"ความรู้" คู่ "ความงาม"
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
5 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 
[Deep-Review] Blanc De La Mer


วันนี้จะมาพูดถึงผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่เชื่อว่าใครหลายคนใฝ่ฝันจะนำมาประทับหนังหน้าดูสักครั้งในชีวิต นั้นคือ La Mer นั่นเอง... ไลน์ที่จะนำมารีวิวในวันนี้คือ Blanc De La Mer เพื่อผิวขาวกระจ่างใส ซึ่งในปีนี้มีการปรับสูตรผลิตภัณฑ์หนึ่งชิ้น และปรับแพคเกจใหม่ทั้งหมด



ขอสารภาพว่านี่เป็นหนึ่งในไลน์ที่หนักใจที่สุดในการทำรีวิว เพราะตามปกติแล้วบริษัทเครื่องสำอางจะไม่ได้ผลิตส่วนผสมทุกอย่างขึ้นมาเอง แต่จะซื้อส่วนผสมที่บริษัทผู้ผลิตสารนำเสนอขึ้นมา ถ้าใช้ความพยายามสักหน่อยก็จะพอที่จะสืบสาวไปจนรู้ได้ว่าส่วนผสมที่ใช้ในผลิตภัณฑ์นั้นคือสารตัวไหนของบริษัทอะไร (ซึ่งจะหาได้ง่ายขึ้น หากมีข้อมูลว่าทางแบรนด์เคลมส่วนผสมชนิดไหนในแง่ใด)

ทีนี้ปัญหามีอยู่ว่าทาง la Mer ใช้ส่วนผสมที่ผ่าน Ferment หรือ "หมักบ่ม" ของตัวเอง (คือผลิตเองนั่นแหล่ะ) และเขาก็ไม่บอกด้วยว่าผลจากการหมักบ่มนั้น ผลสุดท้ายสาร Active ที่ได้คือสารอะไรและทำงานอย่างไร อันนี้ขอยอมรับเลยว่า "ตัน" จริง ๆ ไม่สามารถอธิบายได้เนื่องจากไม่มีข้อมูลเลย

ดังนั้นในส่วนของสาร Ferment ที่เขาเคลมเอาไว้ ตรงนี้ขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจเพิ่มเติมเอา แต่ในส่วนของสารที่มีข้อมูลในเรื่องของประโยชน์หรือผลเสีย ก็สามารถเอามาวิเคราะห์ได้ครับ



Blanc De La Mer : The Whitening Essence Intense (30ml / 12,000 THB) เพชรยอดมงกุฏของไลน์เครื่องสำอางก็ไม่น่าจะเป็นใครอื่นหากไม่ใช่ตัว Serum/Essence

เทคโนโลยีที่นำเสนอคือ Smoothing Ferment™ ที่ช่วยผลัดเซลล์ The Whitening Trio™ ซึ่งได้จากการผสมผสานของ White Nutrient Ferment™, Concentrated Vibra White Ferment™ และ Concentrated White Algae Ferment ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ และ The Youth Ferment™ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ

ทั้งหมดที่ว่ามานี้คือสารตัวไหนก็ไม่รู้... (กุมขมับ)

ถ้าดูจากส่วนที่พอหาข้อมูลได้ เซรั่มตัวนี้มีส่วนผสมของสารสกัดจากยีสต์ในปริมาณที่ค่อนข้างเยอะอยู่ สารสกัดยีสต์โดยปกติจะมีกรดอะมิโน เปปไทด์อยู่จำนวนมาก ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ลดการอักเสบและระคายเคืองได้เป็นอย่างดี มีส่วนผสมวิตามินซีกลูโคสที่เป็นสารไวท์เทนนิ่งยอดนิยมอยู่แล้ว ส่วนผสมอื่น ๆทั้งจากพืช วิตามิน และแร่ธาตุก็มีคุณสมบัติทั้งแอนติออกซิแดนท์และลดการระคายเคือง

ส่วนผสมที่มีปัญหาสักหน่อยคือ Eucalyptus Oil ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีโอกาสในการระคายเคืองผิวได้ ตัวนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวเดียว ซึ่ง Eucalyptus Oil เป็นอีกหนึ่งส่วนผสมต้นตำรับของ Creme De La Mer ดังนั้นในทุกผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้จะมีน้ำมันตัวนี้อยู่แหล่ะ



