Ashton Asoke ตั้งอยู่ใกล้กับถนนใหญ่รวมถึงสถานีรถไฟฟ้ามากกว่า แต่ราคาก็สูงกว่าพอสมควร ในขณะที่ Noble Recole อยู่ห่างจากแยกอโศก หลบเข้ามาในซอยสุขุมวิท 19 ราว 500 เมตร สิ่งที่ได้ คือความสงบไม่พลุกพล่านมากเกินไป

เชื่อว่าหลายๆ คนที่กำลังมองหาคอนโดฯ ระดับนี้ในย่านอโศกคงจะต้องเปรียบเทียบกันถึง 5 โครงการ คือ Noble Recole, Ashton Asoke, Circle Rein, Q Asoke และ Sansiri Edge ซึ่ง 3 โครงการแรกเพิ่งเปิดตัว ในขณะที่ 2 โครงการหลังเริ่มก่อสร้างไปแล้ว

ในส่วนของ Noble Recole, Ashton Asoke and Sansiri Edge สามารถขายหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว หลังจากเปิดขาย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความร้อนแรงของทำเลใจกลางย่านธุรกิจแห่งนี้เป็นอย่างดี

แต่ในวันนี้เราจะมาลงรายละเอียดในโครงการ Noble Recole กัน

รายละเอียดโครงการเบื้องต้น (ข้อมูลอัพเดท เดือนตุลาคม 2557)
• เจ้าของโครงการ: บมจ. โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์
• รายละเอียด: คอนโดฯ ไฮไรส์ความสูง 28 ชั้น ที่จอดรถใต้ดิน 5 ชั้น จำนวน 288 ยูนิต
• เนื้อที่โครงการ 1-2-28 ไร่
• กำหนดก่อสร้าง : ปี 2558
• คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ปี 2561
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร: 180,000 บาท

วิเคราะห์ทำเล
ถ้าเราลองเอาแผนที่กรุงเทพฯ มากางดู อโศกฯ ถือเป็นจุดศูนย์กลางของเมือง ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่าง
ทองหล่อกับสยามฯ และระหว่างฝั่งสีลม,สาทร กับฝั่งพระราม 9, ลาดพร้าว รวมถึงเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า BTS และ MRT ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในทำเลยุทธศาสตร์เลยทีเดียว

ในส่วนของทำเลโครงการ Noble Recole มีข้อได้เปรียบตรงที่สามารถเข้า-ออกได้หลายทาง เพื่อหลบหลีกการจราจรที่ติดขัดบนเส้นอโศก ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าการจราจรบนเส้นนี้ติดขัดเป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว และสำหรับ Noble Recole สามารถใช้เส้นทางลัดเข้ามาจากทางถนนนานาหรือสุขุมวิท 11, 13, 15 ก็ได้ หรือจะเข้าจากสุขุมวิท 19, 21/1, 21/3 ก็ได้ ถ้าขับรถมาจากทางพร้อมพงศ์หรือมาทางพระราม 4 ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คงต้องเข้าทางซอยสุขุมวิท 19 หากมาทางถนนเพชรบุรีขาเข้า ทางเลือกที่ดีน่าจะเป็นเข้าทางสุขุมวิท 21/3 แต่บางเวลาอาจจะเลี้ยวขวาเข้าซอยไม่ได้ ส่วนถ้ามาจากทางเส้นเพชรบุรีขาออก เลี้ยวเข้าถนนนานาแล้วลัดซอยสุขุมวิท 11 ไปออกซอยสุขุมวิท 19 น่าจะดีสุด แต่ด้วยความที่มีทางเลือก เราสามารถเลือกเส้นทางให้เหมาะกับสถานการณ์อีกที

