เมื่อพระราชโอรสองค์ที่สามขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าอองรีที่ 3 ...
ทรงปรึกษาราชการแผ่นดิน กับพระราชชนนีจนระยะสุดท้ายก่อนที่จะสิ้นพระชนม์ ...
. . .
Queen's Chamber ...
. . .
กระจกสีในปราสาทบลัวร์ อยู่ติดกับห้องหนังสือ Cabinet d etudes ซึ่งเป็นห้องเล็กๆ ที่บุผนังด้วยไม้แกะสลักถึง 247 ชิ้น
ที่ถูกกล่าวพาดพิงว่าเป็นตู้ใส่ยาพิษของแคทเธอรีน เดอ เมดิชิ (Cabinet aux poissons de Catherine de' Medicis) ...
. . .
ดูรายละเอียดกระจกสีกันใกล้ๆ ค่ะ ...
. . .
ตราพระลัญจกร ที่ปรากฏทั่วไปในปราสาท ..
. . .
ลานหน้าปราสาทบลัวร์ในตอนบ่ายๆ ที่นักท่องเที่ยวยังบางตา ...
. . .
มีรถม้าวิ่งรอบๆ ปราสาทบลัวร์ และวิ่งเลียบแม่น้ำลัวร์ ...
. . .
วิวริมแม่น้ำลัวร์ ...
. . .
เริ่มหิวแล้วแวะกินอะไรง่ายๆ แถวปราสาทบลัวร์ก่อน
เดี๋ยวต้องไปเที่ยวต่อที่ปราสาทชองบอร์ (Château de Chambord) ปราสาทหลังที่ 2 ของทัวร์นี้ ...
. . .
.
.
ถึงปราสาทชองบอร์ (Château de Chambord) แล้ว ปราสาทชองบอร์จะแยกออกมาจากตัวเมือง
ตัวปราสาทจะโดดเด่นเป็นสง่า สวยงามมาก เพราะตั้งอยู่กลางป่า
ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ในการล่าสัตว์ของกษัตริย์ในสมัยก่อน ...
. . .
การตกแต่งภายใน เน้นสีสันสดใส ...
. . .
ปราสาทชองบอร์มีห้องมากมายกว่า 400 ห้อง
การเดินในปราสาทชองบอร์จะยากกว่าปราสาทบลัวร์ เพราะไม่มีป้ายบอกทาง
เดินกันไปเรื่อยๆ จำไม่ได้ห้องนี้เข้าหรือยัง ออกจากห้องนี้แล้วไปทางไหนอีก เดินกันวนไปวนมา ...
. . .
ห้องนี้เป็น King Francois l's Chambers ...
. . .
Hightlight สำคัญของปราสาทชองบอร์ สิ่งแรกคือ The Keep and Staircase
หนึ่งในผลงานการออกแบบของ Leonardo da Vinci นั่นเอง
ความพิเศษของบันได Double Spiral อยู่ที่บันไทดนี้เกิดจากบันไดเกลียวสองตัวไขว้กัน
ทำให้ผู้ที่เดินขึ้นและลงไม่มีทางเจอกัน แต่จะสามารถเห็นกันได้จากช่องระหว่างบันไดทั้งสองตัว ...
ไปลองเดินมาแล้วค่ะ ไม่เจอกันจริงๆ สงสัยว่า กษัตริย์จะทำไว้หลบพระราชินีแน่เลย :)
. . .
เมื่อเดินตามบันไดขึ้นมาถึงชั้น 2 ของตัวปราสาท จะเห็นเพดานโค้งที่แกะเป็นลายหมากรุกสลับกัน
ระหว่างตราพระราชลัญจกรของพระเจ้า Francois I คือ ซาลาแมนเดอร์ และตัว F
ถือเป็นอีก Highlight หนึ่งของปราสาทชองบอร์ ...
. . .
ดูกันชัดๆ อีกทีกับลายหมากรุกของตราพระลัญจกรกับตัวอักษร F ...
. . .
สถานที่ต่อไปที่พลาดไม่ได้เช่นกัน คือ The Terrace หรือ Panoramic Walkway
สามารถเดินสำรวจรายละเอียดของยอดหลังคาที่แปลกตาในสไตล์ศิลปะแบบ Flamboyant Gothic
รวมกับ Italian Renaissance ได้อย่างใกล้ชิด ...
. . .