เนื้อเซรั่มบางเบาและมีอนูกระจายแสงจาก Mica เพื่อให้เอฟเฟคเพื่อความกระจ่างใสในทันที (แต่เห็นไม่ชัดหรอก) โดยรวมแล้วถือเป็นเซรั่มที่มีส่วนผสมที่คาดหวังในการเป็นไวท์เทนนิ่งได้ ติดตรงที่ส่วนผสมของน้ำหอมและ Eucalyptus Oil ที่มีโอกาสก่อการระคายเคืองสักหน่อย

จากการใช้ส่วนตัว จะใช้ร่วมกับ Lotion Intense และ The SPF 30 ในตอนกลางวันติดต่อกัน สัมผัสได้ว่าผิวนุ่มและยืดหยุ่นดีขึ้น สีผิวดีสดใส (ทั้งที่ใช้แค่ 3 ตัว) โดยภาพรวมผลที่ได้เราถือว่าโอเค น่าประทับใจ แต่ส่วนผสมที่เป็นความลับ หาข้อมูลไม่เจอ ไม่สามารถอธิบายได้ก็ทำให้แนะนำยากสักหน่อย แถมส่วนตัวก็คิดว่าราคาสูงเกินไปสำหรับรายได้ที่เราหาได้ในตอนนี้ หากใครมีงบประมาณไม่ถึง ลองแวะมองเซรั่มจากแบรนด์ในเครืออย่าง Clinique : Even Better Clinical ก็จะมีส่วนผสมหลัก ๆ ที่ทดแทนได้ (แต่ไม่มี Ferment มหัศจรรย์ของ la Mer)


Ingredients : DECLUSTERED WATER (+)AQUAEAU DE-STRUCTUREE (+), DIMETHICONE, TRISILOXANE, YEAST EXTRACTFAEXEXTRAIT DE LEVURE, HDI/TRIMETHYLOL HEXYLLACTONE CROSSPOLYMER, POLYSORBATE 40, BUTYLENE GLYCOL, ASCORBYL GLUCOSIDE, MYRISTYL ALCOHOL, SEAWEED (ALGAE) EXTRACT, SESAMUM INDICUM, (SESAME) SEED OIL, EUCALYPTUS GLOBULUS (EUCALYPTUS) LEAF OIL, SESAMUM INDICUM (SESAME) SEEDS, MEDICAGO SATIVA (ALFALFA) SEED POWDER, HELIANTHUS ANNUUS (SUNFLOWER) SEEDCAKE, PRUNUS AMYGDALUS DULCIS (SWEET ALMOND) SEED MEAL, SODIUM GLUCONATE, POTASSIUM GLUCONATE, COPPER GLUCONATE, CALCIUM GLUCONATE, MAGNESIUM GLUCONATE, ZINC GLUCONATE, TOCOPHERYL SUCCINATE, NIACIN, GENTIANA LUTEA (GENTIAN) ROOT EXTRACT, PALMARIA PALMATA EXTRACT, CORALLINA OFFICINALIS EXTRACT, LAMINALIA SACCHARINA EXTRACI, CHLORELLA VULGARIS EXTRACT, HYDROLYZED RICE BRAN EXTRACT, SACCHAROMYCES LYSATE EXTRACT, CITRUS AURANTIFOLIA (LIME) PEEL EXTRACT, PLANKTON EXTRACT, TOURMALINE, POLYACRYLAMIDE, C13-14 ISOPARAFFIN, ETHYLHEXYLGLYCERIN, CAFFEINE, ACETYL GLUCOSAMINE, LAURETH-7, SODIUM HYALURONATE, LINOLEIC ACID, TOCOPHERYL LINOLEATE/OLEATE, DIPOTASSIUM GLYCYRRHIZATE, WHEY PROTEINLACTIS PHOTEINPROTEINE DU PETIT-LAIT, SILICA, MAGNESIUM ASCORBYL PHOSPHATE, CAPRYLYL GLYCOL, YEAST POLYSACCHARIDES, LECITHIN, SODIUM HYDROXIDE, FRAGRANCE (PARFUM), DISODIUM EDTA, PHENOXYETHANOL, POTASSIUM SORBATE, LINALOOL, GERANIOL, HYDROXYCITRONELLAI, CITRONELLOL, LIMONENE, TITANIUM DIOXIDE (CI 77891), MICA.



