ดูตามสถิติที่เคยเจอกันมาเยอรมันเหนือกว่า
โครเอเชีย ค่อนข้างมาก แต่ก็นั่นเหล่ะเป็นเพียงแค่สถิติเก่าๆ
ใช้วัดปัจจุบันไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่ถ้าดูจากฟอร์มการเล่นในนัดแรก
โครเอเชีย เล่นได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งๆ
ที่เจอกับทีมที่มีสไตล์ที่ใกล้เคียงเยอรมัน อย่าง ออสเตรีย
แต่ทว่าเกมส์กับเยอรมัน โครเอเชียแก้เกมส์มาเล่นกับเยอรมันได้ดีมากทีเดียว

ผลการแข่งขัน เยอรมัน 1 : 2 โครเอเชีย
12/06/08

รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของ เยอรมัน :
เลห์มันน์, แมร์แตซัคเคอร์, เม็ตเซลเดอร์, ลาห์ม, แยนเซ่น, บัลลัค, ฟริกงส์, ฟริตส์, โพลโดลสกี้, โคลเซ่, โกเมส

รายชื่อผู้ทำประตูของทีมชาติเยอรมัน :
1:2 โพลโดลสกี้ (79')

สถิติในแมตช์ :
- โอกาสยิงเข้ากรอบประตู (เยอรมัน 4 : 8 โครเอเชีย)
- ผู้เล่นที่ยิงเข้ากรอบประตูมากที่สุด (นิโก้ ครานช่า 4 ครั้ง)
- เตะมุม (เยอรมัน 7 : 7 โครเอเชีย)
- ฟาวล์ (เยอรมัน 16 : 16 โครเอเชีย)
- เปอร์เซ็นตการครองบอล (เยอรมัน 57% : 43% โครเอเชีย)

Man Of the match
ลูก้า โมริช (โครเอเชีย)

ระบบและรูปแบบการเล่น :
วันนี้ทีมชาติเยอรมันยึดระบบเดิมที่เคยเล่นบ่อยก็คือ
4-1-3-2 คือแผงกองหลังแบบ 4 คนหน้ากระดาน และมีมิดฟิลด์ตัวรับหน้าแผงหลัง
1 คน และใช้แผงกลางริมเส้นสองคน ตัวกลางคอยทำเกมส์หนึ่งคน
และใช้คู่กองหน้า 2 คน

----------------------------------- เลห์มันน์ --------------------------------
-- ลาห์ม -------- แมร์แตซัคเคอร์ ------------------ เม็ตเซลเดอร์ ------------ แยนเซ่น --
--------------------------------- ฟริกงส์ ------------------------------------
--- ฟริตส์ --------------------- บัลลัค ----------------------------- โพลโดลสกี้ ---
---------------------------- โกเมส ------- โคลเซ่ -----------------------------

วิจารณ์ผู้รักษาประตู
เยนส์ เลห์มันน์
แม้ว่าในเกมส์จะสามารถช่วยทีมเซฟลูกอันตรายได้หลายครั้ง
แต่การสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมยังมีปัญหาให้เห็นกันอยู่
ซึ่งจะว่าไปแล้วปัญหานี้ไม่น่าจะเกิด เพราะก็เล่นด้วยกันมานานพอสมควร
แต่ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะว่าเรื่องความมั่นใจส่วนตัวที่ลดลงไป
หลังจากที่หลุดไปเล่นเป็นตัวสำรองตลอดในสโมรสร
เห็นอาการแบบนี้ของเลห์มันน์ แล้วน่าเป็นห่วงเหมือนกัน

วิจารณ์แผงกองหลัง
-- ลาห์ม -------- แมร์แตซัคเคอร์ ------------------ เม็ตเซลเดอร์ ------------ แยนเซ่น --

เกมส์รับในวันนี้มีปัญหามากโดยเฉพาะการเช็คล้ำหน้า
ใช้ไม่ได้ผลเลยเช็คไลน์กันหลุดบ่อยมาก
คู่เซ็นเตอร์แบคมีปัญหารับมือกับความเร็วของกองหน้าโครเอเชีย
การประกบตัวผู้เล่นหละหลวม

