Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
14 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
อย่าทำลายพลังตัวตน ด้วยการแต่งตามอำเภอใจตน !


fashionhora@gmail.com


*ครั้งที่แล้วนำเอา Dress Code มาชี้แนะสาวทำงานให้ตระหนักถึงการให้ความสำคัญต่อ Dress Code ซึ่งเป็นรหัสมาตรฐานการแต่งกายออกสังคม ก็ได้ภาพสะท้อนที่หลากหลายจากผู้อ่าน ทั้งที่เป็นแฟนประจำ และแวะเวียนมาอ่าน ต่างคนต่างมุมมองก็เป็นเรื่องธรรมดา

ในความเป็นจริงผู้คนในสังคมไทยปัจจุบันถูก Dress Code ครอบงำกันโดยไม่รู้ตัวอยู่แล้ว มิใช่สิ่งแปลกใหม่ หรือเรื่องดัดจริตใดๆ ต่างก้มหน้าก้มตาเดินตามก้นผู้นำด้าน Dress Code กันอยู่แล้ว

     แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่เราเลือกแต่งสะท้อนพลังตัวตนตาม Dress Code นั้นๆ ผิดวาระโอกาส และกาลเทศะหรือไม่ คือ สิ่งที่ต้องหันมาทบทวน อย่าแต่งตามอำเภอใจตน หรือกลุ่มตน ด้วยความเชื่อของตนเองในลักษณะอารมณ์ “ช่างมันฉันไม่แคร์”

ลองสังเกตอิทธิพลต้นแบบ Dress Code ต่อไปนี้ดูกันหน่อยไหมว่า ผู้มาทีหลัง เมื่อต้องแต่งตัวให้ตรงตามภาพลักษณ์ตัวตนต้นแบบ และรู้ด้วยว่าต้องแต่งด้วยองค์ประกอบศีรษะจรดเท้าอย่างไร ตลอดจนต้องปรับท่าทีท่าทางให้สอดคล้อง กับต้นแบบพลังตัวตนตาม Dress Code นั้นด้วย



อาทิ

ทำไมนักร้องเพลงเพื่อชีวิตต้องแต่งกายแนวเดียวกันทุกคน ?
ทำไมนักร้องลูกทุ่งชายเดี๋ยวนี้ต้องแต่งกายแนวเดียวกับก็อต จักรพันธ์ ?
ทำไมนักขี่ช็อปเปอร์ต้องแต่งกายศีรษะจรดเท้า ด้วยรูปลักษณ์เดียวกัน ?
ดาราสาวเวลาออกงาน ทำไมต้องแต่งตัวดันอกดันนมให้ตู้มทะลักล้นตามกันแทบทุกคน ?
สาวไฮโซสูงวัย ทำไมต้องทำผมทรงตีโป่ง ยีฟู หัวโต ?
สาวเทียม ทำไมแต่งตัวและเดินเหินเกินความเป็นหญิงแท้เกือบทุกคน ?
นักร้องวัยรุ่นไทยชายหญิงประเภทดูโอ หรือทีม ทำไมแต่งกายและลีลาสไตล์เกาหลีกันหมด ?
ทำไมดีเจวีเจต้องมีลีลาเสียง สไตล์การพูดท่าทางเหมือนๆ กันไปหมด ?
ทำไมสาวๆ ตอนนี้ต้องมีดอกไม้ดอกโตติดผมด้านข้าง หลากสไตล์ โดยไม่คำนึงถึงว่าจะเข้ากับใบหน้า หรือเสื้อผ้าที่ตัวเองแต่งไหม ติดกันเหมือนเป็นเครื่องรางของขลัง เพราะอะไร ?
อ้อ ! แถมอีกข้อหนึ่งทำไมคู่บ่าวสาวต้องถ่ายภาพ หรือทำวีดิทัศน มาตั้งโชว์ในงาน ฉายให้แขกชมในงาน แทบจะเหมือนๆ กันไปหมด ?

     นั่นแหละครับคือ Dress code ที่ถูกกำหนดโดยต้นแบบตัวตน ของแต่ละอาชีพ แต่ละรูปแบบกิจกรรมทางสังคม แต่ถามว่าแต่งแล้วดูดี มีพลังตัวตน ตามอาชีพนั้นหรือไม่ ต้องพิจารณากันเอง

แต่ที่แน่ๆ ไม่มีพลังตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวตนแน่นอน เพราะเป็น Dress code แนวต้องแต่งตามให้ดูดี ดูเหมือน เท่าทัน เท่าเทียม



     เวลาดูหนังเรื่องสามก๊ก สังเกตเครื่องแต่งกายที่ Costume Designer ออกแบบและจัดทำให้ จะคำนึงถึงพลังภาพลักษณ์ตัวตน (HEP’s Image Power) ของตัวแสดงแต่ละคน นักออกแบบเครื่องแต่งกายเพื่อการแสดง (Costume Designer) ทำงานแตกต่างจากนักออกแบบแฟชั่น (Fashion Designer) หรือฝ่ายจัดรูปแบบแล้วจัดหาเสื้อผ้าตามสไตล์ (Stylist) เพราะ Costume Designer ต้องตีโจทย์ให้ละเอียดถึงพลังตัวตนตัวแสดงแต่ละคนให้ชัดว่า แต่ละคนมีรูปแบบวิถีชีวิตมีนิสัยพฤติกรรมอย่างไร

ดังนั้นเวลาตัวแสดงนั้นนำเสนอบทบาทที่ตรงตามบุคลิก และมีเครื่องแต่งกายที่ได้ออกแบบให้ดูดีมีพลังตัวตนสัมพันธ์กับบทบาทนั้น ทำให้เรามีอารมณ์คล้อยตามไปกับตัวตนของแต่ละตัวแสดง

ชีวิตประจำวันของเราก็เช่นกัน เราต้องไปปรากฏกายให้คนอื่นได้สัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ และบางทีเราก็อาจจะไม่เคยใส่ใจในภาพรวมพลังตัวตน อันสะท้อนไปสู่สายตาคนอื่นด้วยสไตล์การแต่งกายที่เราแต่ง จะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาผู้ที่มีชื่อเสียง มีโอกาสปรากฏตัวผ่านสื่อ หรือในงานสังคม ที่สื่อทุกสาขาถ่ายภาพไปเผยแพร่ และทำให้เกิดเป็นกระแสค่านิยมต้นแบบ Dress Code ให้แต่งตามกันทั้งเมือง...