Blanc De La Mer : The Whitening Lotion Intense (200ml / 3,500 THB)

โลชั่นขวดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นการมอบสารบำรุง ไม่ใช่การทำความสะอาดผิว วิธีการใช้จึงไม่ใช่การเทใส่สำลีแล้วเช็ด แต่เป็นการเทใส่สำลีในปริมาณที่ชุ่มพอเหมาะ และประคบลงบนผิวอย่างแผ่วเบาไปเรื่อย ๆ

นอกจากส่วนผสมของ Eucalyptus Oil และน้ำหอมแล้ว โทนเนอร์ตัวนี้่ไม่มีข้อเสียอย่างอื่น เพราะมีวิตามินซีและส่วนผสมที่มีประโยชน์กับผิวอยู่หลายแง่ด้วยกัน เนื้อโลชั่นไม่เหนอะหนะ บางเบา แต่ก็ให้ความชุ่มชื้นที่กำลังดีทีเดียว



สิ่งที่ไม่ถูกใจอย่างเดียวในที่นี้คือกลิ่นน้ำหอมแนว Powdery หน่อยๆ ที่เราไม่ชอบเป็นการส่วนตัว (แต่ว่านี่เป็นกลิ่นที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ คงจะเปลี่ยนอะไรไม่ได้) ใครที่งบถึง และโอเคกับกลิ่น และไม่ได้มีปัยหากับส่วนผสมที่กล่าวมา ก็สามารถหามาใช้ได้

Ingredients : DECLUSTERED WATER (-)AQUAEAU DE-STHUCTUREE (-), DECLUSTERED WATER (+)AQUAEAU DE-STHUCTUREE (+), YEAST EXTRACTFAEXEXTHAIT DE LEVURE, ISOPENTYLDIOL, ASCORBYL GLUCOSIDE, PENTYLENE GLYCOL, DIGLYCEHIN, BUTYLENE GLYCOL, DIPROPYLENE GLYCOL, SEAWEED (ALGAE) EXTRACT, SESAMUM INDICUM (SESAME) SEED OIL, EUCALYPTUS GLOBULUS (EUCALYPTUS) LEAF OIL, SESAMUM INDICUM (SESAME) SEEDS, MEDICAGO SATIVA (ALFALFA) SEED POWDER, HELIANTHUS ANNUUS (SUNFLOWER) SEEDCAKE, PRUNUS AMYGDALUS DULCIS (SWEET ALMOND) SEED MEAL, SODIUM GLUCONATE, POTASSIUM GLUCONATE, COPPER GLUCONATE, CALCIUM GLUCONATE, MAGNESIUM GLUCONATE, ZINC GLUCONATE, TOCOPHERYL SUCCINATE, NIACIN, CAMELLIA SINENSIS (GREEN TEA) LEAF EXTRACT, GENTIANA LUTEA (GENTIAN) ROOT EXTRACT, CORALLINA OFFICINALIS EXTRACT, PALMARIA PALMATA EXTRACT, GLYCERIN, LAMINARIA SACCHARINA EXTRACT, HYDROLYZED RICE BRAN EXTRACT, PLANKTON EXTRACT, SACCHAROMYCES LYSATE EXTRACT, PPG-6-DECYLTETRADECETH-30, CAFFEINE, ACETYL GLUCOSAMINE, DIPOTASSIUM GLYCYRRHIZATE, SODIUM HYALURONATE, CAPRYLYL GLYCOL, LECITHIN, SILICA, TOURMALINE, STYRENE/VP COPOLYMER, POTASSIUM HYDROXIDE, FRAGRANCE (PARFUM), DISODIUM EDTA, PHENOXYETHANOL, LIMONENE, GERANIOL, LINALOOL, HYDHOXYCITRONELLAL, CITRONELLOL, BLUE 1 (CI 42090), EXT. VIOLET 2 (CI 60730).



