กระฉึ่ก กระฉั่ก นั่งรถไฟไปดูทานตะวันและสันเขื่อน ตอนที่ 03
* * * * * อ่านเรื่องราวของทริปนี้ได้ตามนี้ | ณ การเดินทาง | ณ ทุ่งทานตะวัน | ณ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ | * * * * *
เมื่อวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ผมและน้องๆ รวมกันได้ห้าชีวิต ได้เดินทางท่องเที่ยวไปกับการรถไฟ ตามโปรแกรมชมทุ่งทานตะวัน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ครับ งานนี้ มีรูปมาให้ดูกัน แต่จะขอแบ่งเป็นตอนๆ นะครับ
สองตอนที่แล้ว เราเดินทางด้วยรถไฟในราคาตั๋ว 390 บาทต่อคน และได้ลงชมทุ่งทานตะวันไปแล้ว คราวนี้ก็เดินทางต่อมายังเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ครับ
ไฮไลท์ประการหนึ่งของทริปนี้ก็คือ การที่รถไฟของเราจะวิ่งข้ามเขื่อน ข้ามน้ำ เหมือนหนึ่งรถไฟวิ่งอยู่บนผิวน้ำทะเลสาป นี่เป็นภาพมุมมหาชนครับ
ถ้ามองออกไปนอกหน้าต่างรถไฟ ก็จะเห็นวิวสวยงาม ชื่นตา เจริญใจ
แล้วรถไฟก็จะจอดกลางเขื่อน ให้พวกเราได้ลงมาชักรูปเก็บไว้
ดูปริมาณนักท่องเที่ยวครับ วันเสาร์มีจำนวนขนาดนี้ วันอาทิตย์จะขนาดไหน คำเตือนครับ ลมจุดนี้แรงมาก ถ้าหมวกไม่มีสายรัดคาง อย่าสวมลงไปเลยครับ มันจะปลิวตกน้ำ
ในที่สุด เราก็มาถึงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์กันจนได้ แบบนี้ ก็ต้องถ่ายภาพเก็บเอาไว้ไปยืนยันกับเพื่อนฝูงว่า เรามาถึงจริงๆ
มีเวลาอยู่ที่เขื่อนราวสองชั่วโมง มีของกิน ของฝากเยอะแยะ จะเดินไปชมวิวก็จะผ่านซุ้มหลังคานี้ แสดงข้อความต้อนรับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
อ้าว... มาเจอลิงสองตัวนี้เข้าให้ ดูสีหน้าลิงที่กำลังยกมือไหว้แล้ว รู้สึกสงสารยังไงไม่รู้
ดอกทานตะวันยังไม่เสื่อมคลาย อุตส่าห์ตามมาถึงนี่ ดอกทานตะวันยักษ์เจาะช่องให้นักท่องเที่ยวไปโผล่หน้าถ่ายรูปครั้งละ 5 บาท
มองลงไปยังน้ำในเขื่อนกันดูมั่ง ยังกับทะเล ทะเลสาปจริงๆ เลยเนอะ
เป็นสถานที่สำหรับการมาพักผ่อน มีคู่รัก (มั้ง) มาถ่ายรูปแห่งความทรงจำกัน
ของที่ระลึก ของขาย มีครับ นี่เป็นบรรดาว่าวสีสันสดสวยหลายๆ แบบ หลายๆ ตัว
ที่นี่มี "รถตัวหนอน" เอาไว้บริการพาชมสันเขื่อนครับ ไปกลับ สักชั่วโมงครึ่งได้มั้ง
พวกเราอาศัยเดินเที่ยวกันเองครับ แล้วก็มาเจอลิงแม่ลูกคู่นี้เข้า พ่อลิงเลยแวะเข้าไปรวมครอบครัวเสียเลย โอ้ ครอบครัวสุขสันต์
มองไปทางประตูระบายน้ำของเขื่อน ก็จะเป็นแบบนี้แหละ มีธงทิวติดไว้ตลอดแนวเหมือนกัน
การตบแต่งก็ทำให้ออกมาเป็นลักษณะของสวนสาธารณะเลยครับ คุ้นๆ เหมือนสวนสาธารณะในเมืองหลวงแฮะ
จึงเหมาะกับการค้นหามุมมองถ่ายรูป เหมือนอย่างน้องร่วมทริปคนนี้
เดินตากแดดหัวแตกมาตั้งนาน เพิ่งจะถึงสันเขื่อนนี่ล่ะครับ เฮ้อ เหงื่อตกเลย มองย้อนจากสันเขื่อนไปทางต้นน้ำ ก็จะเป็นแบบนี้
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ด้านหลังเขื่อน ไม่ค่อยมีคนมาดูเลยครับ ก็เลยเก็บภาพมาให้ดูกัน
นี่ไงครับ น้ำที่ปล่อยออกมาจากเขื่อน ปล่อยน้อยนะครับ ไหลเป็นทางขาวเลย คราบก็เหลือค้างติดไว้ให้เห็นด้วย
ให้รู้กันไปครับว่า ที่นี่คือ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
โอย เดินกันจนเหนื่อยแล้วครับ ได้เวลากลับกันแล้วแหละ ดูเหมือนกลุ่มของเราจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ขึ้นรถไฟเลย
ยังครับ ของกินยังไม่หมด มื้อสุดท้ายเป็นอย่างนี้ รวมแล้วเราได้น้ำดื่มสะอาดมาสามขวด โดยเฉพาะขวดสุดท้ายหลังชมเขื่อน เย็นมากครับ สำหรับท่านที่ไม่กินหมู ก็กินได้นะครับ อาหารเป็นไก่ทั้งหมด
ขอบคุณการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่จัดทริปง่ายๆ ประหยัดเงิน ประหยัดเวลาให้กับพวกเราครับ แล้วพบกันในโอกาสต่อไป
* * * * * อ่านเรื่องราวของทริปนี้ได้ตามนี้ | ณ การเดินทาง | ณ ทุ่งทานตะวัน | ณ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ | * * * * *
Create Date : 21 ธันวาคม 2549 |
|
10 comments |
Last Update : 21 ธันวาคม 2549 15:56:58 น. |
Counter : 2113 Pageviews. |
|
|
|
ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ ขอบทุกภาพเลย
หนาวแล้วค่ะ รักษาสุขภาพด้วยน่ะค่ะ
มีความสุขมาก ๆค่ะ