เริ่มกันที่ตำแหน่งแบคขวาในช่วงครึ่งแรก ลาห์ม
เกมส์ทางกราบขวาของทีมชาติเยอรมัน
ในครึ่งแรกเติมเกมส์กันไม่ค่อยได้เนื่องจากโครเอเชียสามารถกดดันได้ดี
โดยเฉพาะการใช้ทั้งแบคและแผงกลางเข้ากดดัน
ทำให้สามารถกดการขึ้นเกมส์ทางฝั่งขวาที่เป็นที่เด็ดของเยอรมันไว้ได้
โดยรวมแล้วการเล่นแบคขวาในครึ่งแรกเกมส์รุกไม่เด่น
แต่ในเกมส์รับก็ยังไม่มีข้อผิดพลาด

เริ่มในครึ่งหลังมีการจับโยก
ลาห์ม ไปยืนเป็นแบคซ้าย สามารถเติมเกมส์ได้มากขึ้น
เนื่องจากทางกราบขวาของโครเอเชีย
ทั้งในครึ่งแรกและครึ่งหลังไม่ค่อยเดินเกมส์กดดันเท่าไหร่
ทำให้เกมส์ทางซ้ายเยอรมันมีพื้นที่ให้เล่นมาก และลาห์มก็ทำได้ดี
ขึ้นเกมส์สวยๆ ได้หลายครั้ง
ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เด่นที่สุดคนหนึ่งของเยอรมัน

ขยับเข้าในไปดูเซ็นเตอร์แบค แมร์แตซัคเคอร์
ปราการหลังร่างโย่งจาก เบรเมน วันนี้โชว์ผลงานได้ต่ำกว่ามาตราฐาน
โดยเฉพาะการประกบตัวผู้เล่นทำได้ไม่ดี การประสานงานร่วมกับคู่เซ็นเตอร์แบค
ก็ดูจะไม่เข้าใจกันในหลายจังหวะ

ไปดูที่เซ็นเตอร์แบคอีกคน เม็ตเซลเดอร์
ปราการหลังจากมาดริด คนนี้ค่อนข้างมีปัญหาในการเข้าประกบตัวผู้เล่น
มักจะปล่อยให้ผู้เล่นโครเอเชียฉวยโอกาสเล่นบอลในกรอบเขตโทษได้ก่อน
ถือว่ามีปัญหาในการเข้าประกบผู้เล่นที่มีความคล่องตัว
หลายครั้งมักจะเติมเกมส์ขึ้นไปอย่างไม่จำเป็น
และทำบอลเสียเองเกือบทำให้ทีมต้องโดนสวนกลับจนเสียประตู
ซึ่งวิธีการเล่นแบบนี้เคยทำมาแล้วในนัดแรก แต่ก็ยังไม่มีการปรับแก้ไข
ส่วนลูกที่เสียประตูแรก ก็มีส่วนร่วมเพราะยืนตำแหน่งผิดพลาด
ปล่อยให้ลูกโยนเข้ากลางหลุดทะลุไปถึงผู้เล่นที่โฉบมาจากเสาสอง
ของโครเอเชียที่สอดเข้ามาทำประตู โดยรวมแล้วดูจะยังไม่นิ่งเท่าที่ควร

ถ่างออกไปดูที่แบคซ้าย แยนเซ่น
ต้นครึ่งแรกดูเหมือนว่าจะเริ่มได้ดี โดยเฉพาะการเติมเกมส์รุก
ซึ่งเกมส์ทางซ้ายของเยอรมันจะมีบาบาทมากในช่วงต้นครึ่งแรก
แต่หลังจากนั้นพอโครเอเชียจับทางได้ ก็เล่นด้วยความลำบากขึ้น
การเติมเกมส์รุกขึ้นไปก็น้อยลง
และการประสานงานร่วมกับปีกซ้ายดูมีปัญหาเกมส์ไม่ประสานกันเท่าที่ควร
หลายครั้งดูเหมือนจะเร่งเกมส์มากเกินไป กลายเป็นร้อนรน
เมื่อพลาดก็มักจะถูกสวนกลับเร็วเป็นประจำ
และปัญหาในการยืนตำแหน่งในเกมส์รับ ก็ยังคงพกพามาจากเกมส์แรกเหมือนเคย
ช่องว่างมีเยอะเมื่อเขาพลาดในการเติมเกมส์รุก
และหลายครั้งมักจะหุบเข้าในมากเกินไป เหมือนพยายามจะไปช่วยคู่เซ็นเตอร์
ทำให้ช่องว่างทางกราบซ้ายเปิดพื้นที่ให้คู่ต่อสู้เล่นได้ง่ายเกินไป
จากปัญหานี้ดูเหมือนว่ายังคงสับสนกับเซ็นเตอร์แบคอย่าง เม็ตเซลเดอร์
ที่แบ่งหน้าที่การเข้าประกบตัวผู้เล่นได้ไม่ดี