Blanc De La Mer : The SPF30 UV Protecting Fluid PA++ (40ml / 3,500 THB)

กันแดดราคาแพงเลือดซิบขวดนี้ใช้สารกรองรังสีสองชนิด อย่าง Zinc Oxide เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB กับ Ethylhexyl Methoxycinnamate ไว้เพื่อเพิ่มค่า SPF (เหมือนกับ Japanese Sunscreen ที่เราเห็นอยู่บ่อย ๆ) และเฉกเช่นเดียวกับสกินแคร์ของเครือ ELCA ทั้งหลาย กันแดดตัวนี้มีบรรดาสารแอนติออกซิแดนท์หลายชนิดมอบมาให้ (แต่ก็ไม่วายมีน้ำหอมและ Fragrance Component พ่วงมาด้วยอยู่ดี)

เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นแบบน้ำนมสีเขียวมิ้นต์จาง ๆ ที่ต้องเขย่าก่อนใช้ สามารถเกลี่ยให้กลืนไปกับผิวได้ง่าย ไม่ทิ้งคราบขาว แต่ก็ไม่ได้แห้งหรือเซ็ทตัวแบบ Matte จึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งถึงผิวผสม กลิ่นจะคล้าย Creme de La Mer ต้นตำรับแต่อ่อนกว่าประมาณครึ่งนึง

โดยรวมในแง่ของการเป็น Sunscreen แล้ว Blanc De La Mer : The SPF30 UV Protecting Fluid PA++ ก็ถือว่าเป็นกันแดดมาตรฐานตัวหนึ่งที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมาให้เยอะดี ผลทางคอสเมติคก็น่าประทับใจ แต่หากคุณสมบัติที่กล่าวมายังฟังดูธรรมดาไป ทำไมชั้นต้องจ่ายเงินถึง 3,500 บาทเพื่อ Value Added ที่สามารถหาได้ในผลิตภัณฑ์กันแดดที่ดีตัวอื่น ๆ ทั่วไปด้วยล่ะ?



งั้นมาลองฟังคำเคลมเพิ่มเติมจากทาง La Mer ว่าคุณค่าส่วนผสมทรงคุณค่าในกันแดดสุดพิเศษตัวนี้ จะแปลงลำแสงอาทิตย์เจิดจ้าให้กลายเป็นคลื่นแสงสีเขียวเพื่อต้านอนุมูลอิสระให้กับผิว (ส่วนผสมที่วาคือ Malachite กับ Tourmaline) แหม่... อะไรจะเหนือชั้นขนาดนั้น!!!

สรุปแล้วกันแดดตัวนี้จะสามารถเล่นแร่แปรธาตุสังเคราะห์แปลงพลังงานแสงมาบำรุงผิวได้จริงหรือไม่นั้น ปูเป้ว่าทุกท่านไม่ต้องคิดให้ปวดหัว แค่ลองถามตัวเองดูละกันว่ามีงบประมาณมากพอที่จะทากันแดดตัวนี้ในปริมาณ 1.5 ml ทั่วหน้าต่อการใช้หนึ่งครั้ง เพื่อให้ได้ค่า SPF 30 ที่ระบุได้รึเปล่า ถ้าทำได้ก็โอเค แต่ถ้าทำไม่ได้ ผิวก็จะได้รับการปกป้องจากรังสี UV ไม่ดีเท่าที่ระบุเอาไว้บนฉลาก ทีนี้ผิวก็จะเสีย แถมเงินก็เสียด้วย

ยังไงปูเป้ก็แนะนำให้เลือกกันแดดที่มีราคาเหมาะกับรายได้ของเรา เพื่อที่จะสามารถใช้ได้โดยไม่รู้สึกเสียดายเงิน ผิวจะได้รับการปกป้องที่ดีที่สุดครับ

