"ความรู้" คู่ "ความงาม"
Group Blog
 
<<
เมษายน 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
17 เมษายน 2558
 
All Blogs
 

[Deep-Review] Kiehl’s : Iris Extract Activating Treatment Essence


หากยังจำกันได้ เมื่อปลายปี 2014 ที่ผ่านมาปูเป้ได้ไปร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของปี 2015 กับ Kiehl’s ซึ่งด้วยความตื่นเต้น เราก็รีบโพสบอกเลยจ้าว่ามีอะไรบ้าง แต่มีอยู่ชิ้นหนึ่งที่เขากำชับเลยว่าห้ามหลุดออกไปเด็ดขาด เรียกได้ว่าเป็นสินค้าตัวหลักของปี 2015 นี้เลยก็ว่าได้

 photo Kiehls Iris 02.png


Kiehl’s : Iris Extract Activating Treatment Essence (200ml / 2,000 THB) เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่ม Treatment Essence หรือน้ำตบ ๆ บำรุงผิวตัวแรกจากแบรนด์สุดที่รักที่เราก็ถามมาตั้งหลายปีว่าเมื่อไหร่จะมีกับเขาบ้าง

ส่วนผสมที่ถูกชูเป็นตัวหลักก็คือสารสกัดจากรากของต้นไอริช หรือ Iris Florentina Root Extract ซึ่งในต่างประเทศอาจจะเรียกพืชในตระกูลไอริชที่พบบ่อยอย่าง Iris Florentina กับ Iris Germanica ว่า Orris ไปเลยทีเดียว (Iris Florentina เป็นสายพันธุ์ลูกผสมที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของต้นไอริสสายพันธุ์ใกล้เคียง)



 photo Iris Flower.png


รากของต้นไอริสมีลักษณะเป็น “เหง้า” เหมือนขิงหรือข่า ซึ่งสามารถนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยได้ โดยรากของต้นไอริชถูกนำมาใช้เป็นยาแผนโบราณมานานทั้งในยุโรปและเอเชียทั้งในรูปแบบของการกินและการทา เนื่องจากรากของต้นไอริชมีสารประกอบของ Flavonoid หลายชนิด (หลัก ๆ เป็นพวก Isoflavone อย่าง Irilone, Irisolone, Irigenin, Tectoridin และ Homotectoridin) ซึ่งคุณสมบัติหลัก ๆ ของสารกลุ่มนี้ก็คือการต้านอนุมูลอิสระ และคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ 



อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับสารสกัดจากรากของต้นไอริชที่มีต่อผิวโดยตรง ทำให้เรายังไม่รู้แน่ชัดว่าสารสกัดจากรากของต้นไอริชนี้ จะมีผลอย่างไรกับผิวในด้านอื่นบ้างนอกจากการต้านอนุมูลอิสระให้กับผิว รากของต้นไอริชก็อาจมีโอกาสก่อการระคายเคืองและอาการแพ้ได้ในบางคน ซึ่งใครที่กังวลหรือไม่แน่ใจในจุดนี้ คีลส์มีแซมเปิ้ลให้เราสามารถลองขอมาทดลองใช้ก่อนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ จ้า

(Source : ORRIS, Phytochemical investigations on Iris germanica., Anti-inflammatory isoflavonoids from the rhizomes of Iris germanica., Antioxidant and radical scavenging properties of Iris germanica.)

นอกจากสารสกัดรากไอริชแล้ว ก็ยังมีส่วนประกอบอื่น ๆ อย่างเช่น Caprylol Salicylinc Acid หรือ Lipo Hydroxy Acid (LHA) ซึ่งพัฒนาโดยเครือ L’Oreal เอง ตัวนี้เขาเคลมว่าช่วยให้การผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพเป็นไปแบบเซลล์ต่อเซลล์เลยนะ จึงทำให้ผิวไม่ระคายเคืองและลอก แต่เราไม่มีข้อมูลอะไรมากมายว่า LHA ในความเข้มข้นเล็กน้อยนี้จะได้ผลแค่ไหน เพราะข้อมูลที่เขาตีพิมพ์มีแต่การเทียบว่า LHA 5-10% นั้นให้ผลเทียบเท่าการใช้ Glycolic Acid 20-50% ในการทำ Chemical Peel เลยทีเดียว (และเผื่อจะอยากรู้ เอสเซนส์ตัวนี้มีค่า pH ประมาณ 4.0-4.5 นะจ๊ะ)

(Source : Clinical tolerance and efficacy of capryloyl salicylic acid peel compared to a glycolic acid peel in subjects with fine lines/wrinkles and hyperpigmented skin.)

