Bloggang.com : ซาสี่สีส้ม Sasiseesom : [CR] รีวิวครีมลาแมร์ทั้ง 3 เนื้อ Crème de la Mer, The Moisturizing Soft Cream, The Moisturizing Ge

[CR] รีวิวครีมลาแมร์ทั้ง 3 เนื้อ Crème de la Mer, The Moisturizing Soft Cream, The Moisturizing Ge

ตอนอายุประมาณ 24-25 เคยเปรยๆกับเพื่อนสนิทว่า อยากได้ครีมดีๆซักกระปุก
จะซื้อ เครม เดอ ลาแมร์ มาใช้ดีไหม เพราะแม่ของเพื่อนก็ใช้อยู่ และผิวหน้าเค้า
ดีด้วย (แม่เค้าใช้พวกเอสเต้ คังโคม สลับกันไปมาด้วย) เพื่อนก็ปรามๆเอาไว้ ว่า
อายุยังน้อย อย่าพึ่งใช้เลย ริ้วรอยอะไรก็ยังไม่มี ก็เลยเชื่อเพื่อนไว้ก่อน ประหยัด
เงินไปได้ตั้งเกือบ 10 ปี อิอิ จนมาวันนี้ อายุ 30 กว่าแล้ว ลองมาก็เยอะ ซึ่งครีม
ต่างๆที่เคยลองมา มันก็ดีนะ บางตัวก็ถูกกับหน้ามากๆ บางตัวที่แพงๆก็ไม่เห็นผล

จนได้มาลองใช้ลาแมร์ ซึ่งมันก็สมกับคำร่ำลือ สมกับราคาจริงๆ ผิวดีขึ้น ลูบหน้า
แล้วผิวเนียนขึ้น แป้งติดหน้านานขึ้น และผิวไม่แห้งเหี่ยว ถึงแม้อากาศจะติดลบ

ป.ล. บีเอ ลาแมร์ บอกว่าอายุน้อยๆก็ใช้ได้ เพียงแต่เลือกเนื้อครีมให้เหมาะกับ
สภาพผิวของตัวเอง (แต่ตอนนั้นเราพึ่งทำงาน และไม่เคยขอเงินแม่ซื้อครีม เลย
ไม่ได้ลงทุนซื้อครีมแพงๆ ตอนนั้น .. ตอนนี้แก่แล้วค่ะ เลยขอปรนเปรอผิวบ้าง

La Mer มีผลิตภัณฑ์เยอะเหมือนกัน ทั้งตัว Cleansers (ทำความสะอาดหน้า),
Tonics, Infusions, Eye Treatment (บำรุงรอบดวงตา), Serums (เซรั่ม),
Concentrate, Moisturizers (ให้ความชุ่มชื้น), UV Protectors (กันแดด),
Facials (ขัดหน้า มาส์กหน้า), Blance de La Mer (ให้ความกระจ่างกับผิว),
ใช้กับผิวกายก็เยอะ เครื่องสำอางก็มีเยอะ .. ถ้าไม่นับพวกเซรั่ม ตัวที่ใช้บำรุง
ผิวหน้า (Moisturizers ) เนื้อผลิตภัณฑ์ของลาแมร์ มี 5 รูปแบบ (ณ. ปี 2013)

1 Crème de la Mer - เนื้อครีมข้นๆ ประเภทหนาคลั่กเหมือนนีเวียกระปุกน้ำเงิน
2 The Moisturizing Soft Cream - เนื้อครีมเหมือนครีมทาหน้าทั่วๆไป
3 The Moisturizing Lotion - ประเภทโลชั่น
4 The Moisturizing Gel Cream - ประเภทเจลครีม เบา ซึมวับไปกับผิว
5 The Oil Absorbing Lotion - โลชั่นเนื้อแมทต์ สูตรออยฟรี เหมาะกับผิวมัน

CRÈME SOYEUSE DE LA MER ขนาด 30 ml
บางประเทศ เรียกว่า (The Moisturizing Soft Cream)

