1. กัดหนังหุ้มเล็บ
ทำไมถึงไม่ดี : หนังหุ้มเล็บที่ฉีกขาดจะนำไปสู่การติดเชื้อ
วิธีการฟื้นฟูความงาม : ให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนังรอบ ๆ เล็บ
ถูครีมหนา ๆ หรือน้ำมันลงบนหนังหุ้มเล็บเป็นประจำทุกวัน
แล้วนวดด้วยผลิตภัณฑ์ขัดผิวทุก ๆ สองสามวัน

2.เปลี่ยนสีผมบ่อยเกินไป
ทำไมถึงไม่ดี : การเปลี่ยนสีผมเป็นครั้งคราวนั้นไม่เป็นปัญหา
แต่การเปลี่ยนสีผมบ่อยเกินไปจะทำให้เส้นผมอ่อนแอ
และนำไปสู่หายนะได้
วิธีการฟื้นฟูความงาม : ขั้นแรกเบี่ยงแบนการเปลี่ยนสีผมไปเป็นการ
เปลี่ยนสีเครื่องสำอางค์แทน เพราะเป็นการง่ายกว่า
ในการลองลิปสติกหรืออายชาโดว์ใหม่ ๆ
ประจำสัปดาห์ และเมื่อคุณถึงคราวที่ต้อง
เปลี่ยนสีผมจริง ๆ ก็ควร
*** ทำสีอ่อน ๆ อย่างชาญฉลาด
*** ทำสีเข้ม ๆ ไม่ต้องเสี่ยงกับผมเสีย
*** ปรับสภาพเส้นผมเป็นประจำ

3. เข้านอนโดยไม่ได้ล้างหน้า
ทำไมถึงไม่ดี : การเข้านอนพร้อมกับมาสคาร่า
และเครื่องสำอางค์บนเปลือกตา
อาจทำให้คุณตื่นขึ้นมาพร้อมกับถุงใต้ตา
หรือแม้แต่การติดเชื่อได้ แถมครีมรองพื้น
คอนซีลเลอร์ และบรัชออน
ยังทำให้ผิวไม่ได้หายใจ และเข้าไปอุดตันในรูขุมขน
ทำให้ผิวหน้าเกิดสิวและดูไม่มีชีวิตชีวา
ถึงแม้ว่าคุณไม่ได้แต่งหน้าระหว่างวันผิวหน้า
ก็จะสะสมน้ำมันและสิ่งสกปรกเอาไว้
ซึ่งสองสิ่งนี้อาจทำให้เกิดสิว ถ้าไม่ได้ล้างออกในช่วงเย็น
วิธีฟื้นฟูความงาม : หาแผ่นทำความสะอาด
แบบช่มชื้นเก็บเอาไว้ข้าง ๆ เตียง
วิธีนี้ไม่ว่าคุณจะเหนื่อยเพียงใด (หรือเมาปานใด)
คุณก็สามารถเช็ดเครื่องสำอางค์ออกอย่างรวดเร็ว

4. ใช้เตียงอาบแดดเพื่อให้มีผิวสีแทน
ทำไมถึงไม่ดี : รังสียูวีเอ (แบบเดียวกับที่ออกมาจากหลอดไฟในเตียงอาบแดด)
ถูกเรียกว่ารังสีของความแก่ เพราะว่าจะแทรกซึมเข้าไปในเนื้อเยื่อในร่างกาย
ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย และทำให้สารอนุมูลอิสระแพร่กระจาย
แถมรังสียูวีเอยังเกี่ยวข้องกับมะเร็งผิวหนัง
และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคทำงานลดลอง
วิธีฟื้นฟูความงาม : ใช้ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผิวด้วยตนเอง
เป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยกว่า