สำหรับการใช้บริการรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะจาก BTS อโศกหรือ MRT สถานีสุขุมวิท ระยะห่างจากโครงการประมาณ 500 เมตร โดยหากเดินจากสถานีจะใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที สามารถเลือกเดินได้ทั้ง ซอยสุขุมวิท 19 หรือบนถนนอโศกแล้วมาเลี้ยวเข้าตรงซอยสุขุมวิท 21/1 หรือ 21/3 อีกหนึ่งทางเลือกคือใช้บริการวินมอเตอร์ไซด์ ค่าบริการถ้ามาจากแยกอโศกจะอยู่ที่ 15 บาท

บริเวณที่จะมีการก่อสร้างโครงการในอนาคต

นอกจากเรื่องของการเดินทางแล้ว ทำเลนี้ยังมีความสะดวกอีกหลายอย่างที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง เพราะอยู่ใกล้กับแหล่งช้อป ชิม ชิล อย่าง Termimal 21 และห้างโรบินสัน ถ้าวันไหนเมื่อยๆ ก็เดินไปนวดที่ Healthland ซึ่งอยู่ใกล้ๆ หากไม่สบาย ใกล้ๆ ก็มีโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ นอกจากนี้ โครงการยังตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสถานศึกษาชื่อดัง อาทิ โรงเรียนวัฒนา วิทยาลัย, เซนต์ดอมินิก, สาธิตประสานมิตรและมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร

จริงๆ ต้องบอกว่าโครงการนี้ติดกับโรงเรียนวัฒนาฯ เลย ดังนั้นอาจจะมีเสียงมาจากโรงเรียนบ้างในช่วงวันธรรมดา

วิเคราะห์โครงการ

ต้องบอกก่อนว่าโครงการของโนเบิล เกือบจะทุกโครงการจะมีกระแสที่ดีอยู่แล้ว ซึ่งทำให้ไม่น่าแปลกใจที่ในวันเปิดให้จองครั้งแรกสามารถขายหมดภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง คือมีเงินอย่างเดียวไม่ได้แปลว่าจะซื้อได้นะเพราะต้องไปเข้าแถวรอก่อนหน้าเป็นวันๆ สำหรับคนที่พลาดโอกาสไป ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าทางโนเบิลฯ จะเปิดขายเฟส 2 เมื่อไหร่ ซึ่งตามข่าววงในก็น่าจะเป็นช่วงปลายปีหน้า แต่แน่นอนว่าราคาคงปรับขึ้นสูงไปอีก สำหรับเฟสนี้ มีเพียง 288 ห้อง ซึ่งถือว่ามีจำนวนห้องไม่มาก ทั้งจำนวนห้องโดยรวมและจำนวนห้องต่อชั้น ทำให้มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ

สำหรับสิ่งอำนวยสะดวก โนเบิลฯ ก็ให้มาค่อนข้างครบ ไม่ว่าจะเป็น Infinity Edge Pool, Fitness รวมทั้งห้อง Steam บนชั้น 28

สำหรับแบบห้อง ต้องบอกว่าโนเบิลฯ วางแปลนโครงการและแบบห้องออกมาได้ค่อนข้างลงตัว โครงการนี้มีให้เลือกทั้งแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้นที่ 34.53 ตารางเมตร ซึ่งต้องบอกว่าขนาดกำลังดี อยู่แล้วไม่รู้สึกอึดอัด ซึ่งห้องแบบ 1 ห้องนอน ออกแบบให้เป็นห้องหน้ากว้างทุกยูนิตจึงทำให้ห้องดูกว้าง ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาดจะเริ่มที่ 62.25 ตารางเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่สมเหตุสมผลสำหรับ ห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ Layout ห้องก็ถูกจัดวางออกมาได้ค่อนข้างลงตัว ระยะ Floor to Ceiling อยู่ที่ 2.65 เมตร ทำให้ดูโปร่งยิ่งขึ้น แต่โครงการนี้ไม่มีอ่างอาบน้ำให้นะไม่ว่าจะเป็นห้องแบบไหนก็ตาม