นอกจากนี้ที่เหลือก็เป็นสารที่ให้ความชุ่มชื้นอย่าง Sodium Hyaluronate กับ Glycerin และพวก Glycol ชนิดต่าง ๆ แล้วก็ Adenosine นิดหน่อย (ปกติตัวนี้จะถูกเคลมเป็นสารต่อต้านริ้วรอย แต่ทางคีลส์ไม่สื่อสารตัวนี้ออกมาเลย คิดว่าคงไม่ใช่ตัวหลักที่จะพูดถึง)


Ingredients : Aqua/Water, Butylene Glycol, Glycerin, Dipropylene Glycol, Alcohol Denat., Methyl Gluceth-10, Phenoxyethanol, PPG-6-decyltetradeceth-30, Chlorphenesin, Parfum/fragrance, Caprylol Salicylinc Acid, Tetrasodium EDTA, Iris Florentina Root Extract, Sodium Hyaluronate, Xanthan Gum, Citric Acid, Sodium Citrate, Adenosine, Limonene. (F.I.L. Code D167073/1)

 photo Kiehls Iris 03.png


เนื้อเอสเซนส์เป็นของเหลวใส มีความหนืดเล็กน้อย ปริมาณในการใช้อยู่ที่ประมาณเท่าเหรียญ 5 บาท เทลงบนฝ่ามือและลูบลงบนผิวหน้าและลำคอ หลังจากนั้นใช้ฝ่ามือประคบที่ผิวไปเรื่อย ๆ จนเอสเซนส์ซึมเข้าผิวดี เมื่อใกล้แห้งจะรู้สึกหนึบผิวนิดหน่อย ส่วนเมื่อเนื้อเอสเซนส์หลังแห้งแล้วจะทิ้งความหนึบไว้แค่ไหนขึ้นอยู่กับโทนเนอร์ที่ใช้เช็ดก่อนลงเอสเซนส์ รวมไปถึงเซรั่มที่ทาลงไปตามหลังด้วย


คนที่ผิวมันหน่อยสามารถลดปริมาณที่ใช้ลงได้ ส่วนตัวรู้สึกว่าเนื้อเอสเซนส์ลักษณะนี้ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดี แต่ทำให้การเลเยอร์ผลิตภัณฑ์หลายชิ้นทำได้ยากขึ้นเพราะมันจะรู้สึกเหนียว ๆ โดยเฉพาะในช่วงซัมเมอร์ที่อากาศค่อนข้างชื้น ทำให้ในช่วง 1 เดือนที่ลองผลิตภัณฑ์ตัวนี้นี้ปูเป้ต้องตัดผลิตภัณฑ์ที่ใช้ตามปกติไป หลายตัวเหมือนกัน


เอสเซนส์ขวดนี้เคลมว่าช่วยกระตุ้นให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียนและดูกระจ่างใส และจากประสบการณ์ในการใช้ของตัวเอง ด้วยปริมาณในการใช้เท่าเหรียญ 5 บาท ทุกวัน เช้า - เย็น เป็นระยะเวลา 1 เดือนคงจะต้องบอกว่า สิ่งที่คาดหวังได้จากเอสเซนส์ตัวนี้คงจะเป็นเรื่องการให้ความชุ่มชื้น และทำให้ผิวนุ่มนวลดี คุณสมบัติในการเป็นแอนติออกซิแดนท์ของรากจากต้นไอริชนั้นเป็นสิ่งที่อาจไม่สามารถบอกผลลัพธ์ได้ในระยะเวลาเท่านี้

