลโดลสกี้ หลังๆ มักถูกวางให้เล่นกลางรุกด้านซ้าย ทีเด็ดเท้าซ้ายของเขาสามารถใช้งานได้อย่าง ถูกที่ถูกเวลาเสมอ ในยามเล่นให้กับทีมชาติ และถือเป็นนักเตะอีกคนที่มักมีพลังแฝง เมื่อยามลงเล่นให้กับทีมชาติ เกมส์นี้ถือเป็นนักเตะที่เล่นได้เด่นมากที่สุดคนนึงให้กับทีม แม้ว่าคู่สนับสนุนทางซ้ายของเขาอย่าง บาดสตูเบอร์ จะไม่ค่อยขึ้นมาช่วยเติมเกมส์ด้านข้างเท่าไหร่ แต่โพลดี้ ก็สามารถทำผลงานได้ดี การเติมเกมส์รุกของเขาเป็นอะไรที่ชัดเจน ไม่ยึกยัก ไม่เล่นบอลหลายจังหวะ คิดเร็ว ทำเร็ว และมีส่วนร่วมในการลุ้นประตูอยู่เป็นระยะๆ ทั้งการสนับสนุนเพื่อนร่วมทีม และการลุ้นขึ้นไปทำประตูเอง ประตูที่แรกที่ยิงให้กับทีมถือเป็นการเรียกความมั่นใจให้กับตัวเองและเพื่อนร่วมทีมได้เยอะ และการจ่ายอีกหนึ่งลูกให้กับมุลเลอร์ เบิกประตูแรกในนามทีมชาติ ก็เป็นคะแนนเสริมให้กับเขา ในการที่จะเลือกผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในเกมส์นี้ได้อย่างไม่ยากนัก

ขยับขึ้นสูงอีกนิด ไปดูที่ตำแหน่งกลางรุกที่ถูกวางไว้ หลังกองหน้า โอซิล บอลโลกหนแรกอีกคนสำหรับดาวรุ่งจากเบรเมนรายนี้ เป็นนักเตะที่รอบจัด เทคนิคและความสามารถเฉพาะตัวสูง เอาตัวรอดในพื้นที่แคบๆ ได้เก่ง สายตาการอ่านเกมส์ และผ่านบอลสั้นๆ ได้ยอดเยี่ยม เกมส์นี้ก็พิสูจน์ให้เห็นกันอีกครั้งนึงว่า เลิฟเลือกใช้คนไม่ผิด โอซิล ลงเล่นให้กับทีมชาติในบอลโลกหนแรก และไม่พบอาการตื่นสนามแต่อย่างใด จังหวะดวลกับผู้เล่นตรงข้าม 1-1 สามารถเอาตัวรอดได้แทบทุกครั้ง ขยันหาพื้นที่ว่างในการขึ้นเกมส์รุกของทีมตลอดเวลา เป็นนักเตะที่เคลื่อนที่ตลอดในแนวรุก เป็นนักเตะคนนึงที่สร้างความลำบากใจให้กับการจัดกระบวนรับของผู้เล่นออสเตรเลีย มากที่สุดคนนึง การผ่านบอลสั้นๆ ของนักเตะที่มีสเต็บการวิ่งคล้ายคลึงกับลิสบาสกี้ แต่คมกริบเหมือนเฮสเลอร์ ในอดีต ถือเป็นอาวุธเด็ดอย่างนึงในแนวรุกของเยอรมันครั้งนี้

ภาพรวมของแผงมิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน ถือว่าสอบผ่านทุกคน สามารถรับผิดชอบกับหน้าที่ของตัวเองที่โค้ชวางไว้ได้อย่างดีเยี่ยม นักเตะเริ่มคุ้นเคยกับแผงกลางลักษณะนี้กันแล้ว แผงกลางตัวคุมจังหวะสองคน แบ่งหน้าที่การทำงานกันอย่างชัดเจน และสามารถเก็บบอลให้กับทีมได้เยอะ ทำให้กลางเยอรมันเคลื่อนบอลกันได้ค่อนข้างต่อเนื่อง และเป็นระบบ กลางรุกสามคนก็ทำหน้าที่ได้อย่างดี เล่นง่าย คิดเร็ว ทำเร็ว มีลูกจังหวะสอดประสาน และโชว์ทีมเวิร์คให้เห็นกันอยู่เป็นระยะ

วิจารณ์แผงกองหน้า
------------------------------------------ โคลเซ่ ---------------------------

กองหน้าผู้มากประสบการณ์จากบาเยิร์น โคลเซ่ แม้ว่าฟอร์มกับสโมรสรและโอกาสการลงสนาม จะถูกจุดที่เรียกได้ว่าล้มเหลวอย่างสุดขีด แต่การเล่นให้กับทีมชาติ เสมือนว่าเขาพร้อมสำหรับสิ่งนี้ตลอดเวลา เป็นนักเตะที่มีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา และขยันสร้างโอกาสการทำประตูให้กับตัวเองอย่างเป็นระยะ การประสานกับเพื่อนร่วมทีมในแนวรุกสามารถทำได้ดี ค่อนข้างไหลลื่น บอลไม่ค่อยหยุดชะงัก หากมองจากผลงานการประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมเพียงอย่างเดียวถือว่าเป็นกองหน้า ที่สร้างโอกาสในการลุ้นประตูให้กับทีมได้ดีมากคนนึง การถูกวางตัวในตำแหน่งกองหน้าคนเดียวของเขา ในขณะนี้รูปแบบการเล่นก็ไม่ต่างจาก คาเคา นักเนื่องจากถูกวางให้เป็นหน้าเป้าก็จริง แต่ในหลายจังหวะก็มักจะเป็นตัวทำทางให้เพื่อนได้สอดขึ้นมาทำประตู นักเตะสไตล์อย่าง โคลเซ่ ถือว่าเป็นกองหน้าที่ไม่หวงบอล ทำให้การถูกวางให้เล่นในรูปแบบนี้ หากเขาสามารถทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง ก็อาจจะยึดตำแหน่งตัวจริงได้ต่อไป และหากสามารถพัฒนาและเรียกความมั่นใจในการจบสกอร์จังหวะสุดท้ายได้ ถือว่าเป็นหัวใจอีกคนในแนวรุกของทีมชาติที่จะขาดไม่ได้คนนึง

