นางสมบุญ เปิดเผยว่า ยึดอาชีพย่างหนูนาขายมาได้ 6-7 ปี โดยก่อนหน้านั้นเคยจับหนูนามาขายให้กับแผงหนูย่างนานหลายสิบปี ราคากิโลกรัมละ 30 บาท มีรายได้วันละ 200 บาทเท่านั้น ก่อนราคาจะขยับเป็นราคากิโลกรัมละ 80-100 บาท แต่หลังนำมาย่าง ราคากิโลกรัมละ 150 บาท ต่อมาตนกับสามีจึงช่วยกันจับหนูนามาย่างขายเอง เป็นจุดเริ่มการทำอาชีพหนูนาย่าง ขายราคากิโลกรัมละ 150 บาท เมื่อเห็นว่าตลาดไปได้ดี และมีคนชอบบริโภคเพิ่มมากขึ้น จึงลงทุนรับซื้อหนูนาอย่างเป็นล่ำเป็นสันในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางที่มีแปลงนาข้าว โดยซื้อหนูนาในราคาสูงตามความต้องการของคนจับ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 100 บาท แต่บางครั้งถึงกิโลกรัมละ 150 บาท เก็บเป็นสต๊อกแช่แข็งทยอยนำมาย่างขาย

นางสมบุญ กล่าวว่า ปัจจุบันหนูย่างกลายเป็นอาหารที่ประชาชนนิยมซื้อบริโภคมากขึ้น ตนจึงตระเวนขายไปทั่วหลายจังหวัดพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง อาทิ จ.ชัยนาท จ.พิจิตร และ จ.พิษณุโลก โดยหมุนเวียนไปตามแหล่งหนูนาและกำลังซื้อ และมาปักหลักขายที่พิษณุโลกได้ 5 เดือน สำหรับราคาขายปัจจุบันหนูขนาดเล็ก กิโลกรัมละ 200 บาท ขนาดกลาง 220 บาท และขนาดตัวใหญ่ 250 บาท ส่วนหนูนาสด ชำแหละแช่เย็นขายกิโลกรัมละ 180 บาท แม้ราคาแพงแต่ผู้ที่นิยมบริโภคมองว่าไม่แพง บางรายมาซื้อครั้งละ 3-5 กิโลกรัมเพื่อนำไปแช่ตู้เย็นเก็บไว้บริโภค และซื้อเป็นของฝากญาติและเพื่อน คนที่ซื้อส่วนใหญ่เป็นชาวบ้าน คนที่ขับรถยนต์จะแวะซื้อบ้างเป็นบางครั้ง แต่ไม่มากนัก ส่วนเมนูที่นิยมทำส่วนใหญ่จะเป็นหนูนาคั่ว แกงเผ็ดหนูนา และหนูนาทอดกะเทียมกรอบปรับเปลี่ยนไปตามความชื่นชอบของแต่ละคน

นางสมบุญ กล่าวอีกว่า การทำหนูนาย่างขายเป็นอาชีพที่ตนเองภาคภูมิใจ เป็นอาชีพสุจริต อาจเรียกได้ว่าสามารถทำเงินล้านให้ได้ในแต่ละปี เพราะแต่ละวันสามารถขายได้เฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 บาท ในช่วงเทศกาลทำเงินได้มากกว่าวันละกว่า 10,000 บาท ทำให้ทุกวันนี้สามารถตั้งตัว ซื้อรถยนต์ปิกอัพออกตระเวนรับซื้อหนูได้หลายแห่ง และยังสร้างบ้านให้ตัวเองอีก 1 หลัง หลังจากยึดอาชีพนี้มาไม่กี่ปี

Create Date : 25 มกราคม 2556
Last Update : 25 มกราคม 2556 8:23:10 น.		1 comments
Counter : 1707 Pageviews.
Share Tweet