ตัวอย่างแบบห้อง 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน

ห้องแบบ 1 ห้องนอน Type A1-A5 Layout ไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่โดยส่วนตัวมองว่าไม่น่าจะต้องมีระเบียงทั้งในห้องนอนและห้องนั่งเล่น น่าจะเอาพื้นที่มาเป็นพื้นที่ใช้งานในห้องมากกว่า สำหรับ Layout แบบ 2 ห้องนอน จะดูหลากหลายกว่าขึ้นอยู่กับตำแหน่งห้อง แต่ต้องบอกว่าไม่ว่าจะ Layout แบบไหน ทางทีมดีไซน์ของโนเบิลฯ ก็สามารถจัดวางพื้นที่ได้ค่อนข้างดี

โครงการนี้ห้องพักอาศัยจะถูกวางให้หันไปทางทิศเหนือกับใต้เท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าดีกว่าทิศตะวันออกและตะวันตกแน่นอน เพราะไม่มีเรื่องแดดเช้าหรือเย็นมากวนใจ ส่วนห้องทิศใต้แน่นอนว่าจะได้เรื่องของลมและถ้าอยู่ชั้นสูงจะได้วิวเมืองแต่ถ้าชั้นไม่สูงวิวอาจมีบล็อคบ้าง ส่วนทิศเหนือจะหันหน้าเข้าโรงเรียนวัฒนาฯ ซึ่งอาจจะมีเรื่องเสียงที่มาจากโรงเรียนมากกว่าทิศใต้ ยิ่งถ้าอยู่ในชั้นไม่สูงด้วย ทิศนี้วิวไม่ขี้เหร่แต่ไม่น่าจะสวยเท่าทิศใต้ ทางโนเบิลฯ ตั้งราคาต่อตารางเมตรสำหรับห้องทิศเหนือไว้สูงกว่าห้องทางทิศใต้ ฉะนั้นถ้าเน้นซื้อเพื่อลงทุนคงต้องเลือกห้องฝั่งทิศใต้ไว้ก่อน เนื่องจากราคาต่ำกว่าหลายแสนบาทเลยทีเดียว

มาดูเรื่องของการดีไซน์กันบ้าง

สำหรับโครงการนี้ ดีไซน์ออกมาดูแบบอบอุ่น โดยเน้นใช้สีอ่อนๆ เยอะ รวมถึงการออกแบบตัวอาคารที่ไม่ใช้สีทึบและสไตล์โมเดิร์นจัด ทำให้ดูอยู่สบายและมีความเป็น Family มากขึ้น พื้นไม้ที่นี่ใช้ไม้ลามิเนตสีอ่อน เกรดดี แผ่นใหญ่กว่าปกติ ซึ่งทำให้ดู Luxury มากขึ้น

สุดท้ายขอสรุปว่าโครงการนี้ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจไม่ว่าจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือลงทุน จากความรู้สึกที่ได้มาชมห้องตัวอย่างและที่ตั้งโครงการ รู้สึกว่าโครงการค่อนข้างน่าอยู่ ถ้าซื้อมาปล่อยเช่าก็แอบเสียดายอยู่นิดนึง จริงๆ มองว่าโนเบิลฯ น่าจะเน้นลูกค้าเพื่ออยู่อาศัยมากกว่า เพราะดูจากขนาดห้องและราคาแล้ว แต่สำหรับท่านไหนที่จะซื้อเพื่อปล่อยเช่าคงต้องหาห้องทิศใต้เพื่อลดต้นทุนและเพิ่ม Rental Yield ด้วยราคาที่สูง Yield อาจจะไม่สูงมาก แต่ถ้าเพื่อเก็งกำไรหรือซื้อเพื่ออยู่อาศัย รับรองไม่มีผิดหวัง เชื่อว่าราคายังขึ้นไปได้ไกลสำหรับโครงการนี้ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า

ที่มา www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2014/10/70383/รีวิวโครงการ-โนเบิล-รีโคล-noble-recole

Create Date : 30 ตุลาคม 2557
Last Update : 30 ตุลาคม 2557 15:16:27 น.		0 comments
Counter : 1359 Pageviews.
Share Tweet