วันที่ 17 กุมภาพันธ์ เป็นวันงานเกียวโตมาราธอน งานใหญ่งานช้างประจำจังหวัด อิฉันไม่ได้สมัครมา แต่คนที่สมัครมาดันขาเดี้ยง บวมเป่ง เลยเอาเป็นว่าอิฉันซึ่งอุ้ยอ้ายวิ่งไม่ไปจึงได้บิ๊บมาแบบงงและลงวิ่งแทน

เมื่อมาเกียวโตแล้ว ก่อนอื่นมาเดินเล่นที่ Gion เอาบรรยากาศเกียวโตซึมเข้าเส้นเลือดก่อน เดินไปชมงานป้า Yoyoi กันเพราะเค๊าจะจัดที่นี่จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2019 นี้

บรรยากาศแถวถนน Gion 

เดินต่อไปวัด Kennin-ji ใกล้ๆ

แล้วไปลงทะเบียนเอาบิ๊บ ที่สนามกีฬา

เหรียญรางวัลสำหรับปีนี้

ป้ายสวยๆในงาน

อาหารสำหรับนักวิ่งที่เข้าในแต่ละระยะ

แผนการวิ่ง 42.5 กม.

เหรียญในแต่ละปี

กับมาสคอตในงาน คุ้นๆ เหมือนเซนไดม๊ะ

พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมพื้นบ้านของเกียวโต

 ก่อนวันวิ่งเราก็ต้องมาเติมพลังกันหน่อย วิ่งใช้พลังงาน 500 แคล กินไป 5000 จริงๆอยากไป Nikuno Takumi Miyoshi  แต่ไม่ได้จองก็ไม่มีที่  ก็เลยหันไปร้านMouriyagion นี้แทน เราก็ไม่ได้จองแต่สามารถ เพราะมีที่นั่งเยอะและหลายสาขาในเกียวโต ฉะนั้นไม่มีครั้งไหนที่ไม่ได้กิน    วันนี้กินที่สาขา Gion สบายๆใกล้ที่พัก  เรียงลำดับตามความชอบนะคะ เนื้อโกเบ Chateuabraind ได้รับการโหวดจากอิฉันเป็นอันดับ 1 (ที่ตั้งอยู่) รองมาเป็น Fillet และ Sirloin 

ผักดีคัดพิเศษ มันกะเห็ดมัทซึตาเกะดีงาม

มาถึงวันจริง บรรยากาศในงาน เฉพาะคนยืนต่อคิววิ่ง 2 สนามกีฬา ประมาณ 16000คน 

 สรุปไปวิ่งแค่ 6 โลแรกก็จอด หนาวอะ 5 องศา ขอบายค่ะ ถึงแม้จะมีคุณลุงป้า น้าอา เด็กน้อยมาให้กำลังใจตลอดทาง แต่วิ่งไม่ออกอะ  ปรากฏว่าพอวิ่งถึงเส้น 6โลแรกขอ Disqualify ตัวเองจร้า น้ำมูกไหลไม่หยุดและเริ่มไอหนักหน่วง buddy ที่วิ่งด้วยกัน Dis ตอน 28 โล พลอยคิดว่าเค๊าน่าจะได้ 33 เป็นอย่างน้อย แต่ที่นี่เค๊าวิ่งมาถึงช้านาทีเดียวก็ตัดตัวออกเลยนะคะ เส้นชัยแรกยังง่ายอยู่แต่ต่อๆไปเวลามันจะงวดลงเรื่อยๆค่ะ 

 disquality เสร็จแล้วมาเชียร์ผู้ที่จะเข้าเส้นชัยคนแรกๆ

วิ่งเก่งจริงจัง 42.5 กม. วิ่งกัน 2 ชม.นิดๆ สำหรับคนแรกที่เข้าเส้นชัยคนแรก แต่ไม่ใช่คนนี้นะคะ แต่ละคนดูเหมือนยังไม่มีอาการเหนื่อยให้เห็น ยังดูวิ่งชิลล์ๆ

คนนี้พวกรหัส SS คือพวกนักกีฬาและเซเลป ส่วนป้ายบิ๊บอิฉัน K ส่วนบ๊วยสุด J แต่ถ้าเป็นอิฉันลงเองจริงคงอยู่ที่ Z อะนะ

วิ่งเสร็จกลับบ้านนอน รอวันใหม่ไปเที่ยวที่อื่นต่อ 

วัด คินคะคุจิ หรือวัดทอง Goldentemple

พลอยชอบมุมนี้ที่สุด มาทุกครั้งขอแต่มุมนี้ ที่เหลือก็เป็นเดินชมสวน

ไปต่อที่วัดเซน Ryoanji ซื้อตั๋วเสร็จ เดินเล่นในสวน ตรงนี้เป็นส่วนของศาลเจ้ากลางน้ำ

