มาถึงตอนสุดท้ายของภูทับเบิกเลยละกันใจจริงกะเขียนให้ได้ 4 ตอน
แต่ขอรวบยอดไปเลยละกัน  เพราะต้องไปลุยทำงานส่งอาจารย์ต่อ

หลังจากที่ไปวัดป่าทับเบิกแล้ว  ก็มีแพลนว่าจะไปภูหินร่องกล้ากันต่อ
แต่ก็ต้องยกเลิกแผนนี้แล้วก็กลับไปนั่งกินไก่ทอดหาดใหญ่ ภูทับเบิก
(งงกันดิ ฮ่าๆ) รถชาติอร่อยไม่แพ้ไก่ทอดหาดใหญ่ของจริง

วันที่สองเมฆไม่เยอะเท่าไหร่  เลยได้รับความอุ่นจากแสงแดดบ้าง
แต่อากาศก็ยังเย็นอยู่ดี  เพราะลมพัดความเย็นมาเรื่อย ๆ

วันนี้ลองเดินลงไปที่แปลงกระหล่ำปลีกัน

อย่างที่บอกว่าช่วงนี้เป็นหน้าแล้ง  ซึ่งเลยฤดูกาลเก็บเกี่ยวไปแล้ว
ถ้าใครอยากมาชมไร่กระหล่ำปลี  เขียวขจี  ต้องมาช่วง (ช่วงไหนวะ)
55555+  ลืมอ่ะ  เค้าบอกแต่ลืมไปแล้ว  ขอโทษด้วยคับ  แต่ถ้า
ทะเลหมอกเนี๊ย  ช่วงเดือนตุลา  (ปลายฝน - ต้นหนาว)

แต่ก็ยังมีกระหล่ำปลีให้เห็นอยู่บ้าง  แต่หัวกระจิ๋วเดียว

ขำ ๆ

เดิน ๆ อยู่มองไปที่พื้น  เจอทรากไส้เดือนตายเกลือนเลย
แต่มีอยู่ตัวนึงกำลังกระดึ๊บ ๆ วื๊ด ๆๆ  อยู่  ก็เลยเอากิ่งไม้
เกี่ยวตัวมันไปไว้ตรงดินนิ่ม ๆ   ขืนอยู่ตรงนี้มีหวังโดนทับตาย
แหงแก๋  + +"

เด็กม้ง (ชาวไทยภูเขา บ้านทับเบิก)

บทภูก็มีแพนเค้กนะ  ฮ่าๆๆ  อร่อยดีเหมือนกัน 

จะซื้อมะระหวานกลับบ้าน  เลยแอบเล็งร้านนี้ไว้ 
ว่าจะมาอุดหนุนขากลับแต่ไม่ได้ซื้อ  รีบจนลืม

ตกเย็นพอแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไป  อากาศก็เย็นขึ้น
เย็นนี้พวกเราไม่ทำอาหารกินกันเองแล้ว  เพราะหาน้ำล้างอุปกรณ์
จามชาม ฯลฯ ลำบาก    ก็เลยไปสั่งอาหารที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
ราคาไม่แพงเท่าไหร่ เท่า ๆ กับร้านอาหารตามสั่ง  ในกรุงเทพนี่แหละ
ดังนั้น  ถ้าไปทับเบิกก็ไม่ต้องกลัวอดตาย  มีของ และอาหารขายตรึม

ตกดึกบนจุดชมวิว  ก็มีโชว์ลีลาแดนซ์กระจายท้าลมหนาว 
จากน้อง ๆ บ้านทับเบิก  มีผู้คนให้ความสนใจเยอะเหมือนกัน

ถ่ายรูปกันวิ๊บวั๊บ  แสงแฟลชยิ่งกัน  ราวกับแสงไฟดิสโก้เทค
(ใช้คำเชยไปไม๊เนี๊ยช๊านน ฮ่าๆ)

นอนทับเบิก สัมผัสความหนาว ดูดาวบนดิน
ดาวบนดินที่ว่า  ก็คือแสงไฟจากบ้านเรื่อนที่เห็นกันนี่แหละ
แต่มือสั่น  เอากล้องวางไว้กับรั้ว  แต่คนแถวนั้น  ขึ้น ๆ ลง ๆ รั้ว
มันก็เลยสั่น แง๊กๆๆ  เลยออกได้เป็นเช่นนี้แล 

คืนนี้ไม่หนาวเท่าไหร่  เพราะว่าเมื่อตอนเย็นน้าไปเช่าผ้านวมมา
สองผืน  เมื่อคืนเลยหลับสบายไม่ซึมเปลื้อน  โซฟีแบบกระซับ
อุ๊ปปป !!   ป่าวนะ  ฮ่าๆๆ   ก็นั่นแหละผ้านวมสองผื้นอุ๊นอุ่น
ลูกน้อยไม่ตื่นกลางดึก  เพราะใช้แพมเพิส  ก๊ากก  พอเห่อะ ๆ

