เรื่องราวในอดีตทุกๆ เรื่องนั้นเป็นครูสอนเราได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าเรื่องนั้นๆ จะเป็นอย่างไรก็ตาม ฉะนั้นก่อนที่จะพูดหรือกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จงไตร่ตรองให้ถ้วนถี่ ก่อนที่จะพูดหรือลงมือกระทำ . คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
24 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
สลด! ใช้กาวดักหนู กำจัดนกแสกพ่อแม่ลูก 7 ตัว

สลด! ใช้กาวดักหนูกำจัดนกแสกพ่อแม่ลูก 7 ตัว เจ็บหนักเลือดซึม ส่งกรมอุทยานฯรักษา (ข่าวสด)


เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. นายสัตวแพทย์บุรฉัตร ตันประดิษฐ์ นายสัตวแพทย์ ประจำกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา ทีมสัตวแพทย์ อส. ได้รับแจ้งจากประชาชนรายหนึ่งว่า มีสัตว์ป่าได้รับบาดเจ็บ ต้องการนำมาให้คณะสัตวแพทย์ให้การรักษา

สัตว์ป่าดังกล่าว เป็น ครอบครัวนกแสก จำนวน 7 ตัว บาดเจ็บจากการติดกาวดักหนู จนไม่สามารถบิน และช่วยตัวเองได้ คาดว่าหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีอาจจะทำให้ตายได้ ทั้งนี้หลังรับแจ้งไม่นานนัก ต่อมาทีมสัตวแพทย์ก็พบกล่องลังขนาดใหญ่ มาตั้งไว้บริเวณหน้าอาคารศูนย์ประสานงานการช่วยเหลือสัตว์ป่า ภายในกรมอุทยานฯ ถ.พหลโยธิน เมื่อตรวจสอบดูภายใน พบ นกแสก จำนวน 7 ตัว เป็นนกขนาดใหญ่ 2 ตัว และ ขนาดเล็กอีก 5 ตัว คาดว่าจะเป็นครอบครัวกัน อยู่ในอาการ ขนหลุด หนังถลอก มีเลือดซึมออกมา โดยมี 1 ตัวที่มีอาการสาหัส ไม่สามารถขยับตัวได้เลย และบริเวณขนเต็มไปด้วยกาวดักหนู สัตวแพทย์ต้องรีบนำนกทั้งหมดออกมาตรวจสอบ และให้การช่วยเหลือเบื้องต้น โดยแยกลูกนกออกจากพ่อแม่ของมัน ให้อาหาร และให้ออกซิเจนกับตัวที่มีอาการหนัก พร้อมกับติดตามดูอาการนกทั้งหมดเพื่อทำการรักษาต่อไป


นายสัตวแพทย์บุรฉัตร กล่าวต่อว่า จากการพูดคุยกับผู้ที่ได้โทรศัพท์ติดต่อมาซึ่งคาดว่าเป็นผู้ที่นำนกทั้งหมดมารักษา เล่าว่า นกแสกทั้ง 7 ตัว เป็นครอบครัวนกที่เข้าไปอาศัยทำรังอยู่ที่หลังคาบ้านของตน และมักจะส่งเสียงร้องน่ากลัว เพราะมีลูกนกมากถึง 5 ตัว รวมทั้งเจ้าของบ้านเองมีความเชื่อว่า หากนกแสกมาทำรังอยู่ที่บ้านจะทำให้เกิดโชคร้าย จึงอยากจะไล่นกออกไป แต่ก็ไม่รู้ว่าจะใช้วิธีไหน จึงได้นำกาวดักหนูใส่ถาดไปวางไว้บริเวณปากทางเข้ารังนก โดยอาศัยช่วงที่พ่อแม่นกออกไปหาอาหารมาป้อนลูกในตอนกลางคืน จนกระทั่งรุ่งเช้าจึงไปติดตามดู ก็พบว่า พ่อแม่นก ถูกกาวดักหนูติดอยู่ และมีอยู่หนึ่งตัวพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดจากกาว ทำให้ขนและผิวหนังหลุด และลอกออกจนเป็นบาดแผลสาหัส เจ้าของบ้านจึงจับนกทั้งหมดนำมาส่งให้กับสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษาดังกล่าว"