สรุปผลงานของแผงกองหลัง
ถือว่าแย่ การเข้าประกบตัวผู้เล่นทำได้ไม่ดี
โดยเฉพาะเซ็นเตอร์แบคมีปัญหากับความคล่องตัวของผู้เล่นโครเอเชีย
ทำให้การเข้าประกบตัวหลายครั้งมักจะหลงเหลี่ยมความคล่องตัว
ก็เป็นการเปิดโอกาสให้กับโครเอเชีย มีโอกาสเล่นบอลในกรอบเขตโทษได้มาก
และจังหวะเคลียร์บอลก็ไม่ค่อยเด็ดขาดดูสะเปะ สะปะ
และจังหวะการเช็คไลน์ก็ยังดูมีปัญหาอย่างที่ได้พูดไว้ในช่วงต้น
ซึ่งทั้งเกมส์มีโอกาสเช็คล้ำหน้าได้เพียงครั้งเดียว
นอกนั้นโดนจ่ายบอลทะลุหลุดเข้าไปได้บ่อยถือเป็นจุดอันตราย
ส่วนความเข้าใจกันระหว่างผู้เล่นในแนวรับบางคนดูไม่ลงตัว
โดยเฉพาะแบคซ้ายอย่างแยนเซ่น และเซ็นเตอร์แบคอย่าง เม็ตเซลเดอร์
แบ่งหน้าที่กันเข้าประกบตัวกันได้ไม่ดี
ทำให้ตำแหน่งการยืนมีช่องโหว่ให้โจมตีเป็นระยะ

วิจารณ์แผงมิดฟิลด์
--------------------------------- ฟริกงส์ ------------------------------------
--- ฟริตส์ --------------------- บัลลัค ----------------------------- โพลโดลสกี้ ---

แผงกลาง
4 คนของเยอรมัน วันนี้ต้องรับมือกับแผงกลาง 5 คนของคู่ต่อสู้อีกแล้ว
แต่วันนี้ไม่ง่ายเหมือนเดิม เพราะโครเอเชียเตรียมตัวมาดี
ไม่เปิดโอกาสให้กับผู้เล่นเยอรมันได้ทำเกมส์ง่ายๆ
และที่สำคัญการเก็บบอลจังหวะสอง โครเอเชีย สามารถทำได้ดีและแน่นอนกว่า
ในขณะที่เยอรมันการออกบอลเร็วมีข้อผิดพลาดบ่อย ทำให้ขาดความต่อเนื่อง

ไปดูกันที่ขุนพลรับหน้าที่ให้ขึ้นเกมส์ทางขวา ฟริตส์
สำหรับเกมส์นี้ต้องบอกว่าขุนพลทะลวงกราบซ้ายของโครเอเชียทื่อไปมาก
เมื่อเจอการดักตั้งรับที่เหนียวแน่น
และส่วนใหญ่ตลอดทั้งเกมส์ก็มักจะต้องตกเป็นฝ่ายรับ เนื่องจากทางโครเอเชีย
ใช้ผู้เล่นหลายคนเข้ากดดันเกมส์ทางกราบขวาของเยอรมัน
ทำให้ภาระส่วนใหญ่ต้องลงไปช่วยทีมตั้งรับ
ซึ่งในเกมส์รับถือว่ายังสามารถช่วยทีมได้ดีอยู่
แต่ในเกมส์รุกดูเหมือนว่าจะขาดความหลากหลายในการขึ้นเกมส์
ขุนพลที่ทำหน้าที่รบพุ่งราวหอก ถือว่าใช้ไม่ได้ผล
เมื่อเจอคู่ต่อสู้ตั้งแนวรับกั้นราวอย่างกับกำแพงเหล็ก
ทะยานขึ้นไปยังไงก็โดนดักไว้ได้หมด ขาดความพลิกแพลง

