พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ยุคทองของ Marketing Online ในวันที่เมืองประกาศเคอร์ฟิว

พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ยุคทองของ Marketing Online ในวันที่เมืองประกาศเคอร์ฟิว

Marketing Online ถึงแม้จะไม่ใช่สิ่งใหม่ในตลาด แต่ก็ยังมีผู้คนอีกมากมาย ที่ยังมองไม่เห็นถึงความสำคัญ จนวันนี้ วันที่โลกของเราเปลี่ยนไป วันที่พฤติกรรมของผู้คนกำลังจะเปลี่ยน วันที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักทั่วเมือง
 
ณ ตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การออกจากบ้านแต่ละครั้ง นอกจากจะทำให้เรากังวลเรื่องการรับเชื้อเข้าบ้านแล้ว หากเราเป็นผู้ที่เคยอยู่ใกล้คนที่มีความเสี่ยง เราก็ถือว่าเป็นบุคคลที่มีความเสี่ยงในการนำเชื้อไวรัสไปติดคนอื่นเช่นกัน อีกทั้งในสถานการณ์ที่รัฐบาลประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร จากวิกฤตไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดนั้น หลายๆ คนเริ่มแห่กักตุนสินค้าและอาหารที่จำเป็น ทำให้สินค้าบางรายการมีราคาที่สูงกว่าปกติ หรือไม่เพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค จนเกิดภาวะขาดแคลน ผู้คนหลีกเลี่ยงการพบปะ สังสรรค์กัน (Social Distancing) คนไม่อยากออกจากบ้าน กักตัวเองอยู่แต่ในบ้าน จนเกิดแคมเปญ Social distancing และแคมเปญ #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ขึ้น เพื่อเว้นระยะห่าง และสนับสนุนให้คนงดออกจากบ้าน! 
 
คำถามต่อมาคือ… เมื่อคนงดออกจากบ้าน แต่ปัจจัยในการอุปโภค บริโภคยังมีอยู่ แล้วจะทำยังไงล่ะ? หลายๆ แบรนด์จึงพากันตอบโจทย์สนองนี้ดลูกค้า ด้วยการยกตระกร้าหน้าร้านขายสินค้าของตัวเองผ่านออนไลน์ซะเลย นั่นจึงเป็นคำตอบว่า ทำไมในยุคที่โควิด-19 ระบาด และเศรษฐกิจย่ำแย่ ถึงกลายเป็นยุคทองของการผลัดเปลี่ยน ยุคทองของ การตลาดออนไลน์

แบรนด์ควรทำอย่างไร ในวันที่ทุกอย่างเปลี่ยนผ่านสู่ยุคทองของ Marketing Online

ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นรวมไปถึงการให้บริการที่หลากหลาย ทำให้ผู้คนปรับเปลี่ยนวิธีคิดและมุมมองการซื้อสินค้า มีการซื้อขายสินค้าบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่างๆ มากขึ้น พฤติกรรมการช้อปปิ้งสินค้าของผู้คนจึงเปลี่ยนไป เพราะผู้คนยุคใหม่เริ่มสั่งของออนไลน์ และมีจำนวนผู้ใช้งานตลาดออนไลน์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคต การเติบโตของตลาดออนไลน์จะมีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน 

 
เมื่อตลาดการจับจ่ายผลัดเปลี่ยนจากออฟไลน์ สู่ ออนไลน์ อย่างรวดเร็ว แบรนด์ ไม่ว่าเล็ก กลาง หรือ ใหญ่ จึงควรต้องจริงจังกับการทำ การตลาดออนไลน์ มากขึ้น เพราะในเมื่อกลุ่มลูกค้ามีการเปลี่ยนพฤติกรรม งดการออกจากบ้าน ไปซื้อสินค้าในออนไลน์ เราจะมีเหตุผลอะไรล่ะในการไม่ทำตลาดที่ลูกค้าเติบโตขึ้นอย่างมหาศาลนี้ให้ดี และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเราให้ได้มากที่สุด 
 
แบรนด์ควรเริ่มต้นในการ กำหนดเป้าหมาย ของตัวเองให้ดี และศึกษาแพลทฟอร์มมากมายที่จะช่วยในการทำการตลาดออนไลน์ ที่สำคัญต้องอย่าลืมศึกษาข้อมูล Customer Journey ของแบรนด์ เพื่อช่วยซัพพอร์ตให้การซื้อสินค้าของลูกค้านั้น ง่าย และสะดวกสบาย พร้อมทั้งการป้อนข้อมูลต่างๆ ที่แบรนด์ต้องการสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายด้วย
 