เบื้องต้น สัตวแพทย์ได้ให้การรักษา โดยการป้อนอาหารให้กับลูกนกทั้ง 5 ตัว และ นกตัวใหญ่ 1 ตัว ส่วนอีกหนึ่งตัวที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส สัตวแพทย์ต้องให้ออกซิเจนเพื่อให้มันหายใจได้ และพยายามที่จะเอาโลชั่นทาลูบที่ผิวหนัง และขนของมันเพื่อจะเอากาวออก แต่อาการของนกตัวนี้หนักมาก มีความหวังแค่ 50-50 เท่านั้น แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่สามารถตรวจสอบเพศได้ แต่เชื่อว่า มันพยายามที่จะเข้าไปหาลูกของมันด้วยการดิ้นรนเต็มที่แบบไม่คิดชีวิตจนทำให้กาวติดไปทั่วตัว ขนหลุด และเกิดเป็นแผลถลอกขนาดใหญ่ แต่ทีมสัตวแพทย์ก็จะพยายามรักษาพวกมันให้ดีที่สุด" นายสัตวแพทย์บุรฉัตรกล่าวและว่า

กรณีของครอบครัวนกแสกดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของสัตว์ป่าที่ถูกทำร้ายด้วยความไม่ตั้งใจ และความเชื่อของประชาชน รวมไปถึงการใช้วิธีการจัดการกับสัตว์แบบผิดวิธีจนทำให้สัตว์ได้รับบาดเจ็บ และอาจจะตายได้ ดังนั้นหากประชาชนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสัตว์ป่าเช่นได้รับการรบกวนจากสัตว์ป่า หรือ อะไรก็ตามขอให้แจ้งมายังกรมอุทยานฯ เพื่อจะได้มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปดูแลให้อย่างถูกวิธี เพื่อที่จะเป็นการปลอดภัยทั้งประชาชนและตัวของสัตว์เอง









Create Date : 24 ธันวาคม 2552
Last Update : 27 ธันวาคม 2552 14:01:50 น. 6 comments
Counter : 2386 Pageviews.

 
คนนี้แหล่ะที่ไปตั้งให้เค้าเป็นนกแห่งความโชคร้าย
น่าสงสารจัง ชอบอ่ะ หน้าแอปเปิ้ล
ขอให้หายเร็วๆนะค่ะ


โดย: yxoxy วันที่: 24 ธันวาคม 2552 เวลา:8:30:26 น.  

 
ฤดูเปลี่ยนผันวันเปลี่ยนไป
ย่างเข้าปีใหม่สุขใจทุกวัน
ไม่ว่าปีไปวันไหม่เวียนผ่าน
กาลเวลาแสนนาน
ขอให้ยังเบิกบานในใจ

ขอให้มีความสุขตลอดปี
ไม่ว่าปีนี้หรือปีไหนๆวันเปลี่ยนเวียนไป
ขอให้สุขใจจริงเอย


โดย: chabori วันที่: 24 ธันวาคม 2552 เวลา:9:37:53 น.  

 
น่าสงสารมากๆ.....


โดย: auau_pi วันที่: 24 ธันวาคม 2552 เวลา:11:23:37 น.  

 
ได้ดูข่าวตอนเช้าเมื่อวาน
น่าสงสารมากเลย


โดย: ริวคิ-mawin-maji-minic วันที่: 24 ธันวาคม 2552 เวลา:13:51:19 น.  

 
ไอคนนี้แหละตัว ทำความชั่วร้ายนกมันไม่เกี่ยวหรอก
เรานี้แหละ สัตว์แห่งความตาย น่านก คนหนาคน ชั่งโง่นัก
ลองเอากาวดัก ลูกคุณ บ้างเป็นไง เหอะๆ


โดย: tyto alba IP: 223.206.79.241 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:23:53:26 น.  

 
มันก็เเค่ความเชื่อโบราณ ก็จริงอยู่ว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่เพียงเเต่
บางครั้งสิ่งที่รู้สืบต่อกันมา ก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป


โดย: geneiy IP: 182.52.99.255 วันที่: 23 มีนาคม 2554 เวลา:0:36:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sweetsong
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




http://i442.photobucket.com/albums/qq143/yamiejung11/mie009/pup51.jpg iLength = document.images.length; for(i=0;i
Friends' blogs
[Add sweetsong's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.