ที่สวนหิน พลอยชอบที่นี่มากๆ สมัยก่อนที่เคยมาครั้งแรกติดใจสุดๆ

สงบ ร่มเย็น พลังงานดี   เมื่อแต่ก่อนห้ามส่งเสียงเลยนะคะ จะมีพระคอยดุอยู่ แต่เดี๋ยวนี้ค่อนข้างเสียงดัง จะนั่งสมาธิก็ไม่ค่อยเป็นสุขเท่าไหร่

ชอบมานั่งสมาธิที่นี่ ได้ Message มาพอควร แต่อันนึงที่ touch me ที่สุดคือ "เมื่อคุณนิ่งพอ แล้วคุณจะได้เห็นมัน"

บ่อน้ำเล็ก รูปเงินโบราณ ด้านหลัง

เราไปกันต่อที่ ศาลเจ้าชินโต ฟูชิมิอินาริ ที่นี่มีเสาโทริเป็นร้อยๆ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 711 

เราเริ่มจากทางเดินเข้าหน้าวัด เดี๋ยวนี้คึกคักมาก

ร้านค้าหน้าศาลเจ้า มีของกินหลากหลาย

เมื่อหลายปีก่อนมา หน้าวัดเหงาหงอยมาก ของที่ขายก็ไม่ค่อยจะมี คนก็ไม่ค่อยจะมี แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปเยอะเลย พี่จีนมากมาย

ด้านหน้า

ที่ศาลเจ้านี้จะเรียกกันว่าวัดจิ้งจอก ที่หน้าศาลจะมีจิ้งจอกคาบรวงข้าวอยู่ พลอยว่ามันน่าจะเป็นสัญญลักษณ์แห่งความสมบูรณ์และ Abandance 

เดินต่อไปด้านใน

เสาโทริก็จะเรียงกันไปตามไหลเขา ไม่ต้องถามก็อยากบอกว่าสำหรับอิฉันเดินวนรอบเล็กเอาฟิลลิ่งก็พอ มีแบบทางเดินวนยาวๆแต่ขอบคุณ ไม่ไปค่ะ 555 ถัดจากโทริก็จะมีสวนเล็กๆและแม่น้ำผ่านน่ารักดีค่ะ

เดินออกมา ทีนี้ได้เวลาจริงจัง  จะมีร้านขายข้าวหน้าปลาไหล Unagidon ไปทีไรต้องกินทุกที สมัยก่อนย่างเตาถ่านหอมฉุยอยู่หน้าร้าน แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเตาย่างไฟฟ้า อันนี้แนะนำอร่อยในราคาไม่แพง เดินเข้าไป อารมณ์เสียหน่อยๆ เพราะชายวัยรุ่นคนย่างบอกว่าเข้ามากี่คนก็ต้องสั่งออเดอร์ตามจำนวนคนนะ เราไม่ได้ตอบ ฮีก็ถามย้ำๆให้เราตอบ Yes ถึงให้เข้าร้าน   อีบ้า แกดูคนผิดแล้วหล่ะ  ปกติเราจะสั่งมากกว่าจำนวนคนในทุกๆครั้งๆที่เข้าร้าน ดูถูกขนาดกระเพาะมากไป นี่เป็นเวลาบ่าย 3 นะ ที่เข้ามาร้านแกรเพราะว่ารู้ว่าอร่อยเลยจะเข้ามากินเล่น แต่เมื่อพูดแบบนี้ จากจะสั่งมากกว่าจำนวนคน ก็สั่งเท่ากับจำนวนคนซะเลย จะได้จำนวนตามที่อยากได้ ไม่ต้องได้เพิ่ม.. ยินดีด้วย  รมบ่จอย เลยไม่มีรูปมาด้วย ต้องขอโทษทีค่ะ

ร้านโดรายากิ ทำไปขายไป อุ่นไอร้อนๆ อร่อยดีงาม

ชอบดูคุณลุงปั้มตรา หมาป่า น่ารักดี

ไปต่อที่ร้านไอศครีมเก่ามีชื่อ เอาจริงนะ ก็ไม่ได้อร่อยเท่าไหร่ แต่มาทีไรต้องมาอุดหนุนคุณลุง มันเป็นไอศครีมเต้าหู้  วันนี้ สั่งเต้าหู้งาดำ 

ได้ไอติมมาในมือ หันไปเจอแท็กซี่พอดี เลยโบกไปคิโยมิซึ แล้วนั่งโซ้ยไอติมบนแทคซี่ไปพลางๆ 

