Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
14 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
โหราศาสตร์ชะตาบ้านเมือง โดย "ภิญโญ พงศ์เจริญ" นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ


-โอม-

นมัสสิตวา

นบพระตถา-คตธรรมคัมภีร์

นบสงฆ์สิกขานบอาจารีย์

นบโหราตรี-เวทวิทศาสตร์ไสย


วันมหาสงกรานต์ปี 2553 นั้น ตรงกับวันที่ 14 เมษายน 2553 เวลา 07.21 น.

     วันมหาสงกรานต์ เป็นวันที่พระอาทิตย์โคจรมาครบ 1 รอบจักราศี และในวันที่ 14 เมษายน 2553 พระอาทิตย์ก็จะวิวัฒน์เข้าสู่ราศีใหม่ ก็คือราศีเมษ ตรงกับวันพุธ การนับวันใหม่นั้นทางโหราศาสตร์นับกันตั้งแต่เวลารุ่งอรุณ คือดวงอาทิตย์ขึ้น แล้วโลกก็หมุนรอบตัวเองไปหนึ่งรอบมันก็จะกินเวลาถึงรุ่งอรุณของอีกวันหนึ่ง นับได้ 24 ชั่วโมง เป็น 1 วัน

วันมหาสงกรานต์ปีนี้ ทางจันทรคติกาลจึงตรงกับวันพุธ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล เป็นโทศก หมายถึง ศักราชที่ลงท้ายด้วยเลข 2 จุลศักราช 1372 นี้จะเปลี่ยนในวันเถลิงศก คือ วันที่ 16 เมษายน 2553 เป็นวันเถลิงศกใหม่

วันมหาสงกรานต์นี้เขาถือเอาวิถีการโคจรของดวงอาทิตย์เป็นหลัก กล่าวคือดวงอาทิตย์โคจรมาครบ 1 รอบจักราศี คือ 360 องศา แล้ววิวัฒน์เข้าสู่ราศีเมษที่ 0 องศา 0 ลิปดา 0 ฟิลิปดา พระอาทิตย์โคจรยกตรงกับวันไหน วันนั้นเป็นวันมหาสงกรานต์

ปี 2553 นางสงกรานต์เป็นสงกรานต์ฝ่ายศุภเคราะห์ เพราะตรงกับวันพุธ (4) วันพุธเป็นวันศุภเคราะห์ นางสงกรานต์ชื่อมณฑาเทวี ชื่อก็ไพเราะ สวยก็สวยประหลาด งามบาดใจใครๆ หลงใหลทั้งตำบล เนื่องจากดาวพุธ (4) เป็นเทพแห่งการสื่อสาร จึงทำให้มีการแสดงความคิดเห็น การเจรจาต่อรอง มีวิวาทะเกิดให้เห็นตลอดทั้งปี ทรงพาหุรัดทัดดอกจำปา แก้วไพฑูรย์เป็นอาภรณ์ ภักษาหารนมเนย อ้วนท้วนสมบูรณ์

เห็นได้ชัดว่านางสงกรานต์ปีนี้ไม่ได้ดุร้ายดื่มเลือดเหมือนปีอื่นๆ ภักษาหาร นม เนย ซึ่งแขก-ฝรั่งนิยมรับประทานกัน กิจการเกี่ยวกับเรื่องนมเนย อาหารการกิน กิจการที่สัมพันธ์กับชาวต่างชาติจะเฟื่องฟู พระหัตถ์ขวาทรงเหล็กแหลม ก็จะมีอุบัติเหตุ เสียดแทง เลือดออกซิบๆ ซึมๆ ประปรายตลอดทั้งปี 2553 พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้าคอยค้ำยันไม่ให้หกล้ม รัฐบาลและสถาบันสำคัญๆ จะต้องอาศัยผู้ให้การสนับสนุนคอยช่วยเหลือค้ำยัน จึงจะผ่านพ้นฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ เสด็จยืนมาบนหลังคัทรภะ หรือลา