5. ทรมานเส้นผมด้วยความร้อน
ทำไมถึงไม่ดี : การกวัดแกว่งไดร์เป่าผม คีมดัดผมไฟฟ้าเป็นประจำทุกวัน
จะทำให้เส้นผมแห้ง ดูไม่มีชีวิตชีวา ตั้งชี้ และอ่อนแอ
วิธีฟื้นฟูความงาม : ในขณะใช้ไดร์เป่าผมก็ตั้งระดับ
ความร้อนที่ระดับปานกลางเสมอ
เป่าอย่างรวดเร็ว และให้ปากกระบอกอยู่ห่างจากเส้นผม 2 - 3 นิ้ว
เวลาใช้ครีมรีดผมไฟฟ้ก็ให้เลื่อนครีมหนีบผมอย่างรวดเร็ว
การหยุดชะงักในระหว่างนั้น จะทำให้ผมเป็นรอย
ซึ่งต้องใช้คีมรีดอีกรอบถึงจะหาย
ใช้คีมหนีบเส้นผมอย่าให้เกิด 5 วินาที
นอกจากนี้ก็เป็นการดีถ้าใช้ความร้อนแต่งผมให้นอ้ยลง
โดยการใช้ไดร์เป่าผมรวก ๆ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
แทนที่จะใช้ทุกวัน ส่วนเวลาที่เหลือก็ปล่อยให้ผมแห้ง
ตามธรรมชาติ เวลาที่สระผมก็ใช้แชมพูชนิด
ที่ให้ความชุ่มชื้นเพื่อช่วยบำรุงเส้นผม

6. ขัดฟันขาวมากเกินไป
ทำไมถึงไม่ดี : ฟันขาวราวไข่มุกของคุณนับวันก็เจิดจรัสขึ้นเรื่อย ๆ
โดยไม่ต้องสนใจว่าจะใช้สารฟอกสีฟันเมื่อฟันขาวจนถึงจุดสุดแล้ว
ก็จะทำให้เกิดอันตรายมากกว่าประโยชน์
วิธีฟื้นฟูความงาม : ถ้าคุณใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญ
คุณก็สามารถคาดหวังให้ฟันขาวขึ้นได้ประมาณ 8-9 เฉดสี
ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณใช้ในแบบที่ทำเอง
คุณก็อาจเห็นฟันขาวได้ขี้น 2 เฉดสี
คุณต้องไม่ลืมทำตามคำแนะนำข้างกล่องอย่างระมัดระวัง
และอย่าทำซ้ำจนกว่าจะผ่านไปอย่างน้อย 6 เดือน

7. การใช้เครื่องสำอางค์ตัวอย่าง
ทำไมถึงไม่ดี : โอกาสที่จะติดเริมหรือตาแดงจากแบคทีเรีย
และเชื้อโรคที่พบในของตัวอย่างบนเคาน์เตอร์
เครื่องสำอางค์นั้นค่อนข้างน้อย แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้
วิธีฟื้นฟูความงาม : ต้องแน่ใจว่าร้านขาย
เครื่องสำอางค์นั้นมีระบบการ
ใช้ของตัวอย่างที่ปลอดภัย มองหาอุปกรณ์ในการทา
เช่น ฟองน้ำ ก้านสำลี ทิชชู แปรงปัดขนตาแบบใช้แล้วทิ้ง
และแอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อโรคบนพู่กันแต่งหน้า

8. บีบสิว
ทำไมถึงไม่ดี : คุณควรยึดถือนโยบายไม่แตะต้อง เมื่อพูดถึงเรื่องสิว
ถ้าคุณอดใจไม่ไหวก็ฟังข้อมูลนี้ การบีบสิวอาจทำให้สิวอยู่กับคุณไปนานถึง
7-10 วัน แทนที่จะเป็น 2-3 วัน ตามปรกติ ด้วยสิ่งสกปรก
จากนิ้วอาจดันแบคทีเรียเข้าไปในรูขุมขน และทำให้เกิดการติดเชื้อ
วิธีการฟื้นฟูความงาม : ใช้ความอดกลั้นและทายาที่มีส่วน
ผสมของเบนซอยล์เปอร์ออกไซด์หรือกรดซาลิไคลิควันละ 2 ครั้ง
ซึ่งสิวน่าจะหายไปภายในสามวัน