La Mer The Moisturizing Soft Cream

กระปุกนี้ซื้อมาที่ อินส์บรุค ประเทศออสเตรีย ราคา 134.90 ยูโร ใช้บัตรเครดิตจ่าย
เรทตอนนั้นประมาณ 43.27 บาท/ยูโร ประมาณ 5838 ไทยบาท ทำ Tax Refund
ได้เงินสดกลับมา 16.19 ยูโร .. ขนาด 30ml ราคาราคาก่อน Tax refund ประมาณ
134 ยูโร ถ้าขนาด 60ml 239 ยูโร .. ส่วนเนื้อผลิตภัณฑ์แบบโลชั่น ขนาด 50ml
(Moisturizing lotion) 199 ยูโร ราคาเท่ากับ Oil Absorbing lotion 50ml ค่ะ

La Mer The Moisturizing Soft Cream

มิราเคิล บรอธ (Miracle Broth) คือจุดขายของยี่ห้อนี้ มิราเคิล ภาษาไทยแปลประมาณ
ว่ามันคือความมหัศจรรย์ อัศจรรย์ (ที่จะเกิดกับผิว) ตัวที่ก่อให้เกิดปาฏิหาริย์ ถ้าเรียกง่ายๆ
ภาษาธรรมดา คนเค้าเรียกกันว่า มันคือ *น้ำสาหร่ายทะเลหมัก* ค้นคว้าโดย ดร. แมกซ์
ฮูเบอร์ นักฟิสิกส์ด้านกระสวยอวกาศ แกคิดค้นหาวิธีฟื้นฟูผิว โดยมีเหตุอันเกิดมาจาก
อุบัติเหตุในห้องทดลอง คิดแล้วค้นอีกถึง 12 ปี โดยใช้สาหร่ายซีเคลป์ หมักบ่มทางชีวภาพ
(bio-fermentation) 3-4 เดือน (ฟังดูคล้ายน้ำป้าเช็ง อิอิ) แต่น้ำสกัดเข้มข้นมิราเคิล บรอธ
บวกสารประกอบนั่นนู่นนี่ บวกกับค่า marketing นี่แหละค่ะ ที่ทำให้ลาแมร์ มีราคาแพงหูฉี่

La Mer The Moisturizing Soft Cream

เปิดกล่องออกมาเป็นเยี่ยงนี้ (กล่องใหญ่นะ) กระปุกตั้งอยู่บนฐานสีเขียว
ข้างในมีใบพับ มาให้อ่าน

La Mer The Moisturizing Soft Cream

ยกกระปุกออก จะเจอช้อนตักครีม จะได้ไม่ต้องใช้มือปาดครีม ยืดอายุการใช้งานค่ะ

La Mer The Moisturizing Soft Cream

เปิดฝามา เจอฝาซีลอีกชั้น

เนื้อครีม ขาวขุ่น กลิ่นหอมจางๆ เทกเจอร์เหมือนครีมทั่วๆไป

GEL DE LA MER - The Moisturizing Gel Cream

เนื้อผลิตภัณฑ์ของ เจล เดอ ลาแมร์ เป็นเจลครีมที่ไม่ข้นเลย ใครที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์
ทาหน้าแบบเจลอย่าง Clinique moisture surge, H2O, Neutrogena รุ่น Hydro
อะไรพวกนี้จะนึกภาพออก .. ตัวนี้ไม่เหนอะไม่หนาเท่าครีม ทาแล้วซึมเข้าผิวไปเลย
ทาแล้วเหมือนไม่ได้ทาอะไร เหมาะกับคนที่มีผิวมัน หรือประเทศเขตโซนร้อนชื้น
อย่างเมืองไทย แต่ถ้าทาตอนกลางคืน ส่วนตัวแล้วคิดว่าเหมือนจะเอาไม่อยู่ คือมัน
บางไป ทาตอนเช้าจะเหมาะกว่า ทาก่อนลงรองพื้น สบายผิวดี ตกบ่ายหน้าก็ไม่มันด้วย

เนื้อแบบเจลครีม ไม่ต้องวอร์มเหมือนเนื้อครีม วิธีใช้คือ ตักเจลครีม ลงบนนิ้ว เอานิ้ว
แตะๆตบๆ (การ pat ผลิตภัณฑ์) เจลครีมเบาๆ แล้วจึงเอามา *กด* บนหน้าเบาๆค่ะ

ข้อดี - เนื้อเย็น เบา สบายผิว หน้าไม่มันเยิ้ม รู้สึกผิวสดชื่นดี
ข้อเสีย - แพงและเปลืองอ่ะค่ะ เพราะเนื้อแบบครีม ใช้นิดเดียวหน้าก็ชุ่มชื้นแล้ว