นางสงกรานต์ขี่ลา เสด็จยืนมาหน้าตาบ้องแบ๊ว น่าจะดูอ่อนโยนขึ้น การที่นางสงกรานต์ขี่ลาเป็นการขี่พาหนะผิดประเภทหรือเปล่า ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ แต่ผลกระทบคือทำให้การคมนาคมติดขัดมีปัญหา ลาออกมาเพ่นพ่านเต็มถนน ทำให้รถติด เดินทางไม่ได้ เดินทางไปสะดวก มีลาเป็นหมื่นเป็นแสน หลากสี หลากกลุ่ม หลากสายพันธุ์ แต่ความรุนแรงของนางสงกรานต์น่าจะพอทำเนาเพลาๆ ความรุนแรงลงไปได้บ้าง

     สิ่งที่น่าสังเกตคือ การเสด็จยืนมาบนหลังลา คำพยากรณ์สงกรานต์นี้จะเป็นสื่อพยากรณ์ให้เห็นถึงการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะฉะนั้นผู้บริหารราชการแผ่นดินน่าจะขะมักเขม้น เอาการเอางานดี เอาใจใส่ปกครองดูแลบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุขนั่นเอง

บางคนถามว่าลาตัวนี้เป็นลาโง่หรือเปล่า ก็ให้ไปถามนักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านดูเอาเอง จะอย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าลาอาจจะโง่หรือแสดงอาการโง่ให้เห็น แต่อิริยาบถที่แสดงอาการยืนบนหลังพาหนะ การแสดงอาการยืนแสดงถึงการเอาใจใส่ ขะมักเขม้น เอาการเอางาน ก็ยังดีกว่ารัฐบาลที่ฉลาดแต่โคตรโกง ทอดทิ้งประชาชนทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นในอดีต ปล่อยให้สมัครพรรคพวกทำการฉ้อฉลปู้ยี่ปู้ยำประเทศชาติก็เป็นได้


คำพยากรณ์อุปราคา พ.ศ.2553


อุปราคาครั้งที่ 1 วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (31 ธันวาคม 2552-1 มกราคม 2553) เกิดจุดจันทร์เพ็ญในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2553 เวลา 02.14 น.

     อุปราคาในครั้งนี้เป็นจันทรุปราคาแบบบางส่วน ในโหราศาสตร์ชะตาบ้านเมืองกล่าวว่า จันทรุปราคายังผลให้มีส่วนเกี่ยวโยงกับเรื่องของสังคม อารมณ์สาธารณะ จิตวิทยาสังคม เรื่องของประชาชนคนหมู่มากเป็นสำคัญ บังเกิดขึ้นในราศีคนคู่ จะก่อให้เกิดเรื่องที่ส่งผลยุ่งยากสลับซับซ้อนซึ่งยากแก่การสอบสวน เกิดความยุ่งยากเกี่ยวกับเรื่องกรรมกรผู้ใช้แรงงาน นัดหยุดงาน ประท้วง เกิดอาชญากรรมขึ้นจำนวนมาก โรคภัยไข้เจ็บในคนและสัตว์ระบาดอย่างหนัก และความอยากได้ มีความยุ่งยากในวงการศาสนา วงการการศึกษา กฎหมายและการแพทย์ มีผลตามหลังอุปราคาด้วยอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากมายในการเดินทางท่องเที่ยว ทั้งทางทะเล ทางพื้นดิน และทางอากาศ ดังนั้น การเดินทางจึงควรระมัดระวังอย่างยิ่ง

อุปราคาครั้งนี้เกิดในธาตุลม ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศ ลมพายุทำลายล้างที่รุนแรง ลมหนาวที่รุนแรง ตามมาด้วยพายุฤดูร้อนที่รุนแรงยิ่งกว่า การเดินทาง การขนส่ง การติดต่อสื่อสาร การบิน อากาศยานเกิดปัญหา รัฐสภาจะถูกครอบงำโดยผู้มีอิทธิพลและผลประโยชน์ มีปัญหายุ่งยากในการร่างกฎหมาย กฎหมายหลายฉบับมีปัญหา คณะพรรคการเมืองมีการแตกแยกอย่างชัดเจน มีปัญหายุ่งยากกับประเทศเพื่อนบ้าน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศถูกรบกวนและผันแปรโดยผู้มีอิทธิพลคนต่างถิ่นต่างแดน เกิดปัญหาเกี่ยวกับสนธิสัญญาหรือพันธไมตรีกับมิตรประเทศ ประเทศเพื่อนบ้านและต่างประเทศจะขาดความนิยม

