การเลือกซื้อบ้านเก่ามาปรับปรุง เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ต้องการที่พักอาศัยในเขตเมืองเพื่อให้สะดวกต่อการเดินทาง และยังสามารถมองหาอาคาร ในราคาที่เหมาะสมเพื่อมาปรับปรุงให้สมบูรณ์ต่อการใช้ชีวิตของแต่ละครอบครัวได้ ดังนั้นสิ่งที่ต้องคำนึงเป็นอันดับแรกคือ ทำเลที่ตั้ง
การเลือกทำเลที่ตั้งที่พักอาศัยในเขตเมืองนั้น หลักใหญ่จริงๆคือความชอบในการใช้ชีวิต (Life Stlye) การเดินทางที่สะดวกต่อชีวิตประจำวัน สิ่งแวดล้อมโดยรอบ และเป็นพื้นที่น้ำท่วมหรือไม่? สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยหลักที่ไม่สามรถแก้ไขได้ หมายความว่าเลือกแล้วเลือกเลย ดังนั้นการเลือกซื้อก็อาศัยโชคประกอบด้วยควรวาง ลำดับของตำแหน่งที่จะเลือกสำรองเป็นลำดับไว้เลย
ประวัติบ้าน
การสอบถามข้อมูลจากผู้ขายถึงปีที่ก่อสร้าง มีพิมพ์เขียวแบบบ้านเดิมหรือไม่?และสอบถามเพื่อนบ้านเพื่อตรวจสอบถึงประวัติของเจ้าของบ้านเดิมความเป็นอยู่ในชุมชน นั้นกับผู้ที่อยู่อาศัยมาก่อน หรืออาจจะเข้ามาหลายๆครั้งในช่วงเวลาที่แตกต่างเพื่อดูสิ่งแวดล้อมให้แน่ใจก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อ
สภาพเดิมของอาคาร
เป็นสิ่งแรกที่ต้องตรวจสอบคือขนาดของพื้นที่ใช้สอยเหมาะสมกับความต้องการหรือไม่ ต่อมาคือตรวจสอบการทรุดตัว การเอียงหรือแอ่นตัวของพื้น คาน และหลังคา แล้วดูร่องรอยการซ่อมแซม รวมถึงรอยแตกร้าว โดยเฉพาะส่วนที่เป็นโครงสร้าง การสังเกตุรอยร้าวเบื้องต้น
รอยร้าวกลางคานตั้งฉากกับแนวนอนของคาน อาการแบบนี้แสดงว่าคานตัวนั้นรับน้ำหนักมากกว่าปกติ จนทำให้โครงสร้างอ่อนแอจนเกิดรอยร้าวขึ้น รอยร้าวเฉียงที่ปลายคานและหัวเสา อาการแบบนี้แสดงว่าคานไม่สามารถรับน้ำหนักได้แล้วซึ่งเป็นอันตรายมาก อาจทำให้คานหลุดจากเสาพังลงมาได้
รอยร้าวเฉียงที่ผนังจากมุมหนึ่งไปอีกมุมหนึ่ง อาการแบบนี้แสดงว่าโครงสร้างมีการบิดตัว มักเกิดจากเสาของบ้านทรุดตัวแตกต่างกันและคานก็พยุงเสาให้อยู่ในระนาบ เดียวกันไม่ได้หากร้อยร้าวไม่มากนักก็ไม่อันตรายอะไร แต่ถ้ารอยร้าวมีการลามอย่างรวดเร็วและกว้างมากขึ้น ต้องปรึกษาเพื่อหาทางแก้ไข
ระดับพื้นเดิม การเลือกซื้อบ้านเก่าสิ่งนึงที่ต้องสังเกตุคือระดับของพื้นแต่ละชั้นว่าสูงเท่าไหร่ เพราะการทำถนนใหม่นั้นมีการเททับถนนเดิมเพียงอย่างเดียวทำให้ถนน หน้าบ้านสูงขึ้นอาจทำให้น้ำฝนย้อนเข้าบ้านได้ หากยิ่งพื้นชั้นล่างถึงชั้น 2 มีระยะไม่สูงมากนักจะทำให้ยากแก่การแก้ไขภายหลังยิ่งขึ้น ร่องรอยคราบน้ำ จากการรั่วซึมของผนังและฝ้าส่วนนี้ ควรตรวจสอบให้เจอสาเหตุจริงๆเพราะเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยากเช่นกันเพราะสาเหตุการรั่วนั้นอาจเป็นได้จาก ปัจจัยภายนอก คือน้ำฝนอาจเกิดจากรอยตามดระหว่างการก่ออิฐแถวบนสุดถึงขอบคาน และจากผนังที่ไม่ได้ระดับทำให้เกิดช่องว่างระหว่างวงกบอลูมิเนียม กับผนังได้ ส่วนนี้อาจเกิดปัญหาภายหลังจากซิลิโคนเสื่อมสภาพ ปัจจัยภายใน คือระบบน้ำภายในอาคารทั้งระบบน้ำดีและระบบน้ำทิ้ง ยิ่งถ้าใช้ปั๊มน้ำนั้นหากติดตั้งระบบท่อไม่ได้มาตรฐานด้วยแล้วหากมีการแตกหรื้อรั่วซึม ภายในผนัง อาจหาจุดที่รั่วเพื่อแก้ไขยากขึ้นไปอีก ดังนั้นการเข้าตรวจสอบเบื้องต้นหากพบมีคราบน้ำควรนำช่างสุขาภิบาลเข้ารวมตรวจสอบและประเมินราคาแก้ไขด้วยเพื่อประกอบการตัดสินใจ |