เที่ยว สระมรกต จ. กระบี่ (Emerald Pool) ศาลฤาษี (The shrine of an Ascetic), สระน้ำผุด (Blue Pool)

เปิดทุกวัน 8.00 - 17.30 น. ค่ะ



วันนี้เราจะไปเที่ยวที่ สระมรกต (Emerald Pool) กันค่ะ
ที่นั่นมีที่จอดรถกว้างขวาง ตลอดทางเดินไปยังประตูทางเข้า
มีสินค้าพวกอาหาร เครื่องดื่มมากมาย สะดุดใจกับเมนูไข่ปิ้ง
ที่วางขายเรียงรายหลายร้าน .. อาหารและเครื่องดื่มพวกนี้
ซื้อแล้วทานตรงนี้เลยค่ะ เพราะไม่อนุญาตให้นำเข้าด้านใน

รู้ๆกันอยู่ว่าถ้าเอาเข้าไป ก็จะกลายเป็นขยะเกลื่อนพื้นที่ ^^
แถมถ้าอาหารตกลงไปในสระ น้ำก็จะเน่าเสียได้ นะแจ๊ะ



ทำราวแขวนเป็นเรื่องเป็นราวเลยค่ะ จุดสิ้นสุดของอาหาร
และเครื่องดื่ม ห้ามนำเข้า ธรรมชาติสวยๆจะได้อยู่กับเรา
ไปนานๆ แต่อย่างว่า ซื้อมาแล้วก็ทานๆไปให้หมดเถิด
แขวนไว้อย่างนี้กว่าจะได้ออกมากิน น้ำแข็งละลาย
อาหารปนเปื้อนจุลินทรีย์และมีแมลงวันมาไต่ตอม
พาลจะได้ท้องเสียกัน.. เมืองไทยยิ่งมีอุณหภูมิเหมาะกับ
การเจริญเติบโดของแบคทีเรียกันอยู่ด้วย ..



ราคาค่าเข้าค่ะ คนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
ชาวต่างชาติ 200 บาท เด็กต่างชาติ 100 บาท 

ชาวต่างชาติที่มี Work Permit ก็ต้องจ่ายราคานี้ เพราะ
ที่นี่ไม่ใช่อุทยานแห่งชาติ แต่เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
เขาประ-บางคราม



ลำธารน้อยๆตรงปากทางเข้า



ปากทางเข้า ป้ายต้อนรับ .. จากตำแหน่งนี้ เราต้องเดิน
เพื่อไปยังสระมรกต ระยะทาง 800 เมตรค่ะ ชิลล์ๆเนอะ

ระยะทางไม่น่าเบื่อค่ะ มีป้ายให้ความรู้ตลอดทาง ติดตรงต้นไม้
อธิบายชื่อพฤกษศาสตร์ ว่าต้นนี้ชื่อต้นอะไร ชื่อแปลกๆทั้งนั้น



แผนที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติสระมรกต



เดินหายวับเข้าไปในป่า เอ่อ ไม่ใช่ละ



ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จะเจอช้างทั้ง 4 ยืนรออยู่



ชุดคล้ายๆกัน เลยขอถ่ายรูปคู่กับนกแต้วแร้วตัวเมีย

ที่ จ.กระบี่ มีนกหายาก/ใกล้สูญพันธุ์ที่สุด นั้นก็คือ นกแต้วแร้วท้องดำ
นกกระเต็นสร้อยคำสีน้ำตาล และนกเงือกดำก็หาดูยากแล้วค่ะสมัยนี้



อีก 120 เมตร เราจะถึงสระมรกตแล้วค่ะ ถ้าอยากไป
สระน้ำผุด (Blue Pool) ต้องเดินไปอีก 866 เมตร (เกือบกิโล)



สะพานไม้ค่ะ จะได้ไม่ต้องเดินบนดินแฉะๆ/ซากใบไม้ให้ลื่นล้มกัน



ไปไหนก่อนดี



สระมรกต เห็นสีเขียวมาแต่ไกล



มุมแอบดูเค้าเล่นน้ำ



น้ำเขียวใสมากค่ะ สระนี้เป็นสระธรรมชาติ ต้นกำเนิดมาจากธาร
น้ำอุ่นกลางป่าที่เป็นน้ำพุร้อน น้ำเป็นสีเขียวนั้นเกิดมาจากสาหร่าย
ตระกูลสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินที่อยู่ในน้ำพุร้อน + สาร CaCO3
(แคลเซียมคาร์บอเนต) ที่เป็นด่าง ทำให้น้ำใส ตกตะกอนเร็ว เมื่อ
แดดส่องลงมา จึงเห็นเป็นสีเขียวค่ะ น้ำไม่เย็นนะ ถือเป็นน้ำแร่ร้อน
ตามธรรมชาติ (ประมาณ 32 C องศา)



สระมรกต กว้างยาวประมาณ 20x25 เมตร ถ้าเป็นไปได้ก็มา
ในวันธรรมดาค่ะ เพราะวันหยุดสุดสัปดาห์ คนจะเยอะมากๆ