สิ่งที่ควรระมัดระวังคือ จะเกิดอัคคีภัยครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในย่านการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร ประชาชนมีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน มีโรคติดต่ออันตรายระบาดไปทั่ว ประชาชนจึงควรดูแลรักษาสุขภาพให้ดี

     ดังนั้น เมื่อเกิดอุปราคาขึ้นจะมีอิทธิพลทำให้เกิดอุบัติเหตุและปัญหาในการเดินทาง โดยรถไฟ รถยนต์ เรือ และการเดินทางทางอากาศ เกิดปัญหาและความยุ่งยากเกี่ยวกับการเดินทาง การติดต่อ การขนส่ง การสื่อสาร และจะเกิดปัญหาความยุ่งยากในวงการสื่อสารมวลชน การขนส่งมวลชน วงการการศึกษา การหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ นักเขียน ผู้พิมพ์โฆษณา และนักจัดรายการทางสื่อมวลชนต่างๆ ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านมีปัญหา ผู้นำประเทศเพื่อนบ้านแสดงออกอย่างเปิดเผยในทางเป็นปฏิปักษ์และมีผลประโยชน์แอบแฝง ทำให้เกิดอุปสรรคและมีปัญหาที่ยุ่งยากสลับซับซ้อน

วงการสตรีและเด็ก รวมทั้งวงการบันเทิง ศิลปินเด็กและสตรีมีปัญหา ถูกล่วงละเมิดสิทธิอย่างรุนแรงในหลายด้าน เกิดการสูญเสียสตรีผู้สูงศักดิ์และบุคคลสำคัญในวงการดังกล่าว งานบริการงานรื่นเริงบันเทิงใจที่เคยโดดเด่นกลับทรุดลงอย่างเห็นได้ชัด สุขภาพและโครงการเกี่ยวกับสุขภาพเด็กและสตรีถูกกระทบกระเทือน อบายมุขจะเฟื่องฟู ประชาชนจะลุ่มหลงในอบายมุขตามการโฆษณาชวนเชื่อ ทำเกิดให้เกิดปัญหาสังคมเกิดขึ้นตามมามากมาย


อุปราคาครั้งที่ 2 เกิดจุดจันทร์ดับในวันที่ 15 มกราคม พ.ศ.2553 เวลา 14.12 น.

     ได้บังเกิดสุริยุปราคาแบบวงแหวน ในราศีมังกร ปฐวีธาตุ (ธาตุดิน) มองเห็นได้ที่แอฟริกากลาง มหาสมุทรอินเดีย อ่าวเบงกอล พม่า จีน ส่วนประเทศไทยเห็นเป็นบางส่วน ก่อให้เกิดผลขึ้นอย่างรวดเร็ว และก็ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ยังความก่อกวนให้กับการต่างประเทศ และนำความยุ่งยากให้กับผู้นำ บุคคลสำคัญ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาล ตลอดจนประชาชน ระมัดระวังเรื่องดิน การพังทลายของดิน ดินแดนอาณาเขตมีปัญหา พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินและน้ำอุปโภค-บริโภคยังเป็นปัญหาหลักที่ต้องแก้ไข

โลกธุรกิจถูกก่อกวนหรือถูกกระทบกระเทือน รัฐบาลมีคะแนนนิยมตกต่ำลง เพราะปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง และการคอรัปชั่น เกิดการฉกฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบเกิดขึ้นทั่วไป จนทำให้เกิดปัญหาระหว่างชนชั้นมากขึ้น นายทุนกับกรรมกรและผู้ใช้แรงงาน มีการนัดหยุดงานปรากฏให้เห็นทั่วไป เกิดการว่างงานมากขึ้น ธุรกิจและการงานประสบกับปัญหา เช่น การขาดทุน งานบริการที่เคยโดดเด่นกลับทรุดลงอย่างเห็นได้ชัด สุขภาพของประชาชนและโครงการเกี่ยวกับสุขภาพของประชาชนถูกกระทบกระเทือน อำนวยความอับโชคให้กับรัฐบาล นายกรัฐมนตรี รัฐบุรุษ และบางครั้งกับผู้นำในระดับสูง

