สำหรับข้อสันนิษฐานซึ่งเป็นที่ฮือฮาอีกข้อ หนึ่งเห็นว่าโมนาลิซ่า คือตัวดา วินชี นั่นเอง
กลุ่มที่ค้นคว้าประวัติของภาพวาดนี้เชื่อว่า ดา วินชี ใช้ตัวเองเป็นแบบ แต่วาดออกมาให้เป็นผู้หญิง
ดูกันใกล้ๆ อีกทีกับรอยยิ้มปริศนาของโมนาลิซ่า :)
. . .
เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง ^^ กับไกด์ของเรา ...
. . .
น้องสาวคนเล็ก ชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์ ไม่เหมือนน้องคนที่สอง นั่นชอบ Shopping
. . .
เข้ามาภายในห้องแสดงผลงานภาพเขียน... อลังการภาพเขียนมาก ^^
. . .
อีกผลงานหนึ่งคือ ...
ภาพพิธีสวมมงกุฎของจักรพรรดินโปเลียนแก่ราชินีโจเซฟิน (Coronation of napoleon by jacques louis david) (1806-1807)
ภาพนี้มีขนาดใหญ่มาก คือ 621x979 เซนติเมตร นักท่องเที่ยวคงไม่พลาดรูปนี้แน่นอนค่ะ ...
ในภาพจะเห็นรายละเอียดของเหตุการณ์ในโบสถ์ Notre-Dame ...
ขณะที่จักรพรรดิ์นโปเลียนมหาราชกำลังสวมมงกุฎให้กับราชินีโจเซฟิน ด้วยมือของพระองค์เอง
โดยที่พระนางโจเซฟินกำลังค้อมศีรษะน้อมรับตำแหน่งราชินีคนใหม่ด้วยท่าทางสวยงาม :)
เทียบขนาดภาพกับตัวคนสิคะ ใหญ่มาก ...
. . .
ภาพ La Liberté guidant le peuple หรือ เสรีภาพนำประชาชน ... เล่าเรื่องเหตุการณ์ปฏิวัติฝรั่งเศส
. . .
โจนส์ ออฟ อาร์ค (Joan of Arc) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ฌานน์ ดาร์ค (Jeanne d'Arc) ...
นักบุญและวีรสตรีของฝรั่งเศส (ในสงครามร้อยปีของอังกฤษและฝรั่งเศส ระหว่าง ค.ศ.1337-1453)
. . .
อีกมุมหนึ่งของ The Winged Victory of Samothrace ในมุมไกลไกล คนเยอะมากกก :)
. . .
การตกแต่งเพดานอย่างสวยงาม ...
. . .
เพดานอีกห้องหนึ่ง ก็สวยงามไม่แพ้กัน ^^
. . .
แอบมองออกไปด้านนอก ถึงจะช่วงบ่ายแล้ว คิวต่อแถวเพื่อเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ยังยาวมากอยู่เลย ...
. . .
รูปปั้นหินอ่อนที่สวยงามชิ้นนี้ มีความอ่อนช้อยสวยงามในการแกะสลัก :)
มีชื่อว่า 'Psyche Revived by Cupids Kiss' คือ กามเทพ (Cupid) กำลังจุมพิตสาวน้อย ชื่อ Phyche
. . .
มุมหนึ่งในลูฟร์ อยากออกไปสัมผัสปิรามิดซะแล้วสิ ...
. . .
ห้องแสดงประติมากรรมกรีก ... มีประติมากรรมที่สวยงามมากมาย
ที่พลาดไปอย่างน่าเสียดาย คือ Venus de Milo เราว่าเราดูจากในแผนที่น่าจะถึงแล้วนะ ...
เจ้าน้องเราดันเปลี่ยนทาง เดินหลงไปไหนไม่รู้ ทำให้หาไม่เจอ ... น่าเสียดายจริงๆ เล้ย
. . .
ทางเข้า Histoire du Louvre
. . .
เข้าไปศึกษาประวัติศาสตร์ของลูฟร์กันค่ะ ...
. . .
โถงแสดงงานประติมากรรม ...
. . .
การเข้าพิพิธภัณฑ์ลูฟร์มีหลากหลายทางมาก ส่วนทางเข้านี้เป็นทางเข้าหลักของลูฟร์ ...
เพราะเข้าจากปิรามิดแก้ว ... แต่พวกเราไม่ได้เข้าทางนี้ค่ะ
เพื่อนน้องพาลัดเลาะไปเข้าตรงทางเข้าพนักงาน อดเท่ห์เลย :)
. . .
ก่อนออกจากพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ เราขอให้น้องพาไปถ่ายรูปพีระมิดแก้วที่กลับหัวลงดิน ...
โดยที่ยอดของพีระมิดแก้วนี้เกือบจะบรรจบกับยอดพีระมิดเล็กๆ อีกอันหนึ่งที่ตั้งอยู่บนพื้น
... สัญญลักษณ์อีกอย่างของพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ...
คนเยอะเป็นปกติ ถ้าถ่ายรูปพีระมิดแก้วกลับหัวโดยไม่ติดคน แสดงว่าวันนั้น พิพิธภัณฑ์ปิดค่ะ ...
. . .