Ingredients : WaterAquaEau, Cyclopentasiloxane, Zinc Oxide (10%), C12-15 Alkyl Benzoate, Ethylhexyl Methoxycinnamate (7.5%), Phenyl Trimethicone, Methyl Trimethicone, Octyldodecyl Neopentanoate, Vinyl Dimethicone/Methicone Silsesquioxane Crosspolymer, Butylene Glycol, Methyl Methacrylate Crosspolymer, Glycerin, Dimethicone, Chondrus Crispus (Carrageenan) Extract, Laminaria Ochroleuca Extract, Magnesium Sulfate, Crithmum Maritimum Extract, Pantethine, Yeast ExtractFaexExtrait De Levure , Malachite, Cetyl PEG/PPG-10/1 Dimethicone, Ethylhexylglycerin, Lauryl PEG-9 Polydimethylsiloxyethyl Dimethicone, Caprylic/Capric Triglyceride, Polysilicone-11, Dimethicone/Vinyl Dimethicone Crosspolymer, Dipentaerythrityl Tripolyhydroxystearate, Tourmaline, Dimethicone/PEG-10/15 Crosspolymer, Tocopheryl Acetate, Caprylyl Glycol, Quaternium-18 Bentonite, Styrene/Acrylates Copolymer, PEG-8 Laurate, Propylene Carbonate, Isostearic Acid, Fragrance, Geraniol, Hydroxycitronellal, Limonene, Linalool, Citronellol, Sorbic Acid, Phenoxyethanol, Green 5 (CI 61570).


โดยภาพรวมแล้ว Blanc De La Mer เป็นชุดผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียปนกันไป ข้อดีคือส่วนผสมหลักเท่าที่หาข้อมูลได้ก็มีประโยชน์กับผิวและเป็นไวทืเทนนิ่งได้จริง ผลจากการใช้แม้จะมีแค่โลชั่น + เซรั่ม + กันแดด ก็เห็นได้ว่าคุณภาพผิวดีขึ้น แต่ข้อเสียก็คือส่วนผสมที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะนั้นไม่สามารถหาข้อมูลมาสนับสนุนหรืออธิบายได้ มีส่วนผสมของน้ำหอมและน้ำมันยูคาลิปตัสที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียกับผิว

สำหรับคำถามว่า "จะแพ้มั๊ย" "ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?" เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้งครับ

ข้อดี

- มีปริมาณวิตามินซีกลูโคส และสารไวท์เทนนิ่งเสริมที่คาดหวังผลได้
- มีปริมาณของสารแอนติออกซิแดนท์ สารลดการระคายเคืองหลากหลายชนิด
- บรรจุภัณฑ์ทึบแสง ลดการสัมผัสอาการที่ช่วยเก็บรักษาสารบำรุงเอาไว้

ข้อเสีย

- มีส่วนผสมของน้ำหอม น้ำมันหอมระเหย และ Fragrance Component ที่มีโอกาสระคายเคืองผิวได้
- ส่วนผสม Ferment ไม่มีข้อมูลจากแหล่งอื่นมาสนับสนุนประสิทธิภาพ
- ราคาสูง

***Sponsored Item***

- Blanc De La Mer : The Whitening Essence Intense
- Blanc De La Mer : The Whitening Lotion Intense
- Blanc De La Mer : The SPF30 UV Protecting Fluid PA++




Create Date : 05 มิถุนายน 2555
Last Update : 5 มิถุนายน 2555 13:46:45 น. 11 comments
Counter : 43383 Pageviews.

 
ขอบคุณจร้า


โดย: Tannthai Tenten IP: 125.24.206.19 วันที่: 5 มิถุนายน 2555 เวลา:13:40:58 น.  

 
ข้อเสีย : ราคาสูงม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก


โดย: พิม IP: 58.137.40.1 วันที่: 5 มิถุนายน 2555 เวลา:13:42:55 น.  

 
ราคาน่ากลัว มากมาย


โดย: mochi IP: 110.168.21.35 วันที่: 5 มิถุนายน 2555 เวลา:18:39:43 น.  

 
งึมมมมมส แพงหูดับ เค้ากะกล้าให้คุงปูเป้มารีวิว อิๆอ่านๆรีวิวลาเมทีไรกะอยากรู้มักๆว่าส่วนผสมไฮโซคืออาราย ถ้าเราจะเสียเงินกะควรจะได้รุ้ว่าจ่ายเงินให้กับอาราย คล้ายๆจ่ายเงินกินข้าวแพงๆแต่ ละมานใส่อะไรมาให้ตูกินนะืแตะอร่อยดี อิๆ


โดย: Timep IP: 115.87.154.93 วันที่: 5 มิถุนายน 2555 เวลา:18:54:28 น.  