ดินฟ้าอากาศจะวิปริตแปรปรวน จะเกิดความยุ่งยาก สับสนวุ่นวายในวงการรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาล ระวังการสูญเสียบุคคลสำคัญ จะเกิดการลอบสังหาร การปลงชีวิตบุคคลสำคัญ การปฏิวัติรัฐประหารอาจมีให้เห็น เกิดความอับโชคแก่รัฐบาลและผู้นำ มีการโจมตีใส่ร้ายป้ายสีบุคคลสำคัญเพื่อทำให้เกิดความมัวหมอง การแต่งตั้งผู้บังคับบัญชากองกำลังเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน


อุปราคาครั้งที่ 3 เกิดจุดจันทร์เพ็ญในวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2553 เวลา 18.32 น.

     จันทรุปราคาในครั้งนี้ได้บังเกิดขึ้นในราศีธนู ซึ่งเป็นราศีชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นทวิภาวะราศี หรือสามัญราศีก็เรียก หรืออุภยราศีก็เรียก จะก่อให้เกิดเรื่องที่ส่งผลยุ่งยากสลับซับซ้อนซึ่งยากแก่การสอบสวน เกิดความยุ่งยากเกี่ยวกับเรื่องของการชุมนุมประท้วงทางการเมือง การชุมนุมของกรรมกรผู้ใช้แรงงาน เป็นห้วงเวลาที่เกิดคดีอาชญากรรมมากขึ้น โรคภัยไข้เจ็บในคนและสัตว์ระบาดอย่างหนัก มีความยุ่งยากในวงการศาสนาและการศึกษา มีผลตามหลังอุปราคาด้วยอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากมายในการเดินทางท่องเที่ยว ทั้งทางทะเล ทางพื้นดิน และทางอากาศ ดังนั้น การเดินทางจึงควรระมัดระวังอย่างยิ่ง

อุปราคาครั้งนี้เกิดขึ้นในราศีธนูซึ่งเป็นราศีธาตุไฟ ตอนหัวค่ำให้ระมัดระวังจะเกิดอัคคีภัยและอาจเกิดภัยของสงคราม กองทัพเกิดการเคลื่อนไหวคึกคัก เกิดการตายของประชาชนและบุคคลสำคัญในระดับสูง อากาศยังร้อนจัด ฝนแล้ง มีการใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับเรื่องไฟและน้ำในโครงการต่างๆ และมีการจัดเก็บภาษีอากรเพิ่มขึ้น ประชาชนถูกกระทบกระเทือนในการดำรงชีวิต

อุปราคาครั้งนี้บังเกิดในอาณาเขตของจตุถมนวางศ์ 2 ทุติยตรียางศ์ 3 ราศีธนู โหราศาสตร์ชะตาบ้านเมืองกล่าวว่า จะเกิดโรคระบาด มีเชื้อโรคใหม่เกิดขึ้น ประชาชนจะเจ็บป่วย มีโรคภัยไข้เจ็บแพร่หลายเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้รัฐบาล กองทัพ และผู้นำระดับสูงออกมาแสดงบทบาทให้ความช่วยเหลือประชาชน

อุปราคาเกิดในภพที่ 9 จะเกิดปัญหายุ่งยากวุ่นวายในวงการการศึกษา วงการแพทย์และกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวงการศาสนา เกิดปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับนิกายต่างๆ เกิดพายุครั้งใหญ่ เกิดอุบัติเหตุครั้งสำคัญ มีอุบัติภัยทางทะเลและทางอากาศ อากาศยานตกได้รับความเสียหาย ยังความอับโชคให้แก่การเดินเรือและกะลาสี บังเกิดความยุ่งยากจากต่างประเทศแดนไกลและดินแดนอาณาเขต


อุปราคาครั้งที่ 4 เกิดจุดจันทร์ดับในวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2553 เวลา 02.42 น.