L'Arc de Triomphe de Carrousel (ประตูชัยการูเซล) อยู่ในสวน Tuilerie ในบริเวณพิพิธภัณฑ์ลูฟร์
พระเจ้านโปเลียนที่ 1 โปรดให้สร้างขึ้น
สิ่งที่ทำให้ประตูชัยนี้มีคุณค่าสูงคือภาพสลักหินอ่อนสีชมพู รสนิยมแบบโบราณ
ผสมผสานเข้ากับศิลปะยุคนโปเลียนได้อย่างกลมกลืน เสากลม 8 ต้น ทำด้วยหินอ่อนสีแดง
.
.
ออกจากพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ พวกเราไปชม Cathédrale Notre-Dame de Paris
เป็นโบสถ์ที่สวยที่สุด และมีชื่อเสียงที่สุด
สิ่งที่เด่นที่สุดของโบสถ์โกธิคแห่งนี้คือการก่อสร้างที่ละเอียด และหน้ามุข (La façde) ของโบสถ์
ในมหาวิหารแห่งนี้ เคยมีงานศพใหญ่ๆ เช่น พิธีศพคนสำคัญในทางราชการ
และเคยเป็นที่ประกอบพิธีราชาภิเษกของพระเจ้าแผ่นดินถึง 2 พระองค์ นั่นคือ ...
พระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 แห่งอังกฤษระหว่างสงคราม 100 ปี และพระเจ้านโปเลียนที่ 1 ใน ค.ศ. 1804
. . .
แนะนำว่าถ้าจะไป Cathédrale Notre-Dame de Parisให้ไปช่วงเช้า ประมาณ 9 โมง
จะได้รูปสวยๆ กับโบสถ์แบบโล่งๆ หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวจะหนาตา ...
แต่กว่าพวกเราไปถึงก็บ่ายสามแล้ว ไม่เป็นไรค่ะถึงคนจะเยอะยังไง Cathédrale Notre-Dame de Paris ก็ยังสวยอยู่ ...
ประตูทางเข้าด้านหน้าสวยมากเลยค่ะ เป็นงานศิลปะที่มีความประณีตมาก ...
. . .
เดินเข้าไปใน Cathédrale Notre-Dame de Paris สวยงามมาก ไม่เสียค่าเข้าดูค่ะ ...
ตอนแรกน้องตั้งใจจะเดินขึ้นไปข้างบนของโบสถ์กัน แต่อากาศหนาวและลมแรงมากเลยเปลี่ยนใจไม่ขึ้นดีกว่า ...
. . .
Rose Window หรือ หน้าต่างกุหลาบ ที่ทำจากกระจกสีอันสวยงาม
. . .
แท่นบูชาอันสวยงามของ Cathédrale Notre-Dame de Paris
. . .
สะดือปารีส (Point Zero) หรือหลักกิโลศูนย์ของปารีส อยู่ตรงลานด้านหน้า Cathédrale Notre-Dame de Paris ฝั่งตะวันตก
ที่เชื่อว่า หากเหยียบหลักกิโลนี้แล้วอธิษฐาน จะได้กลับมาอีกครั้ง แสดงว่าเป็นจริงเพราะครั้งที่แล้วได้เหยียบไว้ 55
ครั้งนี้ก็เลยเหยียบพร้อมกัน สามัคคีสี่เท้า :) จะได้มาเที่ยวด้วยกันอีกจ้า ...
. . .
รูปปั้นด้านหน้า Cathédrale Notre-Dame de Paris ประณีต สวยงาม ...
. . .
จาก Cathédrale Notre-Dame de Paris ต้องไปซื้อกระเป๋า La Bagagerie ที่เพื่อนน้องฝากซื้อ
น้องพาเดินหาจนเจอร้าน คนขายเป็นคนไทยด้วย คุยกันสนุกสนานได้อุดหนุนกระเป๋ามา 3 ใบถ้วน
Shopping กันต่อที่ร้าน Louis Vuitton สาขาถนน Royal เก็บตกกระเป๋าที่ยังได้กันไม่ครบ :)
ก่อนกลับไปแวะกินขนม Macaron ที่ร้าน Laduree กันค่ะ ...
ร้านนี้เป็นสาขาแรก ตั้งอยู่บนถนน Royal เริ่มกิจการตั้งแต่ปี 1862 เห็นร้านเล็กๆ แต่ข้างในคนเยอะพอสมควร
มีโต๊ะให้นั่งทานในร้านด้วย แต่พวกเราไม่สามารถค่ะ ซื้อกันเสร็จแล้วก็รีบเดินทางไปต่อ ...
เราไปกัน 8 คนเข้าไปเต็มร้านเลย ซื้อ Macaron 1 กล่อง 8 ชิ้นถ้วน ตกชิ้นละ 1.7
ได้สิทธิ์เลือกกันคนละ 1 รส เราเลือกรสเบสิคมาก Chocolate ...
อืม!!! อร่อยมากค่ะ แต่รสหวานนิดนึง เย้!!! ได้กินเป็นประสบการณ์แล้ว :)
. . .
ชมพิพิธภัณฑ์สวยงามและโบสถ์ล้ำค่า คุ้มค่ามาก :)
กลับบ้านไปพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวไปเดินทางพรุ่งนี้ À 9 ...Mont Saint-Michel ที่รอคอย
สวยงามจริงๆครับ
เคยเข้าพิพิธภัณฑ์ที่อังกฤษ เขาให้เข้าฟรีแต่ไม่ให้ถ่ายรูป เลยไม่มีรูสวยๆติดมือกลับมา ที่นี้ดียังให้ถ่ายรูป