วิจารณ์ผู้เล่นสำรองที่เปลี่ยนตัวลงมา
คาเคา
ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนโคลเซ่ ในนาทีที่ 68 และถูกวางให้เล่นในตำแหน่งและวิธีการเล่นรูปแบบเดียวกับโคลเซ่ และสามารถทำผลงานได้ยอดเยียมตั้งแต่สัมผัสบอลครั้งแรก สำหรับการตอบแทนทีมชาติที่ให้โอกาส ด้วยการทำประตูแรกในฟุตบอลโลก ฟอร์มการเล่นของเขาโดยรวมถือว่าทำได้ค่อนข้างดี การขยับหาพื้นที่ การประสานกับเพื่อร่วมทีม และการเล่นบอลสั้นๆ ทำได้ค่อนข้างดี

โกเมส ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน โอซิล นาทีที่ 74 และมีการปรับแผนการเล่นเป็น 4-4-2 โดยยืนหน้าคู่กับ คาเคา เสมือนที่เคยเล่นด้วยกันที่สตุ๊ตการ์ท สำหรับการให้โอกาสของเลิฟครั้งนี้ ผมถือว่าเลิฟทำได้ถูกต้อง กับการเลือกที่จะเคาะสนิมผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง ที่เคยเป็นตัวความหวังมาก่อน แต่ฟอร์มดร๊อปไปเพราะขาดความมั่นใจ ในยามที่เกมส์ขาดไปแล้ว ไม่มีผลใดๆ ต่อผลการแข่งขันของทีมที่จะเกิดขึ้น จิตวิทยา บางอย่างที่โค้ชมักจะเลือกมาใช้ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่อาจจะสวนทางกับความต้องการของแฟนบอล เพราะถือว่าเป็นการมองภาพที่ต่างสถานะกัน

มาริน ถูกเปลี่นตัวลงมาแทน โพลโดลสกี้ ในนาทีที่ 81 เพื่อมารุกกดดันออสเตรเลียอย่างต่อเนื่อง และให้ได้ยืดเส้นยืดสายกับฟุตบอลโลกในหนนี้ ที่เขาอาจจะถูกวางไว้ให้เป็นตัวที่คอย เพิ่มสปีดให้กับเกมส์ทางริมเส้น เมื่อถึงเวลาที่ต้องการใช้งาน ฟอร์มโดยรวม ถือว่ายังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ เวลาน้อยเกินไป และในบางจังหวะตั้งหน้า ตั้งตาเลี้ยงเกินไป

วิจารณ์โค้ช

ผลงานของเลิฟ สำหรับการเป็นผู้จัดการทีมชาติเยอรมัน กับเกมส์แรกกับออสเตรเลีย ผมถือว่าสอบผ่านและสามารถพิสูจน์แผนการเล่น 4-2-3-1 ให้ค่อยๆ ลงตัวมากขึ้น โดยเฉพาะการสอดประสานกันสำหรับผู้เล่น ในแดนกลาง และการปรับประยุกต์ตำแหน่งนักเตะที่สามารถจับลงในตำแหน่งใดก็ได้ ซึ่งเลิฟสามารถนำจุดนี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์กับทีมชาติได้ เกมส์นี้เลิฟได้ให้ลูกทีมเยอรมันเข้าบอลให้เร็ว แย่งลูกได้ก่อน และเน้นการผ่านบอลสั้นๆ เพื่อฉีกโซนรับของออสเตรเลียให้เกิดช่อง เกมส์แดนกลางนักเตะยืนพื้นที่กันได้ดี ทำให้ดูเหมือนผู้เล่นครอบคลุมไปทั่วสนาม ออสเตรเลียจึงทำเกมส์สู้ได้ลำบาก

การเปลี่ยนตัวนักเตะมีเป้าหมายชัดเจน สำหรับการทดลองหน้าเป้าตัวเดียว และการให้โอกาสนักเตะบางรายกับเกมส์ที่ขาดไปแล้ว สำหรับเกมส์นี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมของทีมชาติเยอรมัน ภายใต้การคุมทีมของเลิฟ กับบรรดาลูกทีมวัยหนุ่ม ที่เลิฟต้องคอยประคับ ประครองเป็นอย่างดี ประสบการณ์นั้นสร้างได้ จากการได้รับโอกาส

คะแนนความสามารถนักเตะ
1 = ระดับโลก
2 = ดี
3 = พอใช้
4 = ต้องปรับปรุง
5 = ห่วยมาก

นอยเออร์(3), ลาห์ม(2), แมตเตซัคเคอร์(3), ฟรีดริส(3), บาดสตูเบอร์(3.5), ชไวสไตเกอร์(2), เคดิร่า(2.5), โพลโดลส์กี้(1), มุลเลอร์(2), โอซิล(2.5), โคลเซ่(2.5)

สำรองที่เปลี่ยนตัวลงมา :
คาเคา(2.5),โกเมส(4),มาริน(n/a)

//www.thaigermanfanclub.com

Create Date : 14 มิถุนายน 2553		8 comments
Last Update : 14 มิถุนายน 2553 18:46:44 น.
Counter : 4795 Pageviews.
Share Tweet