     อุปราคาในครั้งนี้ได้บังเกิดขึ้นในราศีคนคู่ ซึ่งเป็นราศีชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นทวิภาวะราศี จะก่อให้เกิดเรื่องที่ส่งผลยุ่งยากสลับซับซ้อนซึ่งยากแก่การสอบสวน นอกจากจะเป็นราศีของภพเรือนมุม ไม่บังเกิดผลใหญ่โตและสำคัญเหมือนอุปราคาที่เกิดในราศีอื่นๆ

อุปราคาครั้งนี้เกิดในราศีมิถุนเป็นวาโยธาตุ (ธาตุลม) ทำให้เกิดลมพายุทำลายล้างที่รุนแรง รัฐสภาจะตกต่ำ ถูกครอบงำโดยผู้มีอิทธิพลและผลประโยชน์ มีปัญหายุ่งยากในการร่างกฎหมาย กฎหมายหลายฉบับมีปัญหา คณะพรรคการเมืองมีการแตกแยกอย่างชัดเจน มีปัญหายุ่งยากกับประเทศเพื่อนบ้าน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศถูกรบกวนและผันแปร เกิดปัญหาเกี่ยวกับสนธิสัญญาหรือพันธไมตรีกับมิตรประเทศ ประเทศเพื่อนบ้านและต่างประเทศจะขาดความนิยม

เกิดสุริยุปราคาในราศีมิถุน ระยะ 25 องศา 24 ลิปดา รัศมีคราสพาดผ่านอัฏฐมนวางศ์ 6 ตติยตรียางศ์ 7 (8) ผู้นำในระดับสูง ผู้ปกครองที่ดำรงอำนาจอยู่จะเกิดอันตราย บุคคลที่มีชื่อเสียงจะป่วยหนักหรือถึงแก่กรรม

     ดังนั้น เมื่อเกิดอุปราคาขึ้นในฤกษ์นี้ รัฐบาลจะใช้มาตรการที่เฉียบขาดเพื่อให้เกิดความยำเกรง กองทัพกองกำลังมีการเคลื่อนไหวอย่างเห็นได้ชัด จะมีปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรงเกิดขึ้น หรือเกิดอุบัติเหตุทำให้มีการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน นำความอับโชค ความเศร้าโศก ความเสื่อมโทรมมาสู่สังคม โรงพยาบาล โรงงานสถานการณ์กุศล อาจถูกกระทบกระเทือน มีอาชญากรรมลึกลับซับซ้อนเกิดขึ้น เกิดปัญหาลึกลับจากต่างด้าว


อุปราคาครั้งที่ 5 เกิดจุดจันทร์เพ็ญในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2553 เวลา 15.14 น.

     จันทรุปราคาครั้งนี้ได้บังเกิดขึ้นในราศีคนคู่ ซึ่งเป็นราศีชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นทวิภาวะราศี จะก่อให้เกิดเรื่องที่ส่งผลยุ่งยากสลับซับซ้อนซึ่งยากแก่การสอบสวน นอกจากจะเป็นราศีของภพเรือนมุม ไม่บังเกิดผลใหญ่โตและสำคัญเหมือนอุปราคาที่เกิดในราศีอื่นๆ เกิดความยุ่งยากเกี่ยวกับเรื่องกรรมกรผู้ใช้แรงงาน มีการนัดหยุดงาน เป็นห้วงเวลาที่เกิดอาชญากรรมมาก โรคภัยไข้เจ็บในคนและสัตว์ระบาดอย่างหนัก และความอยากได้ มีความยุ่งยากในวงการศาสนา วงการการศึกษา กฎหมายและการแพทย์ มีผลตามหลังอุปราคาด้วยอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากมายในการเดินทางท่องเที่ยว ทั้งทางทะเล ทางพื้นดิน และทางอากาศ ดังนั้น การเดินทางจึงควรระมัดระวังอย่างยิ่ง

อุปราคาครั้งนี้เกิดในราศีมิถุนเป็นวาโยธาตุ (ธาตุลม) ทำให้เกิดลมพายุทำลายล้างที่รุนแรง รัฐสภาจะตกต่ำ ถูกครอบงำโดยผู้มีอิทธิพลและผลประโยชน์ มีปัญหายุ่งยากในการร่างกฎหมาย กฎหมายหลายฉบับมีปัญหา คณะพรรคการเมืองมีการแตกแยกอย่างชัดเจน มีปัญหายุ่งยากกับประเทศเพื่อนบ้าน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศถูกรบกวนและผันแปร เกิดปัญหาเกี่ยวกับสนธิสัญญาหรือพันธไมตรีกับมิตรประเทศ ประเทศเพื่อนบ้านและต่างประเทศจะขาดความนิยม

