สุริยะใส ห่วงโพลล์แข่งกันสำรวจความนิยมมากเกิน
ริยะใส ห่วงโพลล์แข่งกันสำรวจความนิยมมากกว่าเจาะลึกทางนโยบาย หวั่นหน้าแตกเหมือนเอ็กซิทโพลล์ และเลือกตั้งผู้ว่าฯ ครั้งที่แล้ว
ายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวถึงการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ว่า การหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในขณะนี้กำลังถูกชี้นำด้วยผลโพลมากเกินไป แม้จะปฏิเสธโพลไม่ได้ก็ตามแต่หลายครั้งโพลก็ผิดพลาดมาแล้ว เช่น กรณีการเลือกตั้งใหญ่เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 สำนักโพลทั้ง 4 แห่ง คือ เอแบค์โพล สวนดุสิตโพล ศรีปทุมโพล และนิด้าโพล ได้ทำ “เอ็กซิทโพล (Exit Poll) ” หรือการสำรวจผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งหน้าคูหาเลือกตั้ง ปรากฎว่าผลเอ็กซิทโพลทั้ง 4 แห่ง สวนทางกับผลการเลือกตั้งจริง โดยเฉพาะใน กทม.นั้นเอ็กซิทโพลระบุว่าเพื่อไทยจะได้ สส.มากกว่า 20 ที่ แต่ผลจริงๆ ได้แค่ 10 ที่นั่งเท่านั้น ซึ่งถือว่ามีความคลาดเคลื่อนสูงมาก หรือแม้แต่ผลโพล ที่มีการสำรวจคะแนนนิยมโค้งแรกในการเลือกตั้งผู้ว่าเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ.2552 โพลบางสำนักระบุว่าหม่อมปลื้ม หรือ มล.ณัฐฎกรณ์ เทวกุล ผู้สมัครอิสระคะแนนนำผู้สมัครคนอื่นในช่วงแรกๆ ซึ่งอาจเพราะการทำการตลาดเก่ง ตอนนั้นเอแบคโพลสำรวจพบว่าหม่อมปลื้มคะแนนนิยม 37% ในขณะที่คุณชายได้ 36.4% แต่ผลการเลือกตั้งที่ออกมาก็สวนทางอย่างสิ้นเชิง ที่น่าสนใจโพลทุกสำนักตอนนั้นระบุว่า หม่อมปลื้มคะแนนนิยมนำนายยุรนันท์ ภรมนตรี ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่โค้งแรกจนโค้งสุดท้ายอยู่เกือบเท่าตัว แต่สุดท้ายผลการเลือกตั้งกลับตาลปัตรอย่างสิ้นเชิง ในสังคมประชาธิปไตยโพลเข้ามามีบทบาทสูงมากในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง ซึ่งโพลต้องพัฒนาตัวเองด้วย โดยเฉพาะความเป็นวิชาการ ในหลายประเทศ โพลมีบทบาทมากกว่าสำรวจความนิยม แต่ถ้าดูบทบาทของโพลแทบทุกสำนักในบ้านเรายังเน้นการสำรวจความนิยมทั่วๆไป ซึ่งทำง่ายและคลาดเคลื่อนสูง ยังไม่เจาะลึกไปในระดับนโยบาย ซึ่งแต่ละนโยบายมีฐานคะแนนหรืทอกลุ่มเป้าหมายที่มีมีสิทธิ์เลือกตั้งต่างกัน เช่น นโยบายปราบแผงลอยบนทางเท้า คนชั้นกลางไปถึงระดับสูงอาจชอบ แต่คนจนระดับล่างจะไม่ชอบ หรือนโยบายที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ คนด้อยโอกาส โพลน่าจะเป็นเครื่องมือให้คนด้อยโอกาสสะท้อนว่าพวกเขาอยากได้นโยบายแบบไหน ซึ่งคนในชุมนชนหาเช้ากินค่ำกับคนบ้านมีรั้วหรือบ้านจัดสรรมีพฤติกรรมการเลือกตั้งคนละแบบกัน ถ้าโพลตั้งคำถามเชิงลึก จำแนกนโยบายและกลุ่มเป้าหมายและปริมาณผู้มาใช้สิทธิในแต่ละฐานนโยบาย เชื่อว่าจำทำให้การเลือกตั้งมีคุณภาพมากขึ้น และเป็นประโยชน์กับผู้สมัครที่จะเห็นปัญหามากขึ้น กำหนดนโยบายสอดคล้องปัญหา และผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายไปในตัว"
Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2556 21:21:32 น. |
Counter : 1305 Pageviews. |
|
|
|