ขยับเข้ากลางไปดูที่ขุนพลที่ทำหน้าที่เฝ้ากำแพงเมือง ฟริงกส์
ต้องบอกว่าเป็นเกมส์ที่ต่ำกว่ามาตราฐาน
หน้าที่ได้รับมอบหมายให้คอยสกรีนบอลในแดนกลางก่อนถึงแนวรับ
ซึ่งเปรียบเหมือนกำแพงเมือง ทำได้ไม่ดีมักจะหลุดหายไปจากตำแหน่ง
ทำให้ช่องว่างระหว่างกลางไปถึงหลังมีมาก
เปิดโอกาสให้ข้าศึกอย่างโครเอเชียเข้าโจมตีบ่อยครั้ง
สาเหตุหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าพยายามจะช่วยเพื่อนร่วม
ทีมเดินเกมส์ขึ้นไปหน้า เพราะตัวผู้เล่นในแดนกลางที่คอยทำเกมส์มีน้อยกว่า
ทำให้เมื่อพลาดพลั้ง ก็มักจะโดนสวนจากตำแหน่งที่คอยรักษาการ
หลุดเป็นช่องโหว่ใหญ่โตทีเดียว

เขยิบเข้าไปดูที่แม่ทัพคอยบัญชาเกมส์ บัลลัค
วันนี้แม่ทัพดูช้าเกินไป การเคลื่อนทัพแต่ละครั้งดูเชื่องช้า
การออกบอลที่เปรียบเสมือนการออกอาวุธ ขาดความแม่นยำ
ทำให้จังหวะการบุกขาดความต่อเนื่อง
ตลอดทั้งเกมส์ค่อนข้างมีปัญหากับความคล่องตัวของคู่ต่อสู้
มักจะหลงเหลี่ยมบ่อย
หลายจังหวะมักจะต้องดวลกับแดนกลางของคู่ต่อสู้ที่มีมากกว่า
อาศัยความคล่องแคล่ว คอยเก็บบอลจังหวะสอง และชิงจังหวะเอาบอลมาครอบครองเอง
ทำให้แม่ทัพวันนี้ค่อนข้างจะหัวเสีย
เนื่องจากไม่สามารถบัญชาเกมส์ได้ดังใจหวัง
ซึ่งตลอดทั้งเกมส์โอกาสที่จะแจ้งก็จะมีเพียงการตั้งป้อมยิงเน้นๆ
จากการยิงฟรีคิกเท่านั้นเอง

ไปดูกันที่ขุนผลทางฝั่งซ้าย โพลโดลสกี้
วันนี้ต้องบอกว่าคู่ต่อสู้ได้เตรียมการมารับมือเป็นอย่างดี
แทบไม่เปิดโอกาสให้ทะลุทะลวงเข้าไปได้เลย
ทำให้การขึ้นเกมส์ทางกราบซ้ายเพื่อสร้างโอกาสลุ้นทำประตูของตัวเขา
แทบไม่ค่อยมีให้เห็น การประสานงานกับผู้เล่นในตำแหน่งแบคซ้ายดูมีปัญหา
ไม่ค่อยรู้ใจกัน ทำให้การขึ้นเกมส์ในบางครั้งมักจะทำเสียกันง่ายๆ
ขาดความต่อเนื่อง ทำให้บางจังหวะก็มักจะต้องหุบเข้าในเพื่อลุ้นทำประตูเอง
ทำให้ช่องโหว่ตรงกราบซ้ายกว้าง
คู่ต่อสู้มักเล่นเกมส์สวนเข้าโจมตีในจุดนั้น
โดยรวมแล้วถือว่าเล่นได้ต่ำกว่ามาตราฐาน เพราะไม่สามารถทำเกมส์รุกได้
แต่ก็ยังดีที่มีความขยันและความพยายามหาโอกาสทำประตู ทำให้ยิงไล่มา 2-1
แม้ในช่วงท้ายเกมส์ถูกโยกไปยืนเป็นกองหน้า
ก็มักจะไปยืนกองกับผู้เล่นคนอื่นในแดนหน้า
พื้นที่ให้เล่นก็ยังไม่มีเหมือนเดิม
ถูกกองหลังของคู่ต่อสู้ที่ไปยืนตั้งรับกันเกือบทั้งทีม
แย่งดักสกัดไว้ได้หมด

โดยรวมแล้วแดนกลางในวันนี้ของเยอรมัน
ถือว่าต่ำกว่ามาตราฐานแทบทุกคน การดวลกับแดนกลาง 5 ของคู่ต่อสู้ดูอึดอัด
เกมส์ไม่ไหลลื่น ขาดความต่อเนื่อง
การเก็บบอลเพื่อเล่นในจังหวะสองทำได้ไม่ดี มักจะถูกชิงเล่นไปก่อนหลายครั้ง
จะมีความแตกต่างที่ไปในทางบวกในบางตำแหน่ง
อย่างเช่นปีกซ้ายที่ถูกเปลี่ยนลงมาทำเกมส์ในครึ่งหลังอย่าง ชไวสไตเกอร์
ที่ดูจะสร้างสรรค์เกมส์ได้ดีขึ้น เกมส์รุกดูหลากหลายขึ้น
ซึ่งจะขอยกยอดไปพูดถึงตัวเขาในตำแหน่งผู้เล่นสำรองที่เปลี่ยนลงมา