อุปราคาเกิดในราศีมิถุนระยะ 5 องศา 20 ลิปดา รัศมีคราสพาดผ่านทุติยนวางศ์ 3 ปฐมตรียางศ์ 4 มักจะมีอิทธิพลทำให้เกิดเหตุการณ์ที่รุนแรง เกิดวิวาทะมีความคิดเห็นที่รุนแรงพร้อมๆ กันไปกับการใช้กำลังอาวุธ มีปัญหาด้านการเงินและความรัก มีวิวาทะอย่างรุนแรง แสดงความคิดเห็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของความศรัทธา ความคิด เกิดการเป็นปฏิปักษ์ต่อวงการศาสนา ปรัชญา นักบวชเกิดการแตกแยก เป็นต้น

อุปราคาครั้งนี้เกิดขึ้นในมฤคศิรนักษัตรฤกษ์ที่ 5 ในอาณาเขตของเทศาตรีฤกษ์ หรือเวสิโยฤกษ์ เทศาตรี แปลว่า ข้ามถิ่น หมายถึงฤกษ์พ่อค้าข้ามถิ่น มีพระเสาร์ (7) เป็นพระเคราะห์ผู้รักษาฤกษ์ เป็นฤกษ์แตก เพราะบาทฤกษ์จะอยู่สองราศี ราศีละ 2 บาท เรียกว่า พินทุฤกษ์หรือติณฤกษ์ เหมาะสำหรับการติดต่อค้าขายระหว่างถิ่น ให้มีผู้นิยมชมชอบ มีความสนุกสนาน มีคนไปมาหาสู่เข้าๆ ออกๆ มากมายมิได้ขาด

     ดังนั้น เมื่อเกิดอุปราคาขึ้นในฤกษ์นี้ ทำให้วงการบันเทิง ศิลปินมีปัญหา เกิดการสูญเสียบุคคลสำคัญในวงการ มีการฉกฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบทางการค้าเกิดขึ้นทั่วไป จนทำให้เกิดปัญหาค่าครองชีพ มีการแตกต่างชนชั้น มีปัญหาระหว่างนายทุนกับกรรมกรและผู้ใช้แรงงาน มีการนัดหยุดงานปรากฏให้เห็นทั่วไป มีคนว่างงานมากขึ้น ธุรกิจและการงานตามความหมายของหมวดฤกษ์ประสบกับการขาดทุน งานบริการงานรื่นเริงบันเทิงใจที่เคยโดดเด่นกลับทรุดลงอย่างเห็นได้ชัด สุขภาพของประชาชนและโครงการเกี่ยวกับสุขภาพของประชาชนถูกกระทบกระเทือน อบายมุขจะเฟื่องฟู ประชาชนจะลุ่มหลงในอบายมุขตามการโฆษณาชวนเชื่อ ทำให้เกิดปัญหาสังคมเกิดขึ้นตามมามากมาย


อิทธิพลของราหู (8)

     ราหู (8) โคจรอยู่ในราศีธนู ในภพที่ 9 ภพศุภะของดวงเมือง ตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2552 เป็นต้นไปเป็นเวลาปีครึ่ง ทับดาวพฤหัสบดี (5) และดาวเสาร์ (7) ในดวงเมือง

เมื่อราหู (8) โคจรมาทับดาวพฤหัสบดี (5) จะสูญเสียผู้ใหญ่อันเป็นที่เคารพนับถือ นำความเศร้าโศกเสียใจมาสู่ประชาชน จะเกิดความสับสนวุ่นวาย คนกระทำผิดกฎหมายและศีลธรรมกันมาก ส่งผลเสียหายในเรื่องของสังคม ในวงการพระศาสนา โบสถ์วัดวาอารามและหลักธรรมคำสอนจะถูกเบียดเบียนและบิดเบือน นักบวชผู้เป็นใหญ่ในวงการศาสนาจะเจ็บป่วยสูญเสีย สูญเสียผู้นำทางจิตวิญญาณ มีลัทธิแปลกๆ เกิดขึ้น สูญเสียผู้นำบุคคลสำคัญในวงการเมือง แพทย์ กฎหมาย ธนาคาร มหาเศรษฐี นักปรัชญาเมธี ผู้ชี้นำสังคม และนักสังคมสงเคราะห์