สามารถเดินได้รอบบริเวณ The Terrace มองเห็นรายละเอียดของยอดหลังคาที่สวยงาม ...
. . .
เรามองเห็นรอบๆ ปราสาทชองบอร์ได้ 360 องศา จาก The Terrace เลย ...
. . .
ต้องกลับแล้ว เขาประกาศปิดปราสาทแล้วค่ะ เราเดินอยู่ที่นี่กันถึง 6 โมงเลยทีเดียว เพลินมาก
ถ้ามีโอกาสแนะนำให้มาเยี่ยมชมกัน ได้บรรยากาศที่แตกต่างจากพระราชวังในเมืองหลวงค่ะ ...
. . .
ความสวยงามของปราสาทชองบอร์ ถึงจะมีการซ่อมแซมปราสาทบางส่วน แต่ยังสวยงามมาก ...
.
.
วันนี้ออกจากที่พักแต่เช้าค่ะ ไปปราสาทอีก 1 ที่คือ ปราสาทอองบัวซ์ (Château d'Amboise)
มาแต่เช้าจะได้ดูนานๆ เพราะเราต้องไปเมืองลียง (Lyon) กันต่อค่ะ ...
. . .
ถึงแล้วปราสาทอองบัวซ์ (Château d'Amboise) ... ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมค่ะ :)
. . .
ผ่านทางเข้ามาแล้ว พวกเราจะพบกับ La Chapelle Saint-Hubert ...
เป็นอาคารเล็กๆ อยู่บริเวณลานกว้างตรงสวน เป็นคล้ายๆ ห้องประกอบพิธี
สร้างขึ้นสไตล์โกธิคแบบฟลามบัวยองท์ (Gothique flamboyant)
. . .
La Chapelle Saint-Hubert นับได้ว่าเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของศิลปะแบบฟลามบัวยองท์
โดยเฉพาะภาพแกะสลักด้านนอก ...
. . .
ชื่อเสียงส่วนหนึ่งของปราสาทหลังนี้
ตรงที่มีหลุมฝังศพของ Leonardo da Vinci อยู่ด้านใน La Chapelle Saint-Hubert
ซึ่งเขามาใช้ชีวิตบั้นปลายก่อนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 1519 ที่เมืองอองบัวซ์
พวกเราเข้าไปเยี่ยมคารวะลุง Leonardo da Vinci กันก่อนค่ะ
ท่านนอกพักอย่างสงบอยู่ที่นี่นานมากแล้วค่ะ ...
. . .
ปราสาทอองบัวซ์ ที่สวยงามแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในคริสตศตวรรษที่ 11
ครั้งหนึ่งเคยเป็นพระราชวังหลวงในช่วงปีคริสต์ศตวรรษที่ 15-16
กษัตริย์ของฝรั่งเศสหลายพระองค์โปรดที่จะประทับ ณ ปราสาทแห่งนี้
โดยเฉพาะพระเจ้าฟรังซัวร์ที่ 1 ผู้ชักชวนให้ลีโอนาร์โด ดาวินชี มาอยู่ที่เมืองนี้
และได้นำศิลปะแบบเรอเนซองส์ของอิตาลีเข้ามายังบริเวณแถบนี้ด้วย
ตัวปราสาทนั้นมีขนาดไม่ใหญ่โต ประกอบด้วย 2 ปีกใหญ่ๆ ตั้งฉากซึ่งกันและกัน
และออกแบบก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันไปคือ
1. ด้านซ้ายมือ คือ Charles VIII wing ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบ French late-Gothic style
2. ด้านขวามือ คือ Louis XII - Francois I wing เป็นแบบ Italianate Renaissance style
. . .
ส่วนความสำคัญของปราสาทแห่งนี้ก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าปราสาทแห่งอื่นๆ
เพราะเคยเป็นที่ประทับของ Louis XI เป็นสถานที่ประสูติและสิ้นพระชนม์ของ Charles VIII
และเป็นสถานที่ที่ผู้สืบเชื้อสายจาก Catherine de Medici ทั้ง 10 พระองค์เจริญพระชันษาขึ้นที่นี่ ...