CRÈME DE LA MER - Moisturizing Cream

เนื้อครีมของ CRÈME DE LA MER หนาๆ ข้นๆแบบนี้ค่ะ
ถ้าใครเคยใช้นีเวียกระปุกน้ำเงิน หรือพวกบัทเทอร์ จะข้นๆประมาณนี้

มันก็จะมีคำถามว่า
ครีมหนาๆข้นๆเอามาทาหน้า แล้วไม่อุดตันเหรอ สิวไม่เห่อเหรอ
ตรงนี้เราตอบแทนให้ไม่ได้ค่ะว่า เวลาที่คุณๆใช้แล้ว จะเกิดปฏิกิริยาอย่างไร
เหมือนไปทานร้านส้มตำข้างถนน บางคนท้องเสียแทบตาย
บางคนไม่มีไรเกิดขึ้นเลย.. มันแล้วแต่ปฏิกิริยาของร่างกายแต่ละคนค่ะ

แต่เราใช้แล้วไม่มีปัญหา ผิวหน้าดีขึ้น
ไม่มีสิวอักเสบ-สิวผด ยกเว้นตอนก่อนมีประจำเดือน

ครีมข้นๆ ยอดแหลมๆ 555 นึกไปถึงตอนตีไข่ขาวให้ขึ้นฟู ยอดต้องตั้งแหลมๆ
ด้วยความที่มันข้น มันจึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง แห้งกร้าน หรือคนที่อยู่ในบริเวณ
อากาศหนาวเย็น .. เราใช้ตัวนี้ตอนอุณหภูมิองศาติดลบ หน้าไม่แตกไม่แห้งเลย
แต่ผิวตรงขานี่ลอกออกมาเป็นเกล็ดๆ ต้องทานีเวียกระปุกน้ำเงิน+ครีมอิยิปจึงดีขึ้น

วิธีใช้ CRÈME DE LA MER ที่ถูกต้อง ต้องทำการ *วอร์มครีมทุกครั้งที่ใช้* นะคะ
Warm โดยการใช้นิ้วมือถูบนนิ้วมือ หรือนิ้วมือถูบนฝ่ามือก็ตามแต่จะถนัด ถูวนไปมา
จนกระทั่งครีมข้นๆค่อยๆอ่อนตัวลง กลายเป็นครีมใสๆ เหลวขึ้นจนคล้ายจะเป็นน้ำๆ

เมื่อครีมโดนทำให้อุ่นแล้ว เราก็เอานิ้วมา *แตะๆแปะๆ* บนหน้าค่ะ ไม่ปาดไม่ถูไม่นวด

ครีมสีขาวๆข้นๆเมื่อซักครู่ เหลวใสติดนิ้วเลยค่ะ แสดงว่าพร้อมที่จะแปะลงหน้าแล้ว
เรื่องการวอร์มครีม มันไม่ใช่การเสียเวลา ซื้อมาก็ไม่ใช่จะถูกแต่ต้องใช้ให้ถูกต้องค่ะ

ป.ล. บีเอที่ออสเตรีย ตักครีมให้ลอง เยอะมากๆ ช้อนพูนๆแล้วปาดลงบนแขน
เห็นแล้วเสียดายแทน มันแพง 555 คือนาง .. ใจถึงมากค่ะ ของแถมก็ให้มาเยอะ

ข้อดี - ถึงราคาจะมหาโหด แต่ขนาดที่ใช้จริงๆ ใช้นิดเดียวค่ะ ขนาดเมล็ดถั่วหน้าก็ชุ่มแล้ว
รอยแผลเป็นจากสิว จางไวมากๆ-มากที่สุด (แต่รอยกระยังอยู่ที่เดิม 555) หน้าเนียนนุ่มดี
ข้อเสีย - ทาตอนเช้า เวลาตกบ่ายแล้วหน้าจะมันนะ ยกเว้นว่าใช้ในประเทศที่หนาวเย็น

วิธีใช้ จะคล้ายๆกัน คือแตะๆเนื้อครีมระหว่างปลายนิ้ว แล้วแปะลงหน้าเบาๆ

รูปเปรียบเทียบ เนื้อครีม ลาแมร์

เทียบให้ดูเนื้อผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ชนิด โดยเรียงตามลำดับความข้น จากน้อยไปมากค่ะ
เนื้อ Gel ข้นน้อยสุด เนื้อ Soft Cream เป็นเนื้อกลางๆ ส่วน Crème De La Mer ข้นที่สุด