     เคยแนะว่าการแต่งกายต้องบริหารสมดุล 4 วิถีชีวิตตัวตนให้ดูดี มีพลัง เหมาะสมลงตัวกับบทบาทหน้าที่ และสถานะภาพในการไปปรากฏกาย ลองทบทวนอีกครั้งดีไหมครับ

1. วิถีชีวิตตัวตนส่วนตัว (Personal Lifestyle) ความพึงพอใจ รสนิยม ค่านิยม ความเชื่อ ที่เป็นอารมณ์ส่วนตัว ควรมีสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์ของภาพรวมการแต่งกายโดยรวม ต้องกำหนด

2. วิถีชีวิตตัวตนอาชีพ (Career Lifestyle) รูปแบบเฉพาะแต่ละอาชีพแตกต่างกัน บางคนคิดว่าทำงานอยู่เบื้องหลัง ไม่ค่อยมีใครเห็น แต่ลืมไปว่าเวลาเข้าไปในที่ทำงานก็ต้องเดินผ่านให้ผู้คนมองเห็น ควรให้ความสำคัญจัดเปอร์เซ็นต์สะท้อนพลังตัวตนอาชีพให้ชัด



3. วิถีชีวิตตัวตนองค์กร (Workplace /Corporate Lifestyle) แต่ละสถานที่ทำงาน หรือแต่ละองค์กรต่างมีวัฒนธรรม หรือภาพลักษณ์แตกต่างกัน อาจเป็นที่รวมของคนหลากอาชีพ หลากรสนิยม แต่ที่แน่ๆ อยู่ในสิ่งแวดล้อมเดียวกัน ควรจัดเปอร์เซ็นต์สะท้อนพลังตัวตนองค์กรให้ชัดเจนด้วย

4. วิถีชีวิตตัวตนทางสังคม (Social Lifestyle) การไปปรากกฎกายในแต่ละสังคม ต้องตระหนักว่า กำลังไปอยู่ ณ ที่นั้นด้วยสถานภาพใด ฐานะส่วนตัว หรือตัวแทนองค์กร ต้องจัดเปอร์เซ็นต์สะท้อนพลังตัวตนให้เหมาะสมกับสังคมนั้นๆ

ดูแล้วเหมือนมันเป็นเรื่องยุ่งยาก และไม่น่าจะต้องมาวุ่นวายแนะนำ แต่ก็ลองกวาดสายตา มองดูรอบๆ ตัวเรา บนถนน ในร้านอาหาร ในศูนย์การค้า ในห้างสรรพสินค้า ในรายการทีวี ข่าวผ่านเว็บไซต์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ภาพที่เรามองเห็นลองพิจาณาดูแล้วถามตัวเอง ตอบด้วยความจริงใจว่า มันมีภาพรวมดูดี เหมาะสม ลงตัว กับแต่ละผู้คน..ทุกคนไหม ?

     ตั้งใจจะนำสาระศัพท์เฉพาะมาชี้แนะ แต่เห็นว่าหลายคนอาจไม่เข้าใจในนิยาม Dress code ว่าเป็นเรื่องใหม่ แต่ไม่ใช่ครับ เป็นเรื่องปกติที่ไม่ปกติ โดยเฉพาะสาวทำงานต้องให้ความสนใจ เตรียมตัวให้พร้อมกับทุกสภาวะของการปรากฏกาย

แล้วพบกันอีกสัก 1 ตอนนะครับ ว่าด้วยศัพท์เฉพาะของ Business Dress Code

หมายเหตุ: ประเทศไทยมีวัฒนธรรมการแต่งกายเฉพาะโอกาสที่มีข้อกำหนดรายละเอียดให้สืบทอดมายาวนาน โดยเฉพาะการแต่งกายในพระราชพิธีต่างๆ ซึ่งเวลาผู้จะไปร่วมงาน หรือพระราชพิธีใด จะต้องยึดถือและปฏิบัติตาม ซึ่งวัฒนธรรมการแต่งกายดังกล่าวเปรียบเป็นศัพท์การแต่งกายสากลว่า Dress Code และเป็นนิยามมาตรฐานสากลที่คนทั้งโลกเข้าใจ


ขอขอบคุณ
ที่มา :
ผู้จัดการออนไลน์ โดย แดงส์ ตักสิลา 29 มิถุนายน 2552



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์



H O M E



Create Date : 14 สิงหาคม 2552
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2552 16:32:34 น. 1 comments
Counter : 4762 Pageviews.

 
สุดยอดออกแบบหุ่นได้ดีมากดูเปนธรรมชาติ
เราชอบงานออกเเบมากแต่เราอายุ14เองแต่เราวาดรูปได้ดีพอควรบาย



โดย: ริน IP: 113.53.82.66 วันที่: 20 มีนาคม 2554 เวลา:11:09:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.