วิจารณ์แผงกองหน้า
---------------------------- โกเมส ------- โคลเซ่ -----------------------------

ใช้กองหน้าคู่เดิมแต่ผลที่ได้ก็ยังดูไม่ดี ยังมีปัญหาเรื่องความเข้าใจกัน

ไปเริ่มกันที่หน่วยทะลวงฟันในทัพหน้า โกเมส
ถูกจับยืนให็เป็นหน้าเป้าคอยสังหาร
แต่ก็มักจะถูกกองหลังคู่ต่อสู้เข้าประกบ 1-2 คนตลอด
ทำให้พลิกหาโอกาสเข้าลุ้นทำประตูได้ยาก
แม้ว่าจะมีความพยายามชิงจังหวะกับไลน์แผงรับคู่ต่อสู้เข้าลุ้นทำประตู
แต่ก็ยังไม่ได้ผลในการชิงออกตัวมักจะถูกดักล้ำหน้า
และจุดแข็งในเรื่องลูกกลางอากาศ
ก็แทบไม่ได้ใช้เนื่องจากเกมส์รุกริมเส้นถูกปิดตายเอาไว้ เปิดบอลลำบาก
และกองหลังคู่ต่อสู้ก็เล่นลูกกลางอากาศได้ดี
แม้ว่าในช่วงท้ายครึ่งหลังทีมจะมีโอกาสโยนลูกด้านข้างมากขึ้น
แต่เขาก็ไม่อยู่ใสนามเสียแล้ว

ขยับไปดูที่ขุนศึกอีกคนในทัพหน้า โคลเซ่
มีดีที่ความขยัน ลงต่ำค่อนข้างบ่อย และสอดส่ายไปทั่วสนาม
แต่โอกาสในการเข้าลุ้นสังหารประตูในกรอบเขตโทษเอง แทบไม่มี
การประสานงานกับคู่หูในแดนหน้า ยังขาดความรู้ใจ จ่ายบอลกันเสียบ่อย
ทำให้เมื่อเซ็ตบอลกันขึ้นมาแล้ว มักจะไปพลาดกันที่แดนหน้าเป็นประจำ
จนครึ่งหลังต้องมีการปรับแผนโดยใช้การออกข้าง โยนเข้าไปลุ้นสังหารประตู
แทนการต่อบอลประสานกันในแดนหน้า ทำให้พอจะมีโอกาสลุ้นได้บ้าง
แต่โดยรวมแล้วพื้นที่ในกรอบเขตโทษมีให้เล่นน้อยมาก
และคู่ต่อสู้ก็เตรียมรับมือลูกกลางอากาศไว้เป็นอย่างดีด้วย


สรุปคู่หน้าหน่วยทะลวงฟัน
ปัญหาในเกมส์นี้ไม่ได้อยู่ที่ความคมของอาวุธที่เลือกใช้
แต่เป็นการประสานงานกันในแดนหน้าที่ดูไม่ดี ผิดพลาดง่ายๆ กันบ่อย

วิจารณ์ผู้เล่นสำรองที่เปลี่ยนตัวลงมา

ดาวิด โอดอนคอร์
วิถีการเล่นคล้ายกับ ฟริตส์เกินไป
ซึ่งเป็นแนวการรุกที่เน้นทะยานไปข้างหน้า จนสุดเส้นหลังและโยนเข้าโจมตี
แต่ก็ยังไม่ได้ผลเหมือนกับในครึ่งแรกที่ฟริตส์เคยทำหน้าที่มาก่อน
เพราะคู่ต่อสู้วางแนวป้องกันไว้ค่อนข้างดี มักจะมีผู้เล่น 1-2
คนเข้ามาคอยปะทะชนและซ้อนไว้ตลอด ก็เหมือนวิ่งชนแนวกำแพง
ทำให้เกมส์ทางขวาก็ยังไม่ดีขึ้น แทบหายไปจากเกมส์