รูปเปรียบเทียบ เนื้อครีม La Mer Texture

ดูกันแบบใกล้ๆ

รูปเปรียบเทียบ เนื้อครีม La Mer Texture

เอานิ้วปาดเบาๆ

สารภาพว่าไม่ได้ใช้ลาแมร์ทั้งหน้านะ เปลืองงบประมาณ 555 ตรงหน้าผาก เราใช้ครีม
ยี่ห้ออื่น แย่งครีมนีเวียของแฟนบ้าง โบกคลาแรงค์บ้าง ทาอะไรก็ได้ตรงหน้าผากเพราะ
เราอยากเน้นบำรุงตั้งแต่หน้าผากลงมา เค้าขี้เหนียวหน่ะตัว ทาทั้งหน้ามันจะหมดเร็ว อิอิ

ป.ล. 1 - เวลาซื้อลาแมร์ที่เมืองนอก คนขายจะแถมแซมเปิ้ลมาให้เสมอ ไม่จิกไม่กัดด้วย
ป.ล. 2 - ในรูป นีเวียสำหรับผู้ชายผิวแห้ง สูตรผสมว่านหางจระเข้ เมดอินเยอรมันค่ะ

ลาแมร์ ตกแตก

ป.ล. 3 - จับให้มั่นนะตัว มิเช่นนั้น อาจะเป็นเช่นนี้ กริ๊ดดด แตกค่ะแตก
ตกบนพื้นไม้ น่าจะรอด แต่นางนี้ เจ้าเลือกที่จะตกบนหินแกรนิต 555
เสียงแตกเหมือนแก้วตกบนพื้นอ่ะค่ะ บาดไปถึงหัวใจจจจ หึหึ

ออกลูกออกหลาน

ราคา Duty Free *บนเครื่องบิน* (ณ. ปี 2013)
La Mer Moisturizers Crème de la Mer 60ml. 310 US$
Concentrate 30ml 387 US$
Eye 15 ml 217 US$
Regenerate serum 30ml 329 US$

ราคาบนเวป La Mer ในเยอรมัน 135 ยูโร
ราคาร้านเนตเมืองไทย 4355-4690 บาท

ราคาที่ Heinemann (Duty Free ในแฟรงเฟิร์ต) (ณ. ปี 2013)
La Mer Moisturizers Crème de la Mer 30ml. 115 ยูโร
La Mer Moisturizers Crème de la Mer 60ml. 204 ยูโร
La Mer Moisturizers The Moisturizing Gel Cream 30ml. 115 ยูโร
La Mer Moisturizers The Moisturizing Gel Cream 60ml. 204 ยูโรผ
La Mer Moisturizers The Moisturizing Lotion 50ml. 170 ยูโร
La Mer Moisturizers The Moisturizing Lotion 100ml. 340 ยูโร
La Mer Moisturizers Oil Absorbing Lotion 50ml. 170 ยูโร
La Mer Moisturizers Oil Absorbing Lotion 100ml. 340 ยูโร
La Mer Serum The Concentrate 30ml. 247 ยูโร
La Mer Serum The Concentrate 50ml. 349 ยูโร
La Mer Eye Treatments Eye Balm Intense 15ml. 124 ยูโร
La Mer Eye Treatments Eye Concentrate 15ml. 149 ยูโร
.
.
.
.
.

ราคาที่ Munich (Duty Free ในมิวนิค) (ณ. ปี 2014)
La Mer Moisturizers Crème de la Mer 30ml. 117.90 ยูโร
La Mer Regenerating Serum 225.90
The Mist Toner 100ml €55.90
The Hydrating Infusion 125ml €97.90
The Radiant Infusion 125ml €97.90

ราคาในมิวนิคจะถูกกว่าที่แฟรงค์เฟิร์ทนิดๆ ประมาณ 2-4 ยูโร
เช่นในมิวนิค The Concentrate 50ml €346.90 แต่ที่
สนามบินแฟรงค์เฟิร์ทจะอยู่ที่ €349 ค่ะ

ราคาในแฟรงค์เฟิร์ท เช็คได้ที่เวปนี้ค่ะ

Create Date : 20 พฤศจิกายน 2556

Last Update : 24 ตุลาคม 2557 18:17:10 น.

0 comments

Counter : 85323 Pageviews.