ประการสำคัญคือ มีผู้ยิ่งใหญ่ที่ทรยศยังทำตนเป็นศัตรูลึกลับทางการต่างประเทศ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ มีการลอบสังหารผู้นำ ทำร้ายบุคคลสำคัญ เกิดการผิดพลาดในวงการทางวิชาการ ตลอดจนเกิดอาชญากรรมลึกลับอีกด้วย

ในตำราโหราศาสตร์ไทย ราหู (8) ทับดาวพฤหัสบดี (5) มีทั้งที่ดีและไม่ดี ที่ถือว่าไม่ดีนั้นคงพิจารณาถึงการเป็นบาปเคราะห์ และเป็นตัวที่เป็นเงื่อนไขปัจจัยทำให้เกิดคราสของราหู (8) แล้วมาทับศุภเคราะห์พฤหัสบดี (5) ย่อมให้โทษ ในคัมภีร์จักรทีปนีจรฉบับที่ 3 กล่าวว่า "อสุรินโทโคจรลี ถึงราศีที่ชีวานางประภาเธอยาตรา หนีราชาผู้ผัวไป ผิดเพราะวิชาการ ทรัพย์สาธารณ์และทุกข์ภัย ตัวตนจะบรรลัย จักตกใจจากฐานา" มีปัญหาเรื่องบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ที่ดิน ทรัพย์สินเงินทอง การใช้วิชาการที่ผิดพลาด กฎหมายที่ดิน กฎหมายมรดก กฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สินจะเกิดมปัญหา การตกจากตำแหน่งของผู้นำบางคน

เหตุผลที่ว่าดีนั้นคงพิจารณาถึงราหู (8) ทำให้ความลุ่มหลงมัวเมา เมื่อมาทับดาวพฤหัสบดี (5) ซึ่งเป็นดาวครู ความรู้วิชาการ จึงมีการลุ่มหลงทางวิชาการ หลักการจึงถือเป็นเรื่องที่ดีไป ประเทศไทยจึงน่าที่จะก้าวหน้าทางวิชาการ ประสบความสำเร็จทางวิชาการ ความรู้ เทคโนโลยี หากมีการแข่งขันทางวิชาการก็จะประสบชัยชนะในหลายสาขาวิชา

ดังปรากฏในคัมภีร์จักรทีปนีฉบับมาตรฐานกล่าวว่า "ราหูสถิตทับ พฤหัสบดินทร์ ฉ่ำโชคนริน-ทรท้าวอำนวยทาน" อธิบายว่า เมื่อราหู (8) โคจรมาทับพฤหัสบดี (5) ในดวงชะตา จะมีโชคดีมากเพราะผู้ใหญ่จะให้ลาภ คัมภีร์จักรทีปนีฉบับที่ 2 กล่าวว่า ราหู (8) ถึงครูชีวา จักได้ลาภา อันสมจำนง จงหมาย ท้าวไทธิราชโปรยปราย ซึ่งลาภโดยหมาย ประโยชน์นานาสาธร

แต่เนื่องจากราหู (8) เป็นบาปเคราะห์ใหญ่ ซึ่งเป็นตัวคราสเมื่อโคจรมาทับพฤหัสบดี (5) ซึ่งเป็นประธานฝ่ายศุภเคราะห์ย่อมให้โทษด้วย ดาวพฤหัสบดี (5) คือ ความดีงาม ศานติสุข เมื่อถูกราหู (8) โคจรมาทับทำให้เกิดความไม่สงบ ไม่ปกติสุขขึ้น เกิดความระส่ำระสายในบ้านเมือง ความดีงามตามความหมายของดาวพฤหัสบดี (5) และเรือนศุภะจะถูกทำลายลงไปกึ่งหนึ่ง ผลประโยชน์จึงลดน้อยลง ราหู (8) จรไปอยู่ที่ไหนมักจะมีการกู้ยืมเงินหรือให้เขายืมเงินที่นั่น