โดยรวมมองว่าเป็นเอสเซนส์น้ำที่พอใช้ได้ เป็นอะไรกลาง ๆ ที่ใช้ได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสภาพิว แต่ไม่ถึงกับว้าวหรือโดดเด่นเฉพาะทางไหนเป็นพิเศษ เรื่องผิวจะดูอ่อนเยาว์ เนียน กระจ่างใสนั้น การให้ความชุ่มชื้นบนผิวชั้นนอกที่ดีพอจะช่วยให้เส้นริ้วเล็ก ๆ ดูจางลงและพื้นผิวที่ชุ่มชื้นนั้นจะไม่ค่อยขรุขระทำให้การสะท้อนของแสงที่ตกกระทบทำได้ดีขึ้น แต่นั่นก็เป็นคุณสมบัติหลัก ๆ ของเอสเซนส์น้ำที่เราหาได้ไม่ยากนัก

 photo Kiehls Iris 01.png




โดยสรุปแล้ว Kiehl’s : Iris Extract Activating Treatment Essence เป็นเอสเซนส์น้ำที่ออกแบบมาให้ใช้ได้กับทุกคนและทุกสภาพผิว คุณสมบัติหลัก ๆ ที่คาดหวังผลได้คือเรื่องของการให้ความชุ่มชื้นและการชะลอการเกิดริ้วรอยด้วยคุณสมบัติของการเป็นแอนติออกซิแดนท์ 



ในฐานะของแฟนของแบรนด์นี้ เรามองว่า Treatment Essence อันนี้มันไม่สุดอ่ะ คือมันไม่ได้แย่ แต่มันยังสมกับที่เราเฝ้ารอคอยมานาน และมันไม่โดดเด่นที่สุดเมื่อมองเทียบกับทรีตเมนต์เอสเซนส์ในท้องตลาด หรือแม้แต่กับแบรนด์ในเครือเดียวกัน ไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะอยู่ไม่ได้หากขาดสิ่งนี้ไป อะไรประมาณนั้น

สำหรับคำถามว่า "จะแพ้มั้ย" "ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?" เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

ข้อดี

- ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและนุ่มนวล
- ปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ

ข้อเสีย

- สารสกัดจากรากของต้นอริชยังไม่มีการศึกษาว่ามีประโยชน์อย่างไรกับผิวหนังเมื่อนำมาทา
- มีส่วนผสมของน้ำหอม

***Sponsored Item***

- Kiehl’s : Iris Extract Activating Treatment Essence




 

Create Date : 17 เมษายน 2558
3 comments
Last Update : 17 เมษายน 2558 21:12:18 น.
Counter : 34617 Pageviews.

 

เจ้าตัวนี้กับตัว Biotherm plankton ตัวใครครองใจคุณปูเป้มากกว่ากันหรอครับเนี่ย

 

โดย: นกตลอด IP: 110.171.223.199 17 เมษายน 2558 19:23:28 น.  

 

เอร๊ยยยย ชอบคำวิจารน์ช่วงท้าย "ในฐานะของแฟนของแบรนด์นี้..........."นั้นแหละคือตัวตนปูเป้ ชัด คม ถึงจะเบาๆแต่อร่อย

 

โดย: R.Thanasak IP: 49.230.163.214 17 เมษายน 2558 20:29:28 น.  

 

เลิฟทรีทเมนต์ตัวนี้มากเลยค่ะ ชโลมก่อนนอน ได้กลิ่นดอกไม้ธรรมชาติเหมือนกลิ่นอโรม่าหอมๆก่อนนอนด้วยค่ะ ตื่นมาผิวดูสดชื่นมากๆ

 

โดย: ษรา IP: 171.96.167.16 8 ธันวาคม 2558 0:01:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


PuPe_so_Sweet
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1829 คน [?]




Advertisement


About Pupe_so_Sweet
Pupe_so_Sweet on facebook
Pupe_so_Sweet on Youtube
vr AHA project


หากมีคำถามหรือต้องการคำปรึกษา
สามารถทิ้งคำถามไว้ได้ที่หน้า Wall ของ Facebook ครับ



Web Counter


Counter Start on 29 September 2008


Search by Google

ค้นหาข้อมูลและรีวิวผลิตภัณฑ์ที่ต้องการภายในBlog ของปูเป้ได้ไม่ยากด้วย Google Search Box ด้านล่างนี้เลยขอรับ

Custom Search

Friends' blogs
[Add PuPe_so_Sweet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.