พวกเราเข้าไปเยี่ยมชมในปราสาท ด้านในสวยมากต่างจากข้างนอกเลยทีเดียว
พวกเราเดินตามกรุ๊ปทัวร์กลุ่มหนึ่งเข้าไป มีไกด์อธิบายด้วย ส่วนพวกเราก็มีไกด์ส่วนตัว
คือเจ้าน้องสาวนั่นเอง คอยฟังไกด์อธิบาย แล้วเล่าให้พวกเราฟังอีกที
น้องเล่าว่า Charles VIII ท่านสิ้นพระชนม์โดยเดินชนคานประตู ทั้งที่ท่านสูงแค่ 152 ซม. เท่านั้น
แสดงว่าประตูเตี้ยมากๆ น่าสงสารจัง :)
. . .
ภาพจำลองแผนผังของปราสาทอองบัวซ์ ที่เห็นในภาพ
ส่วนสีแดงคือ ตัวปราสาทที่ปรักหักพังไปแล้ว ส่วนสีดำคือ ตัวปราสาทที่เหลืออยู่ในปัจจุบัน
หา!! เหลือแค่นี้เหรอ ...
. . .
เตาผิงไฟที่จุดไฟจริงๆ ตอนแรกเข้าไปในห้องแล้วไม่ทันมอง
ยืนอยู่สักพักทำไมร้อนหลังจัง หันไป อ้าว!! จุดไฟจริงกันเลย ... มิน่าเห็นขอนไม้วางอยู่เต็มเลย
. . .
การตกแต่งภายในปราสาท เน้นสีสันและความสดใส ...
. . .
น่าจะเป็นห้องบรรทมของพระโอรสหรือพระธิดา ...
. . .
ห้องทรงเรียนดนตรี ...
. . .
มองจากป้อมปราการของปราสาทลงมา เห็นวิวแม่น้ำลัวร์ใกล้ๆ ...
. . .
มองไปอีกด้านนึง จะเห็นวิวตัวแม่น้ำลัวร์ค่ะ ...
. . .
ปราสาทอองบัวซ์ ตั้งอยู่บนเนินรายล้อมด้วยป้อมปราการ
ซึ่งจากป้อมเมื่อมองลงมาจะเห็นภูมิทัศน์ของเมืองอองบัวส์ได้โดยรอบ ...
. . .
เดินเล่นในสวนของปราสาท ถ่ายย้อนกลับมาที่ปราสาทอองบัวซ์
เห็น La Chapelle Saint-Hubert อยู่ไกลๆ ด้านซ้ายมือ ฝนเริ่มจะมาแล้วค่ะ ...
. . .
ภาพสุดท้ายก่อนออกจากปราสาทอองบัวซ์ค่ะ สวยงามจริงๆ ค่ะ
ถึงปราสาทจะดูไม่ใหญ่โตนัก แต่ความสวยงามเต็มที่ค่ะ ...
. . .
น้องพาไปแวะดูปราสาทอีกที่หนึ่งคือ ปราสาทเฌอนองโซ (Château de Chenonceau)
ตั้งใจว่าจะถ่ายรูปข้างนอกอย่างเดียว แต่ปรากฎว่าต้องเสียตังค์ถึงจะเข้าไปข้างในสวนได้
น้องบอกว่าไม่ต้องเข้าไปในปราสาทหรอก ข้างในก็เหมือนกันกับอีก 3 ปราสาทแหละ
เลยเข้าร้านที่ระลึกซื้อหนังสือ The Chateaux of the Loire กลับมาอ่านทีหลังไว้เป็นความรู้ ...
บริเวณทางเดินเข้าไปในปราสาทเฌอนองโซ ...
. . .
เพิ่งมาอ่านจากโบร์ชัวร์ว่า ปราสาทเฌอนองโซคือ The Ladies Chateau
จำได้ว่าเคยอ่านในหนังสือ แคทเธอรีน เดอ เมดิซี ยิ่งพอมาดูภาพในหนังสือสวนสวยมาก
เสียดาย :) แต่ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวต้องเดินทางไกลไป Lyon อีก เดี๋ยวจะช้ากันไปหมด...
คราวหน้าไว้มาใหม่นะ Chenonceau, The Ladies' Chateau :)
. . .
เอาภาพปราสาทเฌอนองโซ สวยๆ มาฝาก ให้ตัวเองเสียดายอีกรอบ ...
. . .
3 ปราสาท 3 สไฟล์ สวยทุกปราสาทเลย เที่ยวต่อ À 5 ... ขึ้นเขาชมวิวเมืองเก่าที่ Lyon