หลังจากตื่นก็รีบเก็บข้าวของเตรียมกลับบางกอก

แต่เนื่องด้วยยังพอมีเวลา  น้าเลยแวะไปเขาค้อต่อ

ระหว่างทางก็แวะหาของกินกัน

แล้วก็ซื้อของฝาก  จำไม่ได้แล้วว่าเค้าเรียกตรงนี้ว่าอะไร
แต่ถ้าใครแวะไปซื้อของตรงนี้แนะนำร้านตรงกลางที่ไม่มีป้ายเนี๊ย
แม่ค้าพ่อค้า น่ารักมาก  ใจดี  ขายของกันเอง แล้วก็ถูกด้วย
เหมาะมะระหวานมา 18 กิโล  ขายปลีกโลละ 10 บาท 
แต่ต่อเหลือ โลละ 5 บาท  แพงป่าวไม่รู้  ร้านอื่นต่อได้แค่ 7 บาท
กลับมาผัดกินกันให้ตายไปข้างนึง  แล้วก็ซื้อมะขาม แคร๊อท
บ๊อคเคอร์รี่ เห็ดหอม ฯลฯ ขี้เกียจพิมพ์

ซื้อของเสร็จ ก็ไปลุยกันต่อ

ปิ๊ด..ปี๊..ปิ๊ด.. !!  สวัสดีปีใหม่คุณตำรวจ 

พระธาตุฯ

จากนั้นก็แวะขึ้นไปที่  พระตำหนักเขาค้อ

ถ่ายมาเหมือนไม่มีคนเลยอ่ะ ฮ่าๆๆ  ซึ่งจริง ๆ แล้วคนเยอะมาก

แอบติดใจหญ้าหอม  เค้าให้เอาหลังมือไปถู ๆ กับหญ้าแล้วดม
กลิ่มหอมแบบ  หอมจริง ๆ   ชอบมาก ๆ เลย

ที่นี่บรรยากาศดีมาก ๆ   แถมมีจุดบริการให้กางเต้นท์ได้ด้วย
เสียค่าธรรมเนียม 30 บาท/คน  มีห้องน้ำและสุขาพร้อม

จากพระตำหนักก็ไปชมพิพิธภัณฑ์อาวุท ฐานอิทธิ

10 บาท  กับการเข้าชม  วีรกรรมของเหล่าทหารกล้าผู้เสียสละ

อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ

มาถึงตรงนี้อาจจะบอกว่า  ก็ยังไม่ได้อาบน้ำเลย  ฮ่าๆๆๆ
สรุปแล้วตั้งแต่วันที่ 28 จนถึง 31 รวม 4 วันที่ไม่ได้อาบน้ำ 
(ยังมีหน้ามาเล่าอีก)  ขอขอบคุณเรโซน่า แอคทีฟรีเซิร์ฟ
Oxygen 20 บาท อันเดียวอยู่หมัด  (ขอค่าโฆษณาด้วยพี่)
ไม่ทำให้คุณผิดหวังจริง ๆ  กลับมาถึงบ้านพิสูจน์กลิ่นแล้ว
ผ่านนนนนน !!   คือหมายถึง  เมิงรีบผ่านไปไกล ๆ นะ ฮ่าๆๆ 

จากนั้นก็รีบบึ่งรถกลับบ้านกัน  พอดีแม่โทรมาบอกว่าอากง
เข้าโรงพยาบาล  แต่ไม่เป็นอะไรมาก  โรคหัวใจกำเริบ เลิ๊ฟ ๆ
อะไรแระมาณนั้น 

งั้นขอจบทริ๊ปผูทับเบิกอย่างเป็นทางการไว้ในไดอารี่หน้านี้
"ยังมีถนนอีกหลายสาย  ที่เรายังไม่ได้ไปเดิน" 
ประสบการณ์ดี ๆ  ถ้าไม่ออกไปหา  ก็ไม่มีทางเจอ  (คุ้น ๆป่ะ)
แล้วพบกันใหม่ทริ๊ปหน้าครับบบบบ ~

:: Post Script ::

•  ถึงไม่ได้อาบน้ำแต่ก็ล้างหน้าสระผมนะ 55+
•  ขอบคุณพี่โต้งและอี๋แมว
•  สำหรับทริ๊ปดี ๆ แบบนี้
•  ดูซิว่าปีนี้จะได้ไปเที่ยวไหนอีก
•  ว่าแต่ขอตัวไปลุยงานส่งอาจาย์ต่อละคับ

Copyright ©2005 - 2008 Sand.diaryis.com All rights reserved.

Create Date : 03 มกราคม 2551
Last Update : 3 มกราคม 2551 23:58:27 น.		1 comments
Counter : 1157 Pageviews.
Share Tweet