ดูตน เพ่งตน ให้เห็น
 
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
24 มิถุนายน 2550

ความสุขของกะทิ ความสุขของหนู



ความสุขของกะทิ กับความสุขของหนู



หนูชอบอ่านหนังสือ พ่อมีหนังสือมาให้อ่านเสมอ ปีนี้พ่อมีหนังสือมาให้อ่านเต็มกล่องใหญ่ แต่หนูเลือกมาอ่านแต่เรื่องของเด็กๆ พ่อและแม่สนับสนุนให้หนูอ่านหนังสือ ปีก่อนหนูอ่านเรื่อง เจ้าชายน้อย แล้วน้ำตาไหลตอนจบ อ่านเรื่องเจ้าหงิญแล้วก็ขำดี ตอนนั้นหนูอายุเจ็ดขวบ

พอมาปีนี้ พ่อยื่นหนังสือเล่มเล็กๆ ให้ หลังจากหนูอ่านเรื่องเด็กๆ ในกล่องของพ่อจนหมด พ่อบอกว่าลองอ่านเรื่องนี้ดูซิจ๊ะ แล้วบอกว่าหนูชอบหรือไม่

หนังสือเล่มนั้นคือ ความสุขของกะทิ

หนูอ่านเรื่องความสุขของกะทิในตอนแรก หนูว่าไม่สนุกเลย วางไว้เฉยๆ อยู่สองวัน พ่อถามว่า อ่านจบแล้วหรือยัง เพราะหนูเป็นคนอ่านหนังสือเร็ว ถ้าอ่านไม่จบแล้วจะไม่ยอม แต่เรื่องความสุขของกะทิ หนูวางไว้เป็นวันๆ

พอพ่อถาม หนูเลยเริ่มต้นอ่านใหม่ อ่านไปเรื่อยๆ แล้วหนูรู้สึกว่าชอบค่ะ

จนวันก่อนประกาศรางวัล อ้อ รางวัลซีไรต์ค่ะ พ่อถามว่าเรื่องความสุขของกะทิ จะได้รางวัลซีไรต์ไหม หนูตอบอย่างมั่นใจว่า ต้องได้ค่ะ

หนูไม่รู้หรอกว่า รางวัลซีไรต์คืออะไร คงเหมือนรางวัลที่หนูได้รับจากผู้อำนวยการโรงเรียน ตอนที่หนูทดสอบคณิตคิดเร็วได้ที่หนึ่ง หรือคัดลายมือได้ที่สอง หนูดีใจที่ได้รางวัล คนเขียนเรื่องความสุขของกะทิคงจะดีใจถ้าได้รับรางวัล

แล้วพ่อกลับมาบอกในเย็นวันหนึ่งว่า ความสุขของกะทิได้รับรางวัลซีไรต์จริง หนูก็ดีใจ

แล้วพ่อก็ให้หนูเขียนบันทึกเกี่ยวกับเรื่องความสุขของกะทิ ต่อไปนี้เป็นบันทึกในสมุดของหนูค่ะ

ความคิดของหนูเกี่ยวกับหนังสือ เรื่องความสุขของกะทิ

หนูคิดว่าสนุกดี อ่านง่าย ไม่ต้องบรรยายมาก เศร้า พออ่านแล้วก็รู้ได้เลยว่าพูดเกี่ยวกับอะไร ประโยคข้างบนสุดตอนเริ่มบท ทำให้หนูเข้าใจเรื่องมากขึ้น ตัวอย่างเช่น บทที่ 2 เขียนไว้ว่า “กะทิรอแม่ทุกวัน” ทำให้หนูเข้าใจว่า กะทิคิดถึงแม่ อยากให้แม่กลับมาหาเขามากแค่ไหน แค่นี้ก็รู้เรื่องไปแล้วครึ่งหนึ่งเลยค่ะ

ความรู้สึกเกี่ยวกับกะทิของหนูคือ คิดว่ากะทิเป็นเด็กดี
มองโลกในแง่ดี มีความเข้มแข็ง มีความกตัญญู
อาศัยอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น
ยายของกะทิแม้ไม่ค่อยยิ้มก็ใจดี รักสะอาด
กะทิและตาคิดว่ายายชอบหางานทำในบ้าน เช่น ทำขนมแจก ทำขนมทำบุญ ทำขนมใส่บาตร

ชีวิตของกะทิสุขสบาย แถมกะทิยังเป็นเด็กที่ฉลาด สังเกตเห็นความผิดปกติในบ้าน คือยายดูใจเลื่อนลอย ดูเหมือนจะมีเรื่องหนักใจ ให้คิดมาก

พอได้เจอแม่ ก็ไม่รังเกียจ กลับกอดแม่อย่างดีใจ
ก็คนเป็นแม่ลูกกันนี่คะ



หอมหัวใหญ่



หมายเหตุ // พิมพ์ครั้งแรก ในคอลัมน์ ผู้มาเยือน// จุดประกายวรรณกรรม //กรุงเทพธุรกิจ






Create Date : 24 มิถุนายน 2550
Last Update : 24 มิถุนายน 2550 22:34:54 น. 2 comments
Counter : 971 Pageviews.  

 
กว่าจะตามหาบล๊อกนี้เจอ...
ขอใส่ไว้ใน list นะคะ

เรื่องนี้ อ่านแล้ว

เหมือนกัน

แล้วจะตามมาอ่านความคิดดี ๆ ของหนูหอมฯใหม่ค่ะ


โดย: หนอนบ้านนอก วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:14:21:57 น.  

 
ขอบคุณค่ะพี่หนอนบ้านนอก

จากหนูหอมค่ะ


โดย: หนูหอม (big onion ) วันที่: 11 สิงหาคม 2550 เวลา:10:42:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

big onion
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชอบเขียน อ่าน เดินผ่านถนนคนเขียนหนังสือมาประมาณสามสิบฝน แต่ยังเขียนไม่ได้ดี หันมาสนใจต่อการเพ่งดูตนเอง มากกว่าเพ่งโลกภายนอก รู้ว่าตนเองแก่เอามากๆ สบายใจดี


เดินรอบตัวเอง
[Add big onion's blog to your web]