อีกซักมุมก่อนที่จะเดินไปบ่อผุด



ธารน้ำน้อยๆในป่าพรุ



เดินหน้ากันต่อไป



เห็นอย่างนี้ก็เถอะ น้ำใสมาก - ลานชมพู่น้ำ



ธรรมชาติล้วนๆ ที่ลานชมพู่น้ำ



ลานชมพู่น้ำ - ดูความใสสิคะ มันน่าลงไปนอนกลิ้ง ฮ่าๆ



เดินเหยียบลงไปบนลานหินปูน ผลเหรอ ลื่นสิ แป่ววววว



ถึงศาลฤาษีแล้วค่ะ (The shrine of the hermit)
ผู้คนเดินเข้าไปกราบไหว้ขอพร (ห้ามจุดประทัดโดยเด็ดขาด)

เรื่องมีอยู่ว่า ฤาษีตาไฟได้ไปเข้าฝันหลวงตาชู (พระธุดง) ว่าจะ
มาอยู่เพื่อคุ้มครองรักษาลูกหลาน ชาวบ้านจึงได้จัดการปั้นรูปปั้น
เพื่อไว้เป็นที่เคารพบูชา ต่อมามีนักท่องเที่ยวมาขอพรและสมหวัง
จึงสร้างรูปปั้นฤาษีอีกหนึ่งองค์มาถวาย ชื่อ ฤาษีโกเมศ



สระฤาษี ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสระที่ฤาษีอาบน้ำ หากใครลงเล่นน้ำ
ในสระนี้ต้องประสบกับโชคร้าย หรือจะมีโรคภัยไข้เจ็บ
ทำให้ไม่มีใครกล้าลงเล่นสระน้ำนี้ ห้ามลงเล่นนะ รับทราบ



เดินผ่านดงเฟิร์น อันเป็นตัวบ่งบอกความสมบูรณ์ของธรรมชาติ
บริเวณนี้เขียวชอุ่มมากๆ ถือเป็นป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์



ต้นใหญ่ๆทั้งนั้น



ใสมาก



ณ. จุดนี้ อยากกระโดดแช่น้ำมาก ดิบชื้นสมชื่อ ในป่าชื้นมากๆ
เหงื่อไหลไคลย้อย



ถึงแล้วค่ะ สระน้ำผุด (Blue Pool / Sa Nam Phut / Spring Pool)



ป้ายอธิบายความเป็นมาของสระน้ำผุด



สระน้ำผุด เป็นต้นกำเนิดของสระมรกต เกิดจากน้ำพุร้อนใต้
เปลือกโลก น้ำมีสีน้ำเงินคราม มีน้ำผุดขึ้นตลอดเวลา ที่เห็นไม่มี
คน ก็เพราะเค้าห้ามลงเล่นน้ำ เนื่องจากน้ำลึกและมีโคลนดูด
ความสวยที่มากับความอันตราย .. เราก็ได้แต่ยืนมองกันค่ะ



น้ำจากบ่อผุดนี้มาจากภูเขาหินปูน ซึ่งมีสารละลายของ
แคลเซียมคาร์บอเนต (CaCo3) ทำให้สารแขวนลอยในน้ำ
ตกตะกอนง่าย น้ำจึงใส สีสวย น่าว่ายและลอยตัวมากๆ



ในสมัยโบราณชาวบ้านมีความเชื่อว่าเป็นสระที่นางกินรีลงเล่นน้ำ

สระน้ำผุดเป็นสระน้ำขนาดเล็ก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 15-20 เมตร
เกิดจากน้ำใต้ดินที่พุ่งขึ้นมาบนผิวโลก ผ่านรอยแตกของพื้นดิน (ตาน้ำ)
ขึ้นมารวมกันเป็นสระน้ำขนาดเล็กกลางป่า และเป็นธารน้ำลงสู่สระมรกต



น้ำในสระที่เห็นมีสีน้ำเงินครามเพราะเป็นน้ำที่มีแร่ธาตุต่างๆ หลายชนิด
เช่น แคลเซียมคาบอเนต, แมกนีเซียม, แมงกานีส และกำมะถัน

เป็นต้น ทำให้เรามองเห็นน้ำเป็นสีดังกล่าว



และที่เห็นน้ำผุดตลอดเวลาคล้ายน้ำเดือดอันเนื่องจากก้นบ่อมีรอยแยก
ของเปลือกโลก ซึ่งภายใต้เปลือกโลกมีของเหลวที่มีความร้อนเรียกว่า
แม็กม่า (magma) ความร้อนจากของเหลวนี้ระเหยมาทางรอยรั่ว
ของเปลือกโลก ทำให้เราเห็นน้ำผุดตลอดเวลา

ถ้านักท่องเที่ยวมาที่นี่ ลองปรบมือจะทำให้น้ำผุดมาเร็วยิ่งขึ้น

เหมือนในนิทาน บ่อน้ำสีฟ้า



พาลูกหนูไปดูบ่อผุดด้วย อำลากันตรงนี้ค่ะ

Create Date : 10 มิถุนายน 2557		0 comments
Last Update : 10 มิถุนายน 2557 12:36:09 น.
Counter : 6835 Pageviews.
Share Tweet