     เมื่อปีครึ่งที่ผ่านมา ราหู (8) โคจรอยู่ในราศีมังกรเล็งดาวจันทร์ (2) คู่หนี้สิน รัฐบาลมีการกู้ยืมเงินหลายครั้งรวมกันแล้วมากกว่าแสนล้านบาท คราวนี้ 2553-2554 ราหู (8) จรมาทับพฤหัสบดี (5), ทับเสาร์ (7) ในขณะที่เสาร์ (7) เล็งราหู (8), ศุกร์ (6) รัฐบาลจะมีการกู้ยืมเงินครั้งใหญ่ มีการพิมพ์พันธบัตรครั้งสำคัญออกจำหน่ายจำนวนมาก หรือมีวิธีการหาเงินที่แปลกๆ เกิดขึ้นอีก

ดาวพฤหัสบดี (5) คือ ผลประโยชน์ ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง ดังนั้น เมื่อถูกราหู (8) จรมาทับ ทำให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ เกิดข้าวยากหมากแพง พืชผลผลิตทางการเกษตรลดน้อยลง อุตสาหกรรมการเกษตรมีปัญหา ทำให้ประชาชนมีรายได้ลดลง รายรับไม่พอรายจ่าย มีการปิดโรงงานอุตสาหกรรม มีการเลิกจ้างคนงาน ธนาคารและสถาบันทางการเงินไม่มั่นคง ล้มระเนระนาด โครงการสำคัญต่างๆ หยุดชะงักลง โรคภัยไข้เจ็บระบาด มีเชื้อโรคตัวใหม่ปรากฏตัวและระบาดไปทั่ว มีการกระทำการผิดกฎหมายกันมาก มีคดีความเกิดขึ้นมากมาย ความเป็นอยู่ของประชาชนไม่ได้ดีขึ้นตามที่หวัง ความศรัทธาในรัฐบาลลดลง จนกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง คือการยุบสภาแล้วจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในที่สุด

คำพยากรณ์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่จะเป็นเครื่องเตือนภัยได้เป็นอย่างดี เมื่ออนาคตเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง การที่มนุษย์รู้ล่วงหน้า จึงน่าจะสามารถเปลี่ยนแปลง บรรเทา ป้องกันและแก้ไขอนาคตได้บ้างไม่มากก็น้อย หากเราทำเงื่อนไขปัจจัยในปัจจุบันให้เปลี่ยนแปลงไปในแนวทางที่ดี อนาคตก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้บ้างเช่นกัน

     การรู้อนาคตจึงมีประโยชน์ ทำให้สามารถเตรียมพร้อมทั้งกาย-ใจในการรับมือกับอนาคต จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของอนาคต คือรับมือได้ทั้งในทางที่ดีและไม่ดี สิ่งที่ไม่ดีจะได้เตรียมพร้อมในการป้องกันแก้ไขและลดโอกาสความล้มเหลวอันไม่พึงประสงค์ สิ่งที่ดีจะได้ช่วยเพิ่มโอกาสให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ เมื่อสำเร็จแล้วจะได้ใช้ความสุขุมรอบคอบในการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างชาญฉลาด.


ขอขอบคุณ
ที่มา :
ไทยโพสต์ 31 ธันวาคม 2552


สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์


H O M E



Create Date : 14 มกราคม 2553
Last Update : 14 มกราคม 2553 10:46:59 น. 2 comments
Counter : 1296 Pageviews.

 
สวัสดีวันพฤหัสฯ ที่แสนจะครื้นเครง ทำงานอีกวันเดียวเองก็จะเป็นวันศุกร์ จะไดัเอากระปุกไปใส่กะเป๋า ^___^


โดย: ผมชอบกินข้าวมันไก่ วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:12:11:40 น.  

 

GOD always forgive your mistake
the one that you cant even forget,
he always does it and always being with us
to help and blesss us for us whose heart is full of him


โดย: da IP: 203.144.144.164 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:00:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.