ชไวสไตเกอร์
ถูกเปลี่ยนตัวลงมาช้าไปหน่อย
เพราะเกมส์ลักษณะนี้ต้องการนักเตะที่พาบอลไปกับตัวได้ดี
และมีไอเดียในการเล่นลูกที่พลิกแพลงได้
ดังนั้นจะเห็นว่าเกมส์ทางฝั่งซ้ายที่เขาถูกส่งตัวลงมา
ประจำการอยู่จะดูดีขึ้น มีมิติที่หลากลายดูวูบวาบขึ้น
แต่สุดท้ายเป็นที่น่าเสียดายที่พลาดท่าโชคร้ายโดนใบแดงออกไป
แบบที่ไม่น่าจะเสีย ซึ่งถ้าดูตามภาพช้าแล้วไม่ใช่จังหวะฟาวล์รุนแรง
และน่าจะมีการเตือนด้วยใบเหลืองไปก่อน

คูรานี่
ลักษณะเหมือนกับนัดแรก คือเปลี่ยนตัวลงไปแล้วไม่ค่อยเจอบอล ทำให้ไม่ค่อยมีบทบาทมากที่ควร

วิจารณ์โค้ช
กุนซือเลิฟ
วันนี้ต้องงัดหลายตำรามาเพื่อพลิกแพลงเกมส์
เนื่องจากคู่ต่อสู้เตรียมหมากมาแก้ได้ดีมากๆ
ทำให้เกมส์รุกที่เคยไหลลื่นดูติดขัด ไม่ต่อเนื่อง
แผนการที่วางไว้ใช้ไม่ได้ผล ทีมไม่สามารถเล่นเกมส์ของตัวเองได้
เมื่อไม่สามารถเล่นเกมส์ของตัวเองได้ ทีมก็หวังมาใช้โอกาสฉาบฉวยแทน
แต่ตัวที่จะให้เล่นในจังหวะฉาบฉวยก็มีให้เลือกน้อยเหลือเกิน
แม้จะพอมีบ้างเมื่อสาดส่องไปยังม้านั่งสำรอง
แต่ในเกมส์นี้เขาก็เลือกใช้ทรัพยากรที่มีได้ไม่ดี
ไม่ถูกจังหวะเวลาเท่าใดนัก โดยเฉพาะจังหวะการเปลี่ยนตำแหน่งปีกขวา
ที่มีการเอา โอดอนคอร์ ไปวิ่งทำเกมส์รุกแทนฟริตส์
แต่การที่มีวิถีการเล่นคล้ายกัน ทะยานพุ่งไปข้างหน้า
คู่ต่อสู้เตรียมการรับมือไว้ดีตลอดเกมส์อยู่แล้ว
ก็ทำให้โควต้าในแนวรุกที่เปลี่ยนลงไปแทบจะศูนย์เปล่า
ใช้ประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้เลยโดยเฉพาะในการทำเกมส์รุก
แต่ก็พอเดาเจตนาได้ว่าต้องการเปลี่ยนลงมาเพื่อขู่ไม่ให้คู่ต่อสู้ดันเกมส์ขึ้นสูง
และจะใช้การโจมตีจากฝากซ้ายเข้ากระหน่ำแทน
ก็ยังพอได้ผลบ้างเล็กน้อยในแง่การปิดจุดอ่อน
แต่การใช้เกมส์รุกที่ผสมผสานทั้งสองฝั่ง ซ้ายและขวา
ก็ดูจะด้อยประสิทธิภาพลงไปเหมือนเดิม
กลับกันหากใช้แนวรุกที่สามารถเล่นเกมส์พลิกแพลงได้
ก็จะได้ความหลากหลายมากขึ้น
นึกแล้วก็เสียดายโอกาสของผู้เล่นที่อยู่ข้างสนามอย่าง ทอร์ซอฟกี้

คะแนนความสามารถนักเตะ
1 = ระดับโลก
2 = ดี
3 = พอใช้
4 = ต้องปรับปรุง
5 = ห่วยมาก

เลห์มันน์
(3.5), แมร์แตซัคเคอร์ (3.5) , เม็ตเซลเดอร์ (4.5) , ลาห์ม (2) , แยนเซ่น
(5) , บัลลัค (4) , ฟริกงส์ (4) , ฟริตส์ (3.5) , โพลโดลสกี้ (3) , โคลเซ่
(3.5), โกเมส (4)

สำรองที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมา : ชไวสไตเกอร์ (2.5), โอดอนคอร์ (4),  คูรานี่

Create Date : 13 มิถุนายน 2551
Last Update : 13 มิถุนายน 2551 4:10:47 น.		3 comments
Counter : 444 Pageviews.
Share Tweet