ด้านหน้าวัดก็มีทางเดินขายของยาวๆไป มีบิสกิตชาเขียวอร่อยแถวนี้ พลอยชอบร้านด้านซ้ายมือที่เดินเข้ามาใกล้ถึงวัดแล้วหน่ะค่ะ  สมัยก่อนกินแต่ร้านนี้ เดี๋ยวนี้ร้านขายของพวกนี้เต็มไปหมด อีกร้านที่เสียใจมากกกก ร้านไอศครีมงาดำและงาขาว  จริงๆขายของเกี่ยวกับงาทั้งร้านเปิดบริการมานานอยู่ตรง 3 แยกที่รถแทคซี่จอดได้ 3 ปีมานี่ปิดไปแล้ว เสียใจมาก ร้านนี้ชอบสุดๆ  

ร้านก็จะดูประมาณนี้ น่ารักดี ก็ขายขนม อาหาร ซูวีเนียร์ และอีกอย่างที่แนะนะเลย เครื่องเซรามิค แถวนี้ดีงามค่ะ

ทีนี้ตัดตอนมาหน้าวัดเลยละกัน

เจดีย์

วิวสวยๆ ที่มองจากในวัด งวดนี้ไม่ได้ถ่านภาพวัดมาเพราะปิดซ่อมคลุมผ้าใบดำๆอยู่เลยรอรีโนเวทเสร็จค่อยไปชมใหม่ 

เดินกลับดีกว่าเย็นแล้วเดี๋ยวร้านค้าข้างนอกปิดหมด

ออกไช๊อปปิ้งกันต่อ แล้วไปกินข้าวเย็นกัน แตวันนี้ลืมถ่ายภาพ 5555 เพราะไปกินที่ช๊อปปิ้งมอลล์ 

หมดไปอีกวัน มาวันนี้ตื่นสายๆ ไปเดินช๊อปที่  แล้วมากินร้านเต้าหู้เจ้าเก่า 350 ปีโช๊ะโช๊ะ ร้าน Okutan Nanzenji อยู่ใกล้ๆวัดคิโยมิซซึนั่นแหละแต่อยู่อีกด้านนึง ร้านนี้ปิด 4 โมงเย็น บริการอาหารเต้าหู้ล้วนๆ ทุกเมนู สมัยก่อนร้านนี้จะทำอาหารส่งให้พระวัดเซนที่เกียวโต

ที่หน้าร้าน  ก่อนเข้าถอดรองเท้าเก็บที่ล๊อคเกอร์ให้เรียบร้อย แล้วจะมีพนง.มารับไปซีทที่โต๊ะ

บรรยากาศในร้าน clam เงียบสงบ ดีงาม

เราสั่งทั้งแบบ Original และ Soft แต่กลัวไม่พอกินเลยสั่ง origianl ไป 2 เซต  อันนี้เป็นออเดอร์ฟ มันบด น่าจะโกโบมั้งแบบเหนียวๆ

 กะโทฟูงาดำ 

เต้าหู้ปิ้งราดซอสมิโซะ

ของจริงมา ที่สั่งด้วยความตะกละ มันก็มาเยอะเยี่ยงนี้ แต่ชอบแบบoriginalมากกว่านะ เนื้อเด้ง หยุ่นดี กินกับซอสโชยุ พริกไทย Sado เยอะไป ขอหยุดเต้าหู้สำหรับทั้งเดือนไว้เพียงเท่านี้  

สุดท้ายปิดด้วย เทนปุระ

ออกมาเดินย่อยเต้าหู้หน่อย ด้านหลังอีกฟากของคิโยมิซซึ

และจับแท๊กซี่จากที่นี่ไป วัด Sanjusan ที่มีพระพุทธรูปเป็นร้อยๆ แต่ไปถึงวัดปิด อิฉันเลยไปช๊อปปิ้งต่อ ปรากฏว่าโทรศัพท์ได้หล่นออกจากกาะเป๋าเสื้อหนาว หลังจากลงรถก็รู้ตัวทันทีแต่ตามไม่ทัน จึงได้แต่ โทร โทร โทร ปรากฏว่าท่านนี้เป็นผู้โดยสารต่อจากเราและได้รับโทรศัพท์ และให้คุยกะคุณลุงแท๊กซี่และเอามาคืนให้  ขอบคุณมากๆนะคะ คุณลุงแท๊กซี่คงถ่ายภาพฮีไว้ เพราะตอนได้คืนกลับมา เห็นมีภาพนี้อยู่ในโทรศัพท์ ส่วนอิฉันก็ต้องขอโทษด้วยลืมถ่ายภาพกับคุณลุงแท๊กซี่ไว้ แต่ยังไงอิฉันก็ต้องขอบคุณบุคคลทั้ง 2 มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ 

กินเสร็จ ช๊อปเสร็จ แล้วกลับบ้านนอน เราจะไปชิราฮามะกันต่อ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ

Ploy Journey Journal

Create Date : 02 มีนาคม 2562
Last Update : 2 มีนาคม 2562 11:39:23 น.		0 comments
Counter : 703 Pageviews.
Share Tweet