สุดท้ายแล้ว “การแข่งขันทางการตลาด” ของแบรนด์ ในโลกออนไลน์ ก็ไม่ได้ดุเดือดน้อยกว่าโลกออฟไลน์ที่เป็นอยู่แน่นอน อยู่ที่ว่าใครจะสามารถทำให้แบรนด์หรือสินค้าของตนเองนั้นโดดเด่นและเป็นที่จดจำได้มากที่สุด ซึ่งหากคุณกำหนดจุดยืนของแบรนด์ได้แล้ว แต่ยังไม่รู้จักการใช้แพลทฟอร์มแต่ละอย่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถทักมาปรึกษา HelloAds ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในด้านของการสื่อสารในนามแบรนด์ สื่อสารผ่าน Influencer และการส่งข้อมูลโฆษณา โปรโมชั่นไปหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณได้เลย!
 
อะไรที่เป็นสัญญาณเริ่มต้น บ่งบอกว่ายุคนี้เป็นยุคทองของการทำการตลาดออนไลน์อย่างแท้จริง? 

ในกรณีนี้ เราจะเห็นได้ชัดเลยจากการจัดโปรโมชั่นของแบรนด์ใหญ่ต่างๆ ที่ปล่อยโปรออกมารองรับกับกระแสการ “Work From Home” หรือ “Stay at home” ในช่วง Lazada Birthday 888 ที่ผ่านมา ที่แทบทุกแบรนด์นั้นขนทั้งโปรโมชั่น และของแจก ของแถมมากมายมาเอาใจกลุ่มลูกค้า เพื่อจูงใจให้ลูกค้ามาซื้อของตัวเองให้ได้มากที่สุด โดยถึงแม้ว่าเราจะไม่เห็นยอดการขายสินค้าเป็นตัวเลขที่ชัดเจน แต่ที่เราเห็นแน่ๆ คือ ในวันที่จัดโปรโมชั่นดังกล่าว ไม่ว่าเราจะเข้าไปแบรนด์ไหนๆ สินค้าที่ยกมาเป็นตัวชูโรงนั้น ก็หมดจนขาดสต๊อกก่อนจบแคมเปญแทบทุกแบรนด์
 
ดังนั้น นอกจากแบรนด์ต้องมีการศึกษากลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดีแล้ว การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย การสื่อสารของแบรนด์ ก็เป็นสิ่งจำเป็นมาก ถ้าคุณอยากเติบโตในตลาดออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูงนี้ รวมถึงการจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดใจลูกค้า หรือการทำรีวิวการใช้สินค้า ผลิตภัณฑ์จาก Influencer หรือบุคคลต่างๆ  ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้คุณอาจได้ลูกค้าใหม่ๆ ของแบรนด์ได้ง่ายขึ้น 
 

คิดว่าพฤติกรรมของคนจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด หลังหมดไวรัสโควิด-19

เคยมีคนตั้งคำถามว่า “จะใช้เวลานานเท่าไหร่ กว่าจะเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนได้?” แต่พอเกิดสถานการณ์ไวรัสขึ้นมา ทำให้ผู้คนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแบบทันที เช่น ผู้สูงอายุจากที่มองว่าตลาดออนไลน์เป็นเรื่องไกลตัว ก็เริ่มเรียนรู้ที่จะสั่งสินค้าออนไลน์ด้วยตัวเอง ทำให้เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ณ ตอนนี้ตลาดออนไลน์ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนทุกช่วงอายุและทุกสาขาอาชีพแล้ว 
 
ซึ่งถึงแม้ในอนาคตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สถานการณ์จะเบาบางลงหรือหมดไปแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่จะไม่หายไปพร้อมไวรัสไวคิด-19 แน่ๆ นั่นคือ “แนวโน้มพฤติกรรมการซื้อสินค้า” ผู้คนจะยังติดกับความสะดวกสบายในการสั่งสินค้าออนไลน์มาจัดส่งตรงถึงหน้าบ้านแบบเดิมเหมือนในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดแน่นอน เพราะสุดท้ายแล้วความสะดวกสบาย ก็ยังเป็นสิ่งที่ทุกคนมองหามากที่สุด ซึ่งเราจะเห็นได้จากการที่เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามามีบทบาทในสังคมได้อย่างรวดเร็ว
 



Create Date : 06 เมษายน 2563
Last Update : 20 กันยายน 2563 14:47:00 น.
Counter : 1891 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 1142142
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เมษายน 2563

 
 
 
1
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog