วันที่ 12 ก.พ. พล.ต.ต.ปริญญา จันทรสุริยา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 พ.ต.อ.สาโรช ซุ่นทรัพย์ พ.ต.อ.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบก.น.4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุมตัว นายสุทธี หรือแหวน บุญพรหม อายุ 23 ปี ผู้ต้องขังคดีฆ่าข่มขืน น.ส.อาภัสรา โตเดช หรือ น้ำหวาน อายุ 20 ปี ไปที่ วัดบึงทองหลาง ซอยลาดพร้าว 101 เพื่อขอขมาผู้เสียชีวิต โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล (ปจ.) 200 นาย คอยดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะที่บรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนของผู้เสียชีวิต ต่างมาเฝ้าสังเกตการณ์กว่า 300 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้นำรถควบคุมผู้ต้องขัง มาจอดยังบริเวณด้านหน้าศาลาที่ 10 ของวัด ได้ควบคุมตัวผู้ต้องขังเข้าไปยังด้านในศาลา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลคอยกันประชาชนที่ต่างโกรธแค้นเข้ามารุมประชาทัณฑ์ ท่ามกลางเสียงตะโกนด่าสาปแช่งของบรรดาญาติพี่น้อง โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 4 นาย ได้ควบคุมตัวนายสุทธี ซึ่งอยู่ในสภาพใส่ชุดนักโทษและสวมหมวกกันน็อค  มายังศาลาด้านใน จุดธูปเพื่อกราบขอขมาต่อหน้ารูปศพของ นส.อาภัสรา

จากนั้นจึงให้นายสุทธี นำพวงมาลัยมากราบเท้าขอขมานางบังเอิญ บัวทอง อายุ 49 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ระหว่างที่ผู้ต้องขังกำลังกราบนั้น นางบังเอิญซึ่งอยู่ในอาการเสียใจ ได้ตะโกนด่าท่อว่า “มึงฆ่าลูกกูทำไม” แล้วใช้เท้าขวาถีบศีรษะนายสุทธี จนหัวคะมำลงกับพื้นด้วยความโกรธแค้น เจ้าหน้าที่จะรีบนำตัวนายสุทธี ออกไปจากศาลาและกลับขึ้นรถผู้ต้องขัง เดินทางกลับเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ทันที โดยใช้เวลาประมาณแค่ 2 นาทีเท่านั้นในการเข้าขอขมาศพผู้เสียชีวิตครั้งนี้

นางบังเอิญ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีลางบอกเหตุประมาณ 2 อาทิตย์ น้ำหวานมาหาแม่ที่บ้านเอาหมอนมาวางแล้วเอาพวงมาลัยมาไหว้ข้างๆ ตนเองยังพูดติดตลกกลับไปเลยว่า “มาลาตายหรือไง ทำเป็นละครแรงเงาไปได้” จนมาทราบข่าวว่าลูกเสียชีวิตแล้ว ขณะนี้สภาพจิตใจเริ่มดีขึ้นมาบ้างแล้ว

“ขออโหสิกรรมให้คนร้าย และขอให้วิญญาณน้ำหวานไปสู่สุคตินะลูก แม่จะไปถือศีลทำบุญให้ ไม่ต้องเป็นห่วงลูกมีคนดูแลให้แล้ว และต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยดูแลจัดการเรื่องนี้ให้ แค่นี้ตนก็พอใจแล้ว ซึ่งพรุ่งนี้ (13 ก.พ.) เวลา 15.00 น.ก็จะทำการฌาปนกิจศพได้แล้ว”

Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2556 21:07:45 น.		0 comments
Counter : 791 Pageviews.
Share Tweet