 
มีเงินอย่างเดียวซื้อลาแมร์ไม่ได้นะ 555555555555


โดย: แฟนานุแฟน IP: 182.53.106.201 วันที่: 3 สิงหาคม 2555 เวลา:12:22:44 น.  

 
เพื่อนควักลาแมร์มาให้ลองใช้ เรารู้สึกว่ากลิ่นเหมือนบัวหิมะอ่ะ ออกมิ้นท์ เนื้อแน่นๆ เหมือนนีเวียตลับเลย แถมทาครั้งแรกแสบหน้าอีกต่างหาก คงไม่ได้ผลสำหรับเรามั้งเนี่ย หรือที่เพื่อนเรามีมันของปลอมนะ


โดย: ต่าย IP: 110.168.82.208 วันที่: 26 สิงหาคม 2555 เวลา:11:14:51 น.  

 
ถึงคุณแฟนนานุแฟน ถ้าไม่มีปัญญาซื้ออย่างคนอื่นเค้า ก็อย่าทำเหมือนตัวเองฉลาดค่ะ คนอื่นเค้ามีกำลังที่จะซื้อได้เค้าก็ใช้ ถ้าคุณใช้ไม่ไหวก็กรุณาอย่าว่าคนอื่นค่ะ


โดย: Cherry IP: 182.232.215.164 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2555 เวลา:16:28:49 น.  

 
เห็นด้วยกับคุณ cherry ครับ เพราะคนที่ฉลาดจริงๆ ต้องฉลาดคิด ฉลาดพูด


โดย: Way IP: 171.98.100.131 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2555 เวลา:22:17:45 น.  

 
กำลังจะไปซื้อมาใช้เพราะเห็นพี่ที่รู้จักเป็นฝ้าเกือบทั้งหน้าและรักษามานาน มาเห็นอีกทีหน้าแทบไม่มีฝ้าที่สำคัญผิวเนื้อละเอียดขึ้น ถามว่าใช้อะไรเขาบอกลาแมร์ ใช้มาสามเดือน แค่สามเดือนน่าตกใจมากผิวดีจนไม่น่าเชื่อ แต่พอถามราคาตกใจหนักไปอีกแพงมากเป็นหมื่น ขวดสีดำเลยขอทาท้องแขนหน่อย เข้ากรุงเทพก็จะลองเข้าไปดูเพราะไม่เคยเห็นครีมอะไรให้ผลชัดเจนขนาดนี้


โดย: นานา IP: 27.55.8.192 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:1:19:23 น.  

 
มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ต้องมีรสนิยมด้วย


โดย: นุ๊ก IP: 118.173.143.79 วันที่: 3 ธันวาคม 2555 เวลา:20:17:57 น.  

 
ใช้ลาแมร์ค่ะ เมื่อก่อนก็เคยคิดนะว่าพวกใช้ของแพงนี่ มีเงินอย่างเดียวไม่ได้นะ หลังๆ เลย ฉลาดขึ้นมาหน่อย หารายได้ได้เยอะขึ้น เลยลองใช้ลาแมร์ ขอบอกว่าดจริงๆ ทาคืนเดียว สิวอักเสบยุบลง หน้าละเอียด และมีออร่า


โดย: jarabee_1984 IP: 49.0.96.175 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2557 เวลา:10:49:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

PuPe_so_Sweet
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1829 คน [?]




Advertisement


About Pupe_so_Sweet
Pupe_so_Sweet on facebook
Pupe_so_Sweet on Youtube
vr AHA project


หากมีคำถามหรือต้องการคำปรึกษา
สามารถทิ้งคำถามไว้ได้ที่หน้า Wall ของ Facebook ครับ



Web Counter


Counter Start on 29 September 2008


Search by Google

ค้นหาข้อมูลและรีวิวผลิตภัณฑ์ที่ต้องการภายในBlog ของปูเป้ได้ไม่ยากด้วย Google Search Box ด้านล่างนี้เลยขอรับ

Custom Search

Friends' blogs
[Add PuPe_so_Sweet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.